คนเรียนสูง ต้องชั่ว

ประโยคนี้ออกมาจากปากของนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธานร่างรัฐธรรมนูญ กล่าวไว้ที่จังหวัดเชีรยงใหม่
ในงานสัมนาเรื่องการร่างรัฐธรรมนูญ ที่เกี่ยวกับคุณสมบัติ ของ สส ที่บอกว่าไม่ต้องจบ ป.ตรีก็ได้ เพราะ
ยี่งเรียนมาก ยี่งชั่วมากคิดได้ชั่วกว่าคนเรียนน้อย ๆ

ก็หวังว่า จะไม่แก้ตัวเหมือนอย้างกับการแก้ตัวของหลาย ๆคน ที่ ออกมาบอกว่าพูดเล่น  ก็ไม่ได้ต่อว่าอะไรมากนักหรอกครับ
แต่มีความเห็นว่า การเล่าเรียนของประชาชนมันเป้นเรื่องของ การหาความรู้ใส่ตัว พ่อ แม่ทุกคนอยากให้ลูกเรียนสูง ๆ ทั้งนั้น
ลองไปถาม พ่อ แม่ ของเยาวชนซีครับ ไอ้ที่ส่งให้เรียนพิเศษ กันแทบจะล้มตาย ลูก ๆเรียนพิเศษกันเพื่อหาความรู้เพิ่ม
เพื่อไปสอบ มหาวิทยาลัยให้ได้ มีกันทั้งบ้านทั้งเมือง

ครูบาอาจารย์ สมัยก่อนจบมาแค่ ปวส มีวิชาครูมาด้วย เมื่อมาสอนหนังสือ ก็ต้องกลับไปเรียน ป.ตรี ให้ได้ กรมกองที่เป็นเจ้า
กระทราวง ก็ส่งเสริมให้ บรรดาครู ทั้วงหลายไปเรียนต่อ มีทุนให้ ส่งเสริม สารพัด  ป.ตรี เสร็จ ไม่พอ เนื่องจาก ทางด้านวิชาการ
มันก้าวหน้า ต้องกลับไปเรียนโท กันอีก เพื่อมาสอนหนังสือให้กับเด็ก เอาวิชาความรู้ระดับ ป.โท มาสอน  ยี่งสอนในระดับ
มหาวิทยาลัย โน่น ต้อง ป.เอก เท่านั้น เพราะในมหาวิทยาลัยสอนถึงระดับ ป.เอก เรียกว่าเป็นความรู้ระดับสูงสุด

ผู้เขียนเอง เรียนจบเบื้องต้นแค่ ปวส สมัยนั้น ป.ตรียังไม่มีในระดับ อาชีว ฯ มีแค่ ป.เทคนิคชั้นสูง ต้องรอจนถึง ปี 16  สจพ
มีสอนระดับ ป.ตรี ผู้เขียนจึงไปสอบเพื่อเรียนต่อ สมัยนั้นสอบเข้ายากมาก สอบอยู่หลายปี ปีที่ 4 จึงสอบได้ กรมอณุญาติให้
ไปเรียนได้ ทั้ง ๆที่ไม่ได้ขออณุญาติไปสอบ แต่ด้วยการส่งเสริมครูมีความรู้เพิ่ม กรม ฯ ก็อณุญาติให้ไปเรียนได้ และไม่อวดว่า
กรม อาชีว ฯสมัยก่อนส่งเสริมครูมาก 10ปีต่อมาถึงกับเรียกตัวให้ไปสอบ ป.โท เพื่อส่งเสริมให้ครูมีคุณวุฒิเพิ่มขึ้น

แม้ในสมัยปัจจุบัน การศึกษา เป็นไปอย่างกว้างขวาง ประชาชนทุกคน ในประเทศ โดยเฉพาะพ่อแม่ ทุกคน อยากให้ลูก ๆเรียบนหนังสือ
ได้สูงที่สุดเท่าที่สติปัญญาของลูกจะทำได้ ผู้เขียนมีลูกที่ต้องส่งเรียน บางครั้ง ค่าเทอมในมหาวิทยาลัย สมัยนั้นแม้ไม่แพง แต่บางครั้ง
ไม่มีเงินสด ต้องถอดสร้อย แหวนไปขาย ต้องไปกู้เงิมาให้ลูกเรียน ก็เพื่อ ความก้าวหน้าของลูก อยากเห็นลูกจบ ป.ตรี

ผู้เขียนฟัง นายบวรศักดื พูด แล้วน้ำตาไหล ความคืดแบบนี้ ไม่น่าจะมาเป็นประธานร่างรัฐธรรมนูญ แม้แต่ เป็นพ่อของลูกก็ตาม เพราะ
มันหมายถึง คนทั้งชาติ นักการเมือง ก็เป็นประชาชน ยี่งมีความรู้มากเท่าใด ก็จะทำให้การพัฒนาชาติ ในด้านต่าง ๆ โดยเฉพาะ
ด้านการศึกษา มากขึ้นเท่านั้น  รวมทั้งความคิดทางด้านอื่น ๆ  จริงอยู่ที่คนที่ไม่จบ ป.ตรี หรือแค่ ม. 6 อาจมีความคิด ดี ๆ แต่นับตัวได้
มันเป็นอัจฉริยะ ทางด้านบุคคลเท่านั้น เอามาเปรียบกับ คนที่จะเสนอตัว เป็นผู้แทนชองประชาชนไม่ได้
เราเคยมีผู้แทน ที่ไม่จบ ป.ตรี อย่างเช่น หมอลำถูทา จำไม่ได้ว่าปีไหน แกอภิปรายอะไรไม่ได้ เลยร้องหมอลำในสภา ให้คนขบขันกัน
ทั้งเมือง บางคนไปเทียบกับ สตีพ จ๊อบ ที่ไม่ได้จบมหาวิทยาลัย แต่ ร่ำรวยมหาศาล  แล้ว โลกนี้ มีแบบนี้กี่คนครับ

ข้อเขียนวันนี้ไม่ได้คัดค้านการเขียนรัฐธรรมนูญ อะไร ให้เป็นที่ขุ่นเคืองใจ เว้ป แต่เป็นการแสดงความเห็นที่บริสุทธิใจ เพื่อ ถ่ายทอด
ความรู้สึก กับการกระทำของคนที่จะมาเชียนรัฐธรรมนูญให้คน 67 ล้านใช้ มันแสดงอาการเห็นแก่ต้วเต็มที และไม่เป็นผลดีกับ ประชาชนเลย
แสดงถึงการคับแคบทางสังคม ดูถูก ได้แม้กระทั่งตัวเอง คนดีคนชั่ว ไม่ได้วัดกันที่ความรู้สูง แต่วัดกันที่การกระทำ ซึ่งเป็น เรื่องของแต่ละบุคคล
อย่าเหมารวม คิดใหม่ทำใหม่เสีย ประชาชนยังให้อภัย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่