พิธีสาบานตนของนักการเมืองและข้าราชการอินโดนีเซีย (พร้อมเรื่องการปกครองส่วนภูมิภาค)

วันนี้ตั้งกระทู้บทความเกี่ยวกับเรื่องการสาบานตนของนักการเมืองและข้าราชการอินโดนีเซีย ตั้งแต่ประธานาธิบดีจนถึงนายอำเภอ

การสาบานตนของนักการเมืองอินโดนีเซีย เรียกในภาษาอินโดนีเซียว่า ซุมปะห์ จะบาตัน (Sumpah Jabatan) แปลตรงว่า กล่าวคำสาบานตน หรืออีกคำคือ เปอะลันติกัน (Pelantikan) หรือบางทีก็เรียกว่า ดิลันติก (Dilantik) แปลตรงตัวว่าได้รับการแต่งตั้ง เป็นพิธีการที่มักจะเห็นได้บ่อยในสื่ออินโดนีเซีย แต่การสาบานตนที่มักเป็นที่จับตาที่สุดก็คือการสาบานตนของประธานาธิบดีและรองประธานาธิบดี ซึ่งครั้งล่าสุดเกิดขึ้นในเดือนตุลาคม ปี 2024 (พ.ศ. 2567) ที่ผ่านมา ระหว่าง ปราโบโว ซูเบียนโต และ กิบรัน รากาบูมิง รากา

พิธีสาบานตนครั้งแรก เกิดขึ้นในปี 1946 (พ.ศ. 2489) โดยซูการ์โนเป็นผู้สาบานตนในฐานะประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐแห่งสหรัฐอินโดนีเซีย โดยรับอิทธิพลคล้ายกับพิธีสาบานตนของประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาแต่ดัดแปลงให้เป็นแบบอิสลาม โดยมีผู้ถือพระคัมภีร์กุรอานไว้เหนือศีรษะหรือใกล้ศีรษะผู้สาบานตนขณะกล่าวคำสาบาน โดยผู้ที่รับรองคำสาบานของซูการ์โนคือ กุสุมะห์ อัตมาจะ ประธานศาลสูงสุดของอินโดนีเซียคนแรก และพิธีสาบานตนครั้งแรกจัดขึ้นพระราชวังสุลต่านโยกยาการ์ตา เนื่องจากขณะนั้นอินโดนีเซียยังอยู่ในสภาวะสงครามเรียกร้องเอกราชจากเนเธอร์แลนด์

การสาบานตนของนักการเมืองและข้าราชการ แตกต่างกันไปตามตำแหน่งและศาสนาของผู้สาบานตน หากเป็นประธานาธิบดีและรองประธานาธิบดี จะกระทำการสาบานตนต่อรัฐสภาและตุลาการ โดยปกติจัดขึ้นที่อาคารรัฐสภา แต่บางกรณีจะพิเศษอย่างกรณีของซูการ์โนที่กล่าวไว้ข้างตน และกรณีของยูซุฟ บาจารุดดิน ฮาบิบี ซึ่งสาบานตนแทบทันทีหลังซูฮาร์โตประกาศลาออก ณ ทำเนียบประธานาธิบดี ในปี 1998 (พ.ศ. 2541)

การสาบานตนในระดับอื่นๆ หรือรองลงมาจะแตกต่างกันไป เช่น ประธานสภาผู้แทนราษฎร จะสาบานต่อหน้าประธานศาลสูงสุด ขณะที่ประธานศาลสูงสุด ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้บัญชาการเหล่าทัพ จนถึงตำแหน่งผู้ว่ากรุงจาการ์ตา และผู้ว่าราชการจังหวัดต่างๆ จะสาบานตนกันต่อหน้าประธานาธิบดีอินโดนีเซีย รวมถึงผู้ว่าการและรองผู้ว่าการเขตโยกยาการ์ตาซึ่งตามตำแหน่งจะต้องเป็นสุลต่านโยกยาการ์ตาและเจ้าชายปะกูอาลัม แม้จะสามารถดำรงตำแหน่งได้ตลอดพระชนม์ชีพ แต่ก็มีวาระให้ต้องต่อกันไปเรื่อยๆ และต้องสาบานพระองค์ในฐานะผู้ว่าการและรองผู้ว่าการต่อหน้าประธานาธิบดีอินโดนีเซียเช่นเดียวกับผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วๆ ไป
การสาบานในตำแหน่งรองลงมาระดับภูมิภาค คือ นายกเทศมนตรี ซึ่งปกครองในระดับนครหรือ Kota (เทียบเท่าเทศบาลหรือ City/Town ของอเมริกา) หรือนายอำเภอ ซึ่งปกครองในระดับอำเภอหรือ Kabupaten (เทียบเท่า อบต. แต่เป็นในระดับอำเภอ ใกล้เคียงกับ County ของอเมริกา) จะทำการสาบานต่อหน้าผู้ว่าการจังหวัด นอกจากนี้ยังมีตำแหน่งหัวหน้าเขตหรือ Camat (เทียบเท่ากำนันตำบล) ซึ่งเป็นข้าราชการที่ได้รับการแต่งตั้งจากนายกเทศมนตรีหรือนายอำเภอ และจะทำการสาบานต่อต่อหน้านายกเทศมนตรีหรือนายอำเภอ และหัวหน้าแขวง/ผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งแบ่งเป็น 2 กรณีคือ หากเป็น Luruh หรือแขวง (ซึ่งส่วนมากจะอยู่ในเมืองหลวงจาการ์ตา หรือนครต่างๆ) จะเป็นข้าราชการที่ได้รับแต่งตั้งเช่นเดียวกัน แต่หากเป็น Desa หรือหมู่บ้าน (ซึ่งส่วนมากจะอยู่ในอำเภอ) จะมีการเลือกผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งทั้งหัวหน้าแขวงหรือผู้ใหญ่บ้านก็จะไปสาบานตนต่อหน้าหัวหน้าเขตที่เป็นเสมือนกำนันตำบลอีกที
เสริมเล็กน้อย: เพื่อไม่ให้งงเกี่ยวกับการปกครองส่วนภูมิภาคของอินโดนีเซีย อธิบายก่อนว่าอินโดนีเซียมีการปกครองระดับบนสุดอยู่ 3 รูปแบบคือ จังหวัด, เขตปกครองพิเศษ และจังหวัดที่มีอำนาจพิเศษ ส่วนใหญ่เป็นจังหวัด เขตปกครองพิเศษมี 2 ที่ คือ จาการ์ตา ซึ่งเป็นเมืองหลวง เทียบเท่ากับ กทม. และเขตปกครองพิเศษโยกยาการ์ตา ซึ่งมีสุลต่านฮาเมิงกุบุโวโนและเจ้าชายปะกูอาลัมเป็นผู้ว่าเขตฯ และรองผู้ว่าเขตตามลำดับ ส่วนจังหวัดที่มีอำนาจพิเศษจะแตกต่างกับจังหวัดอื่นๆ ในบางส่วน เช่น อาเจะห์ จะมีการปกครองโดยกฎหมายชารีอะฮ์ หรือบรรดาจังหวัดในเกาะปาปัวที่มีอำนาจพิเศษและเงื่อนไขพิเศษ ทุกจังหวัดรวมถึงจาการ์ตาเหมือนกันหมดคือมีการเลือกตั้งผู้ว่าการจังหวัดหรือผู้ว่ากรุงจาการ์ตา (Gubernur) เปรียบเสมือนการเลือกผู้ว่า กทม. หรือ นายก อบจ. ของเมืองไทย

การปกครองที่รองลงมาจากจังหวัดแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ นคร และ อำเภอ โดยตัวนครมีสถานะคล้ายกับเทศบาลในประเทศไทย โดยปกติจะเป็นเมืองที่มีฐานะเป็นเมืองหลวงของจังหวัดนั้น เช่น บันดุง เมืองหลวงชวาตะวันตก หรือซูราบายา เมืองหลวงชวาตะวันออก แต่ก็อาจจะมีเมืองอื่นๆ ได้เช่นเดียวกัน เช่น โบโกร์ ในชวาตะวันตก หรือมาลังในชวาตะวันออก พื้นที่นี้มีนายกเทศมนตรีเป็นผู้ดูแล ส่วนอำเภอ เป็นการปกครองที่ครอบคลุมพื้นที่นอกเขตนคร คล้ายกับ อบต. แต่เป็นในรูปแบบอำเภอ (ให้นึกถึง อบต ที่มีพื้นที่นอกเทศบาลจะเข้าใจมากขึ้น) มีนายอำเภอเป็นผู้ดูแล ทั้งนายกเทศมนตรีและนายกอำเภอจะได้รับการเลือกตั้งจากประชาชนเช่นเดียวกัน

รองลงมาจากนครและอำเภอคือ เขต เปรียบเสมือนตำบลของประเทศไทย แต่การปกครองระดับนี้ไม่มีการเลือกตั้ง ผู้ว่ากรุงจาการ์ตา, นายกเทศมนตรีหรือนายอำเภอจะแต่งตั้งข้าราชการซึ่งเปรียบเสมือนกำนันตำบลลงไปปกครองโดยตรงภายใต้การควบคุมของผู้ว่าฯ, นายกเทศมนตรี หรือนายอำเภอ และรองจากเขตหรืออยู่ล่างสุดก็คือ แขวง (Luruh) หรือหมู่บ้าน (Desa) โดยหากเป็นแขวง ซึ่งจะอยู่ในเขตกรุงจาการ์ตาหรือเขตนคร ก็จะมีการแต่งตั้งข้าราชการลงไปปกครองอีกที แต่หากเป็นหมู่บ้าน (ซึ่งอยู่ในอำเภอนอกนคร) ก็จะมีการเลือกตั้งผู้ใหญบ้าน

นอกจากนี้ มีการสาบานตนตามองค์กรต่างๆ รองลงมา หรือมีการสาบานตนที่แตกต่างกันไปตามผู้นับถือศาสนานั้นๆ โดยหากเป็นคริสตชน (ทั้งคาทอลิกและโปรเตสแตนต์) ก็จะมีการวางมือลงพระคัมภีร์ไบเบิลพร้อมทั้งชู 2 นิ้ว หากเป็นชาวฮินดู (ซึ่งส่วนมากจะเป็นผู้ว่าการจังหวัดบาหลีหรือนักการเมืองหรือข้าราชการในจังหวัดบาหลี) ก็จะมีการจุดธูปสาบาน หากเป็นพุทธศาสนิกชน ก็จะมีการชูพระไตรปิฎกหรือหนังสือสำคัญทางพุทธศาสนาโดยปฏิบัติเช่นเดียวกับมุสลิม ทั้งนี้ ไม่ได้มีการระบุว่าผู้นับถือลัทธิขงจื้อจะต้องทำอย่างไรแม้จะเป็น 1 ในศาสนาที่ได้รับการรับรองจากรัฐบาลอินโดนีเซีย
ทั้งหมดเป็นเรื่องราวที่น่าสนใจของอินโดนีเซีย แต่ก็ยังน่าแปลกใจที่แม้มีการสาบานกันอย่างมาก แต่ปรากฎว่าการคอรัปชั่นในอินโดนีเซียยังสูงและมีการพยายามเพิ่มสิทธินักการเมืองจนเป็นข่าวอย่างที่เราได้ยินได้เห็นมาในช่วงนี้

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่