10 ข้อที่ควรรู้ เมื่อคุณหรือญาติต้องมานอน รพ.

1. อย่าลืมยาเดิมคนไข้
- บางครั้งอาจรีบพาคนไข้มา รพ เกินเหตุ, จนลืมเอายาเดิมที่กินประจำมา ทำให้ต้องวกกลับไปเอา หรือบางทีต้องรอญาติคนอื่นเอามาให้ ซึ่งก็เสียเวลาโดยใช่เหตุ เพราะยาบางตัว ต้องกินทุกวันขาดไม่ได้ เช่น ยากันชัก , ถ้ามานอน รพ ประจำที่มีประวัติรักษา ก็ดีไป แต่ถ้าฉุกเฉินไป รพอื่น ,บอกแค่ชื่อยา ลักษณะเม็ด หรือสียาที่กิน มันไม่พอครับ ยามีเป็นร้อยพันชนิด แต่ละ รพ ยาก็อาจมี/ไม่มี ต่างกันได้ ฉะนั้นอย่าลืมคว้าถุงยา....งมาด้วย ทุกครั้งที่คนไข้อาการหนักมา รพ

2. อย่าเรียกร้องห้องพิเศษในบางกรณี
- ถ้าคนไข้ยังต้องอยู่ในระยะดูแลอาการใกล้ชิด คนไข้ควรอยู่ใกล้เค้าเตอร์พยาบาลมากกว่าอยู่ลำพังในห้องกับญาติ เช่น คนไข้เหนื่อย หรือ คนไข้ทางระบบประสาท , ถ้ารักษาจนอาการดีขึ้นแล้ว จะย้ายไปวันหลัง เนื่องจากสะดวก สบายต่อญาติที่มาเฝ้ามากกว่าก็ไม่ว่ากัน

3. ขณะหมอตรวจ ญาติควรอยู่กับคนไข้เท่าที่จำเป็น
- เข้าใจว่าญาติที่มาเยี่ยมหลายคน อยากรู้ อยากทราบอาการกันทุกคน แต่แนะนำให้อยู่ฟังคนเดียวพอ เอาคนที่จะสื่อสาร บอกต่อกับคนอื่นได้ เพราะบางทีญาตินี่แหละ คือสิ่งกีดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่ ทำให้กว่าจะเข้าไปถึงตัวคนไข้ยากเหลือเกิน

4. ช่วยตนเองเท่าที่ทำได้
- กรณีจะไปปัสสาวะ อุจจาระ หรือเช็ด-ทิ้งสิ่งปฎิกูล หรืออะไรก็ตาม ถ้าญาติหรือคนไข้ยังพอทำได้ ให้ช่วยตนเองไปก่อน ถ้าสุดความสามารถจริงๆจึงขอความช่วยเหลือจากพยาบาล แม้จะช้าแต่เขาก็มาทำให้ ภาระงานอื่นก็เยอะอยู่แล้ว บางทีเรื่องเล็กๆน้อยๆแบบนี้ ไม่ได้ระบุไว้ด้วยซ้ำว่าเป็นหน้าที่พยาบาล ถ้าทำได้ก็ควรทำเองครับ

5. ขึ้นเยี่ยม ลงเยี่ยมคนไข้ในเวลาที่กำหนด
- บางทีญาติสนิทมิตรสหายเดินทางมาไกล อยากเยี่ยม ขอใช้เวลาอยู่นานๆ แต่พอหมดเวลาเยี่ยม อยากขอทดเวลาบาดเจ็บอยู่ต่อ อันนี้ไม่ควรทำครับ เพราะเป็นเวลาที่คนไข้ควรพักผ่อน หรือถ้าญาติคุณไม่อยากพัก ก็ควรเกรงใจคนไข้คนอื่น เขาก็อยากพักครับ

6. กินอาหารที่ทาง รพ จัดให้
- แม้มันจะไร้รสชาติ จืด น่าเบื่อแค่ไหน แต่จงระลึกเสมอว่า ณ ตอนนั้นคุณคือคนไข้ครับ ถ้าอาการดีจะไปกินมื้อละหมื่นละแสนก็ไม่มีใครว่า ซึ่งเมนูที่ทาง รพ ทำให้กิน ก็จะมีโภชนากรณ์เขาจัดสรรให้ทุกวันอยู่แล้ว ว่าโรคนี้โรคนั้นควรกินอะไรในอัตราส่วนเท่าไร จะมากินตามใจปาก ปรุงรสมากไม่ได้ เช่น บางคนติดกินเค็มจัด แอบสั่งอาหารข้างนอก ส่วนอาหาร รพ ให้ญาติกิน สุดท้ายความดันไม่ลง ค่าไตสูงขึ้น อาการไม่ดี..กลายเป็นอยู่ รพ นานเข้าไปอีก แบบนี้ก็เสียหายทั้งระบบครับ

7. ให้ความร่วมมือผู้ช่วยพยาบาลในการตรวจสัญญาณชีพ
- เพราะโรงบาล ไม่ใช่โรงแรมครับ ที่จะแอดมิทแล้วนอนหลับพักผ่อนยาวได้เลย ยังไงต้องมีบ้างล่ะ ที่ถูกปลุกขึ้นมาดึกๆดื่นๆเพื่อวัดความดัน ไข้ ชีพจร , จนบางคนอาจรำคาญ ว่าปลุกทำไมบ่อยๆ อาการดีแล้ว เป็นคนหลับยาก อย่าปลุกบ่อย ..แต่เชื่อเถอะ เขาปลุกมาวัดสัญญาณชีพ เพื่อความปลอดภัยคุณนั่นแหละครับ เพราะถ้าเกิดอะไรขึ้นมา หลับไม่ตื่นมันน่ากลัวกว่าหลับยากนะ

8. มีอะไรถามหมอ ให้รีบถามตอนราวด์คนไข้เช้า
- บางที่หมอขึ้นตรวจเช้า บ่าย , บางที่เช้าอย่างเดียว หรือถ้า รพ ศูนย์อาจมีรอบดึกด้วย ก็แล้วแต่สถานที่ แต่ยังไงเช้าต้องเจอหมอแน่นอน ถ้าอยากถามอะไร หรือขอยาอะไรเพิ่ม ให้ถามตอนเช้านั่นล่ะครับ เช่น"ต้องนอน รพ นานแค่ไหน" "ผลเลือด/เอกซเรย์เป็นยังไง""ขอยานอนหลับ ยาระบายด้วย" เพราะหมอต้องทำงานที่จุดอื่นต่อ โอกาสน้อยมากที่จะขึ้นตึกมาตอบคำถามแบบนี้ดึกๆ , หรือถ้าขอยาที่ไม่เกี่ยวกับอาการรุนแรงใดๆ บางครั้งหมอไม่ขึ้นมาดู ก็อย่าว่ากัน หมอรับรู้ทุกความเคลื่อนไหวผ่านพยาบาล แต่ใช้การสั่งยาทางโทรศัพท์แทน เพราะมีงานอื่นให้ต้องทำมากกว่าครับ

9. ถ้าอาการดีขึ้น หมอให้กลับ ก็กลับเถอะครับ
- อยู่ รพ นานมีแต่จะติดเชื้อเพิ่มเปล่าๆ บางคนมีเหตุผลที่อยากจะอยู่นานๆ ไม่กลับ เช่น นอน รพนาน ได้ค่าประกันชีวิตเยอะขึ้น หรือ กองทุนหมู่บ้านชดเชยให้มากขึ้น ความคิดแบบนี้แย่นะครับ , บางที่ รพ เตียงเต็ม แทนที่จะได้รับคนไข้ใหม่ที่อาการหนักกว่า รอการรักษา กลับต้องรอคุณที่ไม่ยอมออก , อันนี้คือคุณกำลังทำบาปทางอ้อมเลย ว่ามั้ย?

10. อันนี้ไม่ได้เป็นข้อควรรู้อะไร แต่ขอความเห็นใจ /สนใจต่อเพื่อนมนุษย์ร่วมโลก ว่าถ้าเกิดเตียงข้างๆ มีอาการหรือความผิดปกติอะไรเกิดขึ้น ถ้าคุณพบเห็น รีบช่วยแจ้งเจ้าหน้าที่ได้ครับ เพราะบางทีญาติคนไข้อาจจะออกไปซื้อของ/ทำธุระ ไม่ได้ดูตลอด เคยเจอหลายกรณีที่ญาติไม่อยู่เฝ้า เช่น แม่เด็กหลังคลอด คงเพลีย เกิดนอนหลับลึกทับลูกจนขาดอาการหายใจ ดีที่เตียงข้างๆเห็นแจ้งเจ้าหน้าที่ทัน หรือ มีกรณีเห็นคนไข้หยุดหายใจ ญาติเตียงข้างๆขึ้นปั๊มหัวใจให้ก่อน พร้อมตะโกนเรียกพยาบาลมาช่วยจนรอดตายได้ เหตุการณ์เหล่านี้เคยเกิดขึ้นแล้ว สุดท้ายถ้าทำความดีพวกนี้แล้ว ความภาคภูมิใจ ก็ตกอยู่กับตัวคุณเองนั่นล่ะครับ

..โอเคนะ จบลงแล้ว10ข้อ จริงๆมีมากกว่านี้
แต่เดือนนึง มีสาระที เอาเท่านี้ก็คงพอ
ขอให้ทุกท่านที่ได้อ่าน มีสุขภาพแข็งแรงดี ไม่เจ็บไม่ป่วย ไม่ต้องมา นอน รพ.เหมือนในบทความนี้กันทุกคนครับ
สาทู้....

Cr.เพจมิตรไอหมอท่านหนึ่ง
https://www.facebook.com/docfriend?ref=hl
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่