สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 41
คห 13 มี ip 110.164.156.99
ส่วนคห 17 ได้สร้างกระทู้ http://pantip.com/topic/33328710
โดยมี ip 110.164.156.99
ซึ่งตรงกัน
แสดงว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องแต่งครับ 100%
ส่วนคห 17 ได้สร้างกระทู้ http://pantip.com/topic/33328710
โดยมี ip 110.164.156.99
ซึ่งตรงกัน
แสดงว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องแต่งครับ 100%
ความคิดเห็นที่ 121
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45814.0
^
^
^
อัพไว้ในเล้าเป็ดให้แล้วนะคะ ^_^
เราก็มีเรื่องอยากจะระบายเหมือนเจ้าของกระทู้เช่นกันค่ะ
เรามีพี่ชายอยู่หนึ่งคน ห่างกันสองปี อาศัยอยู่กับแม่และพ่อเลี้ยง พ่อเราเสียตอนที่เดินทางไปทำงานเกี่ยวกับปิโตรเลี่ยมที่ต่างประเทศ พ่อเลี้ยงเราเป็นน้องรหัสของพ่อ เรียนที่มหาลัยเดียวกัน คณะเดียวกัน สาขาเดียวกัน หลังจากที่เสียไปห้าเดือน แม่เราแต่งงานใหม่ กับพ่อเลี้ยงคนปัจจุบัน ในขณะที่เพิ่งทำบุญร้อยวันให้พ่อเราเสร็จไปไม่นาน
แม่เราเล่าว่ากับพ่อเลี้ยงเคยเป็นแฟนกันมาก่อน สมัยชั้นมัธยมปลาย จวบจนเข้ามหาลัย พ่อเลี้ยงเราเป็นผู้ชายติ๋มๆเงียบๆคนนึง ไม่ได้ใช้ชีวิตหวือหวาเหมือนผู้ชายวัยรุ่นทั่วไป แกไม่กินเหล้า สูบบุหรี่ หรือเจ้าชู้ ใช้ชีวิตเรียบง่าย ท่องหนังสือหนัก แม่จะเจอที่ห้องสมุดประจำ กับห้องประชาสัมพันธ์ ตอนที่เข้าหากันครั้งแรกเพราะเรื่องเรียน แม่เป็นคนที่มีเกณฑ์เรียนในระดับปานกลาง เรื่องคำนวณค่อนข้างแย่ แต่เพราะแม่เป็นผู้หญิงเฟิล์ตในระดับนึง จึงตีสนิทกับพ่อเลี้ยงได้ในที่สุด ในตอนนั้นแม่คิดแค่ว่าอยากจะหลอกใช้เรื่องเขียนรายงานหาข้อมูล แต่ท้ายที่สุด แม่แพ้ใจตัวเอง และเป็นผู้หญิงคนแรกที่ได้แอ้มพ่อเลี้ยงตอนม.5 ในตอนนั้นแม่บอกว่าจะได้เพื่อนสาวอะไรประมาณนั้น แต่หลังจากที่พาพ่อเลี้ยงไปเปิดหูเปิดตาที่ร้านเหล้าในตัวเมือง อารมณ์เลยพาไปกันทั้งคู่ แถมเช้ามาแม่วิ่งไปซื้อยาคุมฉุกเฉิน แกยังเดินตามต้อยๆพูดแต่คำว่าขอโทษๆ ตลอดทาง แม่ไม่ได้รู้สึกรำคาญเลย แต่กลับรู้สึกว่ามันโรแมนติคมาก เป็นช่วงหนึ่งของชีวิตที่ประทับใจ
แม่ได้รู้จักกับพ่อเราตอนที่พ่อเลี้ยงเรียนอยู่ปีสองพ่อเราเป็นลูกครึ่ง ย่าเป็นคนใต้อยู่นครศรีธรรมราช ปู่เป็นคนตุรกีอยู่รัฐกาห์รามันมารัช สมัยก่อนย่าปลูกปาล์มกับทำรีสอร์ทเล็กๆ ตอนนั้นปู่เป็นลูกจ้างบริษัทน้ำมันต่างชาติแห่งนึง เดินทางมาติดต่องานที่ไทยพร้อมกับหัวหน้าและพักผ่อนในทะเลแถวทางใต้ ตระเวณไปเรื่อยๆจนมาเจอกับย่าที่นครศรี ติดต่อกันประมาณเจ็ดแปดปีแล้วก็เลิกรากันไป
พ่อเราเป็นคนคม ผิวสีน้ำผึ้ง ดูร้ายๆ ตอนแรกแม่บอกว่าหมั่นใส้ด้วยซ้ำ เพราะเหมือนคนท่าเยอะขี้เก็กหน้าหม้ออยู่ตลอดเวลา มีพักหลังๆที่ไม่ค่อยแสดงออกมาก แต่ก็ยังถือว่ามี แม้พ่อเลี้ยงจะแนะนำว่าแม่เราเป็นแฟนชัดเจน แต่ลับหลังพ่อมักจะแอบมาหยอดจีบแม่อยู่ตลอดๆ จากที่เหมือนทำเล่นๆก็เริ่มจริงจังมากขึ้นเรื่อยๆ แอบให้ส่งดอกไม้ให้ ส่งขนม ส่งนั่นส่งนี่ แอบโทรหา เนียนขอนัดเจอ พูดเอาอกเอาใจเก่ง ภายในระยะเวลาหนึ่งปี พ่อเราก็หลอกฟันแม่ได้สำเร็จ
พ่อเรากินขาดพ่อเลี้ยงทั้งเรื่องรูปร่างหน้าตาและฐานะ คนนึงลูกเศรษฐี กับอีกหนึ่งเด็กวัดเลยก็ว่าได้ แม่เล่าว่าช่วงที่คบกันกับพ่อเลี้ยงตอนม.ปลาย เคยถามอีกฝ่ายเหมือนกันว่าทำไมต้องทุ่มเรื่องการเรียนมากขนาดนี้ พ่อเลี้ยงตอบแค่ว่าไม่อยากให้หลวงตาที่เลี้ยงมาผิดหวัง ตอนนั้นแม่แปลกใจมาก เลยถามว่าพ่อแม่ไปไหน พ่อเลี้ยงก็ตอบตรงๆ ว่าแม่ของเขาเป็นเด็กต่างจังหวัด อาศัยอยู่กับตายาย จนวันนึงคนขับรถตู้ไปพัทยา มาหาประกาศหาเด็กไปช่วยงานที่ร้านเพื่อน แม่แกที่ไม่ได้เรียนหนังสือ ได้แต่ทำงานรับจ้างในหมู่บ้านไปวันๆเลยอยากไปด้วย สุดท้ายกลับเป็นงานอย่างว่า และพลาดมีแกขึ้นมา ก็เอามาให้ตายายเลี้ยง ส่งเสียบ้างไม่ส่งบ้าง จนสุดท้ายเงียบหายไป ตายายที่แก่แล้วเลี้ยงไม่ไหว จึงส่งให้ญาติที่บวชเป็นพระรับดูแลต่อ ส่วนแกพอโตมาก็เห็นตากับยายเป็นอัฐิในโกฏิกระดูกอยู่บนหิ้งไหว้พระ ไม่มีโอกาสได้ทดแทนบุญคุญ ตอนนี้เหลือแต่หลวงตาที่คอยเอาเงินบริจาคจากทางญาติโยมชุบเลี้ยงแกมา แกก็อยากทำปัจจุบันให้มันดีที่สุด จะได้ไม่นึกเสียใจในภายหลัง และอยากตอบแทนในช่วงที่คนที่แกรักยังมีลมหายใจ
แม่บอกว่าทั้งสงสารทั้งเห็นใจ จนแปรเปลี่ยนเป็นความรู้สึกดีๆ แต่มันยังไม่ใช่ความรัก พ่อเลี้ยงไม่เคยทำให้แม่รู้สึกอึดอัดลำบากใจ แต่พร้อมกันนั้นก็ไม่เคยทำให้ใจเต้นแรงรึหวั่นไหวแบบชู้สาว ถึงแม้จะเป็นแฟนกัน แต่นั่นมันก็เป็นสิ่งที่พ่อเลี้ยงพูดไว้ ว่าจะรับผิดชอบแม่ไปทั้งชีวิต...
จนถึงป่านนี้
เขาก็ไม่เคยผิดคำสาบานนั้นเลย
แม่กับพ่อคบกันอย่างลับๆ จนพลาดมามีอะไรกัน และเป็นเพราะแม่หลงเสน่ห์เข้าเต็มเปาจึงไม่ระมัดระวังเรื่องป้องกัน พอท้องขึ้นมา แม่เรียนไม่จบมหาลัย ส่วนพ่อดูเหมือนจะไม่ค่อยใส่ใจเท่าไหร่ แต่ก็ไม่ได้บอกให้ไปเอาออก จนสุดท้ายแม่ทนความกดกันไม่ไหวจะฆ่าตัวตายในหอ รูมเมทที่อยู่ด้วยกันจึงรีบโทรบอกพ่อเลี้ยง แม้จะรู้ลึกๆว่าอะไรเป็นอะไร แต่แกกลับไม่ตะคอกด่าว่าแม่สักนิด เอาแต่กอด พูดอยู่ซ้ำๆว่าไม่เป็นไรนะ ไม่เป็นไร อย่าร้อง อย่าทำร้ายตัวเองแบบนี้ ท้ายที่สุดก็ได้พ่อเลี้ยงนี่แหละเป็นคนพาไปฝากครรภ์ในคลินิก พร้อมกับส่งนมส่งของกินให้เรื่อยๆจนใกล้คลอด ส่วนพ่อเราดูเหมือนไม่มั่นใจว่าลูกในท้องจะเป็นลูกแกรึเปล่า แกเลยแค่ส่งเงินมาให้เรื่อยๆและรอตรวจเลือดตอนคลอด จำได้ว่าพอพ่อเราไปพูดเรื่องที่ว่าไม่แน่ใจกับเด็กในท้องให้พ่อเลี้ยงฟัง ยังไม่ทันจบประโยคก็ต่อยกันนัว แก้มช้ำ หน้าแหก เบ้าตาเขียวเป็นจ้ำ จนพ่อเลี้ยงเกือบโดนตัดสิทธิ์เรื่องทุนเรียนดี
ตอนแม่คลอดพี่ชาย พ่อกำลังอยู่ปีสาม ตรวจดีเอ็นเอก็ปรากฎว่าเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขจริงๆ พ่อเลยตัดสินใจโทรหาย่าที่อยู่ใต้ให้ขึ้นมาที่กรุงเทพฯ เพื่อเคลียร์เรื่องนี้ ทางผู้ใหญ่ฝั่งพ่อพอรู้ว่าลูกชายไปทำสาวท้องแถมคลอดออกมาแล้วเรียบร้อยกลับโมโหมากที่ลูกไม่ยอมบอก ย่าประกาศกร้าวว่าพ่อจบมาจะต้องแต่งกับแม่ทันที ไม่มีข้ออ้าง จนในที่สุดก็ได้อยู่กินด้วยกันฉันท์สามีภรรยา แม้แม่จะนึกโกรธที่เขาไม่เคยมาดูแล แต่ช่วงที่คลอดแล้วรู้ว่าเป็นลูกของตัวเองจริงๆพ่อมาดูแลไม่เคยขาดตกบกพร่อง ชงนมเปลี่ยนผ้าอ้อมช่วยเกือบทุกอย่างทันทีที่ว่างจากการเรียน แถมยังคุกเข่าขอโทษพ่อเลี้ยงอีก แม่ก็เลยพลอยใจอ่อน
พอพี่ชายโตได้สองขวบ พ่อต้องไปทำงานต่างประเทศ พ่อเลี้ยงก็รับปริญญาตรีพอดี แม่รู้ตัวแล้วว่าช่วงนั้นตัวเองต้องท้องอีกแน่ๆ แต่ก็ไม่ได้บอกพ่อไว้ คิดไว้ว่าจะรอเซอร์ไพรส์ตอนพ่อกลับมา พ่อเลี้ยงแวะมาช่วยเลี้ยงพี่ชายบ่อยๆ จนคนแถวบ้านแทบคิดว่าเป็นพ่อลูกกันจริงๆ จนพ่อกลับมา แม่ถึงบอกเรื่องที่มีเรา ตอนนั้นพ่อดีใจมากจนร้องไห้ พาไปฝากครรภ์ดูแลอย่างดี เอาอกเอาใจทุกๆอย่าง จนถึงเวลากลับไปทำงานที่ต่างประเทศอีกรอบ พ่อชวนพ่อเลี้ยงไปทำงานด้วย
และนั่นเป็นจุดเริ่มต้นของความเจ็บปวด
พ่อเรามีผู้หญิงอีกคนอยู่ที่นั่น เธอเป็นสาวละติน
ที่สำคัญ...
เขามีลูกด้วยกัน และใกล้คลอด.
พ่อเรียกให้พ่อเลี้ยงไปช่วยงานเรื่องระบบเซฟตี้พร้อมกับวางระบบการยศาสตร์ด้านความปลอดภัยอยู่ภายในเหมือง ส่วนเหตุผลจริงๆก็คงให้ไปเตี๊ยมเป็นพ่อของเมียเขาอีกที ลุงเราบอกว่าพ่อเลี้ยงโมโหมาก แทบจะบินกลับไทยในตอนนั้น แต่สุดท้ายเหตุผลด้านสัญญาการทำงานที่ผูกขึ้นในระยะเวลาหกเดือน ทำให้พ่อเลี้ยงต้องอยู่รับผิดชอบงานจนเสร็จ แม้จะไม่พอใจพฤติกรรมของพ่อเรา แต่เขาก็ไม่เคยโทรมาฟ้องแม่สักครั้ง ที่แม่รู้ก็เพราะพี่สาวแม่ที่ทำงานอยู่ที่นั่นเป็นคนโทรมาบอกพร้อมกับถ่ายรูปส่งไป ความเลยแตก พ่อเราเดินไปทำร้ายร่างกายพ่อเลี้ยงต่อหน้าคนงานเป็นร้อย เพราะเข้าใจว่าพ่อเลี้ยงเป็นคนไปพูด
วันต่อมา...
พ่อก็เสีย
ระบบสลิงยึดโยงชำรุด พ่อตกลงจากเฉลียงฝั่งซ้ายขณะที่กำลังห้อยตัวลงไป ลึกประมาณห้าสิบเมตร
เสียชีวิตภายในทันที
และคนที่มีหน้าที่รับผิดชอบควบคุมระบบนั้น
คือพ่อเลี้ยง
แม้จะมีหลายเสียงวิพากษ์วิจารณ์ บางคนเชื่อว่าต้องเป็นอย่างนั้นแน่ๆ บางคนแค่ฟังแต่ไม่ออกความเห็น บางคนคิดว่ามันไม่น่าจะใช่ ท่ามกลางความคิดเห็นมากมาย ทางบริษัทผู้เป็นเจ้าของโครงการก็ส่งศพพ่อเรามาถึงประเทศไทยแล้ว
แม่เราร้องไห้อย่างหนัก จนแทบจะเป็นลม แม้รู้ทั้งรู้ว่าพ่อทำอะไรไว้ แต่เพราะยังรัก ยังห่วงหา ยังอาธรณ์ แม่ทำใจไม่ได้ เป็นลมซ้ำแล้วซ้ำเล่า แม้แต่งานเผาแม่ก็โดนยายห้ามไม่ให้ไปเด็ดขาด ส่วนพ่อเลี้ยงก้มลงกราบเท้าย่า พูดขอโทษที่ตัวเองรักษาชีวิตพ่อเราไว้ไม่ได้ ตั้งแต่นั้นมาพ่อเลี้ยงจะลงไปหาย่าที่ใต้ทุกๆเดือน แม่บอกว่าก็ไม่รู้เขาลงไปทำอะไรบ้าง เพราะเขาไม่เคยพูดให้ฟัง แต่ตลอดระยะเวลาห้าปี พ่อเลี้ยงทำอย่างนี้สม่ำเสมอไม่เคยขาด
พอแม่คลอดเรา พ่อเลี้ยงก็ลาออกจากงานที่ทำประจำ มาเปิดร้านอาหาร ช่วยแม่ดูแลทั้งเราทั้งพี่ชาย จนพี่ชายเราโตขึ้นอายุรุ่นๆสิบสี่สิบห้า ลุงมารับพี่ชายเราไปเลี้ยงอยู่ปีสองปี ก่อนหน้านั้นพี่ติดพ่อเลี้ยงมาก จะเรียกป๊าอย่างนั้นป๊าอย่างนี้ตลอด พ่อเลี้ยงเราดูแลพี่แทบไม่ต่างจากลูกแท้ๆ ประคบประหงมไม่เคยให้กินแหนงแคลงใจ ให้ความอบอุ่น ถนุถนอมมาตั้งแต่อยู่ในท้องยังไง พี่โตขึ้นมาแกก็ยังทำเหมือนเดิม
แต่มันมีจุดเปลี่ยน
ลุงเราไม่ชอบพ่อเลี้ยง คอยแต่จะฟ้อง คอยแต่จะหาเรื่อง เอาแต่พูดว่าทำน้องกูตาย
จะลากเข้าคุกให้ได้ แม่ไม่อยากให้ลุงเอาพี่ชายเราไปเลี้ยงเลย กลัวปลูกฝังความเกลียดชังให้หลาน แต่สุดท้ายก็ฝืนไม่ได้ เพราะพี่ชายเราอยากเข้าไปเรียนในเมือง และบ้านลุงอยู่ที่นั่น เลยจำเป็นต้องไปอยู่
ช่วงแรกๆพี่กลับบ้านบ่อย แต่มาพักหลังๆช่วงปิดเทอมม.5จะขึ้นม.6 พี่ไม่ค่อยกลับบ้าน อ้างว่ามีสอบ ติวเยอะ เหนื่อย แต่พอเวลากลับบ้านทีก็เล่นเอาแม่เราใจหาย พี่ยิ่งโตยิ่งเหมือนพ่อมาก หน้าตาจมูกปากเหมือนจนบางทีแม่ต้องแอบไปร้องไห้ในห้องนอนเงียบๆเพราะคิดถึงคนที่จากไป พี่เราไม่ได้สังเกตอาการแม่ แต่กลับกระด้างกระเดื่องใส่พ่อเลี้ยง ทำปึงๆปังๆใส่ หนักๆเข้าพ่อแกไม่โต้ตอบพี่ก็ทำลายข้าวของในบ้าน พอพ่อเลี้ยงเตือน พี่ก็ขึ้นคำพูดหยาบคายสาระพัดจะสรรหามาพูด จนเกือบมีเรื่องทำร้ายร่างกาย ถ้าเกิดขึ้นจริงพ่อเลี้ยงคงตายคามือพี่ เพราะแกตัวเล็ก สูงแค่อกพอเทียบกับพี่ที่ร้อยแปดสิบห้า พี่สามารถหักคอพ่อเลี้ยงได้อย่างสบายๆ
พ่อเลี้ยงเป็นมังสวิรัต แกกินแค่ปลา ไข่ ผักและผลไม้ แกมักจะซื้อของมาตุนไว้ในตู้เย็นเสมอ แต่พอพี่กลับบ้าน พี่ชอบไปรื้อของออกจากตู้เย็น แล้วเอาเท้าเหยียบลงบดไปกับพื้นในครัว เสร็จแล้วก็เดินออกมาหน้าตาเฉย เหตุการณ์นี้เราบังเอิญไปเห็น เรารู้สึกแย่ เรารักและเคารพพ่อเลี้ยง ความสัมพันธ์ฉันท์พี่น้องกับพี่ค่อนข้างห่างเหิน เพราะเราเกลียดพฤติกรรมที่พี่ทำ เลยทำให้เย็นชาใส่พี่ทุกครั้ง แม้พี่จะพยายามคุยกับเรา แต่เราจะเลี่ยงการสนทนาอยู่ตลอด เพราะเราทำใจคุยด้วยไม่ได้จริงๆ
หลังๆมาพ่อต้องไปดูร้านในเมืองเพราะขยายสาขาอีก กลับมาบ้านแต่ล่ะทีก็ดึกมาก แต่พ่อมักจะเปิดประตูห้องมาจุ๊บหน้าผากพร้อมบอกฝันดีกับเราทุกครั้งที่มา ปกติเราปิดไฟนอนเลยไม่เห็นและไม่ทันสังเกตสีหน้าของพ่อ แต่บังเอิญวันนั้นเราอ่านหนังสือดึก พ่อเปิดประตูเข้ามาตามปกติ ก่อนจะรีบปิดกลับด้วยความตกใจจนเราต้องไปกระชากประตูเปิดออก พ่อใส่เสื้อยืดสีขาวตราห่านคู่ตัวเก่ง แต่ตามแขนของพ่อมีแต่รอยช้ำ รอยห้อเลือด ตรงข้อศอกมีพลาสเตอร์ปิดไว้ลวกๆด้วยซ้ำ พ่อเป็นคนผิวขาวเผือก รอยจ้ำเป็นดวงขึ้นสีม่วงน่ากลัวมาก พ่ออึกอักไปพักนึง ก่อนจะตอบเราว่าเป็นอุบัติเหตุตอนตกแต่งภายในร้านสาขาใหม่ที่จะกำลังจะเปิด พ่อไม่เป็นอะไรมาก แล้วแกก็รีบเดินไป
ตอนนั้นเราเชื่ออย่างไม่มีข้อสงสัย
อาทิตย์ถัดมาพ่อกลับบ้านเร็ว ร่องรอยตามตัวพ่อค่อยๆจางไป พี่ไม่ค่อยกลับบ้าน อาจจะเป็นเพราะอยู่ในช่วงใกล้สอบ พี่โทรมาบอกแม่ว่าจะเรียนแพทย์ ไม่ได้โทรมาปรึกษา แต่จู่ๆก็โทรมาบอกเลย แม่ไม่ได้ว่าอะไร แค่ตอบรับทางมือถือว่ารับรู้
กับพ่อเลี้ยงพี่หาเรื่องและโมโหร้าย แต่กับแม่พี่กลับสร้างกำแพงไว้
ซึ่งมันหนาเอาการ
พ่อบอกว่าจะพาเราไปเดินตลาดแถวบ้าน เราดีใจมาก เพราะนานๆทีพ่อจะกลับมาเร็ว เรารีบโดดขึ้นรถ นั่งรออย่างใจจดใจจ่อ พอสักพักพ่อก็ยังไม่เดินมา เราเลยเล่นมือถือรอ จนนึกได้ว่าตัวเองเคยซื้อพาวเวอร์แบงค์เอาไว้และเอาใส่ไว้ในหน้าเก๊ะรถ เราแงะปุ่มล็อคขึ้นเพื่อเปิดออก แต่สิ่งแรกที่กระทบสายตาเรากลับเป็น...
Butoconazole 2% cream 5 g (Butaconazole1-sustained release)
ยาเหน็บแก้ช่องคลอดอักเสบจากเชื้อรา?
#กระทู้นิยายป่ะคะ? #คุณจขกท.ต้องเรียบเรียงสำนวนประมาณนี้นะ #นี่ดิฉันลงทุนพิพม์ในมือถือจนมือหงิกมืองอเลยทีเดียว #คิดจะแต่งนิยายวายเชิญเล้าเป็ดเว็บเด็กดีและธัญวลัยดีกว่าค่ะ จะ
^
^
^
อัพไว้ในเล้าเป็ดให้แล้วนะคะ ^_^
เราก็มีเรื่องอยากจะระบายเหมือนเจ้าของกระทู้เช่นกันค่ะ
เรามีพี่ชายอยู่หนึ่งคน ห่างกันสองปี อาศัยอยู่กับแม่และพ่อเลี้ยง พ่อเราเสียตอนที่เดินทางไปทำงานเกี่ยวกับปิโตรเลี่ยมที่ต่างประเทศ พ่อเลี้ยงเราเป็นน้องรหัสของพ่อ เรียนที่มหาลัยเดียวกัน คณะเดียวกัน สาขาเดียวกัน หลังจากที่เสียไปห้าเดือน แม่เราแต่งงานใหม่ กับพ่อเลี้ยงคนปัจจุบัน ในขณะที่เพิ่งทำบุญร้อยวันให้พ่อเราเสร็จไปไม่นาน
แม่เราเล่าว่ากับพ่อเลี้ยงเคยเป็นแฟนกันมาก่อน สมัยชั้นมัธยมปลาย จวบจนเข้ามหาลัย พ่อเลี้ยงเราเป็นผู้ชายติ๋มๆเงียบๆคนนึง ไม่ได้ใช้ชีวิตหวือหวาเหมือนผู้ชายวัยรุ่นทั่วไป แกไม่กินเหล้า สูบบุหรี่ หรือเจ้าชู้ ใช้ชีวิตเรียบง่าย ท่องหนังสือหนัก แม่จะเจอที่ห้องสมุดประจำ กับห้องประชาสัมพันธ์ ตอนที่เข้าหากันครั้งแรกเพราะเรื่องเรียน แม่เป็นคนที่มีเกณฑ์เรียนในระดับปานกลาง เรื่องคำนวณค่อนข้างแย่ แต่เพราะแม่เป็นผู้หญิงเฟิล์ตในระดับนึง จึงตีสนิทกับพ่อเลี้ยงได้ในที่สุด ในตอนนั้นแม่คิดแค่ว่าอยากจะหลอกใช้เรื่องเขียนรายงานหาข้อมูล แต่ท้ายที่สุด แม่แพ้ใจตัวเอง และเป็นผู้หญิงคนแรกที่ได้แอ้มพ่อเลี้ยงตอนม.5 ในตอนนั้นแม่บอกว่าจะได้เพื่อนสาวอะไรประมาณนั้น แต่หลังจากที่พาพ่อเลี้ยงไปเปิดหูเปิดตาที่ร้านเหล้าในตัวเมือง อารมณ์เลยพาไปกันทั้งคู่ แถมเช้ามาแม่วิ่งไปซื้อยาคุมฉุกเฉิน แกยังเดินตามต้อยๆพูดแต่คำว่าขอโทษๆ ตลอดทาง แม่ไม่ได้รู้สึกรำคาญเลย แต่กลับรู้สึกว่ามันโรแมนติคมาก เป็นช่วงหนึ่งของชีวิตที่ประทับใจ
แม่ได้รู้จักกับพ่อเราตอนที่พ่อเลี้ยงเรียนอยู่ปีสองพ่อเราเป็นลูกครึ่ง ย่าเป็นคนใต้อยู่นครศรีธรรมราช ปู่เป็นคนตุรกีอยู่รัฐกาห์รามันมารัช สมัยก่อนย่าปลูกปาล์มกับทำรีสอร์ทเล็กๆ ตอนนั้นปู่เป็นลูกจ้างบริษัทน้ำมันต่างชาติแห่งนึง เดินทางมาติดต่องานที่ไทยพร้อมกับหัวหน้าและพักผ่อนในทะเลแถวทางใต้ ตระเวณไปเรื่อยๆจนมาเจอกับย่าที่นครศรี ติดต่อกันประมาณเจ็ดแปดปีแล้วก็เลิกรากันไป
พ่อเราเป็นคนคม ผิวสีน้ำผึ้ง ดูร้ายๆ ตอนแรกแม่บอกว่าหมั่นใส้ด้วยซ้ำ เพราะเหมือนคนท่าเยอะขี้เก็กหน้าหม้ออยู่ตลอดเวลา มีพักหลังๆที่ไม่ค่อยแสดงออกมาก แต่ก็ยังถือว่ามี แม้พ่อเลี้ยงจะแนะนำว่าแม่เราเป็นแฟนชัดเจน แต่ลับหลังพ่อมักจะแอบมาหยอดจีบแม่อยู่ตลอดๆ จากที่เหมือนทำเล่นๆก็เริ่มจริงจังมากขึ้นเรื่อยๆ แอบให้ส่งดอกไม้ให้ ส่งขนม ส่งนั่นส่งนี่ แอบโทรหา เนียนขอนัดเจอ พูดเอาอกเอาใจเก่ง ภายในระยะเวลาหนึ่งปี พ่อเราก็หลอกฟันแม่ได้สำเร็จ
พ่อเรากินขาดพ่อเลี้ยงทั้งเรื่องรูปร่างหน้าตาและฐานะ คนนึงลูกเศรษฐี กับอีกหนึ่งเด็กวัดเลยก็ว่าได้ แม่เล่าว่าช่วงที่คบกันกับพ่อเลี้ยงตอนม.ปลาย เคยถามอีกฝ่ายเหมือนกันว่าทำไมต้องทุ่มเรื่องการเรียนมากขนาดนี้ พ่อเลี้ยงตอบแค่ว่าไม่อยากให้หลวงตาที่เลี้ยงมาผิดหวัง ตอนนั้นแม่แปลกใจมาก เลยถามว่าพ่อแม่ไปไหน พ่อเลี้ยงก็ตอบตรงๆ ว่าแม่ของเขาเป็นเด็กต่างจังหวัด อาศัยอยู่กับตายาย จนวันนึงคนขับรถตู้ไปพัทยา มาหาประกาศหาเด็กไปช่วยงานที่ร้านเพื่อน แม่แกที่ไม่ได้เรียนหนังสือ ได้แต่ทำงานรับจ้างในหมู่บ้านไปวันๆเลยอยากไปด้วย สุดท้ายกลับเป็นงานอย่างว่า และพลาดมีแกขึ้นมา ก็เอามาให้ตายายเลี้ยง ส่งเสียบ้างไม่ส่งบ้าง จนสุดท้ายเงียบหายไป ตายายที่แก่แล้วเลี้ยงไม่ไหว จึงส่งให้ญาติที่บวชเป็นพระรับดูแลต่อ ส่วนแกพอโตมาก็เห็นตากับยายเป็นอัฐิในโกฏิกระดูกอยู่บนหิ้งไหว้พระ ไม่มีโอกาสได้ทดแทนบุญคุญ ตอนนี้เหลือแต่หลวงตาที่คอยเอาเงินบริจาคจากทางญาติโยมชุบเลี้ยงแกมา แกก็อยากทำปัจจุบันให้มันดีที่สุด จะได้ไม่นึกเสียใจในภายหลัง และอยากตอบแทนในช่วงที่คนที่แกรักยังมีลมหายใจ
แม่บอกว่าทั้งสงสารทั้งเห็นใจ จนแปรเปลี่ยนเป็นความรู้สึกดีๆ แต่มันยังไม่ใช่ความรัก พ่อเลี้ยงไม่เคยทำให้แม่รู้สึกอึดอัดลำบากใจ แต่พร้อมกันนั้นก็ไม่เคยทำให้ใจเต้นแรงรึหวั่นไหวแบบชู้สาว ถึงแม้จะเป็นแฟนกัน แต่นั่นมันก็เป็นสิ่งที่พ่อเลี้ยงพูดไว้ ว่าจะรับผิดชอบแม่ไปทั้งชีวิต...
จนถึงป่านนี้
เขาก็ไม่เคยผิดคำสาบานนั้นเลย
แม่กับพ่อคบกันอย่างลับๆ จนพลาดมามีอะไรกัน และเป็นเพราะแม่หลงเสน่ห์เข้าเต็มเปาจึงไม่ระมัดระวังเรื่องป้องกัน พอท้องขึ้นมา แม่เรียนไม่จบมหาลัย ส่วนพ่อดูเหมือนจะไม่ค่อยใส่ใจเท่าไหร่ แต่ก็ไม่ได้บอกให้ไปเอาออก จนสุดท้ายแม่ทนความกดกันไม่ไหวจะฆ่าตัวตายในหอ รูมเมทที่อยู่ด้วยกันจึงรีบโทรบอกพ่อเลี้ยง แม้จะรู้ลึกๆว่าอะไรเป็นอะไร แต่แกกลับไม่ตะคอกด่าว่าแม่สักนิด เอาแต่กอด พูดอยู่ซ้ำๆว่าไม่เป็นไรนะ ไม่เป็นไร อย่าร้อง อย่าทำร้ายตัวเองแบบนี้ ท้ายที่สุดก็ได้พ่อเลี้ยงนี่แหละเป็นคนพาไปฝากครรภ์ในคลินิก พร้อมกับส่งนมส่งของกินให้เรื่อยๆจนใกล้คลอด ส่วนพ่อเราดูเหมือนไม่มั่นใจว่าลูกในท้องจะเป็นลูกแกรึเปล่า แกเลยแค่ส่งเงินมาให้เรื่อยๆและรอตรวจเลือดตอนคลอด จำได้ว่าพอพ่อเราไปพูดเรื่องที่ว่าไม่แน่ใจกับเด็กในท้องให้พ่อเลี้ยงฟัง ยังไม่ทันจบประโยคก็ต่อยกันนัว แก้มช้ำ หน้าแหก เบ้าตาเขียวเป็นจ้ำ จนพ่อเลี้ยงเกือบโดนตัดสิทธิ์เรื่องทุนเรียนดี
ตอนแม่คลอดพี่ชาย พ่อกำลังอยู่ปีสาม ตรวจดีเอ็นเอก็ปรากฎว่าเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขจริงๆ พ่อเลยตัดสินใจโทรหาย่าที่อยู่ใต้ให้ขึ้นมาที่กรุงเทพฯ เพื่อเคลียร์เรื่องนี้ ทางผู้ใหญ่ฝั่งพ่อพอรู้ว่าลูกชายไปทำสาวท้องแถมคลอดออกมาแล้วเรียบร้อยกลับโมโหมากที่ลูกไม่ยอมบอก ย่าประกาศกร้าวว่าพ่อจบมาจะต้องแต่งกับแม่ทันที ไม่มีข้ออ้าง จนในที่สุดก็ได้อยู่กินด้วยกันฉันท์สามีภรรยา แม้แม่จะนึกโกรธที่เขาไม่เคยมาดูแล แต่ช่วงที่คลอดแล้วรู้ว่าเป็นลูกของตัวเองจริงๆพ่อมาดูแลไม่เคยขาดตกบกพร่อง ชงนมเปลี่ยนผ้าอ้อมช่วยเกือบทุกอย่างทันทีที่ว่างจากการเรียน แถมยังคุกเข่าขอโทษพ่อเลี้ยงอีก แม่ก็เลยพลอยใจอ่อน
พอพี่ชายโตได้สองขวบ พ่อต้องไปทำงานต่างประเทศ พ่อเลี้ยงก็รับปริญญาตรีพอดี แม่รู้ตัวแล้วว่าช่วงนั้นตัวเองต้องท้องอีกแน่ๆ แต่ก็ไม่ได้บอกพ่อไว้ คิดไว้ว่าจะรอเซอร์ไพรส์ตอนพ่อกลับมา พ่อเลี้ยงแวะมาช่วยเลี้ยงพี่ชายบ่อยๆ จนคนแถวบ้านแทบคิดว่าเป็นพ่อลูกกันจริงๆ จนพ่อกลับมา แม่ถึงบอกเรื่องที่มีเรา ตอนนั้นพ่อดีใจมากจนร้องไห้ พาไปฝากครรภ์ดูแลอย่างดี เอาอกเอาใจทุกๆอย่าง จนถึงเวลากลับไปทำงานที่ต่างประเทศอีกรอบ พ่อชวนพ่อเลี้ยงไปทำงานด้วย
และนั่นเป็นจุดเริ่มต้นของความเจ็บปวด
พ่อเรามีผู้หญิงอีกคนอยู่ที่นั่น เธอเป็นสาวละติน
ที่สำคัญ...
เขามีลูกด้วยกัน และใกล้คลอด.
พ่อเรียกให้พ่อเลี้ยงไปช่วยงานเรื่องระบบเซฟตี้พร้อมกับวางระบบการยศาสตร์ด้านความปลอดภัยอยู่ภายในเหมือง ส่วนเหตุผลจริงๆก็คงให้ไปเตี๊ยมเป็นพ่อของเมียเขาอีกที ลุงเราบอกว่าพ่อเลี้ยงโมโหมาก แทบจะบินกลับไทยในตอนนั้น แต่สุดท้ายเหตุผลด้านสัญญาการทำงานที่ผูกขึ้นในระยะเวลาหกเดือน ทำให้พ่อเลี้ยงต้องอยู่รับผิดชอบงานจนเสร็จ แม้จะไม่พอใจพฤติกรรมของพ่อเรา แต่เขาก็ไม่เคยโทรมาฟ้องแม่สักครั้ง ที่แม่รู้ก็เพราะพี่สาวแม่ที่ทำงานอยู่ที่นั่นเป็นคนโทรมาบอกพร้อมกับถ่ายรูปส่งไป ความเลยแตก พ่อเราเดินไปทำร้ายร่างกายพ่อเลี้ยงต่อหน้าคนงานเป็นร้อย เพราะเข้าใจว่าพ่อเลี้ยงเป็นคนไปพูด
วันต่อมา...
พ่อก็เสีย
ระบบสลิงยึดโยงชำรุด พ่อตกลงจากเฉลียงฝั่งซ้ายขณะที่กำลังห้อยตัวลงไป ลึกประมาณห้าสิบเมตร
เสียชีวิตภายในทันที
และคนที่มีหน้าที่รับผิดชอบควบคุมระบบนั้น
คือพ่อเลี้ยง
แม้จะมีหลายเสียงวิพากษ์วิจารณ์ บางคนเชื่อว่าต้องเป็นอย่างนั้นแน่ๆ บางคนแค่ฟังแต่ไม่ออกความเห็น บางคนคิดว่ามันไม่น่าจะใช่ ท่ามกลางความคิดเห็นมากมาย ทางบริษัทผู้เป็นเจ้าของโครงการก็ส่งศพพ่อเรามาถึงประเทศไทยแล้ว
แม่เราร้องไห้อย่างหนัก จนแทบจะเป็นลม แม้รู้ทั้งรู้ว่าพ่อทำอะไรไว้ แต่เพราะยังรัก ยังห่วงหา ยังอาธรณ์ แม่ทำใจไม่ได้ เป็นลมซ้ำแล้วซ้ำเล่า แม้แต่งานเผาแม่ก็โดนยายห้ามไม่ให้ไปเด็ดขาด ส่วนพ่อเลี้ยงก้มลงกราบเท้าย่า พูดขอโทษที่ตัวเองรักษาชีวิตพ่อเราไว้ไม่ได้ ตั้งแต่นั้นมาพ่อเลี้ยงจะลงไปหาย่าที่ใต้ทุกๆเดือน แม่บอกว่าก็ไม่รู้เขาลงไปทำอะไรบ้าง เพราะเขาไม่เคยพูดให้ฟัง แต่ตลอดระยะเวลาห้าปี พ่อเลี้ยงทำอย่างนี้สม่ำเสมอไม่เคยขาด
พอแม่คลอดเรา พ่อเลี้ยงก็ลาออกจากงานที่ทำประจำ มาเปิดร้านอาหาร ช่วยแม่ดูแลทั้งเราทั้งพี่ชาย จนพี่ชายเราโตขึ้นอายุรุ่นๆสิบสี่สิบห้า ลุงมารับพี่ชายเราไปเลี้ยงอยู่ปีสองปี ก่อนหน้านั้นพี่ติดพ่อเลี้ยงมาก จะเรียกป๊าอย่างนั้นป๊าอย่างนี้ตลอด พ่อเลี้ยงเราดูแลพี่แทบไม่ต่างจากลูกแท้ๆ ประคบประหงมไม่เคยให้กินแหนงแคลงใจ ให้ความอบอุ่น ถนุถนอมมาตั้งแต่อยู่ในท้องยังไง พี่โตขึ้นมาแกก็ยังทำเหมือนเดิม
แต่มันมีจุดเปลี่ยน
ลุงเราไม่ชอบพ่อเลี้ยง คอยแต่จะฟ้อง คอยแต่จะหาเรื่อง เอาแต่พูดว่าทำน้องกูตาย
จะลากเข้าคุกให้ได้ แม่ไม่อยากให้ลุงเอาพี่ชายเราไปเลี้ยงเลย กลัวปลูกฝังความเกลียดชังให้หลาน แต่สุดท้ายก็ฝืนไม่ได้ เพราะพี่ชายเราอยากเข้าไปเรียนในเมือง และบ้านลุงอยู่ที่นั่น เลยจำเป็นต้องไปอยู่
ช่วงแรกๆพี่กลับบ้านบ่อย แต่มาพักหลังๆช่วงปิดเทอมม.5จะขึ้นม.6 พี่ไม่ค่อยกลับบ้าน อ้างว่ามีสอบ ติวเยอะ เหนื่อย แต่พอเวลากลับบ้านทีก็เล่นเอาแม่เราใจหาย พี่ยิ่งโตยิ่งเหมือนพ่อมาก หน้าตาจมูกปากเหมือนจนบางทีแม่ต้องแอบไปร้องไห้ในห้องนอนเงียบๆเพราะคิดถึงคนที่จากไป พี่เราไม่ได้สังเกตอาการแม่ แต่กลับกระด้างกระเดื่องใส่พ่อเลี้ยง ทำปึงๆปังๆใส่ หนักๆเข้าพ่อแกไม่โต้ตอบพี่ก็ทำลายข้าวของในบ้าน พอพ่อเลี้ยงเตือน พี่ก็ขึ้นคำพูดหยาบคายสาระพัดจะสรรหามาพูด จนเกือบมีเรื่องทำร้ายร่างกาย ถ้าเกิดขึ้นจริงพ่อเลี้ยงคงตายคามือพี่ เพราะแกตัวเล็ก สูงแค่อกพอเทียบกับพี่ที่ร้อยแปดสิบห้า พี่สามารถหักคอพ่อเลี้ยงได้อย่างสบายๆ
พ่อเลี้ยงเป็นมังสวิรัต แกกินแค่ปลา ไข่ ผักและผลไม้ แกมักจะซื้อของมาตุนไว้ในตู้เย็นเสมอ แต่พอพี่กลับบ้าน พี่ชอบไปรื้อของออกจากตู้เย็น แล้วเอาเท้าเหยียบลงบดไปกับพื้นในครัว เสร็จแล้วก็เดินออกมาหน้าตาเฉย เหตุการณ์นี้เราบังเอิญไปเห็น เรารู้สึกแย่ เรารักและเคารพพ่อเลี้ยง ความสัมพันธ์ฉันท์พี่น้องกับพี่ค่อนข้างห่างเหิน เพราะเราเกลียดพฤติกรรมที่พี่ทำ เลยทำให้เย็นชาใส่พี่ทุกครั้ง แม้พี่จะพยายามคุยกับเรา แต่เราจะเลี่ยงการสนทนาอยู่ตลอด เพราะเราทำใจคุยด้วยไม่ได้จริงๆ
หลังๆมาพ่อต้องไปดูร้านในเมืองเพราะขยายสาขาอีก กลับมาบ้านแต่ล่ะทีก็ดึกมาก แต่พ่อมักจะเปิดประตูห้องมาจุ๊บหน้าผากพร้อมบอกฝันดีกับเราทุกครั้งที่มา ปกติเราปิดไฟนอนเลยไม่เห็นและไม่ทันสังเกตสีหน้าของพ่อ แต่บังเอิญวันนั้นเราอ่านหนังสือดึก พ่อเปิดประตูเข้ามาตามปกติ ก่อนจะรีบปิดกลับด้วยความตกใจจนเราต้องไปกระชากประตูเปิดออก พ่อใส่เสื้อยืดสีขาวตราห่านคู่ตัวเก่ง แต่ตามแขนของพ่อมีแต่รอยช้ำ รอยห้อเลือด ตรงข้อศอกมีพลาสเตอร์ปิดไว้ลวกๆด้วยซ้ำ พ่อเป็นคนผิวขาวเผือก รอยจ้ำเป็นดวงขึ้นสีม่วงน่ากลัวมาก พ่ออึกอักไปพักนึง ก่อนจะตอบเราว่าเป็นอุบัติเหตุตอนตกแต่งภายในร้านสาขาใหม่ที่จะกำลังจะเปิด พ่อไม่เป็นอะไรมาก แล้วแกก็รีบเดินไป
ตอนนั้นเราเชื่ออย่างไม่มีข้อสงสัย
อาทิตย์ถัดมาพ่อกลับบ้านเร็ว ร่องรอยตามตัวพ่อค่อยๆจางไป พี่ไม่ค่อยกลับบ้าน อาจจะเป็นเพราะอยู่ในช่วงใกล้สอบ พี่โทรมาบอกแม่ว่าจะเรียนแพทย์ ไม่ได้โทรมาปรึกษา แต่จู่ๆก็โทรมาบอกเลย แม่ไม่ได้ว่าอะไร แค่ตอบรับทางมือถือว่ารับรู้
กับพ่อเลี้ยงพี่หาเรื่องและโมโหร้าย แต่กับแม่พี่กลับสร้างกำแพงไว้
ซึ่งมันหนาเอาการ
พ่อบอกว่าจะพาเราไปเดินตลาดแถวบ้าน เราดีใจมาก เพราะนานๆทีพ่อจะกลับมาเร็ว เรารีบโดดขึ้นรถ นั่งรออย่างใจจดใจจ่อ พอสักพักพ่อก็ยังไม่เดินมา เราเลยเล่นมือถือรอ จนนึกได้ว่าตัวเองเคยซื้อพาวเวอร์แบงค์เอาไว้และเอาใส่ไว้ในหน้าเก๊ะรถ เราแงะปุ่มล็อคขึ้นเพื่อเปิดออก แต่สิ่งแรกที่กระทบสายตาเรากลับเป็น...
Butoconazole 2% cream 5 g (Butaconazole1-sustained release)
ยาเหน็บแก้ช่องคลอดอักเสบจากเชื้อรา?
#กระทู้นิยายป่ะคะ? #คุณจขกท.ต้องเรียบเรียงสำนวนประมาณนี้นะ #นี่ดิฉันลงทุนพิพม์ในมือถือจนมือหงิกมืองอเลยทีเดียว #คิดจะแต่งนิยายวายเชิญเล้าเป็ดเว็บเด็กดีและธัญวลัยดีกว่าค่ะ จะ
แสดงความคิดเห็น
รู้ตัวอีกทีผัวฉันเป็นเมียพ่อเเละน้องชาย
ขอโทษนะทุกคนที่ทำให้เสียเวลา ขอโทษจิงๆค่ะ นี่จะเป็นบทเรียนสำคัญเลย ขอโทษอีกครั้งนะค่ะ หวังว่าทุกคนจะให้อภัยเรานะ