เจ้าของกระทู้เป็นคนรักษาสุขภาพระดับนึง แบบว่ารู้หน่าว่าอะไรคลีน ไม่คลีน
แต่ก็ชอบกินมาม่ามากเป็นชีวิตจิตใจ ซึ่งมันเป็นสิ่งต้องห้ามใช่มั้ย? แต่ก็มิได้นำพา...
วันนี้เลยขอหน่อย ของ่ายๆ ไร้ผัก เน้นอร่อยแบบดั้งเดิม เพิ่มโปรตีนบ้าง แต่มีโจทย์สำคัญคือ
"ต้มมาม่าให้ถูกต้องตามหลักโภชนาการ ปลอดภัยไร้ Wax"
อ่า...หลายคนงง หลายคนเคยอ่านเจอในเวปแล้ว ว่าอะไรของเธอ ปลอดภัยไร้ Wax
เอาเป็นว่าขอตัดขั้นตอนอธิบายออกไป โดยขออนุญาตแปะ Link เพื่อให้ผู้ที่สนใจขยายความ เข้าไปอ่านดูนะคะ
ที่มาจากเวปนี้ค่ะ
http://www.oknation.net/blog/print.php?id=28840?
=====================================================
(มีเพื่อนๆสมาชิกหลายท่านเตือนมาว่าข้อมูลจาก Link ดังกล่าวไม่เป็นความจริงนะคะ
จริงๆแล้วไม่ต้องต้มน้ำทิ้งก็ได้ จขกท.นี่เงิบเลยค่ะ ถถถถถถ+)
=====================================================
หน้าตาก็ไม่ได้แตกต่าง แต่ก่อนจะได้มันมา มันก็ไม่ง่ายนะเธอว์...
เริ่มกันเลยมั้ย...ต้มน้ำสิคะคุณ ต้มน้ำให้เดือดปุ๊ด ปุ๊ดรอบที่หนึ่ง แล้วค่อยใส่เส้นลงไป แล้วรอให้เดือดปุ๊ด ปุ๊ดรอบที่สอง
จากนั้นค่อยเทใส่กระชอน (กระชอน size นี้ถูกใจดิชั้นมาก เพราะมันมีขาตั้งในตัว 60 ไดโสะ)

สังเกตนะคะ มันคือมาม่าต้ม ไม่ใช่มาม่าลวก!!!
สะบัดๆๆ แล้วเทใส่ชาม ใส่เครื่องปรุงซองที่เป็นน้ำมัน ลงไปคลุกๆกับเส้นก่อนนะจ๊ะ
(อันนี้คิดเอง เลียนแบบแม่ค้าขายก๋วยเตี๋ยวชัดๆ)
เสร็จไปครึ่งยก ผ่านไปแบบมืออาชีพ ประมาณ 10 นาที (รวมถ่ายรูปเตรียมโพสกระทู้)
----------------------------------------------------------------------------------------------------
ต่อไปเราก็ต้องทำไงคะ ตั้งเตาอีกรอบสิคะ ต้มน้ำให้เดือดปุ๊ด ปุ๊ดรอบที่สามกันเลยค่ะ
งานนี้โปรตีนต้องมานะคะ หมูสับหรือหมูบดค่ะ ใส่ตอนน้ำเดือด รอ ร้อ รอให้เดือดปุ๊ด ปุ๊ดรอบที่สี่
งามแบบไทย จะไม่ช้อนฟองก็อาจโดนด่าได้นะจ๊ะ
ตามด้วยกุ้งสิคะ เหลือในตู้เย็นสี่ตัว ใส่ให้หมดเลย
เครื่องปรุงซองนี้อ่ะ มีให้ก็ใส่สิคะ เรื่องอะไรจะทิ้ง อิอิ
สุกปุ๊ป ก็รีบปิดเตาทันที เดี๋ยวกุ้งจะแข็งเกิน แล้วคราวนี้ก็เทซองที่เหลือได้เลยค่ะ
แอบใส่น้ำตาลทรายแดงนิดนึงอ่ะ ชอบหวานนิดๆ เปรี้ยวหน่อยๆ
งานเท.....เหมือนแม่ค้าทำเลยป่ะ 55555+
แล้วมันจะเปรี้ยวได้ไงถ้าไม่บีบมะนาว !?!
เสร็จๆๆๆ กินได้ ปลอดภัย ไร้ Wax
ขอบคุณทุกคนมากค่ะ บ๊าย บ่าย ^__^
การต้มมาม่าให้ปลอดภัย ไร้Wax เฮ้ยย...มันต้องมารีวิวเหอะ
แต่ก็ชอบกินมาม่ามากเป็นชีวิตจิตใจ ซึ่งมันเป็นสิ่งต้องห้ามใช่มั้ย? แต่ก็มิได้นำพา...
วันนี้เลยขอหน่อย ของ่ายๆ ไร้ผัก เน้นอร่อยแบบดั้งเดิม เพิ่มโปรตีนบ้าง แต่มีโจทย์สำคัญคือ
"ต้มมาม่าให้ถูกต้องตามหลักโภชนาการ ปลอดภัยไร้ Wax"
อ่า...หลายคนงง หลายคนเคยอ่านเจอในเวปแล้ว ว่าอะไรของเธอ ปลอดภัยไร้ Wax
เอาเป็นว่าขอตัดขั้นตอนอธิบายออกไป โดยขออนุญาตแปะ Link เพื่อให้ผู้ที่สนใจขยายความ เข้าไปอ่านดูนะคะ
ที่มาจากเวปนี้ค่ะ http://www.oknation.net/blog/print.php?id=28840?
=====================================================
(มีเพื่อนๆสมาชิกหลายท่านเตือนมาว่าข้อมูลจาก Link ดังกล่าวไม่เป็นความจริงนะคะ
จริงๆแล้วไม่ต้องต้มน้ำทิ้งก็ได้ จขกท.นี่เงิบเลยค่ะ ถถถถถถ+)
=====================================================
หน้าตาก็ไม่ได้แตกต่าง แต่ก่อนจะได้มันมา มันก็ไม่ง่ายนะเธอว์...
เริ่มกันเลยมั้ย...ต้มน้ำสิคะคุณ ต้มน้ำให้เดือดปุ๊ด ปุ๊ดรอบที่หนึ่ง แล้วค่อยใส่เส้นลงไป แล้วรอให้เดือดปุ๊ด ปุ๊ดรอบที่สอง
จากนั้นค่อยเทใส่กระชอน (กระชอน size นี้ถูกใจดิชั้นมาก เพราะมันมีขาตั้งในตัว 60 ไดโสะ)
สังเกตนะคะ มันคือมาม่าต้ม ไม่ใช่มาม่าลวก!!!
สะบัดๆๆ แล้วเทใส่ชาม ใส่เครื่องปรุงซองที่เป็นน้ำมัน ลงไปคลุกๆกับเส้นก่อนนะจ๊ะ
(อันนี้คิดเอง เลียนแบบแม่ค้าขายก๋วยเตี๋ยวชัดๆ)
เสร็จไปครึ่งยก ผ่านไปแบบมืออาชีพ ประมาณ 10 นาที (รวมถ่ายรูปเตรียมโพสกระทู้)
----------------------------------------------------------------------------------------------------
ต่อไปเราก็ต้องทำไงคะ ตั้งเตาอีกรอบสิคะ ต้มน้ำให้เดือดปุ๊ด ปุ๊ดรอบที่สามกันเลยค่ะ
งานนี้โปรตีนต้องมานะคะ หมูสับหรือหมูบดค่ะ ใส่ตอนน้ำเดือด รอ ร้อ รอให้เดือดปุ๊ด ปุ๊ดรอบที่สี่
งามแบบไทย จะไม่ช้อนฟองก็อาจโดนด่าได้นะจ๊ะ
ตามด้วยกุ้งสิคะ เหลือในตู้เย็นสี่ตัว ใส่ให้หมดเลย
เครื่องปรุงซองนี้อ่ะ มีให้ก็ใส่สิคะ เรื่องอะไรจะทิ้ง อิอิ
สุกปุ๊ป ก็รีบปิดเตาทันที เดี๋ยวกุ้งจะแข็งเกิน แล้วคราวนี้ก็เทซองที่เหลือได้เลยค่ะ
แอบใส่น้ำตาลทรายแดงนิดนึงอ่ะ ชอบหวานนิดๆ เปรี้ยวหน่อยๆ
งานเท.....เหมือนแม่ค้าทำเลยป่ะ 55555+
แล้วมันจะเปรี้ยวได้ไงถ้าไม่บีบมะนาว !?!
เสร็จๆๆๆ กินได้ ปลอดภัย ไร้ Wax
ขอบคุณทุกคนมากค่ะ บ๊าย บ่าย ^__^