ในจังหวัดภูเก็ต เมืองที่เต็มไปด้วยเรื่องราวแห่งศรัทธาและตำนานโบราณ มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์หนึ่งซึ่งแตกต่างจากพระพุทธรูปองค์ใดในโลก — นั่นคือ “
พระผุด” หรือ “
พระทอง” พระพุทธรูปที่โผล่ขึ้นมาจากพื้นดินเพียงครึ่งองค์ ราวกับกำลังจะผุดขึ้นจากโลกใต้พิภพอย่างน่าอัศจรรย์
ตำนานของพระผุดเริ่มต้นจากเรื่องของเด็กชายผู้เลี้ยงควายในหมู่บ้านถลาง วันหนึ่ง เขาพบหลักบางอย่างโผล่ขึ้นจากพื้นดินกลางทุ่ง จึงใช้หลักนั้นผูกควายไว้โดยไม่รู้ว่าแท้จริงแล้ว นั่นคือ “พระเกตุ” หรือส่วนยอดพระเศียรของพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ คืนนั้นเอง เด็กและควายต่างล้มตายโดยไม่มีใครทราบสาเหตุ
คืนถัดมา บิดาของเด็กฝันเห็นบุรุษในรัศมีทองมาปรากฏในความฝัน บอกว่า “ลูกของท่านได้นำควายไปผูกไว้กับพระเกศาแห่งองค์พระผู้ศักดิ์สิทธิ์” เมื่อชายคนนั้นตื่นขึ้น เขารีบไปยังจุดที่ลูกเคยผูกควายไว้ แล้วเริ่มขุดลงในพื้นดิน สิ่งที่ปรากฏคือ “พระพุทธรูปสีทองอร่าม” โผล่ขึ้นมาจริงดังนิมิต แต่เมื่อขุดลึกลงไปเท่าไรก็ไม่สามารถขุดต่อได้อีก เหมือนมีพลังลึกลับยึดองค์พระไว้แน่นในผืนดิน
ด้วยความเคารพและความเลื่อมใส ชาวบ้านจึงได้ร่วมกันสร้างวิหารครอบบริเวณนั้นไว้ และถวายพระนามว่า “
พระผุด” เพื่อให้ผู้คนได้มากราบสักการะ ปกป้องสถานที่ศักดิ์สิทธิ์นี้จากกาลเวลา จนกลายเป็น “
วัดพระทอง” หนึ่งในวัดที่มีชื่อเสียงและเป็นสัญลักษณ์ของเมืองภูเก็ตในปัจจุบัน
พระผุดไม่ได้เป็นเพียงพระพุทธรูปครึ่งองค์เท่านั้น แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของ “ศรัทธาที่หยั่งรากลึกในแผ่นดิน” เหมือนองค์พระที่เลือกจะอยู่ครึ่งหนึ่งในดินและอีกครึ่งหนึ่งให้โลกเห็น เป็นดังเครื่องเตือนใจให้ผู้คนเชื่อมั่นในพลังแห่งบุญ ความศรัทธา และสิ่งที่มองไม่เห็นด้วยตา
ทุกวันนี้ วัดพระทอง ตำบลเทพกษัตรี อำเภอถลาง ยังคงต้อนรับผู้คนจากทั่วสารทิศที่มาขอพร กราบไหว้ และสัมผัสปาฏิหาริย์แห่งพระผุด — พระพุทธรูปผู้ผุดขึ้นจากพื้นดิน อันเป็นตำนานที่ไม่มีวันเลือนหายไปจากหัวใจของชาวภูเก็ต 🙏✨
🙇♂️ พระผุด วัดพระทอง — ตำนานพระพุทธรูปครึ่งองค์ ผู้ผุดขึ้นจากพื้นดิน 🛕✨
ในจังหวัดภูเก็ต เมืองที่เต็มไปด้วยเรื่องราวแห่งศรัทธาและตำนานโบราณ มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์หนึ่งซึ่งแตกต่างจากพระพุทธรูปองค์ใดในโลก — นั่นคือ “พระผุด” หรือ “พระทอง” พระพุทธรูปที่โผล่ขึ้นมาจากพื้นดินเพียงครึ่งองค์ ราวกับกำลังจะผุดขึ้นจากโลกใต้พิภพอย่างน่าอัศจรรย์
ตำนานของพระผุดเริ่มต้นจากเรื่องของเด็กชายผู้เลี้ยงควายในหมู่บ้านถลาง วันหนึ่ง เขาพบหลักบางอย่างโผล่ขึ้นจากพื้นดินกลางทุ่ง จึงใช้หลักนั้นผูกควายไว้โดยไม่รู้ว่าแท้จริงแล้ว นั่นคือ “พระเกตุ” หรือส่วนยอดพระเศียรของพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ คืนนั้นเอง เด็กและควายต่างล้มตายโดยไม่มีใครทราบสาเหตุ
คืนถัดมา บิดาของเด็กฝันเห็นบุรุษในรัศมีทองมาปรากฏในความฝัน บอกว่า “ลูกของท่านได้นำควายไปผูกไว้กับพระเกศาแห่งองค์พระผู้ศักดิ์สิทธิ์” เมื่อชายคนนั้นตื่นขึ้น เขารีบไปยังจุดที่ลูกเคยผูกควายไว้ แล้วเริ่มขุดลงในพื้นดิน สิ่งที่ปรากฏคือ “พระพุทธรูปสีทองอร่าม” โผล่ขึ้นมาจริงดังนิมิต แต่เมื่อขุดลึกลงไปเท่าไรก็ไม่สามารถขุดต่อได้อีก เหมือนมีพลังลึกลับยึดองค์พระไว้แน่นในผืนดิน
ด้วยความเคารพและความเลื่อมใส ชาวบ้านจึงได้ร่วมกันสร้างวิหารครอบบริเวณนั้นไว้ และถวายพระนามว่า “พระผุด” เพื่อให้ผู้คนได้มากราบสักการะ ปกป้องสถานที่ศักดิ์สิทธิ์นี้จากกาลเวลา จนกลายเป็น “วัดพระทอง” หนึ่งในวัดที่มีชื่อเสียงและเป็นสัญลักษณ์ของเมืองภูเก็ตในปัจจุบัน
พระผุดไม่ได้เป็นเพียงพระพุทธรูปครึ่งองค์เท่านั้น แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของ “ศรัทธาที่หยั่งรากลึกในแผ่นดิน” เหมือนองค์พระที่เลือกจะอยู่ครึ่งหนึ่งในดินและอีกครึ่งหนึ่งให้โลกเห็น เป็นดังเครื่องเตือนใจให้ผู้คนเชื่อมั่นในพลังแห่งบุญ ความศรัทธา และสิ่งที่มองไม่เห็นด้วยตา
ทุกวันนี้ วัดพระทอง ตำบลเทพกษัตรี อำเภอถลาง ยังคงต้อนรับผู้คนจากทั่วสารทิศที่มาขอพร กราบไหว้ และสัมผัสปาฏิหาริย์แห่งพระผุด — พระพุทธรูปผู้ผุดขึ้นจากพื้นดิน อันเป็นตำนานที่ไม่มีวันเลือนหายไปจากหัวใจของชาวภูเก็ต 🙏✨