ภายุที่การีมุนยาวาพัดพาพวกเราไปไกลถึงบาหลี

กระทู้สนทนา
กระทู้นี้ถือว่าเป็นกระทู้แรกที่จริงจังที่สุดนับตั้งแต่ตั้งกระทู้มาเลยครับ ผิดพลาดอะไรก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ
** ภาพบางภาพอาจจะไม่ชัดบ้าง เบลอบ้าง ต้องขอภัยล่วงหน้านะครับ **
กระทู้นี้จะเป็นบันทึกการเดินทางช่วงปิดเทอมที่ผ่านมาของผมนะครับ ที่ตอนแรกตั้งใจจะไปเที่ยวซักที่ ก็คุยกันในกลุ่มว่าจะไป การีมุนยาวา



เดินทางจากที่พักไปที่สถานีรถโดยสารประมาณ 15 นาทีครับ อากาศช่วงบ่ายๆไม่ร้อนมาก



จากจาการ์ตาไปเจอปาราเมืองท่าที่จะโดยสารเรือไปเกาะการีมุนยาวาประมาณ 8 ชม ครับ



เราถึงที่เจอปาราประมาณตี 4 ครับก็แวะพักที่มัสยิดแถวๆนั้น รอจนเช้ามืด



เดินมาไม่นานก็เจอป้ายบอกทางไปท่าเรือ จริงๆก็ไม่เชิงบอกทางไปหรอกครับ พวกผมหลงเดินอ้อมไปเป็นกิโลเลย





ตลอดสองข้างทางก็จะมีบ้านของชาวประมงแถวๆนั้นละครับ มองพวกเราด้วยสายตาแปลกๆ ๕๕๕๕๕



ไม่มีคนเลยครับ ไปถามจากชาวบ้านแถวๆนั้นเขาบอกว่าเรือไม่ออกมา 2 สัปดาห์แล้วมรสุมเข้า เงิบกันหมดครับ
ตอนนั้นเฟลกันเป็นแถวๆ เดินทางมาตั้งไกลเดินเท้าต่ออีก มาเจอบอกเรือไม่ออก ก็เลยคุยกันว่าจะเอาไง
สุดท้ายก็มีคนนึงในกลุ่มพูดขึ้นว่า "ไปบาหลียิ้ม" ทุกคนก็แบบอึ้งครับ เพราะงบมีจำกัด ก็ยังไม่ยืนยันกันว่าเอาไง
ก็เลื่อนการเดินทางไป เป็นย็อคจาการ์ตา เมืองทีสองที่กะว่าจะไปหลังจากกกลับจากเกาะ




เมืองนี้เป็นระเบียบมากครับ แปลกตาไปเลย สะอาด รถวิ่งกันเป็นระเบียบ




เดินไปหาที่พักขับ เป็นบ้านเช้าของเพื่อนของเพื่อนคนในกลุ่มเดินทาง
ค่ำๆของวันนั้นเราก็ไปเช้ารถกัน เพื่อใช้เดินทางในวันพรุ่งนี้ครับ
โดยตั้งใจจะไปหาชายหา ต้มชา นั่งดูพระอาทิตย์ขึ้นกันตอนเช้า




เจอหาดละครับ หาดของชาวประมงหาปลา ไม่มีที่นั่งอาครับ กลิ่นก็ไม่ชวนให้นั่งจิบหาด้วย ๕๕๕๕๕๕





เจอละครับหาดที่จะไปนั่งจิบชาดูพระอาทิตย์ขึ้นกัน เจอตอน 9 โมวกว่าๆ ชงชาไม่กินกันละครับ บะหมี่คนละถ้วยยังไม่พอ
เย็นวันนั้นเราก็เดินทางกันต่อครับมาที่ ปันยูวางิเมืองท่าที่ไปข้ามไปบาหลีกัน




เดินทาง 13 ชม โมงครับมาถึงเช้าๆ ตอนบ่ายก็พักพ่อนกัน เพราะคืนนี้นั้นเราต้อวเดินทางต่อ

ที่ต่อไปที่ไปกันคือภูเขาไฟ กะวะ อิเจน ครับ อันนี้ไปเป็นภาพในปล่องภูเขาไฟ จะมีแสงออกมาจากตรงไหนไม่รู้ครับ ๕๕๕๕๕
ควันเหลืองๆเต็มไปหมดมองแทบไม่เห็นอะไรเลยครับ แสบตามาก หายใจก็ไม่ถนัด






ภาพวิวด้านบน รอบภูเขไฟครับ เช้ามืดๆาสวยมากครับ

ตลอดทางขึ้นลงเขาจะเจอ พี่ๆลุงๆแบกกำมะถันกันตลอดครับ หนักมากครับแต่ละก่อน ไม่น่าจะต่ำกว่า 5 กิโล
พวกผมนี่ไปกันตัวเปล่าๆ ตอนเดินขึ้นเขานี่พักเป็น 10 รอบ แต่พวกพี่ๆลุงๆนี่ตอนขึ้นไม่พักเลยครับ พักตอนขนกำะถันกลับ



บ่ายๆวันนั้นเราก็ออกจากที่พัก เดินทางไปท่าข้ามเรือเพื่อไปบาหลีกันต่อเลย




ค่าข้ามเรือก็ไม่แพงมาครับ ประมาณ 25 บาท พอถึงฝั่งบาหลี ฝนกำลังตกเลยครับ



หลังจากนั้นก็นั่งรถต่อไปที่โอดุงครับเพื่อหาที่พัก วิวข้างทางสวยมากคครับตอนนี้
ด้านซ้านจะเป็นนาแบบขั้นบันได ส่วนด้านขวาจะเป็นชายหาดบาหลีที่พระอาทิตย์กำลังคล้อยจะตก



กว่าจะถึงก็ใช้เวลาเกือบ 5 ชม ครับ




ถึงที่พักแล้วคครับ อาหารที่นั้นถูกมาก ของใช้ก็ถูกกว่าที่จาการ์ตาเยอะเลยครับ



บ่ายวันถัดมาเราขึ้นเขาไปที่เบอดูกุนครับ เป็นทะเลสาบบนภูเขา มีศาสนสถานน่าจะเป็นของศาสนาฮินดู




เช้าวันถัดมาเราก็ไปดูพระอาทิตย์ขึ้นที่หาดสะนูร



บ่ายๆ ก็ขับก็ไปหาที่เที่ยวกันต่อ มาแบบนัวๆ มาโผล่ที่อะไรไม่รู้ครับ ชาวต่างชาติเพียบ เล่นเซิฟบอร์ด กันตรึม
บางคนก็นอนอาบแดด มีสอนเล่นโยขะด้วยครับ






วันถัดมาจะไปดำน้ำกันครับ ที่เกาะนูสา ปานิดา นั่งกันบนหลังคาเรือกันเลยครับ ข้างล่างของเต็ม






เช้าวันถัดมาเรานั่งเรือกลับมาที่บาหลี เพื่อไปที่สุดท้ายครับจบการเดินทางครั้งนี้






ชายหาดกูเตอ มีแต่ชาวต่างชาติเต็มไปหมดมีแหล่งช็อบปิ้งร้านค้า ที่พักครบ



เช้าวันถัดมาเราก็มาขึ้นรถที่ท่ารถของโอดุงครับ เพื่อไปที่ท่าเรือ ต่อไปปันยูวางิ
พอถึงปันยูวางิ ฝนตกเลยครับหนักมาก เราต่อรถจากที่นั้นไป ย็อคจาการ์ตาครับ



ถึงย็อคยาตอนเช้าๆครับ ก็ต่อรถประจำทางมาลงที่สถานีรถไฟ เพื่อกลับจาการ์ตา




ถึงจาการ์ตาตอนเที่ยงคืนครับ เป็นอะไรที่สบายใจมาก เหนื่อนมาก สนุกมาก ปวดตูดมากด้วย
ไปครั้งนี้ได้อะไรเยอะเลยครับโดนโกงก็บ่อย โดนปั่นราคาเพราะเป็นต่างชาติ แต่ก็ผ่านมาด้วยดีครับ

** ผิดพลาดตรงไหนขออภัยด้วยนะครับ **  
ปล. ขอบคุณทุกๆท่านที่สละเวลามาอ่านนะครับ
อมยิ้ม17อมยิ้ม04อมยิ้ม16
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่