ปกติ เป็นคนชอบรถ และท่องเที่ยว
แต่ก่อน ใช้รถสันดาป มา 40 กว่าคัน พอใช้ รถไฟฟ้าคันแรก Tesla Model 3 ติดใจ
ตอนนี้ จอด Posche 718 ทิ้งไว้คอนโด กับคันอื่นๆ เอาไว้บ้าน ใช้ แต่ Tesla
แต่หลังจาก ลองเช่า IM6 ตัว Premium 290 แรงม้า แบ็ต 75 KWh มาลองขับทริป บ้านไร่อุทัยไป 2 วัน พันกว่า โล ชอบ มาก
ลองเช่า Im6 2 วัน ลุยบ้านไร่ อุทัยธานี
รุ่นนี้จัด เป็น SUV D segment ที่ค่อนข้างใหญ่ กว่า คู่แข่งอื่น มิติเท่ากับ Porsche Cayen เลย แต่ด้วย ระบบเลี้ยวสี่ล้อ เลยทำให้ วงเลี้ยวแคบกว่า ซิตี้คาร์อีก
พอชอบเลยจอง รอตัว Long Range แบ็ต 100 KW เทคโนโลยี่ 880 Volt 410 แรงม้าเอาไว้ ขับออกทริป แทน Harrier ตัวเก่าที่ผมวิ่งไปเกือบ 3 แสนโล

เพิ่งได้รถมา สองอาทิตย์
อาทิตย์กก่อน ลูกชาย เอาไปประเดิมกางเต็นต์ แถวเมือง กาญจน์ ลุยไป 1500 โล
อาทิตย์นี้ ถึงคิวผม เอามาออกทริปบ้าง แพลนทริป
ตาคลี นครสวรรค์ - ภูลังกา พะเยา - อ.ปัว น่าน - ด่านห้วยโกร๋นสุดชายแดนไทยลาว - ดอยสกาด - ดอยภูคา บ่อเกลือ วนขวา ลงสันติสุข -น่าน - ตาคลี
บนเส้นทางมีลุยทางเรียบ มีลูกรังบ้าง โคลนบ้าง ครบสูตร
รถขับสนุก ทั้งทางเรียบ และ บนเขา โค้งหักศอกชันๆ ด้วยความที่มีระบบเลี้ยวสี่ล้อ วงเลี้ยวแคลมาก กับกำลัง 407 แรงม้า แรงบิด 500 นิวตั้นเมตร นี่เลี้ยวไต่ได้ ชิลๆๆ ได้แบบ เหมือนขับพื้นราบเลข ไม่เครียด ไม่ต้องลุ้น
แต่ทางขึ้นดอยแคบๆ เวลามีรถสวน แอบต้องระวังนิด เพราะว่า เราค่อนข้างใหญ่กว้าง แต่ขับสนุกสบาย ไม่เครียด ไม่ล้า
หลังคา ไม่ได้ติดม่าน แต่ติดฟิล์มสะท้อนรังสี ขับไป 2 วันเต็ม เอาอยู่สบายๆ ไม่รู้สึกหัวร้อน
จะร้อน ก็แต่ตอนออกนอกรถนั่นแหละ ต้องกางร่ม 5555555
การขับขี่นั่งขับ 2 วัน กว่าๆ 54 ชม. ขับไป 1550 โล สบายๆ มีเปิดเป่าลมเย็นเบาะ และนวดหลังผ่อนคลายบ้าง บางช่วง
ทริปนี้ดู เหมือนโหด แต่บอกเลยว่า สำหรับผม ชิลๆ ฟินมากๆๆ สนุกกับรถ ไม่ล้า สนุกแบบไม่อยากเลิก
Autopilot และ Lane Change ช่วยเปลี่ยนเลนทำงานได้ดี แม่นยำพอใช้ ไม่ค่อยเตือนบ่อย เหมือนเทสล่า
แต่เวลา Access เข้าใช้งาน บางจังหวะ ติดเข้ายากนิด แต่เข้าแล้วทำงานดี
แต่ยังติ เรื่อง การควบ คุม เปิด ปิด ล้อครถ ด้วยแอปมือถือ เปิด ปิด ยังทำงานไม่แม่น บางทีหน่วงช้าต้องรอ ต้องควักมือถือ มากด ไม่ง่ายเท่าเทสล่าที่เหมือนคล่องตัวกว่า มือถือในกระเป๋าไม่ต้องจับเลย
แต่ถ้าใช้ Key frob กุญแจ โอเคร สะดวกดี
ปิดทริป54 ชม. ระยะทางรวม 1550 โล เวลาขับรถ 26 ชม. 17 นาที ชาร์จแบ็ต ห้าครั้ง ใช้ไฟ 337.6 KW เฉลี่ย การสิ้นเปลือง 21.8 KW/100 กม.
รวมรถออกมา สองสัปดาห์ วิ่งไป 3 พันโลแระ
-------------------
รายละเอียด การเดินทาง และการชาร์จไฟ จุดต่างๆ เอามาฝากสายวางแผนเที่ยว ด้วยรถไฟฟ้า โดยเฉพาะ รุ่นนี้.
#TimeLine
16:00 ศุกร์ เลิกงาน หลังจากทำงานทั้งวัน ออกเดินทาง ตาคลี
19:00 วิ่งมา 300 โล แวะชาร์จ ปตท.อุตรดิตถ์ และ เดินไปกินข้าว ที่ร้านลมเย็น ห่างปั๊มป์ 300 เมตร
ทั้งกินข้าว และ ชาร์จ รวมเดินกลับมาที่รถ 40นาที พอดี ได้ไฟเพิ่มมา 64 kw เป็น91% (รุ่นนี้ ด้วยความที่ความจุ 100KWH เวลาคำนวนไฟ ง่ายเลย 1% =1kwh)

ร้านนี้ใครผ่านสายเหนือ เส้น 11 เข้าอุตรดิตถ์แนะนำเลย น่าแวะ ร้านใหญ่ อาหารหลากหลาย อร่อย ราคาไม่แพง หมดนี่ 500 กินน้อยกว่าไฟรถ ที่กินไป 550 บาท 555
20:49 เพิ่งวิ่ง 85 โล (ระยะทางรวม 383) แวะ แวะชาร์จสั้น แค่ 10 นาที ที่ ปตท ทุ่งโฮ้ง 13.6 kw ได้ไฟ กลับมาเป็น 91% เพื่อสำรองไฟใช้ไปภูลังกา พะเยา และ เที่ยวระหว่างทาง ก่อนจะไปชาร์จ อีกครั้ง ที่ PTT อ ปัว น่าน ซึ่งต้องวิ่งบนเขา ไกลกว่า 300 โล กว่า จะได้ชาร์จอีกครั้ง เพราะว่า ไม่มีจุดชาร์ตระหว่างทางแล้ว
23:10 ถึงจุดหมาย จุดชมวิว ผาช้างน้อย ภูลังกา อ.ปง พะเยา (ระยะทางรวม 580 โล)
เส้นทางเส้นนี้เป็นเขา แต่ขับไม่ยาก เส้นนี้ ปกติสวย แต่ว่า วิ่งกลางคืนเลยไม่ได้ชมวิว
เข้าพักที่ Phulanga Le Balcony ห้องพัก โอเคร วิวดี ค่าห้องคืนล่ะ แค่สองพัน รวมอาหารเช้าด้วยถิอว่าดีงาม วิวห้องพักสวย
ตอนไปถึง ตีหนึ่งกว่าออกมาดูหมอกคลุมเต็มแอ่งเขาคาดว่า เช้าคงสวย แต่ว่า พอตีสองตีสามฝนกระหน่ำ ฟ้าคะนอง เช้ามาหมอกกระจาย แต่ก็พอมีบ้าง ดี ที่ฝนหยุด ทำให้เย็นชุ่มฉ่ำ
เช้าเสาร์ ออกจากที่พัก ขับรถลงไปเที่ยวผาช้างน้อย จุดเช่ารถ เอทีวี ขับเที่ยวชมเขา ต้องลุยโคลน ออฟโร้ดเล็กๆ เข้าไป ค่าเช่า 30 นาที แค่ 150 บาท แต่ไปถึง เจ้าของที่โทรนัดยังมาไม่ถึงและเห็นถนนมันเละ ลงมาจนถึงนี่แล้ว ชมเขาพอแล้ว เลยไม่ได้ขับ ATV ลุยโคลน
กลับ เข้าที่พัก เก็บของ แล้ว ออกจากที่พักแวะชิมกาแฟ กินขนม ชมวิว ที่คาเฟ่ ข้างๆ รีสอร์ท

แล้วขับรถ แวะไปเยือน อช ถ้ำสะเกิน ซึ่ง ขึ้นกับ อ.ปัว น่าน เป็นรอยต่อกับ ภูลังกา
ก่อนขับลงมาตามถนน 1148 ถนนสวยที่สุดสายนึงของไทย ภูเขาสวยตลอดทาง
แล้วลงมา เที่ยวคาเฟ่ โรงบ่มปัวคาเฟ่ คาเฟ่ดังของปัวตอนนี้
ออกจากคาเฟ่ ขับเลยมาทานอาหารเบาๆ ที่ น่าน ม่วนใจ๋ ร้านอาหาร และที่พักสวย ใกล้ๆ กัน มีโซนเอ๊าดอร์ นั่งเล่นในลำธารได้
อาหารอร่อยราคาดีงาม ด้วย
จากนั้นแวะไป วัดภูเก็ต ชมทุ่งนา และ ฟาร์มสเตย์คนไข้ วิวด้านล่างที่ช่วงนี้ ทุ่งนากำลังเขียวสวย
กลับไปแวะชาร์จไฟเพิ่มครั้งที่3 ที่ปตท ปัว 30 นาทีได้ไฟ 49.7 kw ไฟ ขึ้นมาเป็นประมาณ เกือบ 90% คาดว่ามากพอใช้ ขับเที่ยว ทั้งวัน ก่อนไปชาร์ตอีกครั้งวันกลับ
ชาร์ตเสร็จขับรถไปดูถนนลอยฟ้าตัดใหม่ เส้นไป ด่านชายแดนห้วยโกร๋น เส้นนี้ต้องบอกว่า กำลังทำทางสวยมาก สวยตะโกนเลย อยาก ให้ชม วีดีโอกล้องหน้ารถ แต่ยังไม่ได้ตัดต่อ แต่มีคลิป ที่ผมลองทดสอบกล้องหน้า รถคันนี้ไว้ ตามไปดูในลิ้งค์ได้ ครับ รูปข้างล่างไม่ต้องกดนะรูปปล่าวๆ 5555
ถนนลอยฟ้า สู่ ด่านชายแดน ห้วยโก๋น
ตัวด่านชายแดน ตอนนี้ ยังก่อสร้างไม่เสร็จใช้ด่านชั่วคราว คาดว่าด่านใหม่สวย คงจะเสร็จราวๆ อีกสองสามปี
ส่วนอันนี้ อบต.ห้วยโกร๋นข้างด่านใหญ่อลังการณ์

กลับจากชายแดนห้วยโกร๋น ย้อนกลับมาปัว เพื่อ ขึ้นดอยสะกาด
แต่ะแวะ คาเฟ่ Tari กินขนมและกาแฟ ตรงทางขึ้นดอยสะกาด
เป็นคาเฟ่ที่สวย ใส่ใจรายละเอียด มีดาดฟ้าให้ขึ้นไปถ่ายรูปท้องนา (แต่ว่ากลางวันแดดร้อน หน่อย 555555555 )
ทางขึ้นดอยสกาด ห่างจาก อ.ปัวแค่ 20 โล ทางแคบ แต่ขับไม่ยากจากปัว เส้นทางระหว่างทาง วิวเขาสวยตลอด
แต่ก่อนถึง หมู่บ้าน แอบเห็นคาเฟ่นึง รถจอดเยอะมากๆๆๆๆๆๆๆๆ
จนต้องแวะลงไปชม
เป็นคาเฟ่ ชื่อ ม่อนสกาดคาเฟ่ ตั้งก่อนถึงตัวหมู่บ้านที่หนาแน่นตรงนี้ ไม่มีคน ว่างๆ วิวสวยมากๆ ใครจองได้ มาพักที่นี่ฟินสุด
ส่วนผม พักที่สะกาดวิว180 องศา อยู่ในหมู่บ้าน โซนนี้ บ้านพักและ โฮมเสตย์ เยอะ วิวเลยเจอหลังคา บ้านเยอะหน่อย
แต่ห้องพักก็ดีนะ ค่าห้องที่นี่ 2500 รวมอาหารสองมื้อ อาหารดีงาม ใช้ได้
อาหารเย็น เค้าเป็นสำรับขันโตก เยอะ และ อร่อย จัดสำรับให้ไม่ต้องออกไปทานข้างนอกเลย
ตื่นเช้าวันอาทิตย์ มีหมอก บ้าง แต่ไม่หนาก อากาศสดชื่น มีแขกมาเยี่ยมถึงห้อง สวยดี เค้าว่ามันคือ มอร์ธหญ้าแดง ปีกใส สวยดี

ลงมาทานอาหารเช้าก็ดีนะ มีข้าวต้มเห็ดหอม ไข่กระทะ ปลาท่องโก๋ ตะโก้ และ กาแฟดริป ให้บด ดริปเอง อาหารสองมื้อ รวมที่พัก ราคา 2500 ก็ถือว่าคุ้มราคาเลย
== ทริปโหดๆ54 ชม.กับ SUV ไฟฟ้า IM 6 Long Range ขับรถ 26 ชม ระยะทาง 1550 กม. สุดชายแดนไทย ลาว ด่านห้วยโกร๋น ==
แต่ก่อน ใช้รถสันดาป มา 40 กว่าคัน พอใช้ รถไฟฟ้าคันแรก Tesla Model 3 ติดใจ
ตอนนี้ จอด Posche 718 ทิ้งไว้คอนโด กับคันอื่นๆ เอาไว้บ้าน ใช้ แต่ Tesla
แต่หลังจาก ลองเช่า IM6 ตัว Premium 290 แรงม้า แบ็ต 75 KWh มาลองขับทริป บ้านไร่อุทัยไป 2 วัน พันกว่า โล ชอบ มาก
ลองเช่า Im6 2 วัน ลุยบ้านไร่ อุทัยธานี
รุ่นนี้จัด เป็น SUV D segment ที่ค่อนข้างใหญ่ กว่า คู่แข่งอื่น มิติเท่ากับ Porsche Cayen เลย แต่ด้วย ระบบเลี้ยวสี่ล้อ เลยทำให้ วงเลี้ยวแคบกว่า ซิตี้คาร์อีก
พอชอบเลยจอง รอตัว Long Range แบ็ต 100 KW เทคโนโลยี่ 880 Volt 410 แรงม้าเอาไว้ ขับออกทริป แทน Harrier ตัวเก่าที่ผมวิ่งไปเกือบ 3 แสนโล
เพิ่งได้รถมา สองอาทิตย์
อาทิตย์กก่อน ลูกชาย เอาไปประเดิมกางเต็นต์ แถวเมือง กาญจน์ ลุยไป 1500 โล
อาทิตย์นี้ ถึงคิวผม เอามาออกทริปบ้าง แพลนทริป
ตาคลี นครสวรรค์ - ภูลังกา พะเยา - อ.ปัว น่าน - ด่านห้วยโกร๋นสุดชายแดนไทยลาว - ดอยสกาด - ดอยภูคา บ่อเกลือ วนขวา ลงสันติสุข -น่าน - ตาคลี
บนเส้นทางมีลุยทางเรียบ มีลูกรังบ้าง โคลนบ้าง ครบสูตร
รถขับสนุก ทั้งทางเรียบ และ บนเขา โค้งหักศอกชันๆ ด้วยความที่มีระบบเลี้ยวสี่ล้อ วงเลี้ยวแคลมาก กับกำลัง 407 แรงม้า แรงบิด 500 นิวตั้นเมตร นี่เลี้ยวไต่ได้ ชิลๆๆ ได้แบบ เหมือนขับพื้นราบเลข ไม่เครียด ไม่ต้องลุ้น
แต่ทางขึ้นดอยแคบๆ เวลามีรถสวน แอบต้องระวังนิด เพราะว่า เราค่อนข้างใหญ่กว้าง แต่ขับสนุกสบาย ไม่เครียด ไม่ล้า
หลังคา ไม่ได้ติดม่าน แต่ติดฟิล์มสะท้อนรังสี ขับไป 2 วันเต็ม เอาอยู่สบายๆ ไม่รู้สึกหัวร้อน
จะร้อน ก็แต่ตอนออกนอกรถนั่นแหละ ต้องกางร่ม 5555555
การขับขี่นั่งขับ 2 วัน กว่าๆ 54 ชม. ขับไป 1550 โล สบายๆ มีเปิดเป่าลมเย็นเบาะ และนวดหลังผ่อนคลายบ้าง บางช่วง
ทริปนี้ดู เหมือนโหด แต่บอกเลยว่า สำหรับผม ชิลๆ ฟินมากๆๆ สนุกกับรถ ไม่ล้า สนุกแบบไม่อยากเลิก
Autopilot และ Lane Change ช่วยเปลี่ยนเลนทำงานได้ดี แม่นยำพอใช้ ไม่ค่อยเตือนบ่อย เหมือนเทสล่า
แต่เวลา Access เข้าใช้งาน บางจังหวะ ติดเข้ายากนิด แต่เข้าแล้วทำงานดี
แต่ยังติ เรื่อง การควบ คุม เปิด ปิด ล้อครถ ด้วยแอปมือถือ เปิด ปิด ยังทำงานไม่แม่น บางทีหน่วงช้าต้องรอ ต้องควักมือถือ มากด ไม่ง่ายเท่าเทสล่าที่เหมือนคล่องตัวกว่า มือถือในกระเป๋าไม่ต้องจับเลย
แต่ถ้าใช้ Key frob กุญแจ โอเคร สะดวกดี
ปิดทริป54 ชม. ระยะทางรวม 1550 โล เวลาขับรถ 26 ชม. 17 นาที ชาร์จแบ็ต ห้าครั้ง ใช้ไฟ 337.6 KW เฉลี่ย การสิ้นเปลือง 21.8 KW/100 กม.
รวมรถออกมา สองสัปดาห์ วิ่งไป 3 พันโลแระ
-------------------
รายละเอียด การเดินทาง และการชาร์จไฟ จุดต่างๆ เอามาฝากสายวางแผนเที่ยว ด้วยรถไฟฟ้า โดยเฉพาะ รุ่นนี้.
#TimeLine
16:00 ศุกร์ เลิกงาน หลังจากทำงานทั้งวัน ออกเดินทาง ตาคลี
19:00 วิ่งมา 300 โล แวะชาร์จ ปตท.อุตรดิตถ์ และ เดินไปกินข้าว ที่ร้านลมเย็น ห่างปั๊มป์ 300 เมตร
ทั้งกินข้าว และ ชาร์จ รวมเดินกลับมาที่รถ 40นาที พอดี ได้ไฟเพิ่มมา 64 kw เป็น91% (รุ่นนี้ ด้วยความที่ความจุ 100KWH เวลาคำนวนไฟ ง่ายเลย 1% =1kwh)
ร้านนี้ใครผ่านสายเหนือ เส้น 11 เข้าอุตรดิตถ์แนะนำเลย น่าแวะ ร้านใหญ่ อาหารหลากหลาย อร่อย ราคาไม่แพง หมดนี่ 500 กินน้อยกว่าไฟรถ ที่กินไป 550 บาท 555
20:49 เพิ่งวิ่ง 85 โล (ระยะทางรวม 383) แวะ แวะชาร์จสั้น แค่ 10 นาที ที่ ปตท ทุ่งโฮ้ง 13.6 kw ได้ไฟ กลับมาเป็น 91% เพื่อสำรองไฟใช้ไปภูลังกา พะเยา และ เที่ยวระหว่างทาง ก่อนจะไปชาร์จ อีกครั้ง ที่ PTT อ ปัว น่าน ซึ่งต้องวิ่งบนเขา ไกลกว่า 300 โล กว่า จะได้ชาร์จอีกครั้ง เพราะว่า ไม่มีจุดชาร์ตระหว่างทางแล้ว
23:10 ถึงจุดหมาย จุดชมวิว ผาช้างน้อย ภูลังกา อ.ปง พะเยา (ระยะทางรวม 580 โล)
เส้นทางเส้นนี้เป็นเขา แต่ขับไม่ยาก เส้นนี้ ปกติสวย แต่ว่า วิ่งกลางคืนเลยไม่ได้ชมวิว
เข้าพักที่ Phulanga Le Balcony ห้องพัก โอเคร วิวดี ค่าห้องคืนล่ะ แค่สองพัน รวมอาหารเช้าด้วยถิอว่าดีงาม วิวห้องพักสวย
ตอนไปถึง ตีหนึ่งกว่าออกมาดูหมอกคลุมเต็มแอ่งเขาคาดว่า เช้าคงสวย แต่ว่า พอตีสองตีสามฝนกระหน่ำ ฟ้าคะนอง เช้ามาหมอกกระจาย แต่ก็พอมีบ้าง ดี ที่ฝนหยุด ทำให้เย็นชุ่มฉ่ำ
เช้าเสาร์ ออกจากที่พัก ขับรถลงไปเที่ยวผาช้างน้อย จุดเช่ารถ เอทีวี ขับเที่ยวชมเขา ต้องลุยโคลน ออฟโร้ดเล็กๆ เข้าไป ค่าเช่า 30 นาที แค่ 150 บาท แต่ไปถึง เจ้าของที่โทรนัดยังมาไม่ถึงและเห็นถนนมันเละ ลงมาจนถึงนี่แล้ว ชมเขาพอแล้ว เลยไม่ได้ขับ ATV ลุยโคลน
กลับ เข้าที่พัก เก็บของ แล้ว ออกจากที่พักแวะชิมกาแฟ กินขนม ชมวิว ที่คาเฟ่ ข้างๆ รีสอร์ท
แล้วขับรถ แวะไปเยือน อช ถ้ำสะเกิน ซึ่ง ขึ้นกับ อ.ปัว น่าน เป็นรอยต่อกับ ภูลังกา
ก่อนขับลงมาตามถนน 1148 ถนนสวยที่สุดสายนึงของไทย ภูเขาสวยตลอดทาง
แล้วลงมา เที่ยวคาเฟ่ โรงบ่มปัวคาเฟ่ คาเฟ่ดังของปัวตอนนี้
ออกจากคาเฟ่ ขับเลยมาทานอาหารเบาๆ ที่ น่าน ม่วนใจ๋ ร้านอาหาร และที่พักสวย ใกล้ๆ กัน มีโซนเอ๊าดอร์ นั่งเล่นในลำธารได้
อาหารอร่อยราคาดีงาม ด้วย
จากนั้นแวะไป วัดภูเก็ต ชมทุ่งนา และ ฟาร์มสเตย์คนไข้ วิวด้านล่างที่ช่วงนี้ ทุ่งนากำลังเขียวสวย
กลับไปแวะชาร์จไฟเพิ่มครั้งที่3 ที่ปตท ปัว 30 นาทีได้ไฟ 49.7 kw ไฟ ขึ้นมาเป็นประมาณ เกือบ 90% คาดว่ามากพอใช้ ขับเที่ยว ทั้งวัน ก่อนไปชาร์ตอีกครั้งวันกลับ
ชาร์ตเสร็จขับรถไปดูถนนลอยฟ้าตัดใหม่ เส้นไป ด่านชายแดนห้วยโกร๋น เส้นนี้ต้องบอกว่า กำลังทำทางสวยมาก สวยตะโกนเลย อยาก ให้ชม วีดีโอกล้องหน้ารถ แต่ยังไม่ได้ตัดต่อ แต่มีคลิป ที่ผมลองทดสอบกล้องหน้า รถคันนี้ไว้ ตามไปดูในลิ้งค์ได้ ครับ รูปข้างล่างไม่ต้องกดนะรูปปล่าวๆ 5555
ถนนลอยฟ้า สู่ ด่านชายแดน ห้วยโก๋น
ตัวด่านชายแดน ตอนนี้ ยังก่อสร้างไม่เสร็จใช้ด่านชั่วคราว คาดว่าด่านใหม่สวย คงจะเสร็จราวๆ อีกสองสามปี
ส่วนอันนี้ อบต.ห้วยโกร๋นข้างด่านใหญ่อลังการณ์
กลับจากชายแดนห้วยโกร๋น ย้อนกลับมาปัว เพื่อ ขึ้นดอยสะกาด
แต่ะแวะ คาเฟ่ Tari กินขนมและกาแฟ ตรงทางขึ้นดอยสะกาด
เป็นคาเฟ่ที่สวย ใส่ใจรายละเอียด มีดาดฟ้าให้ขึ้นไปถ่ายรูปท้องนา (แต่ว่ากลางวันแดดร้อน หน่อย 555555555 )
ทางขึ้นดอยสกาด ห่างจาก อ.ปัวแค่ 20 โล ทางแคบ แต่ขับไม่ยากจากปัว เส้นทางระหว่างทาง วิวเขาสวยตลอด
แต่ก่อนถึง หมู่บ้าน แอบเห็นคาเฟ่นึง รถจอดเยอะมากๆๆๆๆๆๆๆๆ
จนต้องแวะลงไปชม
เป็นคาเฟ่ ชื่อ ม่อนสกาดคาเฟ่ ตั้งก่อนถึงตัวหมู่บ้านที่หนาแน่นตรงนี้ ไม่มีคน ว่างๆ วิวสวยมากๆ ใครจองได้ มาพักที่นี่ฟินสุด
ส่วนผม พักที่สะกาดวิว180 องศา อยู่ในหมู่บ้าน โซนนี้ บ้านพักและ โฮมเสตย์ เยอะ วิวเลยเจอหลังคา บ้านเยอะหน่อย
แต่ห้องพักก็ดีนะ ค่าห้องที่นี่ 2500 รวมอาหารสองมื้อ อาหารดีงาม ใช้ได้
อาหารเย็น เค้าเป็นสำรับขันโตก เยอะ และ อร่อย จัดสำรับให้ไม่ต้องออกไปทานข้างนอกเลย
ตื่นเช้าวันอาทิตย์ มีหมอก บ้าง แต่ไม่หนาก อากาศสดชื่น มีแขกมาเยี่ยมถึงห้อง สวยดี เค้าว่ามันคือ มอร์ธหญ้าแดง ปีกใส สวยดี
ลงมาทานอาหารเช้าก็ดีนะ มีข้าวต้มเห็ดหอม ไข่กระทะ ปลาท่องโก๋ ตะโก้ และ กาแฟดริป ให้บด ดริปเอง อาหารสองมื้อ รวมที่พัก ราคา 2500 ก็ถือว่าคุ้มราคาเลย