เตือนภัย!!! วันนี้ขอมาแชร์เรื่องราวเพื่อเตือนภัยคนที่มาในรูปแบบของ(อดีต)แฟน

วันนี้ขอมาแชร์เรื่องราวเพื่อเตือนภัยคนที่มาในรูปแบบของ(อดีต)แฟน
 
เกริ่นก่อนว่าเรื่องราวนี้เป็นเรื่องของเพื่อนสนิทผมคนนึง เนื่องด้วยเจ้าตัวไม่สะดวกมาเล่าเองผมเลยปรึกษาว่าอยากขอนำเรื่องมาเขียนกระทู้เผื่อว่าจะมีใครเคยเจอแบบเดียวกัน จากคน ๆ เดียวกัน และเป็นการแชร์ว่าโลกนี้มีคนแบบนี้อยู่จริง ๆ
 
ก่อนอื่นเลยเรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ผมเลื่อนผ่านสื่อโซเชียลของเพื่อนสนิทคนนึงที่ไม่ได้ติดต่อกันมานานและพบว่าเพื่อนผมเข้าเฝือกที่แขน ด้วยความเป็นห่วงบวกกับช่วงนั้นผมมีธุระที่ต้องเดินทางกลับบ้านเกิดพอดีเลยได้ทักเพื่อนไปถามไถ่ชีวิต จนได้รับรู้เรื่องราวเหล่านี้มาครับ บอกก่อนว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผมฟังมาจากเพื่อนผมเพียงฝ่ายเดียวเท่านั้น
 
อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อต้นปี 2568 ลากยาวมาถึงช่วงกลางปี เพื่อนผมถูกรังควาญจากผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งเป็นอดีตแฟนเก่า เรื่องราวมันเกิดจากการที่เพื่อนผมได้เลิกรากับผู้หญิงคนนึงไปช่วงต้นปีเพราะจับได้ว่าผู้หญิงคนนั้นแอบไปมีคนอื่นในระหว่างที่คบกัน และโกหกว่าท้องกับเพื่อนผมเพราะอยากให้เพื่อนผมรับผิดชอบ ก่อนออกมาทางครอบครัวของเพื่อนผมเลยขอตรวจปัสสาวะเพื่อดูว่าท้องจริงหรือไม่ และพบที่ตรวจหาตั้งครรภ์นั้นไม่ขึ้นสองขีดที่เป็นสัญลักษณ์บ่งชี้ว่าท้องจริง จากนั้นเพื่อนผมก็ได้เลิกรากับอีกฝ่ายไป อีกฝ่ายมีการมาขนของออกจากเพื่อนผมไปและเพื่อนผมคิดว่าเรื่องราวมันจะจบแล้ว
 
จนกระทั่งเมื่อช่วงต้นปีเข้ากลางปี 2568 ผู้หญิงคนนี้ติดต่อกลับมาอีกครั้งและบอกว่าตนเองได้ท้องกับเพื่อนผม แต่การกลับมาครั้งนี้ผู้หญิงคนนี้ได้เข้ามายังสถานที่ทำงานของเพื่อนผมและแจ้งไปกับหัวหน้าของเพื่อนผมว่า เพื่อนผมได้ทำการทำร้ายร่างกายเขาและได้อ้างถึงเหตุต่าง ๆ ที่จะทำให้เขาได้เปรียบในเรื่องของคดีความ ซึ่งเพื่อนผมเขาก็มีข้อกังขาตรงที่ว่าหลักฐานที่ทำการบ่งชี้และได้ทำการแจ้งความนั้นมีความขัดแย้งกันอย่างยิ่ง ด้วยที่เพื่อนผมเป็นผู้ชายที่ตัวใหญ่ (ใหญ่มาก สูง 191 หนักเฉียด 110) ถ้าจะทำร้ายร่างกายจริง ผู้หญิงที่รูปร่างอวบมาก (สูงคร่าวๆโดยประมาณ 160บวกลบ หนัก 80บวกลบ) เขาคงไม่มีแค่รอยช้ำแน่นอน และในตอนนั้นเขาได้มาทำการร้องทุกข์เพื่อต้องการให้เพื่อนผมเขาชดเชยและทางหัวหน้าใหญ่ที่ทำงานของเพื่อนผมเขาก็รับผิดชอบโดยการให้เพื่อนผมทำการกู้เพื่อชดใช้เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 30,000 บาท (สามหมื่นบาทถ้วน) ซึ่งเพื่อนผมก็ทำโดยเสร็จสรรพและทางเจ้าตัว (ฝ่ายหญิง)ก็ได้ทำการร่างสัญญาเพื่อที่จะยกฟ้องหรืออะไรก็ตามที่จะทำให้เป็นการไม่มีการดำเนินคดีติดใจเอาความจากเพื่อนผม เพื่อนผมก็เซ็นยินยอมให้เสร็จสรรพ (ทั้งนี้หลักฐานทุกอย่างมีครบและเอกสารยังอยู่กับทางเพื่อนของผมครบถ้วนทุกประการ) แต่.... ในต่อมาผ่านระยะเวลามาไม่ถึง 3 สัปดาห์ ทางฝ่ายนั้นเขาได้มากแจ้งกับเพื่อนของผมผ่านการ โทร. ว่าตนเอง (ฝ่ายหญิง) นั้นท้อง เรื่องราวจากที่เล็กเริ่มใหญ่โตขึ้นอีกฝ่ายยังอ้างอีกว่าเพื่อนผมทำร้ายร่างกายเธอและจะไม่รับผิดชอบลูกในท้อง อีกทั้งเมื่อเห็นว่าเพื่อนผมไม่สามารถทำอะไรได้เพราะเกรงกลัวในชื่อเสียด้านการทำงานจะได้รับผลกระทบ ยิ่งทำให้อีกฝั่งเริ่มการรังควาญขึ้นไปเรื่อย ๆ เริ่มจากการที่บอกให้เพื่อนผมพาไปโรงพยาบาลด้วยกันเพื่อให้ไปตรวจการตั้งครรภ์ แต่มีข้อแม้ว่าให้มาคนเดียวในยามวิกาล ช่วงเวลา 21.00-00.00 น. โดยอ้างว่าตนพึ่งเลิกงงานในช่วงนั้น และไม่ให้เพื่อนผมพาแม่หรือคนในครอบครัวไปด้วย แต่เพื่อนผมปฏิเสธไปและได้แจ้งนัดใหม่อีกครั้งในช่วงเวลาทำการปกติโดยได้มีการอนุมัติและอนุญาตจากทางหัวหน้างานที่เป็นในระดับผู้ใหญ่ที่จะรับผิดชอบแทนได้ เพราะกังวลเรื่องของความปลอดภัยของตนเอง พร้อมกับสภาพจิตใจที่ไม่พร้อมรับ เหตุการณ์นี้ทำให้เพื่อนผมต้องเข้ารับการรักษาเกี่ยวกับโรคซึมเศร้าด้วยการเข้าพบจิตแพทย์เพื่อขอรับยาต้านอีกครั้ง ผมได้มีโอกาสพูดคุยกับแม่ของเพื่อนผมคนนี้ถึงเรื่องราวที่ผ่านมา และมันมีช่วงที่ผมได้เข้าไปรับรู้เรื่องราวส่วนนี้อยู่บ้าง ด้วยความที่แม่ของเพื่อนผมกังวลใจเป็นอย่างมากและรับรู้มาตลอดว่าเพื่อนผมถูกรังควาญจากอดีตแฟน โดยตลอดช่วง 2-3 เดือนที่เกิดเรื่องอดีตแฟนมีการเข้าออกสถานที่ทำงานอยู่บ่อยครั้ง เพื่อมากดดันเรื่องเกี่ยวกับการรับผิดชอบลูกในท้องของเธอ จนมีครั้งหนึ่งที่เธอถือใบอัตราซาวด์ ผลการตรวจเลือกและใบรับรองแพทย์มาให้กับหัวหน้าเพื่อนผมและเพื่อนผมดูเพื่อยืนยันว่าเธอท้องจริง เพื่อผมจึงขอถ่ายเอกสารเหล่านั้นไว้เพื่อนำมาดูและเก็บเป็นหลักฐาน ซึ่งช่วงนั้นอดีตแฟนของเพื่อนผมอ้างว่าตนเองนั้นตั้งครรภ์เข้าเดือนที่ 2 แล้วแต่กลับไม่มีใบฝากครรภ์มายืนยัน นี่คือสาเหตุที่ทำให้เพื่อนผมเริ่มตงิดใจถึงพฤติกรรมแปลก ๆ จึงได้เดินทางไปยังโรงพยาบาลต้นทางเพื่อจะนัดอดีตแฟนเก่าไปตรวจครรภ์อีกครั้ง แต่เมื่อไปถึงโรงพยาบาลอีกฝั่งกลับบอกว่าตนเองเดินทางมายังบ้านต่างอำเภอไม่สะดวกไปตอนนี้แม้ว่าวันก่อนหน้านั้นจะมีการตกลงที่จะมาตรวจครรภ์พร้อมกันแล้วก็ตาม เพื่อนผมจึงบอกว่าให้อีกฝั่งเลือกโรงพยาบาลที่ใกล้บ้านของเธอมา แต่ขอเป็นโรงพยาบาลเท่านั้นไม่เอาสถานพยาบาลอื่น ๆ เพราะต้องการใบรังรองแพทย์ที่ออกโดยโรงพยาบาลและผลตรวจที่ออกโดยโรงพยาบาลแต่เพียงเท่านั้น แต่เธอกลับบอกว่าเธอไม่สะดวกแล้ว และอย่าได้มาบังคับเธอเพราะมันจะทำให้เธอเครียดและส่งผลกระทบต่อลูกในท้องและได้วางสายกันไป แต่เมื่อมาถึงโรงพยาบาลแล้วเพื่อนผมก็อยากจะรับรู้ความจริงด้วยตนเอง เพื่อนผมเลือกที่จะถือผลตรวจที่อดีตแฟนเคยนำมายืนยันต่อหน้าหัวหน้าของตนเข้าไปถามคุณหมอเจ้าของไข้ ด้วยความที่โชคเข้าข้างโดยปกติคุณหมอท่านนี้มีตารางออกตรวจเฉพาะ ไม่ได้ออกตรวจทุกวันแต่บังเอิญว่าวันนั้นท่านออกตรวจพอดี
 
เพื่อนผมและคุณแม่ได้ถือเอกสารไปสอบถามคุณหมอเกี่ยวกับผลตรวจ เพื่อให้คุณหมออธิบายให้ฟังว่าผลตรวจที่ออกมานั้นหมายถึงอะไร และอ่านค่าการตรวจได้อย่างไรบ้าง ทางฝั่งคุณหมอชี้แจงว่าจำคนไข้ที่เข้ารับการตรวจจากเคสการตรวจนี้ได้เป็นอย่างดีเพราะมีการตรวจผลการตั้งครรภ์ผ่านปัสสาวะและตรวจเลือด คุณหมอแจ้งว่ามีการให้อุปกรณ์เพื่อให้คนไข้ไปตรวจปัสสาวะจริง แต่ปัสสาวะที่ได้มีการตกตะกอนเหมือนถูกเก็บมานาน แต่ถึงอย่างนั้นก็พบว่าผลขึ้นว่ามีการตั้งครรภ์จริง เพื่อความชัดเจนคุณหมอจึงขอเก็บเลือดเพื่อไปตรวจอีกครั้ง เพราะปัสสาวะอาจมีปัญหาจากการตกตะกอนได้ แต่เมื่อนำเลือดไปตรวจผลที่ได้คือไม่พบการตั้งครรภ์ จึงมีการนัดตรวจผู้หญิงคนนี้อีกครั้งในวันรุ่งขึ้น แต่เธอไม่ได้มาตามนัด คุณหมอเจ้าของไข้แจ้งว่าจำเคสนี้ได้เป็นอย่างดีเพราะตนเองมีการ โทร. ปรึกษาเพื่อนและพูดคุยกับอาจารย์ของตนว่าเคสนี้ผิดปกติ ตั้งแต่ออกตรวจมาได้เคยเจอเคสที่ตรวจปัสสาวะขึ้นว่าพบการตั้งครรภ์แต่ตรวจเลือดไม่พบการตั้งครรภ์ จากนั้นเพื่อนผมมีการยื่นใบรับรองแพทย์ที่อดีตแฟนเก่าอ้างว่าได้มาตรวจกับคุณหมอท่านนี้ให้คุณหมอดูเพื่อยืนยันเอกสารอีกครั้ง พบว่าเอกสารมีการตัดต่อดัดแปลงเกี่ยวกับวันที่ ลายเซ็นและผลการวินิจฉัย เรื่องราวนี้นอกจากจะสร้างความเสื่อมเสียและความอับอายให้เพื่อนผมในหน้าที่การงาน ทั้งยังสร้างความเสื่อมเสียให้แพทย์ประจำโรงพยาบาลนั้นอีกด้วย ทางคุณหมอจึงได้เสนอให้นิติกรของโรงพยาบาลลงมาพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องกฎหมายและช่วยชี้แนะแนวทางเรื่องของการแจ้งความฟ้องร้อง
 
เรื่องราวระหว่างทางรายละเอียดเยอะกว่านี้มาก ทั้งฝ่ายอดีตแฟนไม่ยอมฝากท้องในจังหวัดที่ตนทำงาน อ้างว่าจะไปฝากท้องที่กรุงเทพเท่านั้นและจะให้เพื่อนผมเดินทางพาเธอไปฝากท้องด้วย และบอกกับเพื่อนผมว่าการที่เธอมาเรียกร้องแบบนี้เธอไม่ได้ต้องการเงินทอง และไม่ได้ต้องสิ่งใดจากเพื่อนผม และได้ส่งข้อความมาบอกเพื่อนผมอีกว่าไม่อนุญาตให้เพื่อนผมเดินทางไปยังสถานที่ทำงานของเธอเพราะจะถือว่าเป็นการบุกรุก แต่เธอกลับเข้าออกสถานที่ทำงานของเพื่อนผมได้โดยไม่คำนึงถึงข้อนี้ เธอบอกอีกว่าพ่อแม่เธอรวมถึงที่ทำงานของเธอยังไม่มีใครทราบว่าเธอนั้นท้อง และไม่ให้เพื่อนผมบอกพ่อกับแม่ของเธอหรือแม้กระทั่งที่ทำงานของเธออย่างเด็ดขาด  ***แต่ขั้นต้นตอนที่ โทร. มาแจ้งกับเพื่อนผมว่าเธอตั้งท้อง กลับให้ผู้ใดผู้หนึ่งที่ไม่ใช่ญาติสนิทหรือคนในครอบครัวของเธอนั้นมาคุย*** (แอบงงเหมือนกันนะ)
 
เหตุผลที่ผมนำเรื่องของเพื่อนมาแชร์นั้นเพราะผมได้ติดตามไอจีของอดีตแฟนเพื่อนผมคนนี้ และพบว่าเธอเองยังไปสังสรรค์ได้ปกติ ยังอ้างว่าตนเองต้องเดินทางไปช่วยที่ชายแดนแม้ว่าตนเองจะอ้างกับเพื่อนผมว่าตนตั้งครรภ์อยู่ก็ตาม ยังใช้ชีวิตสวยหรูได้ปกติทั้ง ๆ ที่เพื่อนผมเข้าออกโรงพยาบาลเพื่อรักษาอาการเครียดและซึมเศร้าอยู่ทุกเดือน
 
ตอนนี้เรื่องของคดีความนั้นยังดำเนินการไปตามกระบวนการของทางกฎหมาย ผมจึงคุยกับเพื่อนเพื่ออยากนำเรื่องราวนี้มาแชร์ให้กับทุกคนได้รับรู้ไว้เพื่อเป็นอุทาหรณ์ ว่าคนแบบนี้มีอยู่จริงแม้ตอนนี้อีกฝั่งจะห่างหายจากเพื่อนผมไปแต่การกระทำในอดีตของเธอยังเป็นบาดแผลที่ยากจะรักษาให้หายไป ขอให้เรื่องราวนี้จบที่เพื่อนของผมและอย่าได้มีใครได้เป็นผู้ที่โชคร้ายได้ประสบพบเจอเรื่องราวแบบนี้อีกเลย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่