ดิฉันเป็นคนนึงที่ใช้บริการของ True Vision ซึ่งหลายๆ คนก็ใช้บริการเช่นกัน ทุกครั้งที่จะมีการติดตั้งให้บริการเคเบิ้ลของ True Vision เมื่อช่างเข้ามาติดตั้งแล้วจะต้องเก็บค่าประกัน พร้อมกับแจ้งทุกครั้งว่าจะคืน หากเราใช้ครบบริการตามสัญญา และคืนอุปกรณ์ โดยจะส่งเช็คมาให้
ครั้งแรกดิฉันติดที่บ้านที่เชียงใหม่ เพื่อติดให้กับแม่ ป้า และหลานๆ เพราะฉันทำงานอยู่ที่ กทม. เราก็อยากให้เค้าได้มีอะไรดูเยอะๆ เลยติดให้ เพราะแม่จะติด ซีรี่ย์เกาหลีมาก จากนั้นเมื่อครบสัญญา(สัญญา 1 ปี) แม่ก็บอกว่าไม่ดูแล้ว ขอเปลี่ยนเป็นดาวเทียมแทน เพราะว่าช่องเยอะกว่า แถมฟรีอีกด้วย และจะมีพวกช่องฟรีทีวีที่เป็นดาวเทียม เพราะอยากดูละครย้อนหลัง เราก็บอกแม่ไปแล้วว่าของทรูก็ปรับช่องพวกนี้ได้เหมือนกัน แต่แม่ยืนยันว่า มันเสียรายเดือน เอาแบบฟรีก็ได้ เราก็ไปยกเลิก พร้อมกับมีช่างมาเก็บอุปกรณ์ พวกกล่องไป แล้วพอเราถามถึงค่าประกัน 500 บาท (เป็นโปรโมชั่นในตอนนั้น) ทางทรูก็แจ้งว่า เอาไว้หักค่าบริการเดือนสุดท้าย ซึ่งยอดน่าจะอยู่ที่ 600 กว่าบาท แล้วพอถามค่าส่วนต่างก็แจ้งว่า แล้วจะส่งบิลไปทีหลัง เราก็ตกลง ไม่ได้อะไรมาก
จากนั้นเรามาอยู่บ้านเช่าที่ กทม. เราจึงเลือกใช้บริการของ True อีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้เราติดแบบแพ็คเก็จ ที่ทั้งเคเบิล และอินเตอร์เน็ต ในรายเดือนละ 800 กว่าบาท ก็เหมือนเดิม คือช่างมาติดตั้ง แล้วเก็บค่าประกันไป 1,000 บาท เราก็ใช้บริการมาเป็นเวลา 1 ปี ไม่มีปัญหาอะไร จ่ายครบทุกอย่าง หลังจากนั้น เราย้ายมาอยู่ที่บ้านแฟน ที่ต่างจังหวัด ซึ่งเราก็ทำเรืองยกเลิก True ตอนแรกๆ ทาง True ก็โทร.มาทุกวัน บอกให้เรามาติดตั้งที่บ้านแฟนที่ต่างจังหวัดก็ได้ แต่เราก็บอกไปแล้วว่า เราอยากได้แบบแพ็คเก็จ ที่มีอินเตอร์เน็ทด้วย แต่ที่บ้านแฟน สัญญาณของ True ยังไม่มีการวางเครือข่ายอินเตอร์เน็ท ซึ่งถ้ามีแต่ True vision เราก็ไม่เอา (บ้านแฟนมีจานดำอยู่แล้ว) เมื่อทำการยกเลิก เราเอากล่องทั้งของ True vision และ อินเตอร์เน็ท ไปคืนให้ทางช้อปของทรู ที่เซ็นทรัลพระราม 9 ก็คืนไป โดยทางเจ้าหน้าที่แจ้งว่า ภายใน 30 วัน (1 เดือน) จะส่งเช็คคืนให้ เราก็โอเค พร้อมกับให้ที่อยู่ใหม่ ที่บ้านแฟน เพื่อส่งเช็คมาคืนให้ (คืนไปตอนสิ้นเดือน ธันวาคม 2557) จนเราลืมค่ะ ตอนนี้เดือน กุมภาพันธ์ 2558 เราจึงโทร.ไปถาม ก็ได้ทราบว่า ส่งมาแล้ว แต่ส่งไปที่อยู่เดิม คือที่ กรุงเทพฯ เราก็เลยเช็คกับไปรษณีย์ ทางไปรษณีย์แจ้งว่า ส่งคืนผู้ส่ง คือ ทาง True เรียบร้อยแล้ว เราจึงแจ้งไปที่ทรูอีกครั้ง ผ่านไปเป็นเวลา 15 วันหลังจากที่ติดต่อเรื่องเช็คตีคืน วันนี้ตอนเช้าเวลา 9.00 น. ดิฉันได้รับโทรศัพท์ จาก True vision เจ้าหน้าที่ผู้หญิง เสียงห้วนๆ ไม่มีหางเสียง มาบอกกับเราว่า
คุณมียอดค้างชำระเป็นเงิน 800 (ประมาณนี้) ซึ่งถ้าหักกับเงินประกันแล้ว คุณยังจะเหลือเงินอยู่อีก เราเลยถามว่า ค้างของที่ไหนค่ะ ขอที่อยู่ด้วย ก็แจ้งว่าที่เชียงใหม่ ซึ่งไม่มีการชำระ จึงมีค่าปรับเรื่อยๆ เราก็อ่าว แล้วไม่มีใบแจ้ง ไม่มีอะไรมาเลย พนักงานของ True ก็บอกว่า ไม่ชำระก็ส่งเรื่องให้ทนายทันที เราเลยพูดเสียงไม่พอใจ งั้นก็หักไป (คิดเลยว่า ที่เหลือ 100 กว่าบาท ไม่ได้คืนแน่หรอก) พนักงานก็บอกอีกว่า งั้นก็รอรับเรื่องจากทนายได้เลย แล้ววางหูใส่เราทันที เหมือนเราไปขอยืม เป็นหนี้เค้า คือ น้ำเสียงสุดจะทนมาก นี่ถ้ารู้ว่าชื่ออะไร จะเขียนแจ้งเลย แต่ไม่ได้ถาม จากนั้นเราโทร.ไปหาแม่ที่เชียงใหม่ แม่บอกว่าไม่มีเลยนะ ใบแจ้งหนี้ แล้วแม่จะไปถามที่ True Shop เเล้วจะมาบอก ตอนนี้เราก็กำลังรอแม่อยู่ ว่าได้เรื่องว่าไงบ้าง?
เงินประกันที่ไม่เคยได้คืน
ครั้งแรกดิฉันติดที่บ้านที่เชียงใหม่ เพื่อติดให้กับแม่ ป้า และหลานๆ เพราะฉันทำงานอยู่ที่ กทม. เราก็อยากให้เค้าได้มีอะไรดูเยอะๆ เลยติดให้ เพราะแม่จะติด ซีรี่ย์เกาหลีมาก จากนั้นเมื่อครบสัญญา(สัญญา 1 ปี) แม่ก็บอกว่าไม่ดูแล้ว ขอเปลี่ยนเป็นดาวเทียมแทน เพราะว่าช่องเยอะกว่า แถมฟรีอีกด้วย และจะมีพวกช่องฟรีทีวีที่เป็นดาวเทียม เพราะอยากดูละครย้อนหลัง เราก็บอกแม่ไปแล้วว่าของทรูก็ปรับช่องพวกนี้ได้เหมือนกัน แต่แม่ยืนยันว่า มันเสียรายเดือน เอาแบบฟรีก็ได้ เราก็ไปยกเลิก พร้อมกับมีช่างมาเก็บอุปกรณ์ พวกกล่องไป แล้วพอเราถามถึงค่าประกัน 500 บาท (เป็นโปรโมชั่นในตอนนั้น) ทางทรูก็แจ้งว่า เอาไว้หักค่าบริการเดือนสุดท้าย ซึ่งยอดน่าจะอยู่ที่ 600 กว่าบาท แล้วพอถามค่าส่วนต่างก็แจ้งว่า แล้วจะส่งบิลไปทีหลัง เราก็ตกลง ไม่ได้อะไรมาก
จากนั้นเรามาอยู่บ้านเช่าที่ กทม. เราจึงเลือกใช้บริการของ True อีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้เราติดแบบแพ็คเก็จ ที่ทั้งเคเบิล และอินเตอร์เน็ต ในรายเดือนละ 800 กว่าบาท ก็เหมือนเดิม คือช่างมาติดตั้ง แล้วเก็บค่าประกันไป 1,000 บาท เราก็ใช้บริการมาเป็นเวลา 1 ปี ไม่มีปัญหาอะไร จ่ายครบทุกอย่าง หลังจากนั้น เราย้ายมาอยู่ที่บ้านแฟน ที่ต่างจังหวัด ซึ่งเราก็ทำเรืองยกเลิก True ตอนแรกๆ ทาง True ก็โทร.มาทุกวัน บอกให้เรามาติดตั้งที่บ้านแฟนที่ต่างจังหวัดก็ได้ แต่เราก็บอกไปแล้วว่า เราอยากได้แบบแพ็คเก็จ ที่มีอินเตอร์เน็ทด้วย แต่ที่บ้านแฟน สัญญาณของ True ยังไม่มีการวางเครือข่ายอินเตอร์เน็ท ซึ่งถ้ามีแต่ True vision เราก็ไม่เอา (บ้านแฟนมีจานดำอยู่แล้ว) เมื่อทำการยกเลิก เราเอากล่องทั้งของ True vision และ อินเตอร์เน็ท ไปคืนให้ทางช้อปของทรู ที่เซ็นทรัลพระราม 9 ก็คืนไป โดยทางเจ้าหน้าที่แจ้งว่า ภายใน 30 วัน (1 เดือน) จะส่งเช็คคืนให้ เราก็โอเค พร้อมกับให้ที่อยู่ใหม่ ที่บ้านแฟน เพื่อส่งเช็คมาคืนให้ (คืนไปตอนสิ้นเดือน ธันวาคม 2557) จนเราลืมค่ะ ตอนนี้เดือน กุมภาพันธ์ 2558 เราจึงโทร.ไปถาม ก็ได้ทราบว่า ส่งมาแล้ว แต่ส่งไปที่อยู่เดิม คือที่ กรุงเทพฯ เราก็เลยเช็คกับไปรษณีย์ ทางไปรษณีย์แจ้งว่า ส่งคืนผู้ส่ง คือ ทาง True เรียบร้อยแล้ว เราจึงแจ้งไปที่ทรูอีกครั้ง ผ่านไปเป็นเวลา 15 วันหลังจากที่ติดต่อเรื่องเช็คตีคืน วันนี้ตอนเช้าเวลา 9.00 น. ดิฉันได้รับโทรศัพท์ จาก True vision เจ้าหน้าที่ผู้หญิง เสียงห้วนๆ ไม่มีหางเสียง มาบอกกับเราว่า
คุณมียอดค้างชำระเป็นเงิน 800 (ประมาณนี้) ซึ่งถ้าหักกับเงินประกันแล้ว คุณยังจะเหลือเงินอยู่อีก เราเลยถามว่า ค้างของที่ไหนค่ะ ขอที่อยู่ด้วย ก็แจ้งว่าที่เชียงใหม่ ซึ่งไม่มีการชำระ จึงมีค่าปรับเรื่อยๆ เราก็อ่าว แล้วไม่มีใบแจ้ง ไม่มีอะไรมาเลย พนักงานของ True ก็บอกว่า ไม่ชำระก็ส่งเรื่องให้ทนายทันที เราเลยพูดเสียงไม่พอใจ งั้นก็หักไป (คิดเลยว่า ที่เหลือ 100 กว่าบาท ไม่ได้คืนแน่หรอก) พนักงานก็บอกอีกว่า งั้นก็รอรับเรื่องจากทนายได้เลย แล้ววางหูใส่เราทันที เหมือนเราไปขอยืม เป็นหนี้เค้า คือ น้ำเสียงสุดจะทนมาก นี่ถ้ารู้ว่าชื่ออะไร จะเขียนแจ้งเลย แต่ไม่ได้ถาม จากนั้นเราโทร.ไปหาแม่ที่เชียงใหม่ แม่บอกว่าไม่มีเลยนะ ใบแจ้งหนี้ แล้วแม่จะไปถามที่ True Shop เเล้วจะมาบอก ตอนนี้เราก็กำลังรอแม่อยู่ ว่าได้เรื่องว่าไงบ้าง?