พอได้ยิน “ตัดสินให้ถูกก็ถูกใจ พอตัดสินให้ผิด ก็ว่าศาลเอียง”ทีไร ผมมึนตึบเลยครับ-------ทวดเอง

กระทู้สนทนา
ตอนแรกคิดว่าเป็นเพียง “วาทกรรม” ที่นำมาปั่นหัวบรรดาลูกหาบ แม่ยกทั้งหลายให้หลงเชื่อว่า เป็นความยุติธรรมที่ปกติทั่วๆไป แต่พอได้ยินแม้กระทั่งผู้ใหญ่ของบ้านเมืองยังออกมาพูดกันแบบนี้ แล้วจะไม่ให้ผมมึนตึบได้อย่างไร

ทั้งๆที่ตลอดเวลาแห่งความขัดแย้งเกือบสิบปีที่ผ่านมา มันไม่ใช่แค่คนเสื้อแดง มันไม่ใช่แค่นักวิชาการต่างๆ มันไม่ใช่แค่นักกฎหมายมากมายหรือแม้กระทั่งนานาประเทศทั่วโลก
พวกเหล่านี้ล้วนเห็นพ้องต้องกันว่า กระบวนการยุติธรรมของเรามันมีปัญหาจริงๆ

เรื่องที่ทำให้เกิดข้อครหาต่างๆมากมาย มันไม่ใช่อยู่ที่ถูกใจหรือไม่ถูกใจ
เรื่องที่ทำให้สังคมไทยเกิดความขัดแย้งมันไม่ใช่อยู่ที่ตัดสินใครถูกใครผิด

แต่มันอยู่ที่ความถูกต้องต่างหากครับ

ความถูกต้องที่ไม่ใช่การใช้กฎหมายที่จะเลือกใช้หรือไม่ใช้กับใครก็ได้
ไม่ใช่พอจะถอดถอนฝ่ายหนึ่งก็อ้างกฎหมายลูก
แต่จะไม่ถอดถอนพวกเดียวกันก็อ้างรัฐธรรมนูญหมดสภาพ

ความถูกต้องที่ไม่ใช่การใช้กฎหมายที่จะเลือกเร่งคดีไหนเร็วคดีไหนช้ากับใครก็ได้
ไม่ใช่พอจะเล่นงานคนฝ่ายหนึ่ง แม้การทุจริตยังไม่ชัดเจน ก็เร่งถอดถอนเร่งฟ้องกันอย่างที่เห็น
แต่พอเป็นพวกเดียวกัน กลับปล่อยให้เวลาผ่านไปเนิ่นนาน โดยอ้างเอกสารหาย

ความถูกต้องที่ไม่ใช่การใช้กฎหมายที่ขัดหลักความจริง
ไม่ใช่ฝ่ายหนึ่งใช้แก๊สน้ำตากับผู้ชุมนุม ถูกฟ้องกระทำเกินกว่าเหตุ
แต่พอเป็นคนอีกฝ่าย ใช้อาวุธสงครามกับผู้ชุมนุม กลับรอข้อเท็จจริงๆไปเรื่อยๆ

ความถูกต้องที่ไม่ใช่การใช้กฎหมายที่ขัดกับนิติรัฐ
ไม่ใช่กับฝ่ายหนึ่งใช้กฎหมายเอาผิดย้อนหลัง
แต่พอเป็นอีกฝ่าย คดีซึ่งหน้ากฎหมายกลับไม่สามารถเอาผิดได้

ความถูกต้องที่ไม่ใช่การใช้กฎหมายที่ขัดกับนิติธรรม
ไม่ใช่กับฝ่ายหนึ่งจะฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากนโยบายที่ผิดพลาด
แต่พอเป็นอีกฝ่ายที่นโยบายทำให้เกิดความเสียหายเช่นกัน กลับปล่อยปะละเลย

ความถูกต้องที่ไม่ใช่การลงโทษโดยไม่คำนึงถึงบรรทัดฐาน
ไม่ใช่ฝ่ายหนึ่งลงโทษสถานหนัก เพราะเป็นถึงนายกฯ
ส่วนอีกฝ่ายโทษให้รอลงอาญา เพราะเป็นรัฐมนตรี

ความถูกต้องที่ไม่ใช่กระบวนการยุติธรรมที่ไม่ปกติ
ไม่ใช่ฝ่ายหนึ่งจัดงานถูกสกัด ถูกปรับทัศนะคติ ถูกคุมขัง
ส่วนอีกฝ่ายจัดงานได้ทุกที่ทุกเวลา

เรื่องแบบนี้ต่างหากครับที่มีหลายฝ่ายไม่เห็นด้วย มีหลายฝ่ายที่เรียกหาความถูกต้อง ซึ่งไม่ใช่ลำพังแค่ฝ่ายเดียวเท่านั้น แม้แต่อดีตหัวหน้าฝ่ายค้านยังออกมาพูดเลยว่า เป็นกระบวนการที่อยู่ในสถานการณ์ไม่ปกติ จะมาถือเป็นบรรทัดฐานในสถานการณ์ที่ปกติไม่ได้

เพราะมันจะปกติได้อย่างไรกันครับ เมื่อ 40 สว.เป็นผู้ยื่นหลักฐานให้ถอดถอน แก่ ปปช. แล้วก็แปลงร่างมาเป็น สนช. เพื่อถอดถอนตามที่ ปปช.ชี้มูล

อย่างนี้แล้วจะมาบอกว่า “ตัดสินให้ถูกก็ถูกใจ พอตัดสินให้ผิดก็หาว่าศาลเอียง”  แบบนี้จะไม่ให้ผมมึนตึบได้อย่างไร จริงไหม
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่