ปัญญาก็เหมือนกัน อะไรเป็นเครื่องปกปิดกำบังธรรมชาติคือคำว่าเราอันแท้จริงอยู่เวลานี้
ผู้ปฏิบัติเพื่อปัญญา
ควรจะรื้อฟื้นเข้าไปตั้งแต่สิ่งที่ปกปิดกำบังภายนอกๆ ผิวเผินนี้เข้าไปโดยลำดับ
ขันธ์แต่ละขันธ์เป็นสิ่งที่ปกปิดกำบังตัวเราอันแท้จริงได้ ควรพิจารณา กายคตาสติไม่ใช่ของเล็กน้อย
ทั้งการพิจารณาเพื่อถอดถอน ทั้งความนอนใจคือไม่สนใจจะพิจารณาเลย ถ้าไม่สนใจพิจารณาเลย
ก็เป็นเครื่องปกปิดกำบังได้อย่างมิดชิด จนมองหาเราอันแท้จริงไม่เจอ ถ้าเราพิจารณาก็มีทางที่จะค้นพบ
ของจะอยู่ลึกขนาดไหนถ้าฝังไว้ใต้ดินก็ดี ถ้าขุดค้นให้ถึงก็ต้องเจอ แล้วการขุดเราจะต้องขุดตั้งแต่พื้นผิวเผินของดินนี้เข้าไป
จนกระทั่งถึงส่วนลึกของดิน ตลอดถึงสิ่งที่เราต้องการ ไม่ใช่เราจะไปขุดเอาเฉพาะสิ่งที่ฝังอยู่โดยไม่คำนึงถึงว่าอยู่ลึกหรือตื้น
ต้องขุดลงไปจนถึง
คำว่าเราอันแท้จริงนั้นอยู่ลึกขนาดไหน ตื้นขนาดไหนนั้น ก็ขึ้นอยู่กับสิ่งที่ปกคลุมหุ้มห่อ
เวลานี้มีอะไรบ้างที่ปกคลุมหุ้มห่อตัวเราอันแท้จริง พระพุทธเจ้าท่านสอนอะไรบ้าง
เวลาเราบวชทีแรกอุปัชฌายะท่านก็ให้
มูลกรรมฐาน ตจปัญจกกรรมฐาน
ให้ขุดลงที่นี่ เริ่มขุดเข้าไป
พิจารณาหนังก็
ดูให้ชัด ผม ขน เล็บ ฟัน หนัง เนื้อ เอ็น กระดูก
ดูให้ชัด
สิ่งเหล่านี้มีอยู่ตามหลักธรรมชาติของตน คือไม่ปิดบังโดยหลักธรรมชาติของตน จึงต้องอาศัยปัญญาพิจารณาลงไป
นี่ละชื่อว่าการขุดค้น ด้วยเครื่องมือคือปัญญา เช่นเดียวกับจอบ เสียม ขุดดินฉะนั้น
----------------------------------------
อย่ามองดูผลมากกว่าเหตุ - พระธรรมเทศนาโดย หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
เทศน์อบรมพระ ณ วัดป่าบ้านตาด เมื่อวันที่ ๓๑ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๑๑
อ่านเนื้อหาเต็มได้จาก http://www.luangta.com/thamma/thamma_talk_text.php?ID=1750&CatID=3
ให้ขุดลงที่นี่ เริ่มขุดเข้าไป พิจารณาหนังก็ดูให้ชัด ผม ขน เล็บ ฟัน หนัง เนื้อ เอ็น กระดูก ดูให้ชัด
ปัญญาก็เหมือนกัน อะไรเป็นเครื่องปกปิดกำบังธรรมชาติคือคำว่าเราอันแท้จริงอยู่เวลานี้
ผู้ปฏิบัติเพื่อปัญญาควรจะรื้อฟื้นเข้าไปตั้งแต่สิ่งที่ปกปิดกำบังภายนอกๆ ผิวเผินนี้เข้าไปโดยลำดับ
ขันธ์แต่ละขันธ์เป็นสิ่งที่ปกปิดกำบังตัวเราอันแท้จริงได้ ควรพิจารณา กายคตาสติไม่ใช่ของเล็กน้อย
ทั้งการพิจารณาเพื่อถอดถอน ทั้งความนอนใจคือไม่สนใจจะพิจารณาเลย ถ้าไม่สนใจพิจารณาเลย
ก็เป็นเครื่องปกปิดกำบังได้อย่างมิดชิด จนมองหาเราอันแท้จริงไม่เจอ ถ้าเราพิจารณาก็มีทางที่จะค้นพบ
ของจะอยู่ลึกขนาดไหนถ้าฝังไว้ใต้ดินก็ดี ถ้าขุดค้นให้ถึงก็ต้องเจอ แล้วการขุดเราจะต้องขุดตั้งแต่พื้นผิวเผินของดินนี้เข้าไป
จนกระทั่งถึงส่วนลึกของดิน ตลอดถึงสิ่งที่เราต้องการ ไม่ใช่เราจะไปขุดเอาเฉพาะสิ่งที่ฝังอยู่โดยไม่คำนึงถึงว่าอยู่ลึกหรือตื้น
ต้องขุดลงไปจนถึง คำว่าเราอันแท้จริงนั้นอยู่ลึกขนาดไหน ตื้นขนาดไหนนั้น ก็ขึ้นอยู่กับสิ่งที่ปกคลุมหุ้มห่อ
เวลานี้มีอะไรบ้างที่ปกคลุมหุ้มห่อตัวเราอันแท้จริง พระพุทธเจ้าท่านสอนอะไรบ้าง
เวลาเราบวชทีแรกอุปัชฌายะท่านก็ให้ มูลกรรมฐาน ตจปัญจกกรรมฐาน
ให้ขุดลงที่นี่ เริ่มขุดเข้าไป
พิจารณาหนังก็ดูให้ชัด ผม ขน เล็บ ฟัน หนัง เนื้อ เอ็น กระดูก ดูให้ชัด
สิ่งเหล่านี้มีอยู่ตามหลักธรรมชาติของตน คือไม่ปิดบังโดยหลักธรรมชาติของตน จึงต้องอาศัยปัญญาพิจารณาลงไป
นี่ละชื่อว่าการขุดค้น ด้วยเครื่องมือคือปัญญา เช่นเดียวกับจอบ เสียม ขุดดินฉะนั้น
----------------------------------------
อย่ามองดูผลมากกว่าเหตุ - พระธรรมเทศนาโดย หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
เทศน์อบรมพระ ณ วัดป่าบ้านตาด เมื่อวันที่ ๓๑ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๑๑
อ่านเนื้อหาเต็มได้จาก http://www.luangta.com/thamma/thamma_talk_text.php?ID=1750&CatID=3