คิดยังไงกับคำว่า "คิดอย่างเป็นระบบ" [Systematic Thinking] ที่คนไทยไม่ค่อยมีกัน
ผมเห็นคนไทยเราทำงานแบบมั่ว ๆ ซะส่วนใหญ่ คือมีการตัดสินใจแบบไม่เป็นระบบ พอเจอปัญหาเยอะ ๆ เข้าก็เลือกคิดเเละตัดสินปัญหาโดยไม่อ้างอิงเหตุผล แน่ล่ะครับว่าหลาย ๆ ที่ใช้ข้อมูลตัวเลข สถิติต่าง ๆ เป็นตัวอ้างอิงเพื่อตัดสินใจ แต่นั่นหล่ะ มีตัวเลขก็เท่านั้น เพราะหลายคนตัดสินใจมั่วอยู่ดี ปากก็มักพูดว่าเราต้องใช้เหตุผล แต่ตัวเลขก็เอามาแค่ดูผิวเผินทั้ง ๆ ที่หลาย ๆ ครั้งตัวเลขเหล่านั้นบอกอะไรมากกว่าแค่ค่าเฉลี่ยของสิ่งนั้น แต่เรากลับหลับตาข้างนึงมองข้ามเหตุผลที่ตัวเลขนั้น ๆ จะบอกเรา และเลือกตัดสินใจทำงานแบบที่ว่า เยอะเข้าว่า กังวล กลัวพลาดเลยต้องป้องกันไว้ทุกทาง ทั้ง ๆ ที่จริงแล้วประเด็นหลักไม่ใช่ส่วนนั้น เช่น เราต้องเเก้ไขปัญหาใหญ่สักประเด็น ก็เห็นแล้วว่า มี 1 หรือ 2 สาเหตุ ที่ weight น้ำหนักได้เกือบ 100 % ซึ่งก็อาจจะมี 2 Actions ใหญ่ ๆ ซึ่งก็ต้องใช้เวลาและกำลังคน กำลังสมองมากพออยู่แล้ว .... ยังจะเอาสิ่งที่เขา มโน หรือคิดเอาเองโดยไม่มีทฤษฎีอ้างอิงเลย เช่นเพิ่มความคิด มโน มาอีก 3 อย่าง ก็ต้องมี Action ไร้สาระเพิ่มอีก 3 อย่าง ทีนี้งานก็เยอะขึ้น และ 3 งานที่เพิ่มขึ้นก็ไม่รู้ว่าทำทำไม .... ลองจินตนาการดูครับ ว่ามี 5 actions ต่อ 1 ปัญหาหลัก ... แล้วถ้ามีปัญหาหลัก 10 อย่าง = 10 x 5 = 50 Actions ครับ แต่ Actions ที่เป็นประโยชน์จริงมีไม่ถึงครึ่ง แต่พนักงานต้องมาทำทุกปัญหา แล้วคิดหรือครับว่า พนักงานทุกท่านจะสามารถแยกแยะ Priority หรือลำดับความสำคัญของแต่ละ Action ได้เปรี๊ยะ ๆ ๆ
ทั้งหมดที่กล่าวมาเป็นสิ่งที่ผมเห็นมา กับปัญหาการคิดแบบไม่เป็นระบบของคน
คิดยังไงกันครับ ?
คิดยังไงกับคำว่า "คิดอย่างเป็นระบบ" [Systematic Thinking] ที่คนไทยไม่ค่อยมีกัน
ผมเห็นคนไทยเราทำงานแบบมั่ว ๆ ซะส่วนใหญ่ คือมีการตัดสินใจแบบไม่เป็นระบบ พอเจอปัญหาเยอะ ๆ เข้าก็เลือกคิดเเละตัดสินปัญหาโดยไม่อ้างอิงเหตุผล แน่ล่ะครับว่าหลาย ๆ ที่ใช้ข้อมูลตัวเลข สถิติต่าง ๆ เป็นตัวอ้างอิงเพื่อตัดสินใจ แต่นั่นหล่ะ มีตัวเลขก็เท่านั้น เพราะหลายคนตัดสินใจมั่วอยู่ดี ปากก็มักพูดว่าเราต้องใช้เหตุผล แต่ตัวเลขก็เอามาแค่ดูผิวเผินทั้ง ๆ ที่หลาย ๆ ครั้งตัวเลขเหล่านั้นบอกอะไรมากกว่าแค่ค่าเฉลี่ยของสิ่งนั้น แต่เรากลับหลับตาข้างนึงมองข้ามเหตุผลที่ตัวเลขนั้น ๆ จะบอกเรา และเลือกตัดสินใจทำงานแบบที่ว่า เยอะเข้าว่า กังวล กลัวพลาดเลยต้องป้องกันไว้ทุกทาง ทั้ง ๆ ที่จริงแล้วประเด็นหลักไม่ใช่ส่วนนั้น เช่น เราต้องเเก้ไขปัญหาใหญ่สักประเด็น ก็เห็นแล้วว่า มี 1 หรือ 2 สาเหตุ ที่ weight น้ำหนักได้เกือบ 100 % ซึ่งก็อาจจะมี 2 Actions ใหญ่ ๆ ซึ่งก็ต้องใช้เวลาและกำลังคน กำลังสมองมากพออยู่แล้ว .... ยังจะเอาสิ่งที่เขา มโน หรือคิดเอาเองโดยไม่มีทฤษฎีอ้างอิงเลย เช่นเพิ่มความคิด มโน มาอีก 3 อย่าง ก็ต้องมี Action ไร้สาระเพิ่มอีก 3 อย่าง ทีนี้งานก็เยอะขึ้น และ 3 งานที่เพิ่มขึ้นก็ไม่รู้ว่าทำทำไม .... ลองจินตนาการดูครับ ว่ามี 5 actions ต่อ 1 ปัญหาหลัก ... แล้วถ้ามีปัญหาหลัก 10 อย่าง = 10 x 5 = 50 Actions ครับ แต่ Actions ที่เป็นประโยชน์จริงมีไม่ถึงครึ่ง แต่พนักงานต้องมาทำทุกปัญหา แล้วคิดหรือครับว่า พนักงานทุกท่านจะสามารถแยกแยะ Priority หรือลำดับความสำคัญของแต่ละ Action ได้เปรี๊ยะ ๆ ๆ
ทั้งหมดที่กล่าวมาเป็นสิ่งที่ผมเห็นมา กับปัญหาการคิดแบบไม่เป็นระบบของคน
คิดยังไงกันครับ ?