คบกันมากำลังจะ 3 ปี
แฟนผมเป็นฝ่ายมาจีบก่อน เขาจีบปีกว่า กว่าเราจะใจอ่อน (ยอมรับตรงๆว่าไม่ตรงสเปค ด้านภายนอก)
แต่ด้วยนิสัย (ตอนเขาจีบ) ก็ทำให้เรารักเขาได้ ดูเป็นคนเทคแคร์ แม่ศรีเรือน เป็นแม่ของลูกได้
แต่หลังจากคบกันไป ทะเลาะกันสัปดาห์เว้นสัปดาห์ ตลอดที่คบกัน (แน่นอนว่าคำพูด/การกระทำที่เชือดเฉือน เปิดประเดิม ไม่ได้เริ่มจากผม)
ผมแค่อยากจะคบกันไปโดยไม่ทะเลาะกันเลย
ยิ่งตอนเขากำลังจะมีประจำเดือน จะยิ่งหนัก
จากตอนแรกรักเขาอย่างบริสุทธิ์ ตอนนี้มีแต่ความทนในความประสาท...เยอะมาก
ปัญหาหลักๆ คือ ผมอยู่บ้านกับพ่อแม่ แต่เขาเป็นคนจากจังหวัดอื่น และมีคอนโดอยู่ตัวคนเดียว
เขาต้องการให้นอนกับเขาทุกวัน จะไปทำงานหรือไปไหน ก็ต้องกลับมานอนที่ห้องเขา
ซึ่งผมทำให้ไม่ได้ เพราะผมชอบอยู่แถวนี้ และก็อยากจะอยู่ดูแลพ่อแม่ด้วย (พ่อแม่ไม่ได้เจ็บป่วยอะไร แต่เราคิดว่าคนแก่ มันก็ควรจะมีลูกคอยพูดคุย จะได้ไม่เหงา จะได้อยู่กับเรานานๆ)
ก็พูดตกลงกันตั้งแต่แรกคบแล้ว และเขาก็ยินยอม และจะย้ายบ้านไปอยู่ด้วยกัน แถวบ้านผม หลังแต่งงานกัน (หลังจากที่แน่นอนแล้วว่านี่คือคู่ชีวิตจริงๆ)
คือไปๆมาๆ นอน 2-3 คืน สลับไปมา แล้วแต่โอกาส
แต่พอเอาเข้าจริง เวลาที่เขาคุมความรู้สึกว้าเหว่ของตัวเองไม่ได้ หรือถ้าเขามีความเครียดจากการทำงานมา เขาจะนอย ชวนทะเลาะ และต่อว่าเรา
มีแฟนก็เหมือนไม่มี ไม่มีคนอยู่ด้วยยามกลับมาห้อง
เช่น ถ้าเรานอนที่บ้าน คืนวันจันทร์ อังคาร พุธ และตกลงกันแล้วว่าจะไปอยู่กับเขาวัน พฤ ศ เสา อาทิตย์
ถ้าจังหวะดี (สำหรับเขา) เขาจะพยายามกลับจากที่ทำงานมาห้องไวๆ เช่น 5 โมง เพื่อจะได้เตรียมอาหาร กินข้าวด้วยกัน ดูซีรี่ด้วยกัน
ในขณะที่เราก็อยากทำนู่นทำนี่ของเราให้เสร็จก่อน เพื่อไปหาเขา 1 ทุ่มครึ่ง ในวันพฤ
ปรากฏว่า เขาก็จะชวนเราทะเลาะว่า ไม่รู้หรือไงว่าแฟนรอ ต้องรู้เวลาด้วยตัวเองสิ เรื่องนี้ต้องบอกด้วยหรอ
ไอเราก็คิดว่า เจอตอนหกโมง กับทุ่มครึ่งมันก็ไม่ต่างกัน
พอคุยด้วยเหตุผล ว่าเธอไม่บอก นี่ก็ไม่รู้นะ
เขาก็บอกว่าไม่อยากฟัง อย่าพูด ไม่เข้าใจหรือไง ไม่ต้องการเหตุผล แค่ต้องการความเข้าใจ ความรู้สึก โดยไม่ต้องร้องขอจากอีกฝ่าย
หรือ มีเหตุการณ์นึง ผมรู้สึกเขาดูงี่เงามากเลย
คือ คุยโทรศัพท์ตอนกลางคืนเสร็จ ส่งเข้านอนแล้ว
อยุ่ดีๆ เขาก็พิมพ์มาว่า ช่วงนี้ เหนื่อยจังเลย
เราเห็นก็พิมพ์ตอบกลับไปว่า รักกกนะ
ซึ่งเราก็คิดว่าเป็นการให้กำลังใจกัน เหมือนุทุกที
เราก็จบแล้วไปทำอย่างอื่นต่อ เพราะคิดว่าเขาจะอาบน้ำนอน
แต่ไม่เลย คล้อยหลัง 20 นาที เราไปทำอย่างอื่น ไม่ได้เปิดดูมือถือ
เขาส่งข้อความมาอีกหลายประโยค แล้วก็ unsend ไปหมด
เหลือประโยคท้าย ที่พิมพ์บอกว่า ... พิมพ์อะไรไปก็ไม่สนใจ...อ๋อไม่เป็นห่วงกันใช่ไหม ...ได้เข้าใจล่ะ
ก็เลยมาทะเลาะกันต่อ ทางข้อความ
เขาบอกหลังจากประโยคนี้ "ช่วงนี้ เหนื่อยจังเลย"
ผมไม่ควรตอบแค่ว่ารัก แต่ควรจะมี action บางอย่าง ข้อความบางอย่างที่มากกว่านี้ เช่น กอดๆนะ... เป็นไรไหม ...ให้ช่วยอะไรป่าว
ผมว่ามันเริ่มเยอะแล้ว มาคอยกำหนดบุคลิก..จริต..คำพูด..ความเป็นตัวตนของคนอื่น
จริงๆมันมีหลายเหตุการณ์ (ทะเลาะใหญ่ๆ เดือนละ 1-2 ครั้ง ทะเลาะเล็กๆน้อยๆ เช่น ของอันนี้ทำไมไม่วางตรงนี้ อันนี้ไม่นับนั)
มันจะวนเวียนกับ 2 เรื่อง นี้
1) เวลาที่ได้จะได้ใช้ร่วมกัน
2) ภาษารัก ที่เขาอยากให้เราเป็น อยากให้มีจริตที่แบบ ผู้ชายปากหวาน คอยปั้นคำพูด เป็นห่วงนู่นนี่ (อันนี้คิดเอาเอง)
ทั้งที่จริง เราก็รักและเป็นห่วงเขานะ
ผมอยากรู้ว่า ควรจะไปต่อหรือพอแค่นี้
ใจนึงมันก็รัก แต่ใจนึงมันก็ ทำไมต้องทน
เดี๋ยวดี เดี๋ยวร้าย ตอนดีก็ดีใจหาย
เธอผิดปกติ หรือผมผิดปกติในชีวิตคู่รักกันแน่?
แฟนผมเป็นฝ่ายมาจีบก่อน เขาจีบปีกว่า กว่าเราจะใจอ่อน (ยอมรับตรงๆว่าไม่ตรงสเปค ด้านภายนอก)
แต่ด้วยนิสัย (ตอนเขาจีบ) ก็ทำให้เรารักเขาได้ ดูเป็นคนเทคแคร์ แม่ศรีเรือน เป็นแม่ของลูกได้
แต่หลังจากคบกันไป ทะเลาะกันสัปดาห์เว้นสัปดาห์ ตลอดที่คบกัน (แน่นอนว่าคำพูด/การกระทำที่เชือดเฉือน เปิดประเดิม ไม่ได้เริ่มจากผม)
ผมแค่อยากจะคบกันไปโดยไม่ทะเลาะกันเลย
ยิ่งตอนเขากำลังจะมีประจำเดือน จะยิ่งหนัก
จากตอนแรกรักเขาอย่างบริสุทธิ์ ตอนนี้มีแต่ความทนในความประสาท...เยอะมาก
ปัญหาหลักๆ คือ ผมอยู่บ้านกับพ่อแม่ แต่เขาเป็นคนจากจังหวัดอื่น และมีคอนโดอยู่ตัวคนเดียว
เขาต้องการให้นอนกับเขาทุกวัน จะไปทำงานหรือไปไหน ก็ต้องกลับมานอนที่ห้องเขา
ซึ่งผมทำให้ไม่ได้ เพราะผมชอบอยู่แถวนี้ และก็อยากจะอยู่ดูแลพ่อแม่ด้วย (พ่อแม่ไม่ได้เจ็บป่วยอะไร แต่เราคิดว่าคนแก่ มันก็ควรจะมีลูกคอยพูดคุย จะได้ไม่เหงา จะได้อยู่กับเรานานๆ)
ก็พูดตกลงกันตั้งแต่แรกคบแล้ว และเขาก็ยินยอม และจะย้ายบ้านไปอยู่ด้วยกัน แถวบ้านผม หลังแต่งงานกัน (หลังจากที่แน่นอนแล้วว่านี่คือคู่ชีวิตจริงๆ)
คือไปๆมาๆ นอน 2-3 คืน สลับไปมา แล้วแต่โอกาส
แต่พอเอาเข้าจริง เวลาที่เขาคุมความรู้สึกว้าเหว่ของตัวเองไม่ได้ หรือถ้าเขามีความเครียดจากการทำงานมา เขาจะนอย ชวนทะเลาะ และต่อว่าเรา
มีแฟนก็เหมือนไม่มี ไม่มีคนอยู่ด้วยยามกลับมาห้อง
เช่น ถ้าเรานอนที่บ้าน คืนวันจันทร์ อังคาร พุธ และตกลงกันแล้วว่าจะไปอยู่กับเขาวัน พฤ ศ เสา อาทิตย์
ถ้าจังหวะดี (สำหรับเขา) เขาจะพยายามกลับจากที่ทำงานมาห้องไวๆ เช่น 5 โมง เพื่อจะได้เตรียมอาหาร กินข้าวด้วยกัน ดูซีรี่ด้วยกัน
ในขณะที่เราก็อยากทำนู่นทำนี่ของเราให้เสร็จก่อน เพื่อไปหาเขา 1 ทุ่มครึ่ง ในวันพฤ
ปรากฏว่า เขาก็จะชวนเราทะเลาะว่า ไม่รู้หรือไงว่าแฟนรอ ต้องรู้เวลาด้วยตัวเองสิ เรื่องนี้ต้องบอกด้วยหรอ
ไอเราก็คิดว่า เจอตอนหกโมง กับทุ่มครึ่งมันก็ไม่ต่างกัน
พอคุยด้วยเหตุผล ว่าเธอไม่บอก นี่ก็ไม่รู้นะ
เขาก็บอกว่าไม่อยากฟัง อย่าพูด ไม่เข้าใจหรือไง ไม่ต้องการเหตุผล แค่ต้องการความเข้าใจ ความรู้สึก โดยไม่ต้องร้องขอจากอีกฝ่าย
หรือ มีเหตุการณ์นึง ผมรู้สึกเขาดูงี่เงามากเลย
คือ คุยโทรศัพท์ตอนกลางคืนเสร็จ ส่งเข้านอนแล้ว
อยุ่ดีๆ เขาก็พิมพ์มาว่า ช่วงนี้ เหนื่อยจังเลย
เราเห็นก็พิมพ์ตอบกลับไปว่า รักกกนะ
ซึ่งเราก็คิดว่าเป็นการให้กำลังใจกัน เหมือนุทุกที
เราก็จบแล้วไปทำอย่างอื่นต่อ เพราะคิดว่าเขาจะอาบน้ำนอน
แต่ไม่เลย คล้อยหลัง 20 นาที เราไปทำอย่างอื่น ไม่ได้เปิดดูมือถือ
เขาส่งข้อความมาอีกหลายประโยค แล้วก็ unsend ไปหมด
เหลือประโยคท้าย ที่พิมพ์บอกว่า ... พิมพ์อะไรไปก็ไม่สนใจ...อ๋อไม่เป็นห่วงกันใช่ไหม ...ได้เข้าใจล่ะ
ก็เลยมาทะเลาะกันต่อ ทางข้อความ
เขาบอกหลังจากประโยคนี้ "ช่วงนี้ เหนื่อยจังเลย"
ผมไม่ควรตอบแค่ว่ารัก แต่ควรจะมี action บางอย่าง ข้อความบางอย่างที่มากกว่านี้ เช่น กอดๆนะ... เป็นไรไหม ...ให้ช่วยอะไรป่าว
ผมว่ามันเริ่มเยอะแล้ว มาคอยกำหนดบุคลิก..จริต..คำพูด..ความเป็นตัวตนของคนอื่น
จริงๆมันมีหลายเหตุการณ์ (ทะเลาะใหญ่ๆ เดือนละ 1-2 ครั้ง ทะเลาะเล็กๆน้อยๆ เช่น ของอันนี้ทำไมไม่วางตรงนี้ อันนี้ไม่นับนั)
มันจะวนเวียนกับ 2 เรื่อง นี้
1) เวลาที่ได้จะได้ใช้ร่วมกัน
2) ภาษารัก ที่เขาอยากให้เราเป็น อยากให้มีจริตที่แบบ ผู้ชายปากหวาน คอยปั้นคำพูด เป็นห่วงนู่นนี่ (อันนี้คิดเอาเอง)
ทั้งที่จริง เราก็รักและเป็นห่วงเขานะ
ผมอยากรู้ว่า ควรจะไปต่อหรือพอแค่นี้
ใจนึงมันก็รัก แต่ใจนึงมันก็ ทำไมต้องทน
เดี๋ยวดี เดี๋ยวร้าย ตอนดีก็ดีใจหาย