เห็นมีคนบอกอยากอ่านเกี่ยวกับเธอคนนี้เลยจัดมาให้ รับรองหลังจากอ่านบทความนี้คุณจะทึ่งและรักเธอขึ้นมากกว่าเดิม นี่เป็นบทความจากนิตยสาร Marie Claire
สำหรับนักกีฬาคนหนึ่งผู้ซึ่งเกือบสูญเสียแขนขวาจากเส้นเลือดอุดตัน ผ่าตัดหัวเข่าสองครั้ง แท้งหนึ่งครั้ง กระดูกสันหลังร้าวจนเกือบเป็นอัมพาต คนทั่วไปคงยอมแพ้ไปแล้วแต่ไม่ใช่สำหรับเธอ รางวัลเหรียญทองรายการต่างๆกว่า 10 รายการรวมถึง โอลิมปิกสองครั้ง นี่ไม่ใช่โชคช่วย ทุกครั้งที่เธออยู่ในสนามคู่ต่อสู้กลัวเธอ แฟนในสนามชื่นชมเธอ(และแอบหมั่นไส้อยู่เป็นครั้งคราว) แจ็คการีน คาร์วาโลห์ อายุ 31 ปี เกิดในครอบครัวชนชั้นแรงงานในเมือง Recife เธอไม่เหมือนเด็กสาวทั่วไป เธอไม่เล่นตุ๊กตา แต่เธอชอบเล่นกีฬา แววด้านกีฬาของเธอโดดเด่นตั้งแต่ช่วงเรียนวิทยาลัย จนโดนแม่ดุเพราะเธอชอบโดดเรียนไปเล่นกีฬาแทน
ไม่นานนักเธอถูกเรียกไปฝึกซ้อมกับทีม NCB / Ocasco (ปัจจุบันคือ Sollys Nestle) เธอเริ่มเดทกับมูลิโร่ แอนเดรส นักกีฬาดาวเด่นของทีมชาย เขาเล่าให้ฟังว่า ในช่วงแรกเขาพาเธอไปเที่ยวด้วยกันเฉยๆ แต่ไม่ยอมเรียกเธอว่าแฟน จนกระทั่งวันนึง เธอก็บอกกับเขาว่า “ถ้าคุณจะไม่เรียกฉันเป็นแฟน เราก็ไม่ต้องมาเจอหน้ากันอีก” นั่นแหละคือจุดเริ่มต้น “ตอนคบกันพวกเรายังเด็กอยู่มาก ผมเป็นผู้ชายคนแรกของเธอ และเธอก็เป็นผู้หญิงคนแรกของผม” ปัจจุบันทั้งคู่อาศัยอยู่ในอพาร์ตเมนต์ที่สะดวกสบายใน เซาท์ เปาโล
อะไรคือจุดเริ่มต้นให้คุณเป็นนักกีฬาวอลเลย์บอล?
แม่ของฉันเอง (โจเซน คอสต้า) เธอแยกจากพ่อตอนฉันอายุได้ 5 ขวบ ฉันกับพี่สาวจึงต้องอยู่บ้านกันลำพัง แม่ของฉันทำงานเป็นแม่บ้านในช่วงกำลังหางาน ต่อมาเธอได้งานเป็นเลขาร้านขายอะไหล่รถยนต์ จากนั้นก็ทำงานออฟฟิต ทุกเช้าเมื่อเธอออกไปทำงาน ฉันมีหน้าที่ทำอาหาร พี่สาวทำความสะอาดบ้าน และอีกมากมาย บางครั้งเราก็สลับหน้าที่กัน พ่อไม่เคยช่วยเหลือพวกเราเลย แม้แม่จะเลี้ยงพวกเราด้วยความยากลำบาก เธอก็อยากมีลูกสาวอีกคน สองปีต่อมา เธอรับเด็กสาวชื่อมาเรียเป็นบุตรบุญธรรม ฉันเลยมีน้องสาวอีกคน
ความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับพ่อเป็นยังไงบ้าง?
ห่างเหิน เราจะเจอกันบ้างทุกๆสองเดือน เขามีปัญหาโรคหัวใจและเสียชีวิตไปเมื่อปี 2009 ก่อนหน้านั้นฉันกำลังแข่งทัวร์นาเมนต์ที่สวิสเซอร์แลนด์ เผอิญว่าฉันมีปัญหาหัวเข่าอยู่พอดี โค้ชโฮเซ โรเบอร์โต้(โค้ชทีมชาติหญิงปัจจุบัน) อนุญาตให้ฉันกลับมาบ้าน เพื่อให้ฉันมีโอกาสมาเจอเขาครั้งสุดท้าย ก่อนหน้านั้นฉันไม่ได้เจอเขาหลายเดือนมาก
มีช่วงความทรงจำวัยเด็กที่ดีบ้างไหม?
ฉันชอบเล่นวิดีโอเกมตู้นะ แม่ฉันติดมาก พี่สาวก็ชอบเหมือนกัน มูลิโร่ก็เล่นเก่งพอตัวหลังฉันสอนให้(หัวเราะ) ตอนเราเป็นเด็ก เราไม่มีตุ๊กตา เราจึงออกไปเตะบอล เล่นวิดีโอเกมตู้ มันทำให้ครอบครัวเราใกล้ชิดกัน
ทำไมถึงเลือกเล่นวอลเลย์บอล
ฉันเคยเล่นวอลเลย์บอลและบาสเก็ตบอลสมัยเรียนมัธยมที่ Recife พออายุ 11 แม่ของฉันบอกว่า เลือกเอาซักทาง ฉันเรียนไม่เก่งอยู่แล้ว จึงถือโอกาสไปทางกีฬาเต็มตัว ตอนนั้นฉันชอบ Ana Mozer เธอเป็นไอดอลของฉันเลย
หลังจากนั้นอาชีพนักกีฬาเป็นยังไงบ้าง
ตอนอายุ 14 ฉันถูกเรียกไปแข่งชิงแชมป์ของบราซิลให้กับเขต Pernambuco หลังจากนั้นฉันได้รับคำเชิญเข้าคัดเลือกเก็บตัวทีมเยาวชน ตอนนั้นฉันคิดว่าพวกเด็กๆจากเชาท์เปาโล และริโอเล่นได้ดีกว่ามาก แต่สุดท้ายฉันกลายเป็นนักกีฬาจากเขต Pernambuco คนเดียวที่ติด ตอนโค้ชเรียกชื่อฉัน ฉันดีใจจนร้องไห้ จากนั้นก็ได้รับคำชวนไปเล่นให้สโมสร Ocasco ซึ่งหมายความว่าฉันต้องย้ายไปอยู่เมืองเซาท์เปาโล
ชีวิตเปลี่ยนไปมากไหม?
ฉันเดินทางมาคนเดียวเลย เพราะว่าแม่ต้องทำงานที่เดิม ตอนนั้นอายุ 14 เข้ามาในเมืองพร้อมกับเดรสสั้น ในใจคิดว่าเซาท์เปาโลจะร้อนเหมือนกับ Recife แต่ปรากฎว่าที่นั่นหนาวมากพวกสตาฟจึงให้ฉันยืมเสื้อสเวตเตอร์ที่อยู่ในรถ ฉันอาศัยอยู่ในห้องกับนักกีฬาคนอื่นรวมกันสี่คน พวกเราแชร์ของใช้กันบ้าง เพราะในห้องมีให้แต่เตียงกับผ้าห่ม มันก็ลำบากนะ ในตอนเช้าฉันต้องไปเรียน ตอนกลางวันกลับมาฝึกกับทีม เวลาฉันได้รับเงินเช่น 400 รีล ฉันจะส่งกลับไปบ้าน 200 รีล มันเป็นความสุขอย่างมาก แม้จนกระทั่งทุกวันนี้ ที่ฉันสามารถซื้อของให้แม่ ซึ่งเมื่อก่อนเธอซื้อให้ฉันไม่ได้
ในปี 2001 ช่วงอายุ 17 คุณเป็นนักกีฬาเยาวชนที่ได้รับรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมในระดับโลก คุณกำลังก้าวสู่การติดทีมชาติชุดใหญ่ แต่แล้ว…
ปี 2002 เส้นเลือดมือขวาของฉันแตก ทำให้เกิดเลือดอุดตัน แพทย์ที่รักษาบอกฉันว่า ฉันต้องตัดมือข้างขวาทิ้งเพื่อรักษาชีวิต นั่นจะทำให้ฉันไม่มีโอกาสแข่งขันไปตลอดชีวิต มันเป็นช่วงเวลาที่แย่มาก ตอนนั้นมีการคัดเลือกทีมชาติที่ริโอ แต่ฉันกลับบ้านไปหาแม่ ในใจก็คิดว่าฉันคงจะสูญเสียมือขวาไปแล้วแน่ๆ สรุปว่าฉันต้องงดเล่นไปสามเดือนแล้วเข้าทำการรักษาการอุดตันของเส้นเลือดอย่างใกล้ชิด
คุณแทบแย่กับเรื่องนั้น แล้วก็มีปัญหาหัวเข่าอีก
ใช่แล้ว หลังจากงดเล่นไปสามเดือน ฉันก็สามารถกลับมาเล่นได้ใหม่ แต่ไม่ทันไรเอ็นเข่าด้านซ้ายฉีก ทำให้ฉันต้องงดเล่นไปอีก 6 เดือน และหลังจากกลับมาซ้อมครั้งแรก เอ็นจุดเดิมก็มีปัญหาอีก มันเป็นช่วงจุดสูงสุดในอาชีพของฉัน แต่ฉันกลับไม่ได้เล่นเป็นเวลา 2 ปี มันยากมากจริงๆ ตั้งแต่ปี 2002 - 2004 อาชีพของฉันรุ่งมาก แต่ทันใดนั้นเหมือนกับมีใครก็ไม่รู้มาเอามันไปจากชีวิตฉัน ทั้งชิงแชมป์ทวีปอเมริกา และโอลิมปิก ถ้าไม่มีแม่ พี่สาว น้องสาว มูลิโร่ ซึ่งเป็นแฟนฉันตอนนั้นอยู่ข้างๆ ฉันก็คงผ่านช่วงนั้นมาไม่ได้
ในปี 2005 คุณกลับมาเป็น 6 คนแรก ปีต่อมาบราซิลได้เหรียญเงินชิงแชมป์โลก คุณได้รับรางวัลผู้เล่นเปิดบอลแรกยอดเยี่ยม คุณรู้สึกยังไง?
มันเป็นช่วงเวลาที่เจ็บปวด แต่ขณะเดียวกันก็เป็นความประทับใจที่ดีมากๆ ฉันสามารถกลับมาจุดสูงสุดได้อีกครั้ง ปัญหาพวกนี้ยังคงอยู่แต่ฉันเลือกที่จะเดินต่อไปพร้อมกับมัน สองปีก่อนหน้าที่ฉันบาดเจ็บ(เริ่มน้ำตาคลอ) ฉันไม่ชอบเคลื่อนตัวรับบอล ไม่ชอบขุดบอล ชอบแต่จะบุกโจมตีอย่างเดียว แต่หลังจากบาดเจ็บฉันฝึกรับบอลขุดบอลอย่างเต็มที่ เพราะหลังจากผ่าหัวเข่า ฉันไม่สามารถกระโดดได้สูงแบบเมื่อก่อน ตอนนี้ฉันยังคิดว่าถ้าฉันสมบูรณ์ไม่มีอาการบาดเจ็บเลย ฉันก็ไม่แน่ใจว่าฉันจะเรียนรู้ที่จะสร้างข้อได้เปรียบจากข้อจำกัดนี้ได้ไหม
ปี 2007 ก่อนการแข่งขันชิงแชมป์ทวีปอเมริกา คุณถูกตรวจพบสารกระตุ้น sibutramine ตอนนั้นคุณผ่านมาได้ยังไง?
ฉันไม่รู้เลยว่าสารที่ว่าคืออะไร ตอนนั้นเจ้าหน้าที่ตรวจเข้ามาหมู่บ้านนักกีฬา แล้วก็จับพวกเราตรวจหมด ถ้าตรวจพบ เราต้องตอบคำถามให้ได้ว่าได้รับสารนี้มาจากไหน เมื่อผลบอกว่าตรวจพบสารนี้ ฉันถึงกับสิ้นหวัง พวกเขาเรียกฉันไปสอบสวน และฉันไม่รู้จะอธิบายว่ายังไง เพราะไม่รู้ว่ามันคืออะไร หนึ่งเดือนต่อมามีการพบว่าอาหารเสริม CLA ซึ่งอนุญาตให้ใช้ได้ในหมู่นักกีฬาเพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อ แอบเติมสารตัวนี้ลงไปในผลิตภัณฑ์ล็อตแรกเพราะอยากประสบความสำเร็จด้านการขาย ฉันยื่นเอกสารเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ ไม่งั้นฉันคงโดนโทษแบน 2 ปี โดยคณะกรรมการโอลิมปิก หลังจากนั้นสามเดือน ฉันก็ได้รับอนุญาตให้กลับมาเล่นได้ตามปกติ และเข้าร่วมเวิร์ลคัพ
คุณค่อนข้างเคร่งศาสนาและพูดถึงพระเจ้าอยู่บ่อยครั้ง เคยสงสัยบ้างไหมว่าทำไมท่านถึงให้บททดสอบยากๆหลายครั้งกับคุณ?
ท่านคงอยากสอนฉันบางอย่าง รู้ไหม ถ้าฉันย้อนกลับไปได้ ฉันจะสู้ ไม่หลบหลีกซักนิด ฉันยอมรับในทุกบทเรียนที่ท่านมอบให้ (ร้องไห้) บางทีเป้าหมายของท่านคือการสอนให้คนอื่นเห็นว่า ถ้าฉันสามารถกลับมายืนอยู่จุดเดิมได้ คนอื่นก็สามารถทำได้เช่นกัน ในขณะที่เรายังมีชีวิตอยู่ เราต้องสู้ต่อไป ไม่ควรยอมแพ้อะไรง่ายๆ ฉันคือนักรบ ฉันคือนักสู้ ทุกวันนี้ฉันมองตัวเองในกระจกแล้วพูดว่า “ว้าว เธอยอดเยี่ยมที่ผ่านมันมาได้”
ปีนี้มีช่วงเวลาที่อ่อนไหว คุณสูญเสียลูกในช่วงหกสัปดาห์แรก และในช่วงเดือนตุลาคม คุณชนกับเพื่อนร่วมทีมรุนแรงชนิดที่กระดูกสันหลังร้าวและเกือบพิการ คุณรู้สึกยังไง?
ถ้าจะบอกว่าฉันโชคร้าย ที่จริงฉันกลับคิดว่าฉันมีโชคนะ ในฐานะนักกีฬาคนหนึ่งจาก Recife ที่ไม่มีใครผลักดันเข้ามาในวงการกีฬาเลย แต่กลับมีโอกาสที่คนทั่วไปไม่สามารถมีได้ หลังจากที่เกิดเหตุการณ์ชนกันในสนาม ฉันยิ่งเชื่อในโชค ไม่งั้นเราอาจจะได้คุยกันขณะที่ฉันนอนพะงาบอยู่บนเตียง หรือนั่งบนรถเข็นไปแล้ว แล้วแบบนี้จะไม่บอกว่ามีโชคได้ยังไง
ตอนที่เกิดเหตุการณ์นั้นคุณรู้สึกยังไงบ้าง
ฉันกำลังจะรับบอล แล้วฟาบิแอนน่า(ลิเบอโร่) ก็เข้ามาช่วยรับเหมือนกัน หัวของเธอเสยเข้าที่หลังคอของฉัน ฉันล้มลงกลิ้งไปกับพื้น ตัวของฉันราวกับมีอาการชักกระตุก ฉันรู้สึกเจ็บแปล็บที่หลัง จากนั้นตั้งแต่หัวลงไปฉันไม่สามารถควบคุมร่างกายได้ เพราะไม่รู้สึกอะไรเลย เหมือนกับเป็นอัมพาต มันเป็นความรู้สึกสิ้นหวังมาก โชคดีที่กระดูกสันหลังไม่ได้หักทั้งหมด แค่ร้าวช่วงรอยต่อแผ่น C5 และ C6 ฉันต้องใส่เฝือกที่คอ 3 สัปดาห์ ขอบคุณพระเจ้าที่ฉันไม่เป็นอะไร และทีมสามารถคว้าเหรียญทองมาได้สำเร็จ
[แปล] แจ็คการีน คาร์วาโลห์ เราไม่ควรยอมแพ้ง่ายๆ
สำหรับนักกีฬาคนหนึ่งผู้ซึ่งเกือบสูญเสียแขนขวาจากเส้นเลือดอุดตัน ผ่าตัดหัวเข่าสองครั้ง แท้งหนึ่งครั้ง กระดูกสันหลังร้าวจนเกือบเป็นอัมพาต คนทั่วไปคงยอมแพ้ไปแล้วแต่ไม่ใช่สำหรับเธอ รางวัลเหรียญทองรายการต่างๆกว่า 10 รายการรวมถึง โอลิมปิกสองครั้ง นี่ไม่ใช่โชคช่วย ทุกครั้งที่เธออยู่ในสนามคู่ต่อสู้กลัวเธอ แฟนในสนามชื่นชมเธอ(และแอบหมั่นไส้อยู่เป็นครั้งคราว) แจ็คการีน คาร์วาโลห์ อายุ 31 ปี เกิดในครอบครัวชนชั้นแรงงานในเมือง Recife เธอไม่เหมือนเด็กสาวทั่วไป เธอไม่เล่นตุ๊กตา แต่เธอชอบเล่นกีฬา แววด้านกีฬาของเธอโดดเด่นตั้งแต่ช่วงเรียนวิทยาลัย จนโดนแม่ดุเพราะเธอชอบโดดเรียนไปเล่นกีฬาแทน
ไม่นานนักเธอถูกเรียกไปฝึกซ้อมกับทีม NCB / Ocasco (ปัจจุบันคือ Sollys Nestle) เธอเริ่มเดทกับมูลิโร่ แอนเดรส นักกีฬาดาวเด่นของทีมชาย เขาเล่าให้ฟังว่า ในช่วงแรกเขาพาเธอไปเที่ยวด้วยกันเฉยๆ แต่ไม่ยอมเรียกเธอว่าแฟน จนกระทั่งวันนึง เธอก็บอกกับเขาว่า “ถ้าคุณจะไม่เรียกฉันเป็นแฟน เราก็ไม่ต้องมาเจอหน้ากันอีก” นั่นแหละคือจุดเริ่มต้น “ตอนคบกันพวกเรายังเด็กอยู่มาก ผมเป็นผู้ชายคนแรกของเธอ และเธอก็เป็นผู้หญิงคนแรกของผม” ปัจจุบันทั้งคู่อาศัยอยู่ในอพาร์ตเมนต์ที่สะดวกสบายใน เซาท์ เปาโล
อะไรคือจุดเริ่มต้นให้คุณเป็นนักกีฬาวอลเลย์บอล?
แม่ของฉันเอง (โจเซน คอสต้า) เธอแยกจากพ่อตอนฉันอายุได้ 5 ขวบ ฉันกับพี่สาวจึงต้องอยู่บ้านกันลำพัง แม่ของฉันทำงานเป็นแม่บ้านในช่วงกำลังหางาน ต่อมาเธอได้งานเป็นเลขาร้านขายอะไหล่รถยนต์ จากนั้นก็ทำงานออฟฟิต ทุกเช้าเมื่อเธอออกไปทำงาน ฉันมีหน้าที่ทำอาหาร พี่สาวทำความสะอาดบ้าน และอีกมากมาย บางครั้งเราก็สลับหน้าที่กัน พ่อไม่เคยช่วยเหลือพวกเราเลย แม้แม่จะเลี้ยงพวกเราด้วยความยากลำบาก เธอก็อยากมีลูกสาวอีกคน สองปีต่อมา เธอรับเด็กสาวชื่อมาเรียเป็นบุตรบุญธรรม ฉันเลยมีน้องสาวอีกคน
ความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับพ่อเป็นยังไงบ้าง?
ห่างเหิน เราจะเจอกันบ้างทุกๆสองเดือน เขามีปัญหาโรคหัวใจและเสียชีวิตไปเมื่อปี 2009 ก่อนหน้านั้นฉันกำลังแข่งทัวร์นาเมนต์ที่สวิสเซอร์แลนด์ เผอิญว่าฉันมีปัญหาหัวเข่าอยู่พอดี โค้ชโฮเซ โรเบอร์โต้(โค้ชทีมชาติหญิงปัจจุบัน) อนุญาตให้ฉันกลับมาบ้าน เพื่อให้ฉันมีโอกาสมาเจอเขาครั้งสุดท้าย ก่อนหน้านั้นฉันไม่ได้เจอเขาหลายเดือนมาก
มีช่วงความทรงจำวัยเด็กที่ดีบ้างไหม?
ฉันชอบเล่นวิดีโอเกมตู้นะ แม่ฉันติดมาก พี่สาวก็ชอบเหมือนกัน มูลิโร่ก็เล่นเก่งพอตัวหลังฉันสอนให้(หัวเราะ) ตอนเราเป็นเด็ก เราไม่มีตุ๊กตา เราจึงออกไปเตะบอล เล่นวิดีโอเกมตู้ มันทำให้ครอบครัวเราใกล้ชิดกัน
ทำไมถึงเลือกเล่นวอลเลย์บอล
ฉันเคยเล่นวอลเลย์บอลและบาสเก็ตบอลสมัยเรียนมัธยมที่ Recife พออายุ 11 แม่ของฉันบอกว่า เลือกเอาซักทาง ฉันเรียนไม่เก่งอยู่แล้ว จึงถือโอกาสไปทางกีฬาเต็มตัว ตอนนั้นฉันชอบ Ana Mozer เธอเป็นไอดอลของฉันเลย
หลังจากนั้นอาชีพนักกีฬาเป็นยังไงบ้าง
ตอนอายุ 14 ฉันถูกเรียกไปแข่งชิงแชมป์ของบราซิลให้กับเขต Pernambuco หลังจากนั้นฉันได้รับคำเชิญเข้าคัดเลือกเก็บตัวทีมเยาวชน ตอนนั้นฉันคิดว่าพวกเด็กๆจากเชาท์เปาโล และริโอเล่นได้ดีกว่ามาก แต่สุดท้ายฉันกลายเป็นนักกีฬาจากเขต Pernambuco คนเดียวที่ติด ตอนโค้ชเรียกชื่อฉัน ฉันดีใจจนร้องไห้ จากนั้นก็ได้รับคำชวนไปเล่นให้สโมสร Ocasco ซึ่งหมายความว่าฉันต้องย้ายไปอยู่เมืองเซาท์เปาโล
ชีวิตเปลี่ยนไปมากไหม?
ฉันเดินทางมาคนเดียวเลย เพราะว่าแม่ต้องทำงานที่เดิม ตอนนั้นอายุ 14 เข้ามาในเมืองพร้อมกับเดรสสั้น ในใจคิดว่าเซาท์เปาโลจะร้อนเหมือนกับ Recife แต่ปรากฎว่าที่นั่นหนาวมากพวกสตาฟจึงให้ฉันยืมเสื้อสเวตเตอร์ที่อยู่ในรถ ฉันอาศัยอยู่ในห้องกับนักกีฬาคนอื่นรวมกันสี่คน พวกเราแชร์ของใช้กันบ้าง เพราะในห้องมีให้แต่เตียงกับผ้าห่ม มันก็ลำบากนะ ในตอนเช้าฉันต้องไปเรียน ตอนกลางวันกลับมาฝึกกับทีม เวลาฉันได้รับเงินเช่น 400 รีล ฉันจะส่งกลับไปบ้าน 200 รีล มันเป็นความสุขอย่างมาก แม้จนกระทั่งทุกวันนี้ ที่ฉันสามารถซื้อของให้แม่ ซึ่งเมื่อก่อนเธอซื้อให้ฉันไม่ได้
ในปี 2001 ช่วงอายุ 17 คุณเป็นนักกีฬาเยาวชนที่ได้รับรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมในระดับโลก คุณกำลังก้าวสู่การติดทีมชาติชุดใหญ่ แต่แล้ว…
ปี 2002 เส้นเลือดมือขวาของฉันแตก ทำให้เกิดเลือดอุดตัน แพทย์ที่รักษาบอกฉันว่า ฉันต้องตัดมือข้างขวาทิ้งเพื่อรักษาชีวิต นั่นจะทำให้ฉันไม่มีโอกาสแข่งขันไปตลอดชีวิต มันเป็นช่วงเวลาที่แย่มาก ตอนนั้นมีการคัดเลือกทีมชาติที่ริโอ แต่ฉันกลับบ้านไปหาแม่ ในใจก็คิดว่าฉันคงจะสูญเสียมือขวาไปแล้วแน่ๆ สรุปว่าฉันต้องงดเล่นไปสามเดือนแล้วเข้าทำการรักษาการอุดตันของเส้นเลือดอย่างใกล้ชิด
คุณแทบแย่กับเรื่องนั้น แล้วก็มีปัญหาหัวเข่าอีก
ใช่แล้ว หลังจากงดเล่นไปสามเดือน ฉันก็สามารถกลับมาเล่นได้ใหม่ แต่ไม่ทันไรเอ็นเข่าด้านซ้ายฉีก ทำให้ฉันต้องงดเล่นไปอีก 6 เดือน และหลังจากกลับมาซ้อมครั้งแรก เอ็นจุดเดิมก็มีปัญหาอีก มันเป็นช่วงจุดสูงสุดในอาชีพของฉัน แต่ฉันกลับไม่ได้เล่นเป็นเวลา 2 ปี มันยากมากจริงๆ ตั้งแต่ปี 2002 - 2004 อาชีพของฉันรุ่งมาก แต่ทันใดนั้นเหมือนกับมีใครก็ไม่รู้มาเอามันไปจากชีวิตฉัน ทั้งชิงแชมป์ทวีปอเมริกา และโอลิมปิก ถ้าไม่มีแม่ พี่สาว น้องสาว มูลิโร่ ซึ่งเป็นแฟนฉันตอนนั้นอยู่ข้างๆ ฉันก็คงผ่านช่วงนั้นมาไม่ได้
ในปี 2005 คุณกลับมาเป็น 6 คนแรก ปีต่อมาบราซิลได้เหรียญเงินชิงแชมป์โลก คุณได้รับรางวัลผู้เล่นเปิดบอลแรกยอดเยี่ยม คุณรู้สึกยังไง?
มันเป็นช่วงเวลาที่เจ็บปวด แต่ขณะเดียวกันก็เป็นความประทับใจที่ดีมากๆ ฉันสามารถกลับมาจุดสูงสุดได้อีกครั้ง ปัญหาพวกนี้ยังคงอยู่แต่ฉันเลือกที่จะเดินต่อไปพร้อมกับมัน สองปีก่อนหน้าที่ฉันบาดเจ็บ(เริ่มน้ำตาคลอ) ฉันไม่ชอบเคลื่อนตัวรับบอล ไม่ชอบขุดบอล ชอบแต่จะบุกโจมตีอย่างเดียว แต่หลังจากบาดเจ็บฉันฝึกรับบอลขุดบอลอย่างเต็มที่ เพราะหลังจากผ่าหัวเข่า ฉันไม่สามารถกระโดดได้สูงแบบเมื่อก่อน ตอนนี้ฉันยังคิดว่าถ้าฉันสมบูรณ์ไม่มีอาการบาดเจ็บเลย ฉันก็ไม่แน่ใจว่าฉันจะเรียนรู้ที่จะสร้างข้อได้เปรียบจากข้อจำกัดนี้ได้ไหม
ปี 2007 ก่อนการแข่งขันชิงแชมป์ทวีปอเมริกา คุณถูกตรวจพบสารกระตุ้น sibutramine ตอนนั้นคุณผ่านมาได้ยังไง?
ฉันไม่รู้เลยว่าสารที่ว่าคืออะไร ตอนนั้นเจ้าหน้าที่ตรวจเข้ามาหมู่บ้านนักกีฬา แล้วก็จับพวกเราตรวจหมด ถ้าตรวจพบ เราต้องตอบคำถามให้ได้ว่าได้รับสารนี้มาจากไหน เมื่อผลบอกว่าตรวจพบสารนี้ ฉันถึงกับสิ้นหวัง พวกเขาเรียกฉันไปสอบสวน และฉันไม่รู้จะอธิบายว่ายังไง เพราะไม่รู้ว่ามันคืออะไร หนึ่งเดือนต่อมามีการพบว่าอาหารเสริม CLA ซึ่งอนุญาตให้ใช้ได้ในหมู่นักกีฬาเพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อ แอบเติมสารตัวนี้ลงไปในผลิตภัณฑ์ล็อตแรกเพราะอยากประสบความสำเร็จด้านการขาย ฉันยื่นเอกสารเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ ไม่งั้นฉันคงโดนโทษแบน 2 ปี โดยคณะกรรมการโอลิมปิก หลังจากนั้นสามเดือน ฉันก็ได้รับอนุญาตให้กลับมาเล่นได้ตามปกติ และเข้าร่วมเวิร์ลคัพ
คุณค่อนข้างเคร่งศาสนาและพูดถึงพระเจ้าอยู่บ่อยครั้ง เคยสงสัยบ้างไหมว่าทำไมท่านถึงให้บททดสอบยากๆหลายครั้งกับคุณ?
ท่านคงอยากสอนฉันบางอย่าง รู้ไหม ถ้าฉันย้อนกลับไปได้ ฉันจะสู้ ไม่หลบหลีกซักนิด ฉันยอมรับในทุกบทเรียนที่ท่านมอบให้ (ร้องไห้) บางทีเป้าหมายของท่านคือการสอนให้คนอื่นเห็นว่า ถ้าฉันสามารถกลับมายืนอยู่จุดเดิมได้ คนอื่นก็สามารถทำได้เช่นกัน ในขณะที่เรายังมีชีวิตอยู่ เราต้องสู้ต่อไป ไม่ควรยอมแพ้อะไรง่ายๆ ฉันคือนักรบ ฉันคือนักสู้ ทุกวันนี้ฉันมองตัวเองในกระจกแล้วพูดว่า “ว้าว เธอยอดเยี่ยมที่ผ่านมันมาได้”
ปีนี้มีช่วงเวลาที่อ่อนไหว คุณสูญเสียลูกในช่วงหกสัปดาห์แรก และในช่วงเดือนตุลาคม คุณชนกับเพื่อนร่วมทีมรุนแรงชนิดที่กระดูกสันหลังร้าวและเกือบพิการ คุณรู้สึกยังไง?
ถ้าจะบอกว่าฉันโชคร้าย ที่จริงฉันกลับคิดว่าฉันมีโชคนะ ในฐานะนักกีฬาคนหนึ่งจาก Recife ที่ไม่มีใครผลักดันเข้ามาในวงการกีฬาเลย แต่กลับมีโอกาสที่คนทั่วไปไม่สามารถมีได้ หลังจากที่เกิดเหตุการณ์ชนกันในสนาม ฉันยิ่งเชื่อในโชค ไม่งั้นเราอาจจะได้คุยกันขณะที่ฉันนอนพะงาบอยู่บนเตียง หรือนั่งบนรถเข็นไปแล้ว แล้วแบบนี้จะไม่บอกว่ามีโชคได้ยังไง
ตอนที่เกิดเหตุการณ์นั้นคุณรู้สึกยังไงบ้าง
ฉันกำลังจะรับบอล แล้วฟาบิแอนน่า(ลิเบอโร่) ก็เข้ามาช่วยรับเหมือนกัน หัวของเธอเสยเข้าที่หลังคอของฉัน ฉันล้มลงกลิ้งไปกับพื้น ตัวของฉันราวกับมีอาการชักกระตุก ฉันรู้สึกเจ็บแปล็บที่หลัง จากนั้นตั้งแต่หัวลงไปฉันไม่สามารถควบคุมร่างกายได้ เพราะไม่รู้สึกอะไรเลย เหมือนกับเป็นอัมพาต มันเป็นความรู้สึกสิ้นหวังมาก โชคดีที่กระดูกสันหลังไม่ได้หักทั้งหมด แค่ร้าวช่วงรอยต่อแผ่น C5 และ C6 ฉันต้องใส่เฝือกที่คอ 3 สัปดาห์ ขอบคุณพระเจ้าที่ฉันไม่เป็นอะไร และทีมสามารถคว้าเหรียญทองมาได้สำเร็จ