ในที่สุดช่วงเวลาสำคัญที่พวกเราชาวแฟนแบดไม่อยากได้ยินก็ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว เมื่อ 1 ในตำนานนักแบดผู้เปิดประตูยุคใหม่ของวงการแบดมินตันโลก
ไต้จืออิ่ง หรือที่เราคนไทยเรียกเธอว่า น้องต่าย ได้ประกาศแขวนแร๊กเกตอย่างเป็นทางการ
โดยในช่วงก่อนหน้า ต่าย เองก็ได้ประกาศแล้วว่า โอลิมปิกที่ปารีสของเธอจะเป็นโอลิมปิกครั้งสุดท้ายของเธอแล้ว ก่อนที่เธอจะประสบอาการบาดเจ็บที่หัวเข่า และต้องรักษาตัวต่ออีก 1 ปี จนในที่สุดก็ประกาศแขวนแร๊กเกตอย่างเป็นทางการ
ไต้จืออิ่ง เข้าศูนย์ฝึกทีมชาติมาตั้งแต่อายุ 15 ช่วงเวลาเดียวกับ พี่เมย์ รัชนก และเป็น 1 ในดาวรุ่งหญิงเดี่ยวที่ถูกจับตามองว่าจะเป็นผู้เปิดประตูยุคใหม่ของวงการแบดมินตันโลกในช่วงเวลานั้น และก็ทำได้อย่างหวัง โดยเฉพาะ ต่าย ตลอดช่วงเวลาของเธอ ตั้งแต่อายุ 22 เธอสามารถครองมือ 1 โลกตลอดอาชีพ ได้นานถึง 214 สัปดาห์ คว้าแชมป์ตลอดอาชีพ ไปได้ถึง 33 แชมป์ แม้ตลอดอาชีพของเธอจะไม่สามารถไปถึง แชมป์โอลิมปิก และ ชิงแชมป์โลกได้ แต่เธอก็ได้เหรียญทองเอเชี่ยนเกมส์มา 1 สมัย รวมทั้งการเล่นที่สวยงามน่าดึงดูด และเป็นหญิงเดี่ยวที่ครองมือ 1 โลกตลอดอาชีพรวมกันนานที่สุด เป็นตัวบ่งชี้ได้ว่า ยุคใหม่ของวงการแบดมินตันนั้น ต่าย เป็น 1 ในผู้ที่เปิดประตูดังกล่าวออกมา
https://focustaiwan.tw/sports/202511070026
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้วันนี้ฉันอยากประกาศ อย่างเป็นทางการว่า
"ฉันจะขออำลา จากเส้นทางนักกีฬาแล้วค่ะ"
ขอบคุณที่ทุกคน คอยเดินเคียงข้างฉันมาตลอด ผ่านการแข่งขันมากมาย ทั้งเล็กและใหญ่ ผ่านช่วงเวลาที่พีคที่สุด และช่วงเวลาที่ตกต่ำที่สุด ร้องไห้ด้วยกัน หัวเราะด้วยกัน ยิ่งช่วงหลังๆ มีหลายคนตามมาเชียร์ ถึงข้างสนาม ฉันรับรู้ได้หมด และซาบซึ้งมากจริงๆ
ปีที่แล้วสำหรับฉัน…เป็นปีที่หนักที่สุด
ย้อนกลับไปช่วงโอลิมปิก ปีนั้นฉันแทบไม่รู้เลยว่าเท้าของฉันจะสามารถลงแข่งได้หรือเปล่า มีเพียงอย่างเดียวที่รู้คือ…ฉันต้องสู้ ต้องยืนให้ได้ และต้องลองคว้าโอกาสที่เหมือนแทบจะเป็นไปไม่ได้
เพราะคนอื่นไม่เคยทิ้งฉัน
ฉันก็ยิ่งไม่สามารถทิ้งตัวเองได้…
ความเจ็บปวดตอนนั้น…
ความรู้สึกหมดหนทาง…
มันเป็นสิ่งที่ฉันจะ ไม่มีวันลืมเลยในชีวิตนี้
ในช่วงท้ายของปี ฉันถูกบังคับให้ออกจากสนาม เพราะอาการบาดเจ็บที่หัวเข่า
การจบเส้นทางอาชีพ แบบไม่สมบูรณ์ มันเป็นสิ่งที่ฉันเองก็ยากจะยอมรับ
ฉันก็ไม่รู้ว่าต้องใช้เวลาอีกนานแค่ไหน กว่าจะทำใจและปล่อยวางทุกอย่างได้…
ฉันไม่อยากให้ทุกคนเห็นฉัน ในสภาพที่อ่อนแอมาก เพราะแบบนั้น ฉันจึงเลือกบอกข่าวนี้ที่นี่ แม้มันอาจไม่ใช่พิธีปิดฉากที่สมบูรณ์แบบ
ตลอดปีที่ผ่านมา ฉันผ่าตัดทั้งขาซ้ายและขาขวา ต้องฟื้นฟูเป็นเวลานานมาก ต้องขอขอบคุณ ศูนย์ฝึกทีมชาติและสมาคมที่คอยช่วยเหลือ
ขอบพระคุณ คุณหมอจิ่วเหวินอี้ ที่ผ่าตัดได้ยอดเยี่ยม ทำให้หัวเข่าของฉันสามารถกลับมาใช้ได้ตามปกติในชีวิตหลังจากนี้
ขอบคุณ ธนาคารความร่วมมือจีน ที่ให้การสนับสนุนเสมอมา การต้องลาทีมที่อยู่ด้วยกันมานาน มันก็อาจจะทำใจยาก แต่อะไรในโลกนี้ ก็ไม่มีงานเลี้ยงใด..ที่ไม่สิ้นสุด
ขอบคุณ อาจารย์และนักกายภาพบำบัด อาถิง ที่อยู่ช่วยฉันฟื้นฟูมาตลอดปี และขอบคุณ ทีมที่แข็งแกร่งที่สุดของฉัน
ฉันอยู่ที่ศูนย์ฝึกทีมชาติตั้งแต่ 15 จนถึง 31 ปี ทุกสิ่งที่มีในวันนี้ ฉันรู้สึกขอบคุณมากจริงๆ
หลังจากนี้ฉันยังไม่ได้วางแผนว่าจะทำอะไรต่อไป แต่ก็คงถึงเวลาที่จะลองใช้ชีวิต แบบที่ไม่ต้องตั้งนาฬิกาปลุกตื่นแล้วล่ะ
ขอบคุณแบดมินตัน สำหรับทุกอย่างที่มอบให้ฉัน
ยุคของ "ไต้จื่ออิ่ง" ในสนามแบดมินตัน ได้ปิดฉากลงแล้ว
หวังว่าจิตวิญญาณของ "ไต้จื่ออิ่ง"
จะยังคงอยู่กับพวกคุณ และพาคุณก้าวต่อไป
cr.ig: tai_tzuying

และแน่นอนล่ะครับ ในเมื่อการประกาศอำลาออกมาแบบนี้ เพื่อนสนิทของเธอก็ต้องมาครับ พี่เมย์ รัชนก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้cr ig: ratchanokmay
"ไม่มีคำไหนจะบรรยายเธอได้ เพราะเธอสุดยอดจริงๆ ทั้งทักษะ ทั้งเทคนิค และสไตล์การเล่นที่งดงาม สิ่งที่ฉันหวังให้เธอ ต่อจากนี้คือ ขอให้มีชีวิตที่ดี มีความสุข และดีใจกับเธอด้วย ที่ต่อไปนี้ จะไม่ต้องตั้งนาฬิกาปลุกแล้วนะ"
สมัยก่อน ถ้าคู่นี้มาเจอกันเมื่อไร คือน่าดูชมทุกครั้ง สู้กันด้วยลูกเทคนิคสวยงามที่ต้องอุทานออกมาแทบทุกชอต และก็เป็นคู่ที่เจอกันบ่อยที่สุดตลอดอาชีพของต่ายอีกด้วยคือ 36 ครั้ง ชนะ 20 แพ้ 16 และผมเชื่ิอว่า การเจอกันของทั้ง 2 คนนี้ จะยังไม่จบ และผู้ที่จะมาสู้กันคือ ลูกศิษย์ของทั้ง 2 คนในฐานะโค้ชแบดมินตันในอนาคตอย่างแน่นอนครับ
ปิดตำนาน ไต้จืออิ่ง ประกาศแขวนแร๊กเกต
ไต้จืออิ่ง หรือที่เราคนไทยเรียกเธอว่า น้องต่าย ได้ประกาศแขวนแร๊กเกตอย่างเป็นทางการ
โดยในช่วงก่อนหน้า ต่าย เองก็ได้ประกาศแล้วว่า โอลิมปิกที่ปารีสของเธอจะเป็นโอลิมปิกครั้งสุดท้ายของเธอแล้ว ก่อนที่เธอจะประสบอาการบาดเจ็บที่หัวเข่า และต้องรักษาตัวต่ออีก 1 ปี จนในที่สุดก็ประกาศแขวนแร๊กเกตอย่างเป็นทางการ
ไต้จืออิ่ง เข้าศูนย์ฝึกทีมชาติมาตั้งแต่อายุ 15 ช่วงเวลาเดียวกับ พี่เมย์ รัชนก และเป็น 1 ในดาวรุ่งหญิงเดี่ยวที่ถูกจับตามองว่าจะเป็นผู้เปิดประตูยุคใหม่ของวงการแบดมินตันโลกในช่วงเวลานั้น และก็ทำได้อย่างหวัง โดยเฉพาะ ต่าย ตลอดช่วงเวลาของเธอ ตั้งแต่อายุ 22 เธอสามารถครองมือ 1 โลกตลอดอาชีพ ได้นานถึง 214 สัปดาห์ คว้าแชมป์ตลอดอาชีพ ไปได้ถึง 33 แชมป์ แม้ตลอดอาชีพของเธอจะไม่สามารถไปถึง แชมป์โอลิมปิก และ ชิงแชมป์โลกได้ แต่เธอก็ได้เหรียญทองเอเชี่ยนเกมส์มา 1 สมัย รวมทั้งการเล่นที่สวยงามน่าดึงดูด และเป็นหญิงเดี่ยวที่ครองมือ 1 โลกตลอดอาชีพรวมกันนานที่สุด เป็นตัวบ่งชี้ได้ว่า ยุคใหม่ของวงการแบดมินตันนั้น ต่าย เป็น 1 ในผู้ที่เปิดประตูดังกล่าวออกมา
https://focustaiwan.tw/sports/202511070026
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
และแน่นอนล่ะครับ ในเมื่อการประกาศอำลาออกมาแบบนี้ เพื่อนสนิทของเธอก็ต้องมาครับ พี่เมย์ รัชนก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
สมัยก่อน ถ้าคู่นี้มาเจอกันเมื่อไร คือน่าดูชมทุกครั้ง สู้กันด้วยลูกเทคนิคสวยงามที่ต้องอุทานออกมาแทบทุกชอต และก็เป็นคู่ที่เจอกันบ่อยที่สุดตลอดอาชีพของต่ายอีกด้วยคือ 36 ครั้ง ชนะ 20 แพ้ 16 และผมเชื่ิอว่า การเจอกันของทั้ง 2 คนนี้ จะยังไม่จบ และผู้ที่จะมาสู้กันคือ ลูกศิษย์ของทั้ง 2 คนในฐานะโค้ชแบดมินตันในอนาคตอย่างแน่นอนครับ