การเลือกตั้งในหลายๆประเทศของอาเซียนรวมทั้งบ้านเราด้วยนั้น มักจะมากับความขัดแย้งและความรุนแรง
และทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ในประเทศฟิลิปปินส์ และบ้านเราเองนั้น
ในช่วงเวลาการเลือกตั้งโดยเฉพาะเลือกตั้งท้องถิ่นมักจะต้องมีหัวคะแนนถูกยิงจนเสียชีวิต หรือโดนทำร้ายร่างกาย
ส่วนในกัมพูชาและมาเลเซีย ก็เกิดการประท้วงผลเลือกตั้ง ซึ่งนำมาสู่ความรุนแรงและความขัดแย้งระหว่าง 2 ฝ่าย ด้วยเช่นกัน
แต่ในประเทศอินโดนีเซียนั้น เป็นที่น่าสนใจว่าการเลือกตั้งในอินโดนีเซียไม่ว่าจะเป็นระดับชาติหรือท้องถิ่น
ไม่เกิดความรุนแรง ไม่มีการประท้วงผลเลือกตั้ง และเรียกว่าเป็นประเทศเดียวในอาเซียนที่ปกครองแบบประชาธิปไตย
และการเลือกตั้งดำเนินไปได้ด้วยดี ปราศจากความขัดแย้งระหว่างฝ่ายต่างๆ ทั้
งนี้อาจเนื่องมาจากวัฒนธรรมของคนอินโดเองที่ไม่นิยมการเผชิญหน้า
หรือใช้ความรุนแรงเข้าหากันมากนักเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านอื่นๆ
ในอดีต พรรคการเมืองในอินโดนีเซียถูกสร้างขึ้นมาบนพื้นฐานของอุดมการณ์ทางการเมืองที่ชัดเจน
เช่น อุดมการณ์ชาตินิยม อุดมการณ์ที่มาจากความเชื่อทางศาสนาอิสลาม เป็นต้น
ดังนั้นพรรคการเมืองในอดีตจึงเป็นตัวแทนของกลุ่มทางสังคม หรือ social cleavages
ที่สมาชิกมีแนวคิดและอุดมการณ์เดียวกันอย่างชัดเจน
แต่ในปัจจุบันนี้ อุดมการณ์ดังกล่าวเลือนหายไปอย่างมาก เนื่องจากความเปลี่ยนแปลงทางสังคมและวัฒนธรรมของประเทศ
รวมทั้งวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของคนอินโดนีเซีย ที่แม้จะนับถือศาสนาอิสลาม
แต่ก็มีประชาชนเป็นจำนวนมากที่ไม่ได้ยึดแนวทางปฏิบัติของศาสนาอย่างเคร่งครัดเหมือนก่อน
สำหรับในการเลือกตั้ง ประธานาธิบดีในปีหน้านี้ ผู้สมัครที่มาแรงในขณะนี้ คือ นาย โจโก วิโดโด้ (Joko Widodo)
หรือ โจโกวี่ (Jokowi) จากพรรค PDIP ซึ่งเป็นผู้ว่าราชการเมืองจาการ์ต้าในปัจจุบันและถือเป็นนักการเมืองที่มีบารมีสูง
เป็นที่ชื่นชอบและรักใคร่ของประชาชนชาวอินโดนีเซียอย่างมากด้วยบุคลิกที่เข้าถึงประชาชนในทุกระดับ
และมีความพยายามช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ของประชาชนที่ยากจนและได้รับความเดือดร้อน
ถ้าครั้งหน้านี้ โจโกวี่ ชนะการเลือกตั้งจะทำให้ พรรค PDIP ที่เคยเป็นฝ่ายค้านมาก่อนได้กลับมาเป็นรัฐบาลอีกครั้งหนึ่ง
http://www.uasean.com/aseanshow/636
::: เดลินิวส์ วันพุธที่ 9 ก.ค. 2557 :::
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงจาการ์ตาประเทศอินโดนีเซีย
เมื่อวันที่9 ก.ค.ว่านายโจโค วิโดโด ผู้ว่าการกรุงจาการ์ต้าในอินโดนีเซียประกาศชัยชนะ
เหนืออดีตนายพลปราโบโว ซูเบียนโต้เมื่อวันพุธในการเลือกตั้งประธานาธิบดีที่สูสีและมีการแบ่งพรรคแบ่งพวกมากที่สุด
นับตั้งแต่สิ้นยุคของอดีตประธานาธิบดีซูฮาร์โต้ หลังจากการนับผลคะแนนอย่างไม่เป็นทางการผ่านไปแล้วกว่าร้อยละ 80 พบว่า
นายวิโดโดมีคะแนนนำราวร้อยละ53 เมื่อเทียบกับนายปราโบโวที่ได้คะแนนร้อยละ 47
ด้วยเหตุนี้นายวิโดโดได้ประกาศต่อสมาชิกพรรคประชาธิปไตยเพื่อการต่อสู้ของอินโดนีเซียในกรุงจาการ์ตาว่า
เราอยากขอบคุณต่อชาวอินโดนีเซียทุกคนเป็นอย่างยิ่ง เช่นเดียวกับสมาชิกพรรคที่ต้องทำงานอย่างหนักแบบหามรุ่งหามค่ำ
ส่วนทีมหาเสียงทางฝั่งของอดีตนายพลปราโบโวออกมาประกาศไม่ยอมรับความพ่ายแพ้
นายมาห์ฟูด เอ็ม.ดี.หัวหน้าทีมหาเสียงของนายปราโบโวบอกว่า กระบวนการเลือกตั้งยังไม่สิ้นสุด
และจากการสำรวจความเห็นชาวอินโดนีเซียของทีมงานพบว่า ชัยชนะเป็นของฝั่งเรา
ก่อนหน้านี้ ทั้งนายวิโดโดและนายปราโบโวหาเสียงกันอย่างดุเดือด
ส่งผลให้คะแนนนิยมที่นายวิโดโดทิ้งห่างได้แคบลงมาจนกลายเป็นคู่ต่อสู้ที่สูสี
นายวิโดโด อดีตผู้ส่งออกเฟอร์นิเจอร์ที่ผันตัวเองมาเล่นการเมืองถือเป็นผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีคนแรก
ที่ไม่มีอดีตอันมัวหมองทางการเมืองมาเกี่ยวข้องและถูกมองว่าน่าจะได้เป็นผู้นำคนใหม่ของอินโดนีเซีย
ขณะที่ นายปราโบโว อดีตลูกเขยของซูฮาร์โตอดีตประธานาธิบดีจอมเผด็จการได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มอำนาจเก่า
แต่นักวิจารณ์เกรงว่า หากนายปราโบโวชนะเลือกตั้งได้เป็นประธานาธิบดีอินโดนีเซีย
เขาอาจเปลี่ยนอินโดนีเซียไปสู่การปกครองแบบเผด็จการอีกรอบ
ผู้ชนะการเลือกตั้ง จะได้เป็นประธานาธิบดีคนที่สองซึ่งมาจากการเลือกตั้งโดยตรงสืบต่อจากประธานาธิบดีซูซิโลบัมบัง ยูโดโยโน
ที่จะสละตำแหน่งในเดือนต.ค.หลังการเมืองในประเทศมีเสถียรภาพมานานนับสิบปี
สำหรับการเลือกตั้งประธานาธิบดีอินโดนีเซียครั้งนี้ผ่านพ้นไปอย่างราบรื่นไม่มีการก่อความวุ่นวายในระหว่างลงคะแนนเสียงเกิดขึ้น
ตั้งแต่หน่วยเลือกตั้งจากเมืองปาปัวทางตะวันออกไปถึงเกาะชวาและเกาะสุมาตราทางตะวันตกของประเทศ
อย่างไรก็ตามคณะกรรมการจัดการเลือกตั้งอินโดนีเซียจะประกาศผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีอย่างเป็นทางการช่วงระหว่างวันที่ 21-22 ก.ค.
จากนั้นจะให้เวลาผู้สมัครยื่นคำร้องคัดค้านผลการนับคะแนนต่อศาลรัฐธรรมนูญได้ระหว่างวันที่ 23-25 ก.ค.
กรณีที่มีผู้ยื่นคำร้องคัดค้านศาลจะประกาศรับฟ้องหรือไม่ในวันที่ 22 ส.ค.
และประธานาธิบดีคนใหม่จะเข้าสาบานตนในวันที่20 ต.ค.


อินโดนีเซียเลือกตั้งแล้วอ่ะ "โจโค วิโดโด" ประกาศชัยชนะศึกเลือกตั้งประธานาธิบดี
และทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ในประเทศฟิลิปปินส์ และบ้านเราเองนั้น
ในช่วงเวลาการเลือกตั้งโดยเฉพาะเลือกตั้งท้องถิ่นมักจะต้องมีหัวคะแนนถูกยิงจนเสียชีวิต หรือโดนทำร้ายร่างกาย
ส่วนในกัมพูชาและมาเลเซีย ก็เกิดการประท้วงผลเลือกตั้ง ซึ่งนำมาสู่ความรุนแรงและความขัดแย้งระหว่าง 2 ฝ่าย ด้วยเช่นกัน
แต่ในประเทศอินโดนีเซียนั้น เป็นที่น่าสนใจว่าการเลือกตั้งในอินโดนีเซียไม่ว่าจะเป็นระดับชาติหรือท้องถิ่น
ไม่เกิดความรุนแรง ไม่มีการประท้วงผลเลือกตั้ง และเรียกว่าเป็นประเทศเดียวในอาเซียนที่ปกครองแบบประชาธิปไตย
และการเลือกตั้งดำเนินไปได้ด้วยดี ปราศจากความขัดแย้งระหว่างฝ่ายต่างๆ ทั้
งนี้อาจเนื่องมาจากวัฒนธรรมของคนอินโดเองที่ไม่นิยมการเผชิญหน้า
หรือใช้ความรุนแรงเข้าหากันมากนักเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านอื่นๆ
ในอดีต พรรคการเมืองในอินโดนีเซียถูกสร้างขึ้นมาบนพื้นฐานของอุดมการณ์ทางการเมืองที่ชัดเจน
เช่น อุดมการณ์ชาตินิยม อุดมการณ์ที่มาจากความเชื่อทางศาสนาอิสลาม เป็นต้น
ดังนั้นพรรคการเมืองในอดีตจึงเป็นตัวแทนของกลุ่มทางสังคม หรือ social cleavages
ที่สมาชิกมีแนวคิดและอุดมการณ์เดียวกันอย่างชัดเจน
แต่ในปัจจุบันนี้ อุดมการณ์ดังกล่าวเลือนหายไปอย่างมาก เนื่องจากความเปลี่ยนแปลงทางสังคมและวัฒนธรรมของประเทศ
รวมทั้งวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของคนอินโดนีเซีย ที่แม้จะนับถือศาสนาอิสลาม
แต่ก็มีประชาชนเป็นจำนวนมากที่ไม่ได้ยึดแนวทางปฏิบัติของศาสนาอย่างเคร่งครัดเหมือนก่อน
สำหรับในการเลือกตั้ง ประธานาธิบดีในปีหน้านี้ ผู้สมัครที่มาแรงในขณะนี้ คือ นาย โจโก วิโดโด้ (Joko Widodo)
หรือ โจโกวี่ (Jokowi) จากพรรค PDIP ซึ่งเป็นผู้ว่าราชการเมืองจาการ์ต้าในปัจจุบันและถือเป็นนักการเมืองที่มีบารมีสูง
เป็นที่ชื่นชอบและรักใคร่ของประชาชนชาวอินโดนีเซียอย่างมากด้วยบุคลิกที่เข้าถึงประชาชนในทุกระดับ
และมีความพยายามช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ของประชาชนที่ยากจนและได้รับความเดือดร้อน
ถ้าครั้งหน้านี้ โจโกวี่ ชนะการเลือกตั้งจะทำให้ พรรค PDIP ที่เคยเป็นฝ่ายค้านมาก่อนได้กลับมาเป็นรัฐบาลอีกครั้งหนึ่ง
http://www.uasean.com/aseanshow/636
::: เดลินิวส์ วันพุธที่ 9 ก.ค. 2557 :::
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงจาการ์ตาประเทศอินโดนีเซีย
เมื่อวันที่9 ก.ค.ว่านายโจโค วิโดโด ผู้ว่าการกรุงจาการ์ต้าในอินโดนีเซียประกาศชัยชนะ
เหนืออดีตนายพลปราโบโว ซูเบียนโต้เมื่อวันพุธในการเลือกตั้งประธานาธิบดีที่สูสีและมีการแบ่งพรรคแบ่งพวกมากที่สุด
นับตั้งแต่สิ้นยุคของอดีตประธานาธิบดีซูฮาร์โต้ หลังจากการนับผลคะแนนอย่างไม่เป็นทางการผ่านไปแล้วกว่าร้อยละ 80 พบว่า
นายวิโดโดมีคะแนนนำราวร้อยละ53 เมื่อเทียบกับนายปราโบโวที่ได้คะแนนร้อยละ 47
ด้วยเหตุนี้นายวิโดโดได้ประกาศต่อสมาชิกพรรคประชาธิปไตยเพื่อการต่อสู้ของอินโดนีเซียในกรุงจาการ์ตาว่า
เราอยากขอบคุณต่อชาวอินโดนีเซียทุกคนเป็นอย่างยิ่ง เช่นเดียวกับสมาชิกพรรคที่ต้องทำงานอย่างหนักแบบหามรุ่งหามค่ำ
ส่วนทีมหาเสียงทางฝั่งของอดีตนายพลปราโบโวออกมาประกาศไม่ยอมรับความพ่ายแพ้
นายมาห์ฟูด เอ็ม.ดี.หัวหน้าทีมหาเสียงของนายปราโบโวบอกว่า กระบวนการเลือกตั้งยังไม่สิ้นสุด
และจากการสำรวจความเห็นชาวอินโดนีเซียของทีมงานพบว่า ชัยชนะเป็นของฝั่งเรา
ก่อนหน้านี้ ทั้งนายวิโดโดและนายปราโบโวหาเสียงกันอย่างดุเดือด
ส่งผลให้คะแนนนิยมที่นายวิโดโดทิ้งห่างได้แคบลงมาจนกลายเป็นคู่ต่อสู้ที่สูสี
นายวิโดโด อดีตผู้ส่งออกเฟอร์นิเจอร์ที่ผันตัวเองมาเล่นการเมืองถือเป็นผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีคนแรก
ที่ไม่มีอดีตอันมัวหมองทางการเมืองมาเกี่ยวข้องและถูกมองว่าน่าจะได้เป็นผู้นำคนใหม่ของอินโดนีเซีย
ขณะที่ นายปราโบโว อดีตลูกเขยของซูฮาร์โตอดีตประธานาธิบดีจอมเผด็จการได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มอำนาจเก่า
แต่นักวิจารณ์เกรงว่า หากนายปราโบโวชนะเลือกตั้งได้เป็นประธานาธิบดีอินโดนีเซีย
เขาอาจเปลี่ยนอินโดนีเซียไปสู่การปกครองแบบเผด็จการอีกรอบ
ผู้ชนะการเลือกตั้ง จะได้เป็นประธานาธิบดีคนที่สองซึ่งมาจากการเลือกตั้งโดยตรงสืบต่อจากประธานาธิบดีซูซิโลบัมบัง ยูโดโยโน
ที่จะสละตำแหน่งในเดือนต.ค.หลังการเมืองในประเทศมีเสถียรภาพมานานนับสิบปี
สำหรับการเลือกตั้งประธานาธิบดีอินโดนีเซียครั้งนี้ผ่านพ้นไปอย่างราบรื่นไม่มีการก่อความวุ่นวายในระหว่างลงคะแนนเสียงเกิดขึ้น
ตั้งแต่หน่วยเลือกตั้งจากเมืองปาปัวทางตะวันออกไปถึงเกาะชวาและเกาะสุมาตราทางตะวันตกของประเทศ
อย่างไรก็ตามคณะกรรมการจัดการเลือกตั้งอินโดนีเซียจะประกาศผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีอย่างเป็นทางการช่วงระหว่างวันที่ 21-22 ก.ค.
จากนั้นจะให้เวลาผู้สมัครยื่นคำร้องคัดค้านผลการนับคะแนนต่อศาลรัฐธรรมนูญได้ระหว่างวันที่ 23-25 ก.ค.
กรณีที่มีผู้ยื่นคำร้องคัดค้านศาลจะประกาศรับฟ้องหรือไม่ในวันที่ 22 ส.ค.
และประธานาธิบดีคนใหม่จะเข้าสาบานตนในวันที่20 ต.ค.