ผมอยากเล่าเรื่องอยากระบายและอยากขอความเห็นครับ
...เรื่องทั้งหมดมันก็เกี่ยวกับความรักของผมเองนั่นแหละครับ ไม่ได้เสริมเติมแต่งอะไรทั้งสิ้น
ขอตั้งชื่อว่า The end of story
ขอแบ่งเป็น ๕ ตอน นะครับ
ตอนที่ ๑ แรกพบรักระหว่างเรียน
...ผมกับแฟนเราคบกันมาได้ ๖ ปี กับอีก ๔ เดือนครับ เรารู้จักกันผ่านทางโปรแกรม chat โปรแกรมนึง แต่ก็ไม่ได้อยู่ใกลกันครับ ตอนนั้นเธอเป็นนักเรียนแพทย์กำลังจะขึ้นชั้น ปีที่ ๔ ที่ มหาลัยแห่นนึงในหาดใหญ่ ส่วนผมเป็นเจ้าของกิจการส่วนตัวมีบริษัทเป็นของตัวเอง ก็อยู่หาดใหญ่เช่นกัน.
...เราคุยกันได้สักพักนึงประมาณหนึ่งเดือน เราก็ได้นัดเจอกันครับ ครั้งแรกเราไปทานมื้อเที่ยงด้วยกัน และหลังจากที่ได้คุยกันถูกคอ ก็แลกเบอร์โทรแล้วก็โทรคุยกันทุกวัน และก็นัดทานข้าวกันเป็นประจำ.
...ผมไม่เคยนัดเจอเธอตอนกลางคืนครับเพราะความผมคิดว่าเด็กที่เรียนสายนี้คงจะเป็นคนนิสัยเรียบร้อยต้องไม่ดีแน่ที่จะชวนเธอออกมานั่งดื่ม.
...ก็เป็นแบบนี้มาพักใหญ่ จนเธอเริ่มสนิทกับผมมากขึ้นและสนิทกับกลุ่มเพื่อนๆของผม เธอไม่เคยพาผมไปเข้าสังคมของเธอเพราะเธอบอกว่าเพื่อนๆของเธอเป็นพวกตั้งใจเรียนผมคงไม่ชอบ ตัวผมเองก็ไม่ได้รบเร้าอะไร ก็ไม่เป็นไรเราอยากรู้จักเธอไม่ได้อยากรู้จักกับเพื่อนของเธอสักหน่อย.
...มาวันนึงเป็นวันเกิดของเพื่อนผม เราเลี้ยงกันในผับเพื่อนบอกให้ชวนแฟนมาด้วยสิ ตอนแรกก็ไม่กล้าแต่ก็ไหนๆแล้วก็ชวนละกัน เธอตอบตกลง คืนนั้นเป็นครั้งแรกที่เธออกมากับผมตอนกลางคืน หลังจากงานเสี้ยงเลิกผมก็พาเธอไป ใช่ครับเรามีอะไรกันยินยอมและเต็มใจกันทั้งสองฝ่าย.
...คืนนั้นผมได้เล่าเรื่องราวอดีตความรักของผมให้กับเธอฟัง เธอก็เล่าอดีตของเธอเช่นกัน เพื่อหวังว่าถ้าเรารับได้กันทั้งสองฝ่าย เราจะได้คบกันอย่างมีความสุขตลอดไป.
...อดีตของผมคือตั้งแต่เรียนจบ ผมเคยมีแฟนเพียงคนเดียว รักและคบกันมา ๑๐ ปีกำลังจะแต่งงานอีกสองเดือน จู่ๆเธอก็บอกเลิกและทิ้งผมไปอย่างไม่ทราบสาเหตุ จนสามเดือนให้หลังมีเพื่อนมาบอกว่าไปคบกับทหารเรือคนหนึ่ง และผมก็อยู่ตัวคนเดียวมาหนึ่งปี จนมาพบเธอ.
...ส่วนเรื่องอดีตของเธอผมไม่ขอเล่านะครับ ขอบอกแค่เพียงว่าเธอเป็นคนเจ้าชู้ครับ.
...ผมบอกกับเธอว่าผมเป็นคนจริงจังกับความรัก และขอคำสัญญากับเธอว่าเราจะคบกันและแต่งงานกัน เราจะไม่เลิกกันได้ไหม ผมให้เหตุผลว่าไม่อย่าเสียเวลา ถ้าเธอยังไม่มั่นใจหรือคิดอย่างอื่นก็ขอให้พูดออกมาเลย.
...เธอรับปากและสัญญากับผมพร้อมพูดกับผมว่า เธอเองก็ไม่อยากที่จะเริ่มต้นใหม่บ่อยๆเช่นกัน.
...หลังจากนั้นเราก็คบกันมาโดยตลอด รักกันมากขึ้นทุกวัน ทานข้าวกันทุกวัน ไปนั่งอ่านหนังสือ ทำรายงาน อยู่ด้วยกันทุกคืน ยกแว้นคืนที่เธอต้องอยู่เวร.
...เรารักกันมากทุกอย่างเป็นไปด้วยดี เวลาว่างเธอก็ไปช่วยผมทำงาน ผมว่างก็จะไปนั่งอ่านหนังสือทำรายงานเป็นเพื่อนเธอ ผมแยกตัวเองออกจากเพื่อน เพื่อตั้งใจจะทำให้ความรักครั้งนี้มันดีที่สุดให้เวลาทั้งหมดกับเธอ.
...มีทะเลาะมีงอนกันบ้างแต่ไม่ใช่เรื่องหึงหวงหรือนอกใจ ส่วนใหญ่จะเป็นเพราะผมไปรับช้า เพราะติดงาน หรือไม่ก็ทะเลาะกันเรื่องวันนี้จะกินอะไรดี.
...เวลาผ่านไปสองปี เธอใกล้จะเรียนจบ มีงานมากขึ้น เราได้เจอกันน้อยลงกว่าเดิม จากที่เคยเจอกันทุกวัน ก็เป็นสองวันหรือสามวันครั้ง.
...ครั้งนึงผมรู้สึกได้ว่าเธอเปลี่ยนไป จากที่เราเคยโทรคุยกันวันละหลายๆครั้ง หรือคุยกันตอนกลางคืนเป็นเวลานานๆ ในวันที่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน มันกลับลดลงจนผิดปกติ และผมก็จับได้ว่าเธอแอบคุยกับผู้ชายคนนึง เป็นโชคดีของผมที่เจอตั้งแต่เนิ่นๆ ยังไม่มีอะไรไปมากกว่านั้น.
...เป็นครั้งแรกที่เราทะเลาะกันด้วยเรื่องมือที่สาม เธอร้องให้ขอโทษบอกว่าไม่ได้คิดอะไรมากกว่าเพื่อน แต่ที่ปิดเพราะกลัวผมโกรธ เอาล่ะงั้นผมให้อภัย แต่คราวหลังอย่าทำอีก มีอะไรให้พูดกันตรงๆ เธอรับปาก.
...ทุกอย่างกลับเข้าสู่สภาวะปกติ ผมเชื่อใจเธอเพราะผมคิดว่า คนที่เรียนอาชีพนี้ต้องเป็นคนดี มีจิตใจที่ดี เธออาจจะไม่ตั้งใจหรืออาจจะไม่รู้เท่าทันผู้ชายคนนั้น ทุกอย่างราบรื่นจนเธอเรียนจบได้รับปริญญา.
...ผมดีใจมากผมอาสาเป็นคนแบกกล้องถ่ายรูปให้กับเธอและครอบครัว ทั้งๆที่ผมไม่มีความรู้เรื่องการถ่ายภาพเลย ผมซื้อกล้อง DSLR รุ่นใหม่ ใช้เลนส์ที่ดีที่สุด พร้อมอุปกรณ์ที่จำเป็น และไปเรียนถ่ายภาพคอสระยะสั้น เพราะผมไม่อยากให้เธอผิดหวัง ที่จะได้ภาพสวยๆ งานรับปริญญาผ่านไปได้อย่างราบรื่น.
...เธอแนะนำผมให้รู้จักกับครอบครัว พาผมไปบ้าน คุยกับพ่อแม่ของเธอ ผมก็พาเธอไปที่บ้านเจอกับแม่และญาติผู้ใหญ่ของผมเช่นกัน ทางบ้านผมชอบเธอมากมักถามอยู่บ่อยๆว่าเมื่อไหร่จะแต่งงาน.
เดี๋ยวต่อตอน ๒ ครับ
ช่วยหน่อยครับผมรู้ตัวว่ากำลังจะเป็นบ้า
...เรื่องทั้งหมดมันก็เกี่ยวกับความรักของผมเองนั่นแหละครับ ไม่ได้เสริมเติมแต่งอะไรทั้งสิ้น
ขอตั้งชื่อว่า The end of story
ขอแบ่งเป็น ๕ ตอน นะครับ
ตอนที่ ๑ แรกพบรักระหว่างเรียน
...ผมกับแฟนเราคบกันมาได้ ๖ ปี กับอีก ๔ เดือนครับ เรารู้จักกันผ่านทางโปรแกรม chat โปรแกรมนึง แต่ก็ไม่ได้อยู่ใกลกันครับ ตอนนั้นเธอเป็นนักเรียนแพทย์กำลังจะขึ้นชั้น ปีที่ ๔ ที่ มหาลัยแห่นนึงในหาดใหญ่ ส่วนผมเป็นเจ้าของกิจการส่วนตัวมีบริษัทเป็นของตัวเอง ก็อยู่หาดใหญ่เช่นกัน.
...เราคุยกันได้สักพักนึงประมาณหนึ่งเดือน เราก็ได้นัดเจอกันครับ ครั้งแรกเราไปทานมื้อเที่ยงด้วยกัน และหลังจากที่ได้คุยกันถูกคอ ก็แลกเบอร์โทรแล้วก็โทรคุยกันทุกวัน และก็นัดทานข้าวกันเป็นประจำ.
...ผมไม่เคยนัดเจอเธอตอนกลางคืนครับเพราะความผมคิดว่าเด็กที่เรียนสายนี้คงจะเป็นคนนิสัยเรียบร้อยต้องไม่ดีแน่ที่จะชวนเธอออกมานั่งดื่ม.
...ก็เป็นแบบนี้มาพักใหญ่ จนเธอเริ่มสนิทกับผมมากขึ้นและสนิทกับกลุ่มเพื่อนๆของผม เธอไม่เคยพาผมไปเข้าสังคมของเธอเพราะเธอบอกว่าเพื่อนๆของเธอเป็นพวกตั้งใจเรียนผมคงไม่ชอบ ตัวผมเองก็ไม่ได้รบเร้าอะไร ก็ไม่เป็นไรเราอยากรู้จักเธอไม่ได้อยากรู้จักกับเพื่อนของเธอสักหน่อย.
...มาวันนึงเป็นวันเกิดของเพื่อนผม เราเลี้ยงกันในผับเพื่อนบอกให้ชวนแฟนมาด้วยสิ ตอนแรกก็ไม่กล้าแต่ก็ไหนๆแล้วก็ชวนละกัน เธอตอบตกลง คืนนั้นเป็นครั้งแรกที่เธออกมากับผมตอนกลางคืน หลังจากงานเสี้ยงเลิกผมก็พาเธอไป ใช่ครับเรามีอะไรกันยินยอมและเต็มใจกันทั้งสองฝ่าย.
...คืนนั้นผมได้เล่าเรื่องราวอดีตความรักของผมให้กับเธอฟัง เธอก็เล่าอดีตของเธอเช่นกัน เพื่อหวังว่าถ้าเรารับได้กันทั้งสองฝ่าย เราจะได้คบกันอย่างมีความสุขตลอดไป.
...อดีตของผมคือตั้งแต่เรียนจบ ผมเคยมีแฟนเพียงคนเดียว รักและคบกันมา ๑๐ ปีกำลังจะแต่งงานอีกสองเดือน จู่ๆเธอก็บอกเลิกและทิ้งผมไปอย่างไม่ทราบสาเหตุ จนสามเดือนให้หลังมีเพื่อนมาบอกว่าไปคบกับทหารเรือคนหนึ่ง และผมก็อยู่ตัวคนเดียวมาหนึ่งปี จนมาพบเธอ.
...ส่วนเรื่องอดีตของเธอผมไม่ขอเล่านะครับ ขอบอกแค่เพียงว่าเธอเป็นคนเจ้าชู้ครับ.
...ผมบอกกับเธอว่าผมเป็นคนจริงจังกับความรัก และขอคำสัญญากับเธอว่าเราจะคบกันและแต่งงานกัน เราจะไม่เลิกกันได้ไหม ผมให้เหตุผลว่าไม่อย่าเสียเวลา ถ้าเธอยังไม่มั่นใจหรือคิดอย่างอื่นก็ขอให้พูดออกมาเลย.
...เธอรับปากและสัญญากับผมพร้อมพูดกับผมว่า เธอเองก็ไม่อยากที่จะเริ่มต้นใหม่บ่อยๆเช่นกัน.
...หลังจากนั้นเราก็คบกันมาโดยตลอด รักกันมากขึ้นทุกวัน ทานข้าวกันทุกวัน ไปนั่งอ่านหนังสือ ทำรายงาน อยู่ด้วยกันทุกคืน ยกแว้นคืนที่เธอต้องอยู่เวร.
...เรารักกันมากทุกอย่างเป็นไปด้วยดี เวลาว่างเธอก็ไปช่วยผมทำงาน ผมว่างก็จะไปนั่งอ่านหนังสือทำรายงานเป็นเพื่อนเธอ ผมแยกตัวเองออกจากเพื่อน เพื่อตั้งใจจะทำให้ความรักครั้งนี้มันดีที่สุดให้เวลาทั้งหมดกับเธอ.
...มีทะเลาะมีงอนกันบ้างแต่ไม่ใช่เรื่องหึงหวงหรือนอกใจ ส่วนใหญ่จะเป็นเพราะผมไปรับช้า เพราะติดงาน หรือไม่ก็ทะเลาะกันเรื่องวันนี้จะกินอะไรดี.
...เวลาผ่านไปสองปี เธอใกล้จะเรียนจบ มีงานมากขึ้น เราได้เจอกันน้อยลงกว่าเดิม จากที่เคยเจอกันทุกวัน ก็เป็นสองวันหรือสามวันครั้ง.
...ครั้งนึงผมรู้สึกได้ว่าเธอเปลี่ยนไป จากที่เราเคยโทรคุยกันวันละหลายๆครั้ง หรือคุยกันตอนกลางคืนเป็นเวลานานๆ ในวันที่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน มันกลับลดลงจนผิดปกติ และผมก็จับได้ว่าเธอแอบคุยกับผู้ชายคนนึง เป็นโชคดีของผมที่เจอตั้งแต่เนิ่นๆ ยังไม่มีอะไรไปมากกว่านั้น.
...เป็นครั้งแรกที่เราทะเลาะกันด้วยเรื่องมือที่สาม เธอร้องให้ขอโทษบอกว่าไม่ได้คิดอะไรมากกว่าเพื่อน แต่ที่ปิดเพราะกลัวผมโกรธ เอาล่ะงั้นผมให้อภัย แต่คราวหลังอย่าทำอีก มีอะไรให้พูดกันตรงๆ เธอรับปาก.
...ทุกอย่างกลับเข้าสู่สภาวะปกติ ผมเชื่อใจเธอเพราะผมคิดว่า คนที่เรียนอาชีพนี้ต้องเป็นคนดี มีจิตใจที่ดี เธออาจจะไม่ตั้งใจหรืออาจจะไม่รู้เท่าทันผู้ชายคนนั้น ทุกอย่างราบรื่นจนเธอเรียนจบได้รับปริญญา.
...ผมดีใจมากผมอาสาเป็นคนแบกกล้องถ่ายรูปให้กับเธอและครอบครัว ทั้งๆที่ผมไม่มีความรู้เรื่องการถ่ายภาพเลย ผมซื้อกล้อง DSLR รุ่นใหม่ ใช้เลนส์ที่ดีที่สุด พร้อมอุปกรณ์ที่จำเป็น และไปเรียนถ่ายภาพคอสระยะสั้น เพราะผมไม่อยากให้เธอผิดหวัง ที่จะได้ภาพสวยๆ งานรับปริญญาผ่านไปได้อย่างราบรื่น.
...เธอแนะนำผมให้รู้จักกับครอบครัว พาผมไปบ้าน คุยกับพ่อแม่ของเธอ ผมก็พาเธอไปที่บ้านเจอกับแม่และญาติผู้ใหญ่ของผมเช่นกัน ทางบ้านผมชอบเธอมากมักถามอยู่บ่อยๆว่าเมื่อไหร่จะแต่งงาน.
เดี๋ยวต่อตอน ๒ ครับ