สวีดัส สวัสดี อย่าเพิ่งบ่นว่ากระทู้ลดน้ำหนักเข้ามาตั้งเพิ่มอีกแล้ว เข้ามาอ่านกันก่อนนนน อย่าเพิ่งทิ้งกันไปเน้ออออ /ส่งสายตาปิ๊งๆ และก่อนอื่นต้องขอบอกไว้ก่อนเลยว่านี่เป็นครั้งแรกที่เข้ามาตั้งกระทู้ (สาระ) ในพันทิป จริงๆ แล้วเราจะวนเวียนอยู่ในโลกคู่ขนานกับพันทิปมากกว่า
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้(Palm Plaza) แต่เราก็เคยตั้งกระทู้ (ไร้สาระ) ไปก็หลายกระทู้อยู่ อุ๊ปส์ 555555555 และก็ขอบอกไวก่อนเลยว่าประสบการณ์ลดน้ำหนักของเรานั้นอาจจะผิดวิธีไปบ้าง (อย่างที่หลายคนในห้องนี้ไม่ค่อยชอบกันเท่าใหร่ งิงิ) แต่สุดท้าย ในเวลาปีครึ่ง เราก็สามารถลดน้ำหนักลงมาได้ถึง 67 กิโล แบบลดเอง และไม่ได้ใช้ยา หรืออาหารเสริมใดๆ แม้แต่อย่างเดียว
*ภาษาในกระทู้อาจวิบัติไปบ้าง แต่ขอใช้เพื่อให้เกิดการเร้าอารมณ์ในการอ่านนะคะ จุ๊บบบ 555555555555
จริงๆ แล้วก่อนเราจะเข้าปีหนึ่ง (ปีการศึกษา 2555) เราก็ไม่ได้เป็นคนที่อ้วนมากมายอะไรเป็นทุนเดิมอยู่แล้วด้วย ตอนมอปลาย น้ำหนักเราก็วิ่งไปวิ่งมาระหว่าง 109 ถึง 110 “เอง”
แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น 555555 หลังที่เราได้ย้ายตัวเองจากบ้านเกิดมาเป็นสาวเมืองกรุงย่านท่าพระจันทร์ น้ำหนักเราก็พุ่งขึ้นไปสิบโลภายในหนึ่งปี (ว้อททททเดอะ!!!) แต่ถ้าใครอยู่เรียนอยู่ท่าพระจันทร์จริงๆ จะเข้าใจเลยว่าทำไมน้ำหนักของแต่ละคนตั้งแต่ปีหนึ่งไปปีสองนั้น จะขึ้นไปเร็วมากกกกกก เพราะว่าอาหารย่านนั้นนี่ถือว่าแซ่บบบบบบ มีตั้งแต่ร้านข้าวแกง street food หมูทอด หมูปิ้ง โรตีงี้ ไอติม น้ำปั่นเจ๊หมวยชื่อดัง ต้มยำมันกุ้งรอบดึกอีก ยันร้านอาหารญี่ปุ่นอะแกกกกกก
คือแบบอาหารมีให้เลือกเยอะมากกกก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้(นี่ขนาดไม่นับรวมอาหารตาในมหาลัยกับมหาลัยเพื่อนบ้านอย่างแพทย์ศิริราชกับเด็กศิลปากรนะ) 555555555
พอผ่านไปหนึ่งปี ตอนนั้นจำไม่ค่อยได้ละว่าเป็นเดือนไหน แต่แบบเป็นช่วงก่อนจะปิดทอมเดือนกุมภามีนาเมษาอ่ะ (ตอนนั้นเคยทำตารางลดน้ำหนักละจดวันที่ไว้ ตอนนี้ ฟิ้ววววววววหายไปกับสายลมละแงงง) ตอนนั้นจำได้ว่าเป็นช่วงที่มีทริปกับของโครงการไปเที่ยวลาวใต้ ปากเซ จำปาสักไรงี้ เราก็ถ่ายรูปเล่นสวยๆ ตามสไตล์ทัวร์ไทย (ประมาณว่าอากาศร้อนชิ*หาย แต่ก็ใส่ผ้าพันคอ เพื่อ? ) แต่ประเด็นอยู่ที่ พอเห็นรูปถ่ายแบบอยากจะกรี๊ดมากกกกก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้นี่ใคร ทำไมสวยจัง ผิดๆ 555555555
มีวันนึงตอนนั้นก็ไปให้เพื่อนย้อมผมให้ที่หอเพื่อน (จำได้ว่าเทรนผมน้ำตาลกำลังมาแรงเลยทำบ้าง สุดท้ายหน้าแบบว่า....... เอิ่มมมมม ตามนั้น) ละตอนนั้นก็แบบเอนจอยอีทติ้งกันอย่างเมามัน แล้วสายตาเราก็เหลือบไปเห็นเครื่องชั่งน้ำหนักของเพื่อน อินี่ก็โดนอะไรเข้าสิงสักอย่าง เดินไปขึ้นตาชั่งอย่างงงๆ “120”ไม่ ไม่ ไม่เชื่อสายตาตัวเอง อ่ะดูใหม่ “120” การี๊ดดดดดดดดด พ่อแก้วแม่แก้ววววว ไม่จริงใช่มั้ยยยยยยยย สุดท้ายเราก็ไปออดอ้อนพ่อให้ซื้อเครื่องชั่งแบบดิจิทัลให้ โอเค เชื่อก็เชื่อ งืออออออ :’(
อ่ะ มาเข้าเรื่องการลดน้ำหนักกันดีกว่า แรกเริ่มเดินทีนั้น น้ำหนักยืนพื้นตอนนั้นก็ 120 เนี่ยแหละ ละแบบเราป็นคนที่ไม่ค่อยมี inspire ในการลดน้ำหนัก ตอนนั้นพระเจ้าก็มาโปรด
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้พ่อยื่นขอเสนอในการจ้างลดน้ำหนัก 1,000 บาทต่อกิโล (หูยยยยยย ผมนี่แบบอยากลดเลย) เริ่มแรก !! เราก็พยายาหาข้อมูลการลดน้ำหนักนู่นนี่จากในอนเตอร์เน็ต อ่านในพันทิปบ้างประปราย แล้วเริ่มคิดที่จะดูพี่จอห์นสุดหล่อใน Spoke dark แทนที่จะดูการสอนแต่งหน้าไปฮาไปฮาไปของพี่โมเม
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้(ทั้งๆที่ไม่สามารถจะแต่งตามพี่เค้าแล้วสวยแบบนั้นได้ 55555555) จากนั้นก็เริ่มดำเนินการลดน้ำหนัก โดยการนับแคลอรี่ จริงๆแล้วเราจะควบคุมการกินไปด้วย ควบคู่กับการนับแคลนะ แบบประมาณว่าลดของทอด ลดของมัน ลดขนมขบเคี้ยว ลดน้ำอัดลม หลังจากนั้นก็เริ่มงด ทุกอย่างลง หันไปเน้นพวกต้มจืดหมูสับ สลัดผัก (กินข้าวน้อยลงเหลือมื้อเดียว บางวันกินขนมปังแทนเบาๆ) ตอนนั้นจำได้ว่าน้ำหนักลงเร็วมากกกกกกก แบบที่ชีวิตนี้ไม่เคยจะเป็นมาก่อน คือเล่าแบบรวมๆ เลยนะ คือช่วงสามเดือนแรกนี่มันเดือนรับทรัพย์ดีๆ นี่เอง เอาจริงตอนแรกเราก็ไม่เชื่อเหมือนกันว่าการที่คนเราจะน้ำหนักลดลงเดือนละสิบโลมันจะเป็นเรื่องจริง แต่พอมาเจอกับตัวเอง ผมนี่ช็อคไปเลยยยยยย
ตอนนั้นจะบอกว่าทรมาณมากกกกก ไอ้สามเดือนแรกก่อนร่างกายจะชินนี่แหละ มันเป็นช่วงนรกอย่างแท้จริง ทั้งหิวนู่น อยากนี่ (ส่วนใหญ่จะเป็นกรณีของความอยากเสียมากกว่า 555555) ละในช่วงนั้นเราเสพติการชั่งน้ำหนักมากกกกก ชั่งตลอดเลย กินนิดหน่อยก็ชั่ง ตื่นก็ชั่ง อาบน้ำเสร็จก็ชั่ง ละจะทำชาร์ตไว้ว่าวันนี้น้ำหนักเปลี่ยนมั้ย และก็แบบมานั่งทบทวนว่าวันนี้เรากินอะไร ออกกำลังอะไรไปบ้าง และช่วงแรกๆ ที่น้ำหนัก 100++ ถึงน้ำหนักเกือบๆ 80 เราก็ไม่ได้ออกกำลังกายเลย มากสุดก็แค่เกินไปเดินมา เดินเร็วงี้
*กรี๊ดดดดดด รูปใหญ่ไปขออภัยะคะ /กราบ
[รูปเยอะ] จาก 120 สู่ 55 จาก 2XL ไป M จาก 44" เหลือ 29" (น้ำตาจะไหลขอแชร์นะคะ)
*ภาษาในกระทู้อาจวิบัติไปบ้าง แต่ขอใช้เพื่อให้เกิดการเร้าอารมณ์ในการอ่านนะคะ จุ๊บบบ 555555555555
จริงๆ แล้วก่อนเราจะเข้าปีหนึ่ง (ปีการศึกษา 2555) เราก็ไม่ได้เป็นคนที่อ้วนมากมายอะไรเป็นทุนเดิมอยู่แล้วด้วย ตอนมอปลาย น้ำหนักเราก็วิ่งไปวิ่งมาระหว่าง 109 ถึง 110 “เอง”
แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น 555555 หลังที่เราได้ย้ายตัวเองจากบ้านเกิดมาเป็นสาวเมืองกรุงย่านท่าพระจันทร์ น้ำหนักเราก็พุ่งขึ้นไปสิบโลภายในหนึ่งปี (ว้อททททเดอะ!!!) แต่ถ้าใครอยู่เรียนอยู่ท่าพระจันทร์จริงๆ จะเข้าใจเลยว่าทำไมน้ำหนักของแต่ละคนตั้งแต่ปีหนึ่งไปปีสองนั้น จะขึ้นไปเร็วมากกกกกก เพราะว่าอาหารย่านนั้นนี่ถือว่าแซ่บบบบบบ มีตั้งแต่ร้านข้าวแกง street food หมูทอด หมูปิ้ง โรตีงี้ ไอติม น้ำปั่นเจ๊หมวยชื่อดัง ต้มยำมันกุ้งรอบดึกอีก ยันร้านอาหารญี่ปุ่นอะแกกกกกก
คือแบบอาหารมีให้เลือกเยอะมากกกก [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ 555555555
พอผ่านไปหนึ่งปี ตอนนั้นจำไม่ค่อยได้ละว่าเป็นเดือนไหน แต่แบบเป็นช่วงก่อนจะปิดทอมเดือนกุมภามีนาเมษาอ่ะ (ตอนนั้นเคยทำตารางลดน้ำหนักละจดวันที่ไว้ ตอนนี้ ฟิ้ววววววววหายไปกับสายลมละแงงง) ตอนนั้นจำได้ว่าเป็นช่วงที่มีทริปกับของโครงการไปเที่ยวลาวใต้ ปากเซ จำปาสักไรงี้ เราก็ถ่ายรูปเล่นสวยๆ ตามสไตล์ทัวร์ไทย (ประมาณว่าอากาศร้อนชิ*หาย แต่ก็ใส่ผ้าพันคอ เพื่อ? ) แต่ประเด็นอยู่ที่ พอเห็นรูปถ่ายแบบอยากจะกรี๊ดมากกกกก [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ 555555555
มีวันนึงตอนนั้นก็ไปให้เพื่อนย้อมผมให้ที่หอเพื่อน (จำได้ว่าเทรนผมน้ำตาลกำลังมาแรงเลยทำบ้าง สุดท้ายหน้าแบบว่า....... เอิ่มมมมม ตามนั้น) ละตอนนั้นก็แบบเอนจอยอีทติ้งกันอย่างเมามัน แล้วสายตาเราก็เหลือบไปเห็นเครื่องชั่งน้ำหนักของเพื่อน อินี่ก็โดนอะไรเข้าสิงสักอย่าง เดินไปขึ้นตาชั่งอย่างงงๆ “120”ไม่ ไม่ ไม่เชื่อสายตาตัวเอง อ่ะดูใหม่ “120” การี๊ดดดดดดดดด พ่อแก้วแม่แก้ววววว ไม่จริงใช่มั้ยยยยยยยย สุดท้ายเราก็ไปออดอ้อนพ่อให้ซื้อเครื่องชั่งแบบดิจิทัลให้ โอเค เชื่อก็เชื่อ งืออออออ :’(
อ่ะ มาเข้าเรื่องการลดน้ำหนักกันดีกว่า แรกเริ่มเดินทีนั้น น้ำหนักยืนพื้นตอนนั้นก็ 120 เนี่ยแหละ ละแบบเราป็นคนที่ไม่ค่อยมี inspire ในการลดน้ำหนัก ตอนนั้นพระเจ้าก็มาโปรด [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ (หูยยยยยย ผมนี่แบบอยากลดเลย) เริ่มแรก !! เราก็พยายาหาข้อมูลการลดน้ำหนักนู่นนี่จากในอนเตอร์เน็ต อ่านในพันทิปบ้างประปราย แล้วเริ่มคิดที่จะดูพี่จอห์นสุดหล่อใน Spoke dark แทนที่จะดูการสอนแต่งหน้าไปฮาไปฮาไปของพี่โมเม [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ จากนั้นก็เริ่มดำเนินการลดน้ำหนัก โดยการนับแคลอรี่ จริงๆแล้วเราจะควบคุมการกินไปด้วย ควบคู่กับการนับแคลนะ แบบประมาณว่าลดของทอด ลดของมัน ลดขนมขบเคี้ยว ลดน้ำอัดลม หลังจากนั้นก็เริ่มงด ทุกอย่างลง หันไปเน้นพวกต้มจืดหมูสับ สลัดผัก (กินข้าวน้อยลงเหลือมื้อเดียว บางวันกินขนมปังแทนเบาๆ) ตอนนั้นจำได้ว่าน้ำหนักลงเร็วมากกกกกกก แบบที่ชีวิตนี้ไม่เคยจะเป็นมาก่อน คือเล่าแบบรวมๆ เลยนะ คือช่วงสามเดือนแรกนี่มันเดือนรับทรัพย์ดีๆ นี่เอง เอาจริงตอนแรกเราก็ไม่เชื่อเหมือนกันว่าการที่คนเราจะน้ำหนักลดลงเดือนละสิบโลมันจะเป็นเรื่องจริง แต่พอมาเจอกับตัวเอง ผมนี่ช็อคไปเลยยยยยย
ตอนนั้นจะบอกว่าทรมาณมากกกกก ไอ้สามเดือนแรกก่อนร่างกายจะชินนี่แหละ มันเป็นช่วงนรกอย่างแท้จริง ทั้งหิวนู่น อยากนี่ (ส่วนใหญ่จะเป็นกรณีของความอยากเสียมากกว่า 555555) ละในช่วงนั้นเราเสพติการชั่งน้ำหนักมากกกกก ชั่งตลอดเลย กินนิดหน่อยก็ชั่ง ตื่นก็ชั่ง อาบน้ำเสร็จก็ชั่ง ละจะทำชาร์ตไว้ว่าวันนี้น้ำหนักเปลี่ยนมั้ย และก็แบบมานั่งทบทวนว่าวันนี้เรากินอะไร ออกกำลังอะไรไปบ้าง และช่วงแรกๆ ที่น้ำหนัก 100++ ถึงน้ำหนักเกือบๆ 80 เราก็ไม่ได้ออกกำลังกายเลย มากสุดก็แค่เกินไปเดินมา เดินเร็วงี้
*กรี๊ดดดดดด รูปใหญ่ไปขออภัยะคะ /กราบ