เหตุผลหนึ่ง ที่ ทำให้ เราอยากเปลี่ยน สมาร์ทโฟน เครื่องใหม่...
คือ ประสิทธิภาพ ไม่ได้อย่างที่ต้องการ
ใช้นานๆไป รู้สึกหน่วงๆ อืดๆ ไม่ปื๊ดๆ เหมือนใหม่ๆ
หรือ ใช้ๆ เริ่มมี รวน
ต้องการลงแอบเพิ่ม แต่ทำไม่ได้
เพราะ หน่วยความจำ หน่วยประมวลผม มีไม่พอ
รู้บ้างไหมว่า ทำไม
พวกชอบโม หรือ DEV. ทั้งใน และ ต่างประเทศ หรือ นักเลงโทรศัพท์
เรียก เคส หรือ กรณีปัญหา ที่เกิดจาก ความไม่รู้ นี่ว่า "errer user"
หรือ การเออเร่อ ของ ผู้ใช้
ไม่ได้อยาก กระแหน๊ะ กระแหน
มีตังค์มาก ไม่เดือดร้อนตนเอง และ ครอบครัว ก็ซื้อๆ กันไป
ที่นำเสนอเพราะ ต้องการให้อีกหลายคน สามารถใช้ อุปกรณ์ ที่มีอยู่ ได้เต็มศักยภาพ คุ้มค่ากับราคาที่จ่ายไป
ปัญหาแรกๆ คือ เครื่องหน่วง ที่เกิดขึ้นได้ แม้กับเครื่องราคาเกินหมื่น แม้แต่ระบบปฏิบัติ หรือ แพลทฟอร์มไหน ที่ยอมรับว่าเสถียรมาก อย่างระบบ IOS ของ ไอโฟน หรือระบบ simbian ของ โนเกีย ระบบ os ของ วินโดว์โฟน หรือระบบ andriod ที่กำลังครองตลาด (ด้วยความเป็น OPEN SOURCE หรือ ระบบที่เป็นสาธารณะ ไม่ถูกผูกขาดโดยลิขสิทธิ์เอกชน)...
ก็ล้วนจะมีอาการ หน่วง ได้ทั้งนั้น
สาเหตุ ก็เหมือน กับ เครื่อง PC คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ หรือ โน๊ทบุค
คือ ผู้ใช้ มักจะติดนิสัยมาจาก ฟรีเจอร์โฟน รุ่นเก่าๆ ที่เปิดเครื่องกัน เช้า ยันเช้า เปิดกัน ข้ามวัน ข้ามเดือน ข้ามปี ก็ไม่มีปัญหา
แต่ สมาร์ทโฟน มันเป็นอะไรที่มีการทำงาน ซับซ้อนกว่า ต่อเนื่องเป็นเวลานาน มักจะหน่วง เหมือนกับ คอมพิวเตอร์ทั่วไป
บางคนบอกว่า ฉันมีธุระ สัมคัญ ไม่สามารถปิดเครื่อง
อย่าลืมว่า พวกองค์กรที่ใช้คอมพิวเตอร์ตลอด 24 ชม. เขาก็ไม่ปิดเครื่องกันนะ
แต่ ควรจะ รีสตาร์ท ทุกวัน ... ก็เท่านั่นเอง
บางคน บอกว่า รีสตาร์ทแล้ว ก็ เร็ว ขึ้นมานิดเดียวเอง
งั้นต้องลองลงไปดูให้ลึกกว่านั้น
กลไกการทำงานของระบบใดๆ ล้วนเป็น วิทยาศาสตร์
ปัญหาสัมคัญ คือ เราไม่รู้ สาเหตุ มันต่างหาก
"หน่วยความจำ และ หน่วยประมวลผล ไม่พอ"
อันนี้ เป็น สาเหตุ ที่พบกันมากที่สุด
อันเนื่องมาจาก การโหลด ๆ ๆ ๆแล้วก็ โหลด
ทั้ง APP เกมส์ แอฟกล้อง แอฟโซเชียล
ยิ่งออกมาใหม่ ขนาดก็ยิ่งใหญ่ขึ้น กินพื้นที่
กินความจุ กินทรัพยากรเครื่องมากยิ่งขึ้น
หรือ แม้แต่ APP เดิม ก็อัพเดรต เพิ่มขนาดไฟล์ กินความจุ กินเนื้อที่ มากขึ้นเรื่อยๆ เรื่อยๆ และ เรื่อยๆ
แล้วจะให้ทำไงล่ะ ไม่โหลดมาใช้งาน มันก็ใช้งานได้ไม่คุ้มค่านะซิ???
ภาษานักเลงคอม หรือ นักเลงมือถือ เขาใช้คำว่า
"การบริหารทรัพยากร ในเครื่อง"
การแก้ปัญหา คือ "การตรวจสอบ"
เช๊ค ดูว่า app ไหน กินทรัพยากรเครื่องเรามาก
แอพ ไหน มีขนาดเท่าไหน บรรจุข้อมูล ดาต้า แคส ไว้เท่าไหร่
โดยสามารถเข้าไปที่ แอพพลิเคชั่น ในเมนู การตั้งค่า
แอพไหน ไม่ใช่ ให้ เอาออกไป
แอพไหน นานๆ ใช้ ก็เอาออกไป จะใช้ค่อยติดตั้ง
(กินเวลาติดตั้งไม่เกิน 1 นาที)
หรือไม่ ก็ ฟรีซ หรือ แช่แข็งเอาไว้ ไม่ให้มันทำงาน
แอพที่ใช้บ่อยๆ ก็ ขยัน ลบแคช ลดดาต้า ที่ไม่จำเป็นออกไปบ้าง
อย่างเช่น LINE ที่มีไฟล์ใหญ่ขนาดกว่า 20Mb
แต่หากใช้ไปซัก 2 สัปดาห์ ปริมาณดาต้า อาจจะสูงถึง 100Mb
ซึ่งหากมี ข้อความ รูปภาพ ที่สำคัญ ต้องการเก็บไว้
ก็สามารถ export ออกมาเก็บไว้ข้างนอก ไม่ให้กินพื้นที่ภายในของเครื่องได้
"ถ้าบริหารจัดการทรัพยากรภายในเครื่องได้ดี ก็เหมือนได้ใช้โทรศัพท์ใหม่ๆ ตลอดเวลา"
แต่ เท่าไหร่ล่ะ ถึงจะเรียกว่าดี
demand และ supply ที่ใกล้เคียงกัน
เรียกว่า "สมดุล" แต่ยังไม่ "ความมั่งคั่ง หรือ มั่นคง"
ในเชิงคอมฯ คือ ความเสถียร)
เช่นเดียวกับ คอมพิวเตอร์ ซึ่งจากการสังเกตุ
คอมพิวเตอร์ หรือ สมาร์ทโฟน ที่ทำงานได้อย่างเต็มที่
จะมี แรม เหลือ ตั้งแต่ 1 ใน 3 หรือ อย่างน้อย 1 ใน 5
หมายถึง มีการใช้งานหน่วยประมวลผล และ ความจุ
" 60-80% ของลิมิตในเครื่อง"
หรือ supply(อุปสงค์) มากกว่า demand(อุปทาน) 30% ขึ้นไป
หากทำอย่างนี้ได้ เชื่อได้ว่า การทำงานของเครื่องจะ เสถียร ราบรื่น
ซึ่งนั่น หมายถึง หากไม่ต้องการซื้อเครื่องใหม่ ที่มี ความจุ หน่วยประมวลผล ที่เพิ่มขึ้น (ไม่ต้องเพิ่ม อุปสงค์)
หากหันกลับมา บริหาร อุปทาน หรือ ความต้องการใช้ ให้สอดคล้องกับ อุปทาน
และเพื่อความ เสถียร ในการใช้งาน ควรบริหารจัดการ ความต้องการใช้(demand)
ให้อยู่ในระดับ 3/4 หรือ 4/5 (สามในสี่ ถึง สี่ในห้า)
ท่านก็จะใช้โทรศัพท์เครื่องใหม่ใช้ โดยไม่ต้องซื้อเครื่องใหม่ ได้แล้วครับ
เปรียบคล้าย รายได้ และ รายจ่าย
รายจ่าย พอดี กับ รายได้ รับรองว่า มีเสียว
แต่ หาก รายจ่าย คิดเป็น 3/4 หรือ 4/5 ของรายได้
ชีวิตจริง อย่าคิดว่าพอนะ เดี๋ยวมีบางคนบอก เดือนนี้ กูหาได้ แสน กรูต้องจ่ายให้ครบ 8 หมื่น ด้วยการอ้างอิงบทความนี้ แล้วมีปัญหาภายหลัง ผมไม่รับผิดชอบนะครับ
ยิ่งเหลือมาก ก็ยิ่ง มั่งคั้ง (แต่ความมั่นคง มีองค์ประกอบอื่นอีกเยอะ)
"เศรษฐกิจพอเพียง ของในหลวง ไม่ทำให้เราผิดหวัง"
แต่หากเป็นการ บริหารจัดการ ทรัพยากรของรัฐ ของชาติบ้านเมือง
ถ้าไม่รู้ ว่า มี อุปสงค์ เท่าไหร่ ปริมาณแค่ไหน ไม่รู้บทบาท ของแต่ละหน่วย ไม่รู้หน้าที่ ของแต่ละส่วน
จะไป จัดการเรื่องบ้าน เรื่องเมือง ได้อย่างไร
แล้วจะฝากความหวังไว้ที่ใคร ว่ะ ครับ
สมาร์ทโฟน กับ เงินในกระเป๋า
คือ ประสิทธิภาพ ไม่ได้อย่างที่ต้องการ
ใช้นานๆไป รู้สึกหน่วงๆ อืดๆ ไม่ปื๊ดๆ เหมือนใหม่ๆ
หรือ ใช้ๆ เริ่มมี รวน
ต้องการลงแอบเพิ่ม แต่ทำไม่ได้
เพราะ หน่วยความจำ หน่วยประมวลผม มีไม่พอ
รู้บ้างไหมว่า ทำไม
พวกชอบโม หรือ DEV. ทั้งใน และ ต่างประเทศ หรือ นักเลงโทรศัพท์
เรียก เคส หรือ กรณีปัญหา ที่เกิดจาก ความไม่รู้ นี่ว่า "errer user"
หรือ การเออเร่อ ของ ผู้ใช้
ไม่ได้อยาก กระแหน๊ะ กระแหน
มีตังค์มาก ไม่เดือดร้อนตนเอง และ ครอบครัว ก็ซื้อๆ กันไป
ที่นำเสนอเพราะ ต้องการให้อีกหลายคน สามารถใช้ อุปกรณ์ ที่มีอยู่ ได้เต็มศักยภาพ คุ้มค่ากับราคาที่จ่ายไป
ปัญหาแรกๆ คือ เครื่องหน่วง ที่เกิดขึ้นได้ แม้กับเครื่องราคาเกินหมื่น แม้แต่ระบบปฏิบัติ หรือ แพลทฟอร์มไหน ที่ยอมรับว่าเสถียรมาก อย่างระบบ IOS ของ ไอโฟน หรือระบบ simbian ของ โนเกีย ระบบ os ของ วินโดว์โฟน หรือระบบ andriod ที่กำลังครองตลาด (ด้วยความเป็น OPEN SOURCE หรือ ระบบที่เป็นสาธารณะ ไม่ถูกผูกขาดโดยลิขสิทธิ์เอกชน)...
ก็ล้วนจะมีอาการ หน่วง ได้ทั้งนั้น
สาเหตุ ก็เหมือน กับ เครื่อง PC คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ หรือ โน๊ทบุค
คือ ผู้ใช้ มักจะติดนิสัยมาจาก ฟรีเจอร์โฟน รุ่นเก่าๆ ที่เปิดเครื่องกัน เช้า ยันเช้า เปิดกัน ข้ามวัน ข้ามเดือน ข้ามปี ก็ไม่มีปัญหา
แต่ สมาร์ทโฟน มันเป็นอะไรที่มีการทำงาน ซับซ้อนกว่า ต่อเนื่องเป็นเวลานาน มักจะหน่วง เหมือนกับ คอมพิวเตอร์ทั่วไป
บางคนบอกว่า ฉันมีธุระ สัมคัญ ไม่สามารถปิดเครื่อง
อย่าลืมว่า พวกองค์กรที่ใช้คอมพิวเตอร์ตลอด 24 ชม. เขาก็ไม่ปิดเครื่องกันนะ
แต่ ควรจะ รีสตาร์ท ทุกวัน ... ก็เท่านั่นเอง
บางคน บอกว่า รีสตาร์ทแล้ว ก็ เร็ว ขึ้นมานิดเดียวเอง
งั้นต้องลองลงไปดูให้ลึกกว่านั้น
กลไกการทำงานของระบบใดๆ ล้วนเป็น วิทยาศาสตร์
ปัญหาสัมคัญ คือ เราไม่รู้ สาเหตุ มันต่างหาก
"หน่วยความจำ และ หน่วยประมวลผล ไม่พอ"
อันนี้ เป็น สาเหตุ ที่พบกันมากที่สุด
อันเนื่องมาจาก การโหลด ๆ ๆ ๆแล้วก็ โหลด
ทั้ง APP เกมส์ แอฟกล้อง แอฟโซเชียล
ยิ่งออกมาใหม่ ขนาดก็ยิ่งใหญ่ขึ้น กินพื้นที่
กินความจุ กินทรัพยากรเครื่องมากยิ่งขึ้น
หรือ แม้แต่ APP เดิม ก็อัพเดรต เพิ่มขนาดไฟล์ กินความจุ กินเนื้อที่ มากขึ้นเรื่อยๆ เรื่อยๆ และ เรื่อยๆ
แล้วจะให้ทำไงล่ะ ไม่โหลดมาใช้งาน มันก็ใช้งานได้ไม่คุ้มค่านะซิ???
ภาษานักเลงคอม หรือ นักเลงมือถือ เขาใช้คำว่า
"การบริหารทรัพยากร ในเครื่อง"
การแก้ปัญหา คือ "การตรวจสอบ"
เช๊ค ดูว่า app ไหน กินทรัพยากรเครื่องเรามาก
แอพ ไหน มีขนาดเท่าไหน บรรจุข้อมูล ดาต้า แคส ไว้เท่าไหร่
โดยสามารถเข้าไปที่ แอพพลิเคชั่น ในเมนู การตั้งค่า
แอพไหน ไม่ใช่ ให้ เอาออกไป
แอพไหน นานๆ ใช้ ก็เอาออกไป จะใช้ค่อยติดตั้ง
(กินเวลาติดตั้งไม่เกิน 1 นาที)
หรือไม่ ก็ ฟรีซ หรือ แช่แข็งเอาไว้ ไม่ให้มันทำงาน
แอพที่ใช้บ่อยๆ ก็ ขยัน ลบแคช ลดดาต้า ที่ไม่จำเป็นออกไปบ้าง
อย่างเช่น LINE ที่มีไฟล์ใหญ่ขนาดกว่า 20Mb
แต่หากใช้ไปซัก 2 สัปดาห์ ปริมาณดาต้า อาจจะสูงถึง 100Mb
ซึ่งหากมี ข้อความ รูปภาพ ที่สำคัญ ต้องการเก็บไว้
ก็สามารถ export ออกมาเก็บไว้ข้างนอก ไม่ให้กินพื้นที่ภายในของเครื่องได้
"ถ้าบริหารจัดการทรัพยากรภายในเครื่องได้ดี ก็เหมือนได้ใช้โทรศัพท์ใหม่ๆ ตลอดเวลา"
แต่ เท่าไหร่ล่ะ ถึงจะเรียกว่าดี
demand และ supply ที่ใกล้เคียงกัน
เรียกว่า "สมดุล" แต่ยังไม่ "ความมั่งคั่ง หรือ มั่นคง"
เช่นเดียวกับ คอมพิวเตอร์ ซึ่งจากการสังเกตุ
คอมพิวเตอร์ หรือ สมาร์ทโฟน ที่ทำงานได้อย่างเต็มที่
จะมี แรม เหลือ ตั้งแต่ 1 ใน 3 หรือ อย่างน้อย 1 ใน 5
หมายถึง มีการใช้งานหน่วยประมวลผล และ ความจุ
" 60-80% ของลิมิตในเครื่อง"
หรือ supply(อุปสงค์) มากกว่า demand(อุปทาน) 30% ขึ้นไป
หากทำอย่างนี้ได้ เชื่อได้ว่า การทำงานของเครื่องจะ เสถียร ราบรื่น
ซึ่งนั่น หมายถึง หากไม่ต้องการซื้อเครื่องใหม่ ที่มี ความจุ หน่วยประมวลผล ที่เพิ่มขึ้น (ไม่ต้องเพิ่ม อุปสงค์)
หากหันกลับมา บริหาร อุปทาน หรือ ความต้องการใช้ ให้สอดคล้องกับ อุปทาน
และเพื่อความ เสถียร ในการใช้งาน ควรบริหารจัดการ ความต้องการใช้(demand)
ให้อยู่ในระดับ 3/4 หรือ 4/5 (สามในสี่ ถึง สี่ในห้า)
ท่านก็จะใช้โทรศัพท์เครื่องใหม่ใช้ โดยไม่ต้องซื้อเครื่องใหม่ ได้แล้วครับ
เปรียบคล้าย รายได้ และ รายจ่าย
รายจ่าย พอดี กับ รายได้ รับรองว่า มีเสียว
แต่ หาก รายจ่าย คิดเป็น 3/4 หรือ 4/5 ของรายได้
ชีวิตจริง อย่าคิดว่าพอนะ เดี๋ยวมีบางคนบอก เดือนนี้ กูหาได้ แสน กรูต้องจ่ายให้ครบ 8 หมื่น ด้วยการอ้างอิงบทความนี้ แล้วมีปัญหาภายหลัง ผมไม่รับผิดชอบนะครับ
ยิ่งเหลือมาก ก็ยิ่ง มั่งคั้ง (แต่ความมั่นคง มีองค์ประกอบอื่นอีกเยอะ)
"เศรษฐกิจพอเพียง ของในหลวง ไม่ทำให้เราผิดหวัง"
แต่หากเป็นการ บริหารจัดการ ทรัพยากรของรัฐ ของชาติบ้านเมือง
ถ้าไม่รู้ ว่า มี อุปสงค์ เท่าไหร่ ปริมาณแค่ไหน ไม่รู้บทบาท ของแต่ละหน่วย ไม่รู้หน้าที่ ของแต่ละส่วน
จะไป จัดการเรื่องบ้าน เรื่องเมือง ได้อย่างไร
แล้วจะฝากความหวังไว้ที่ใคร ว่ะ ครับ