แม่ป่วยเป็นมะเร็งปอดระยะที่ 3 ควรดูแลท่านอย่างไรดีค่ะ

คือ แม่เราปวย มีอาการไอแห้ง น้ำหนักลด และมี ก้อนเนื้อแข็งๆ ที่ บริเวณคอและไหปลาร้า จากการพิสูจน์ ผ่าชิ้นเนื้อไปตรวจจาก รพ.แห่งหนึ่งไม่พบความผิดปกติ แต่พอส่งตัวมา รพ.ศูนย์ หมอวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งปอด ระยะที่ 3 ใครมีวิธีการและนำ ในการดูแลท่าน เพื่อให้ท่านอยู่กะเราได้นานๆ บ้างค่ะ ไม่หวังให้ท่านหาย แล้วการเตรียมตัวก่อน-หลังทำคีโม ควรทำอย่างไรบ้างค่ะ ช่วยแนะนำทีค่ะ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 14
คำบอกเล่าจากประสบการณ์ของผู้ดูแลแม่วัย 78-79 ปี ซึ่งเป็นมะเร็งรังไข่ ระยะที่ 3
             บำรุงร่างกายให้แข็งแรง
             ทานไข่ต้ม 2 ฟองต่อวัน ตับต้ม ปลาหรือหมูนิ่มๆ ให้ร่างกายมีเม็ดเลือด
เพียงพอที่จะทำเคมีบำบัด
             อาหารเสริม นมผง Ensure ชง 2-4 ช้อนต่อแก้ว กินเท่าที่กินได้
(หลายแก้วก็ได้)
              การให้เคมีบำบัด กำหนด 6 ครั้ง แต่ละครั้งเว้นระยะ 3 สัปดาห์
             เมื่อให้เคมีบำบัด คนไข้มักจะมีอาการแพ้ เช่น มือชา ขาชา ผมร่วง
อาเจียนง่าย เหม็นกลิ่นอาหาร เบื่ออาหาร ฯลฯ
             การแพ้เคมีบำบัด มักจะแพ้เป็นเวลาประมาณ 5-7 วัน และมักจะแพ้หลังจาก
ให้เคมีบำบัด 1-2 วัน ดังนั้น เมื่อวันแรกอาจจะยังไม่แพ้ แต่ก็ควรระมัดระวังไว้
             มือชา ก็ทำให้หยิบของแล้วหล่นมือง่ายๆ ควรระวังการหยิบของมีคม
เช่น มีด ถ้วยน้ำร้อน เป็นต้น คือควรหยิบให้คนไข้หรือเฝ้าระวัง
              ขาชา อาจจะทำให้ล้มได้ ดังนั้น ควรให้ผู้ป่วยเดินน้อยๆ เลี่ยงการเดิน
ในระหว่างที่แพ้อยู่ ถ้าจำเป็นก็ประคอง การถ่ายอุจจาระปัสสาวะ ควรเตรียม
กระโถนท้องแบน (ตามร้านขายยามีขาย) ผ้าอ้อม แผ่นรองซับ ผ้ารองซับ
ผ้าพลาสติค ควรเตรียมไว้ ในกรณีถ่ายบนที่นอน
              การอาบน้ำ ควรใช้การเช็ดตัวบนที่นอนแทน หลีกเลี่ยงการเดิน
ในกรณีที่ผู้ป่วยเดิน ควรประคอง และอาจจะมี walker ช่วยเดินด้วย
พื้นห้องน้ำ ควรเช็ดให้แห้ง ในกรณีที่ผู้ป่วยเดิน
              เส้นผมร่วง ก็ปล่อยให้ร่วง อย่าโกน เพราะอาจจะทำให้เกิดแผลได้
เคมีบำบัดอาจจะทำให้เกล็ดเลือดต่ำลง กล่าวคือ เลือดออกง่าย หยุดยาก
ควรเลี่ยงการเป็นแผล
              อาเจียนง่าย แพทย์คงจะให้ยากันอาเจียนมาด้วย
              เหม็นกลิ่นอาหาร อาจจะเหม็นกลิ่นน้ำเปล่าๆ ด้วย ดังนั้น อย่าแปลกใจว่า
น้ำสะอาดๆ ทำไมยังเหม็น (ประสาทรับรสรับกลิ่นถูกกระทบจากเคมีบำบัด)
อาจใช้น้ำผสมน้ำหวาน เช่น เฮลซ์บลูบอย แต่ควรเลี่ยงสีแดง เพราะเมื่ออาเจียน
อาจสับสนว่า น้ำหวานหรือว่าเลือด
              เบื่ออาหาร อาจจะทำให้เบื่อมากจนทานไม่ลง ควรชงนม ensure ข้นๆ
น้ำผลไม้ น้ำข้าวต้ม น้ำต้มหมู. อาหารที่ควรงด คือ อาหารที่ย่อยยาก หรือแข็ง
             ช่วงการแพ้เคมีบำบัดนี้อาจค่อนข้างรุนแรงมาก คนไข้ควรกินอาหารให้ครบถ้วน
คือ บำรุงก่อนจะให้เคมีบำบัด และหลังให้แล้ว ก็ควรกินอาหารให้สมบูรณ์ เช่นข้าวต้ม
ไข่ต้ม ตับต้ม ปลานิ่ง หมูตุ๋น ข้าวต้มปลา จะทำให้ร่างกายฟื้นตัวได้รวดเร็ว
             โดยส่วนตัวแล้ว ผู้แนะนำเชื่อว่า มะนาวมีผลทำลายเซลมะเร็งได้
ผู้แนะนำจึงได้ให้น้ำมะนาว 1 ผลผสมน้ำผึ้งและน้ำผลไม้เช่นน้ำมังคุดหรือ
น้ำแอปเปิ้ลในช่วงเช้า และน้ำมะนาว 1 ผล + น้ำโซดาครึ่งขวด ในตอนบ่ายๆ
             ผลมะนาว ก่อนผ่า ควรล้างให้สะอาดก่อน
             เนื่องจาก เคมีบำบัดมีผลต่อเม็ดเลือด ทำให้ภูมิคุ้มกันของผู้ป่วยลดลง
อย่างมาก ทำให้ติดเชื้อได้ง่ายๆ จึงควรหลีกเลี่ยงที่ชุมชน หรือสัมผัสผู้มาเยี่ยม
ควรใส่หน้ากากอนามัย เมื่อมีผู้มาเยี่ยม หรืออยู่ในที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อ
ทั้งอาหารก็ต้องสะอาด เป็นอาหารสุก และอ่อน (เช่นข้าวต้ม) เพื่อให้ย่อยได้ง่าย
              ยาบำรุงเลือด เช่น ยาถ่ายดำ แพทย์ก็คงจะให้มาด้วย
              เรื่องกำลังใจ ก็มีผลดีต่อการรักษาด้วยเช่นกัน ควรพูดคุยให้กำลังใจผู้ป่วย
โดยนัยว่า อย่ากังวลเลย เจ้าของกระทู้จะดูแลเต็มที่ เจ้าของกระทู้ไม่เหน็ดเหนื่อย
ในการดูแลอะไรมากนักหรอก เป็นต้น
             เรื่องจิตที่ปรารภกุศลกรรม ก็มีผลดี คือทำให้จิตเบิกบานด้วยกุศลธรรมนั้น
เมื่อจิตเบิกบาน สงบดี กายก็สงบระงับด้วยดี ควรชักชวนผู้ป่วยให้ทำบุญด้วย
การบริจาคให้ รพ. สงฆ์ ทั้งเจ้าของกระทู้ก็ควรร่วมทำบุญนี้ด้วย จากนั้น
ก็นำใบอนุโมทนานั้นแสดงต่อผู้ป่วยว่า ผู้ป่วยได้ทำบุญไว้ด้วยดีแล้ว
              แม่ของผู้แนะนำได้ให้เคมีบำบัด 4 ครั้งอย่างทุลักทุเล ประคับประคอง
จนอาการดีขึ้นด้วยวิธีตามที่บอกกล่าวไว้ ระหว่างการให้เคมีบำบัด ก็มีการเลื่อน
การให้เคมีบำบัดหลายครั้ง เพราะผลเลือดไม่พร้อมบ้าง ก็ทำการดูแลและบำรุง
ร่างกายด้วยอาหารดีๆ สะอาดต่อเนื่องไป
              เนื่องจากก้อนมะเร็งได้ยุบตัวลงอย่างมาก ทั้งที่ให้เคมีบำบัดเพียง 4 ครั้ง
แพทย์จึงทำการผ่าตัดก้อนมะเร็งนั้น ผลการผ่าตัดเป็นไปด้วยดี แม่ฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว
แต่ก็ไม่ประมาท ยังคงบำรุงด้วยอาหารและน้ำมะนาวผสมน้ำผึ้งและน้ำผลไม้เป็นต้นอยู่
ทั้งนี้ เพราะในเบื้องต้นยังมีกำหนดการให้เคมีบำบัดอีก 6 ครั้ง หลังการผ่าตัด
              หากเจ้าของกระทู้ยังมีข้อสงสัยเรื่องการดูแลผู้ป่วย หรือต้องการสอบถามเพิ่มเติม
ก็สามารถถามผ่าน GravityOfLove ได้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่