อยากให้พ่อแม่ 70+ เกษียณตัวเองจากธุรกิจส่วนตัว (อสังหาฯ) จะพูดยังไงดีครับให้เค้ารู้สึกไม่แย่

อยากให้พ่อแม่ 70+ เกษียณตัวเองจากธุรกิจส่วนตัว จะพูดยังไงดีครับให้เค้ารู้สึกไม่แย่

พ่อกับแม่ทำธุรกิจแนวอสังหาฯ ครับ เน้นปล่อยเช่า
ตอนแรกผมก็ไม่รู้รายละเอียดหรอกครับ (รู้แค่คร่าวๆ)
จนผมลาออกมาจากงานประจำ (พอดีผมเบื่องานประจำ แล้วเป็นช่วงรอยต่อ รับปริญญา ป.โท)
พอลาออกมาทำให้ผมอยู่ใกล้พ่อกับแม่ ทำให้ผมเริ่มรู้อย่างละเอียดว่ามีปัญหาในธุรกิจ+เหตุการณ์โดนเอาเปรียบ โดนโกงเกิดขึ้น (พอรู้แบบนี้ผมเหวอนิดๆ ครับ)
ผมก็เลยไม่อยากไปทำงานประจำแล้วครับ อยากให้พ่อแม่พักแล้วครับ ไปเที่ยวไปพักผ่อน แล้วผมเข้ามาแก้ปัญหา และดูแลแทน (แต่คงต้องให้พ่อกะแม่สอนงานให้ในช่วงแรกก่อนที่จะให้เค้าเกษียณ)

ปัญหาที่ว่าเนี่ย
เค้าจะเป็นแนวลูกทุ่ง (ไม่วางแผนอะไรมาก คิดสด) เช่น จ้างช่างมาต่อเติม หรือสร้างอาคาร หรือต่อเติมสถานที่ ก็จะเป็นแนว "แล้วแต่ช่าง" ไม่มีแบบไม่มีตัวอย่างให้ช่างดูเลย หน้าตาอาคารจะออกมาเป็นยังไงก็ไม่รู้ ถ้ามีปัญหาก็ค่อยจ่ายเงินแก้ปัญหา
- เป็นแนวเสียน้อยเสียยากเสียมากเสียง่าย
- จากที่จะให้เสร็จไวไว กลายเป็นเสร็จช้ากว่าเดิม
- จากที่มันควรจะออกมาสวยๆ ถูกหลักการ ก็ออกมาเป็นอาคารหน้าตาแปลกๆ  ผิดหลักสถาปัตย์มั่ง ผิดกฎหมายอาคารมั่ง(เสียดายเงินจริงๆ)
ส่งผลให้จากที่ใช้เวลาคืนทุนเร็วกลายเป็นกว่าจะคืนทุนช้า


พอผมทักไป และแนะนำการแก้ไขปัญหาเค้าก็บอกว่าผมเรื่องมาก ทฤษฎีเยอะ ช้า เสียเวลา จะรีบๆ ทำ รีบๆ เก็บค่าเช่า รีบๆ คืนทุน จะได้เป็นกำไรเร็วๆ  (คือผมทำการบ้านก่อนทีจะทำอะไรเสมอครับ แต่มันช้าในมุมมองพ่อกับแม่ ส่วนพ่อแม่จะเอาให้เสร็จเร็วๆ แล้วรีบเก็บค่าเช่า)  

ขกยกตัวอย่างนะครับ เช่น

- ผู้รับเหมา ทำงานห่วยๆ แต่คิดแพง ก็ยังจะจ้างอยู่นั่นแหละ พอผมบอกให้เปลี่ยนเจ้าก็ ไม่เปลี่ยน
- หรือบางที ผมบอกว่าอย่าเพิ่งเทปูน ควรจะคิดแบบออกมาก่อน แต่เค้าก็ดื้อ ก็เลยให้ช่างเทพื้นปูนไปก่อน แต่ยังไม่รู้เลยว่าห้องน้ำจะอยู่ตรงไหน ท่อระบายน้ำจะอยู่ตรงไหน พอเทพื้นปูนเสร็จก็ค่อยมาคิดอีกทีว่าจะให้ห้องน้ำอยู่ไหน แล้วก็ให้ช่างทุบปูนทิ้งอีกที
- เทพื้นปูน ช่างก็ปาดแบบขอไปที ไม่เก็บงานให้เรียบ เห็นเป็นรอยปาดชัดมาก (ตอนนั้นผมทำงานประจำอยู่) พอผมบอกพ่อว่าเนี่ยงานเจ้านี้ไม่เนี๊ยบเลย เค้าก็บอกผมว่า ผมเรื่องมาก มันก็พื้นเหมือนกันนั่นแหละ
- ทำก่อนแล้วให้ช่างคิดเงินทีหลัง ซึ่งผมเห็นบิล แล้วผมตกใจมากครับ เพราะแพงมากครับ แต่ได้อาคารห่วยๆ ทำแบบขอไปที เช่น รอยเชื่อมเสาเหล็ก เชื่อมแบบขอไปที, หรือระยะห่างคานเหล็กก็ห่างไม่เท่ากัน, ความสูงหน้าต่างก็แปลกๆ เตี้ยเหลือเกิน (จริงๆ ควรจะทำใบเสนอราคาก่อน และมีแบบที่ถูกต้องก่อน) จากที่ 1 ปีควรจะคืนทุนกลายเป็น 2 ปีครึ่ง
- อาคารผิดสัดส่วน ผิดหลักการ (ผมอิงข้อมูลจากตำรา และ google) เช่น ทางเดินแคบ, ห้องบังทางลม, ช่างเทปูนแล้วน้ำไหลเข้าด้านในไปขัง (แทนที่จะไหลออกด้านนอก) ฯลฯ พอผมบอกไปว่า เนี่ยบอกให้เปลี่ยนผู้รับเหมาก็ไม่เชื่อ เค้าก็บอกว่าน้ำขังก็ไม่เห็นเป็นไร ก็แค่กวาดน้ำทิ้ง เดี๋ยวก็แห้ง


หรือบางทีก็ ใจดี ขี้สงสาร ไม่ทันคน จนคนเอาเปรียบ (โดนโกงก็มี)  -----------> แล้วเค้าก็เครียด (ถ้าเค้าไม่เครียดผมจะไม่กังวลเลย) ----------->  พอผมทักไป และแนะนำการแก้ไขปัญหาเค้าก็บอกว่าผมเรื่องมาก ทฤษฎีเยอะ เช่น

- ผู้เช่าหัวหมอ เอาเปรียบ ผมก็เตือนตั้งแต่แรกว่าเดี๋ยวก็มีปัญหาตามมา จนมันมีปัญหาตามมาค่อยคิดได้อย่างที่ผมแนะนำไปในตอนแรก พอไปพูดให้ผู้เช่าให้แก้ไขเอาออก ผู้เช่าก็ทำหน้าไม่พอใจ และพูดเหน็บกลับพ่อผมมา (กลับกันซะงั้น) พอผมจะอาสาไปพูด พ่อกับแม่ก็ บอกว่าไม่เป็นไร ไม่อยากมีปัญหา (กลายเป็นว่า ผู้ให้เช่าต้องเกรงใจผู้เช่า?) ค่าเช่าก็ถูกมากครับ ก็ไม่กล้าขึ้น ทั้งๆ ที่มีคนรอเสียบอยู่เยอะ
- พอผมอาสาจะจัดระบบให้ใหม่ เช่น ทำหนังสือสัญญา หรือเขียนกฎระเบียบแปะ เค้าก็หาว่าผมเรื่องมาก (พอผมหาทางออกให้พ่อกับแม่ จะได้ไม่ต้องเครียด พ่อกับแม่ก็ไม่เอา แต่ยอมที่จะไม่เรื่องมาก แล้วก็ยอมโดนเอาเปรียบ จนต้องเก็บมาคิดให้ตัวเองเครียด)    

นี่แค่ยกตัวอย่างนะครับ

ตอนนี้ผมอยากให้เค้าพักผ่อนครับ แล้วผมอยากจะเข้ามาดูแลแก้ปัญหาแทน
ผมคิดแบบนี้ ผมคิดถูกแล้วใช่ไหมครับ ถ้าไม่ใช่รบกวนท้วงติงด้วยครับ
ขอบคุณครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่