สวัสดีคะขอแนะนำตัวก่อน เราอายุ20ปี อยู่มหาลัยปีสอง คบกะแฟนมาได้ 1ปี4เดือน บางคนอาจคิดว่าคบกันไม่นาน แต่สำหรับเราช่วงเวลาแค่นี้มันมีเรื่องเยอะมากกกกกกกกก ขอย้อนไปตั้งแต่ตอนปีหนึ่งเฟรชชี่ใสๆ คือตอนนั้นเราเพิ่งเลิกกะแฟนเก่ามาประมาณ5เดือน ก่อนจะเข้ามหาลัย เราก็คิดว่าจะไม่มีแฟนเพราะเราไม่อยากโดนบอกเลิกอีก จนเปิดเทอมเราก็เริ่มรู้จักเพื่อนใหม่ๆ เราก็เริ่มรู้จักกับเอ (นามสมุติแฟรเรา) แรกๆเรานี่โคตรรำคาญเอมาก เพราะเอมันดูกะล่อน ไม่ใช่สเปก แต่เพราะแผนการของเอที่เอาเพื่อนผญ.ของมัน มาทำให้เราหึง เราถึงเริ่มรู้ตัวว่าเราเริ่มชอบเอแล้วก็ ลูกตื้อของเอ และความเอาใจใส่ของเอ เอจึงได้ใจเราไปเต็มๆ ช่วงที่คบกันสามสี่เดือนแรกไม่ค่อยมีอะไรหวือหวามาก เพราะเป็นช่วงปิดเทอมเราสองคนแทบไม่ได้คุยกันเลย ทำให้เอ เริ่มสงสัยในฐานะของเราสองคน
พอเปิดเทอมเรากับเอเริ่มจูนเข้าหากัน หลังจากที่ช่วงสามสี่เดือนแรก เราสองคนเหมือนไม่ใช่แฟน แต่พอเราเริ่มจูนหากันอะไรๆก็เริ่มจะพัฒนาดีขึ้น เราสองคนเริ่มใช้เวลาด้วยกันมากขึ้น ไปไหนด้วยกัน จะทำอะไรก็จะอยู่ด้วยกันตลอด เออยู่หอ ส่วนเราจะอยู่คอนโดกับพ่อแม่ ทุกวันเราจะ ไปปลุกเอที่หอ เราจะเตรียมเสื้อผ้า จัดกระเป๋าเตรียมของให้เอตลอด ก่อนไปเรียนเอก็จะหอมจะกอดเราก่อนไปเรียนตลอดทำแบบนี้ทุกวัน เข้าเรียนพร้อมกัน กินข้าว ทำอะไรพร้อมกันตลอด จนเพื่อนๆในห้องต่างพากันอิจฉา วันไหนเลิกเรียนเร็ว เราก็จะกลับหอ มานอนดูทีวีบ้าง ช่วยกันทำความสะอาดห้องบ้าง ทำแบบนี้เป็นประจำ จนวันนึงเอขอมีอะไรด้วย ตอนแรกเราก็ไม่ยอม เพราะเรายังไม่พร้อม เอก็ขอเราอีก หลายๆครั้งเราเลยยอม เอรู้ว่านี่เป็นครั้งแรกของเรา เอก็เลยสัญญาว่า จะไม่ทิ้งเรา ในเมื่อแกให้เค้าเป็นแรก ยังไงเค้าก็จะไม่มีวันทิ้งแก เราก็เชื่อ ช่วงนั้นดูเหมือนเอรักเรามาก ดีกับเรามาก ใครเข้ามาจีบเอ เอก็จะบอกจะรายงาน ทำทุกอย่างให้เราสบายใจ คือดีมากๆ เราไม่เคยเจอใครดีขนาดนี้ ผช.คนนี้เลยได้ใจเราไปเต็มๆ เราจะห่างกันแค่ช่วงเวลากลางคืน แต่เราก็จะเฟสทามคุยกันตลอด เอเป็นพวกที่เวลาทำอะไรแล้วก็จะชอบถ่ายรูปมาให้ดู เราเลยสบายใจเพราะไม่มีเรื่องมือที่สามแน่ๆ พักหลังเอเริ่มมีปัญหาเรื่องเงิน เงินจ่ายค่าหอไม่พอ แม่ยังไม่โอน ก็ขอยืมเราๆก็ให้ยืม ไม่คิดไรมาก เพราะเห็นว่าแฟนเดือดร้อน จะให้เรานิ่งเฉยได้ไง จนเริ่มยืมบ่อยขึ้นเรื่อยๆ แต่เราก็ไม่ทวง เพราะเอรับปากว่าจะคืน ลืมบอกไปว่าฐานะของบ้านเราสองคนต่างกันมาก บ้านเอพ่อแม่ทำอาชีพเป็นชาวประมง ส่วนเราพ่อเป็นผู้บริหารบริษัทแห่งหนึ่งส่วนแม่ทำงานรัฐวิสาหกิจ แต่เราก็ไม่เคยรังเกียจครอบครัวเอเลย เราไม่ค่อยคิดเรื่องเงินทอง เราคิดแค่ว่าเราอยู่ด้วยแล้วมีความสุข เรื่องฐานะเงินทองเลยไม่ค่อยอยู่ในหัวเรา แล้วก็ปิดเทอม เรากะเอนัดเจอกันอาทิตย์ละครั้ง เพราะเอต้องทำงานพิเศษเป็น รปภ. เรากะเอเริ่มคุยกันน้อยลง เพราะเวลาไม่ตรงกัน แต่ถ้าว่างก็จะเฟสทาม คอลไลน์หากันตลอด จนใกล้ๆเปิดเทอม เราก็ไปช่วยเอหาหอพักใหม่ เพราะหอเก่าแพง เริ่มจ่ายไม่ไหว เราก็ช่วยเอหาจนได้หอ แถมชื่อหอนั้นเอก็ให้เปนชื่อเรา พอเปิดเทอม เรากะเอก็ขึ้นปี2 เป็นรุ่นพี่แล้ว ต้องรับน้องมาซ้อมเชียร์น้องเริ่มไม่ค่อยมีเวลาให้กัน เริ่มทะเลาะกันบ่อยขึ้น เอต้องดูแลน้องๆที่เป็นหลีด ส่วนเราต้องดูแลน้องๆที่เป็นสแตน ช่วงนั้นเราโครตจะไม่โอเค เพราะมันเริ่มมีกลิ่นแปลกๆ เหมือนเอจะนอกใจ เอโดนให้เป็นหลีด เพราะหลีดปี1ไม่พอ ปี2เลยต้องช่วย เอเริ่มมีความลับกับเรา จากแต่ก่อนไม่ตั้งรหัสไลน์ ก็ตั้ง แถมตั้งแล้วไม่บอกเราอีก พอเราถามก็เปลี่ยนเรื่อง เดินเข้าห้องน้ำ ไปทำนู้นนี่ พฤติกรรมเริ่มน่าสงสัย วันนั้นเอวางโทรศัพท์ทิ้งไว้ เราก็สุ่มรหัสมั่วๆ จนถูก เราเข้าไปดูที่รูปภาพ บร้ะเจ้าาาา มีรูปถ่ายคู่กับผญ. เรานี่หัวใจหยุดเต้นไป10วิ อึ้งช็อกไปเลย พอเอเข้าห้องน้ำเสร็จก็มานอนข้างๆเรา เราเลยถามว่านี่ใคร เอบอกว่า แค่น้องเฉยๆ ไม่มีอะไรจริงๆ โอเครอบนี้เรายังเชื่อ เพราะสายสืบเราก็เยอะ แต่มันเริ่มมีเรื่องเข้าหูเรื่อยๆ เพื่อนเราที่เป็นหลีด มารายงานเราว่า เห็น น้องบี(นามสมุติ) ไปหยิบป๊อกกี้จากกระเป๋าเอ เราก็เงียบพูดไม่ออก เพราะป๊อกกี้ที่เพื่อนพูดถึงคืออันเดียวกะที่เราซื้อให้เอ ให้เอเอาไว้กินตอนพัก ตอนนั้นเราเริ่มคิดมากล่ะแต่ยังไม่อยากปักใจเชื่อยังคิดว่าคงไม่มีอะไร แต่พักหลังๆ เอเริ่มไม่ให้เราไปดูเซ้อมหลีดล่ะ บอกว่าเลิกดึก อย่าดูเลย กลับบ้านไปก่อนเลย เราก็ทำไรไม่ได้ในเมื่อแฟนไม่อยากให้อยู่ เราก็ต้องกลับ แต่ยังดีเรายังมีเพื่อนเป็นหูเป็นตาให้ ช่วงนั้นเราไม่สบายใจเลย อึดอัดมาก จนมาวันนึงแฟนเราชาตแบตโทรศัพท์ทิ้งไว้ แล้วเดินไปไหนไม่รู้ เราก็เลยรีบเข้าไลน์ไปอ่านแชทล่าสุดปรากฏว่า แฟนเรากำลังคุยกะน้องบี คุยกะนุ้งนิ้งมาก แฟนเราขอน้องบีเป็นแฟน แต่น้องบีบอก ยังไม่พร้อม เรานี่น้ำตาแตกเลย แฟนเราเดินกลับมาเห็นเรานั่งร้องไห้ รีบเดินเข้ามาถามว่าเป็นไร เราบอกว่า เราเห็นหมดแล้วนะที่แกคุยกะน้องบี ถ้าแกเลือกน้องบีเรายอมถอยให้แกนะ เอรีบขอโทษเรากอดและเราแน่นมากบอกว่าเลือกเรา จะเลิกคุยกะน้องบี ขอร้องเราว่าอย่าทิ้งเขาไป ขอโทษจริงๆ คือตอนนั้นเราแบบร้องไห้หนักมาก เสียใจสุดๆทำไม ผช.ที่เคยบอกรักเรามากถึงเปลี่ยนไปขนาดนี้ แฟนเราขอโอกาส เราก็ให้เพราะเห็นว่าเพิ่งเป็นครั้งแรก แต่ตอนนั้นความเชื่อใจไว้ใจที่เราเคยมีให้ก็เริ่มหายไป เราก็ยังไปหาแฟนเราเหมือนเดิม คุยกันทุกวัน ทะเลาะกันก็แทบทุกวัน จนถึงวันครบรอบ1ปี เราเตรียมเซอไพให้แฟน เราซื้อคัพเค้กที่แฟนบ่นว่าอยากกินมาให้ เป่าลูกโปร่งแต่งห้องให้น่ารักๆ ทำการ์ด ทำกรอบรูป คือ คิดว่าแฟนต้องชอบแน่ๆ แต่ผลที่ได้กลับมาคือ เอบ่นว่าทำทำไม ซื้อมาทำไม เปลืองตัง เก็บตังไว้ซื้อของเข้าห้องให้เค้าดีกว่ามั๊ย ตอนนั้นเรานี่ร้องไห้เลย(เราเป็นคนร้องไห้ง่ายมาก) คือเราตั้งใจทำมาก แต่กลับโดนว่า เราโครตเสียความรู้สึกมาก พอเอบ่นเราเสร็จก็ออกไปกินเหล้ากับเพื่อนและน้องบี! ปล่อยให้เรานอนร้องไห้อยู่หอคนเดียว เราร้องไห้จนหลับ ประมาณตี1เอก็กลับห้อง คืนนั้นแฟนเราไม่สบาย ไข้ขึ้น จากที่เราน้อยใจแฟนเราอยู่ เราก็ต้องมานั่งเช็ดตัวดูแลแฟนเราทั้งคืน จากโกรธๆเลยหายโกรธ เช้าวันรุ่งขึ้น เราต้องกลับบ้านแต่เอยังไม่หายดี เราเลยบอกให้นอนพักไม่ต้องไปส่ง เดี๋ยวเรากลับเอง เอก็บอกโอเค จนเราถึงบ้านเอโทรมาหาเราบอกว่า เดี๋ยวจะไปเซนลาดนะ จะไปซื้อของ เราก็บอกไปว่า จะไปซื้ออะไร ยังไม่หายดี นอนพักไปก่อนดีกว่า แต่เอก็ดึงดันจะไปให้ได้ เราเลยถามว่าไปกะใคร เอบอกว่าไปกะน้องดี (นามสมุติ) ซึ่งน้องดีเราก็รู้จักอยู่แล้ว เลยไม่ถามอะไรต่อ เราก็เลยบอกแค่ให้ดูแลตัวเองแล้วรีบๆกลับ
(เดี๋ยวไว้มาต่อพรุ่งนี้นะค่ะ)
มีแฟนแบบนี้แต่ก็..ยังรักยังให้อภัยมาตลอด(18+)
พอเปิดเทอมเรากับเอเริ่มจูนเข้าหากัน หลังจากที่ช่วงสามสี่เดือนแรก เราสองคนเหมือนไม่ใช่แฟน แต่พอเราเริ่มจูนหากันอะไรๆก็เริ่มจะพัฒนาดีขึ้น เราสองคนเริ่มใช้เวลาด้วยกันมากขึ้น ไปไหนด้วยกัน จะทำอะไรก็จะอยู่ด้วยกันตลอด เออยู่หอ ส่วนเราจะอยู่คอนโดกับพ่อแม่ ทุกวันเราจะ ไปปลุกเอที่หอ เราจะเตรียมเสื้อผ้า จัดกระเป๋าเตรียมของให้เอตลอด ก่อนไปเรียนเอก็จะหอมจะกอดเราก่อนไปเรียนตลอดทำแบบนี้ทุกวัน เข้าเรียนพร้อมกัน กินข้าว ทำอะไรพร้อมกันตลอด จนเพื่อนๆในห้องต่างพากันอิจฉา วันไหนเลิกเรียนเร็ว เราก็จะกลับหอ มานอนดูทีวีบ้าง ช่วยกันทำความสะอาดห้องบ้าง ทำแบบนี้เป็นประจำ จนวันนึงเอขอมีอะไรด้วย ตอนแรกเราก็ไม่ยอม เพราะเรายังไม่พร้อม เอก็ขอเราอีก หลายๆครั้งเราเลยยอม เอรู้ว่านี่เป็นครั้งแรกของเรา เอก็เลยสัญญาว่า จะไม่ทิ้งเรา ในเมื่อแกให้เค้าเป็นแรก ยังไงเค้าก็จะไม่มีวันทิ้งแก เราก็เชื่อ ช่วงนั้นดูเหมือนเอรักเรามาก ดีกับเรามาก ใครเข้ามาจีบเอ เอก็จะบอกจะรายงาน ทำทุกอย่างให้เราสบายใจ คือดีมากๆ เราไม่เคยเจอใครดีขนาดนี้ ผช.คนนี้เลยได้ใจเราไปเต็มๆ เราจะห่างกันแค่ช่วงเวลากลางคืน แต่เราก็จะเฟสทามคุยกันตลอด เอเป็นพวกที่เวลาทำอะไรแล้วก็จะชอบถ่ายรูปมาให้ดู เราเลยสบายใจเพราะไม่มีเรื่องมือที่สามแน่ๆ พักหลังเอเริ่มมีปัญหาเรื่องเงิน เงินจ่ายค่าหอไม่พอ แม่ยังไม่โอน ก็ขอยืมเราๆก็ให้ยืม ไม่คิดไรมาก เพราะเห็นว่าแฟนเดือดร้อน จะให้เรานิ่งเฉยได้ไง จนเริ่มยืมบ่อยขึ้นเรื่อยๆ แต่เราก็ไม่ทวง เพราะเอรับปากว่าจะคืน ลืมบอกไปว่าฐานะของบ้านเราสองคนต่างกันมาก บ้านเอพ่อแม่ทำอาชีพเป็นชาวประมง ส่วนเราพ่อเป็นผู้บริหารบริษัทแห่งหนึ่งส่วนแม่ทำงานรัฐวิสาหกิจ แต่เราก็ไม่เคยรังเกียจครอบครัวเอเลย เราไม่ค่อยคิดเรื่องเงินทอง เราคิดแค่ว่าเราอยู่ด้วยแล้วมีความสุข เรื่องฐานะเงินทองเลยไม่ค่อยอยู่ในหัวเรา แล้วก็ปิดเทอม เรากะเอนัดเจอกันอาทิตย์ละครั้ง เพราะเอต้องทำงานพิเศษเป็น รปภ. เรากะเอเริ่มคุยกันน้อยลง เพราะเวลาไม่ตรงกัน แต่ถ้าว่างก็จะเฟสทาม คอลไลน์หากันตลอด จนใกล้ๆเปิดเทอม เราก็ไปช่วยเอหาหอพักใหม่ เพราะหอเก่าแพง เริ่มจ่ายไม่ไหว เราก็ช่วยเอหาจนได้หอ แถมชื่อหอนั้นเอก็ให้เปนชื่อเรา พอเปิดเทอม เรากะเอก็ขึ้นปี2 เป็นรุ่นพี่แล้ว ต้องรับน้องมาซ้อมเชียร์น้องเริ่มไม่ค่อยมีเวลาให้กัน เริ่มทะเลาะกันบ่อยขึ้น เอต้องดูแลน้องๆที่เป็นหลีด ส่วนเราต้องดูแลน้องๆที่เป็นสแตน ช่วงนั้นเราโครตจะไม่โอเค เพราะมันเริ่มมีกลิ่นแปลกๆ เหมือนเอจะนอกใจ เอโดนให้เป็นหลีด เพราะหลีดปี1ไม่พอ ปี2เลยต้องช่วย เอเริ่มมีความลับกับเรา จากแต่ก่อนไม่ตั้งรหัสไลน์ ก็ตั้ง แถมตั้งแล้วไม่บอกเราอีก พอเราถามก็เปลี่ยนเรื่อง เดินเข้าห้องน้ำ ไปทำนู้นนี่ พฤติกรรมเริ่มน่าสงสัย วันนั้นเอวางโทรศัพท์ทิ้งไว้ เราก็สุ่มรหัสมั่วๆ จนถูก เราเข้าไปดูที่รูปภาพ บร้ะเจ้าาาา มีรูปถ่ายคู่กับผญ. เรานี่หัวใจหยุดเต้นไป10วิ อึ้งช็อกไปเลย พอเอเข้าห้องน้ำเสร็จก็มานอนข้างๆเรา เราเลยถามว่านี่ใคร เอบอกว่า แค่น้องเฉยๆ ไม่มีอะไรจริงๆ โอเครอบนี้เรายังเชื่อ เพราะสายสืบเราก็เยอะ แต่มันเริ่มมีเรื่องเข้าหูเรื่อยๆ เพื่อนเราที่เป็นหลีด มารายงานเราว่า เห็น น้องบี(นามสมุติ) ไปหยิบป๊อกกี้จากกระเป๋าเอ เราก็เงียบพูดไม่ออก เพราะป๊อกกี้ที่เพื่อนพูดถึงคืออันเดียวกะที่เราซื้อให้เอ ให้เอเอาไว้กินตอนพัก ตอนนั้นเราเริ่มคิดมากล่ะแต่ยังไม่อยากปักใจเชื่อยังคิดว่าคงไม่มีอะไร แต่พักหลังๆ เอเริ่มไม่ให้เราไปดูเซ้อมหลีดล่ะ บอกว่าเลิกดึก อย่าดูเลย กลับบ้านไปก่อนเลย เราก็ทำไรไม่ได้ในเมื่อแฟนไม่อยากให้อยู่ เราก็ต้องกลับ แต่ยังดีเรายังมีเพื่อนเป็นหูเป็นตาให้ ช่วงนั้นเราไม่สบายใจเลย อึดอัดมาก จนมาวันนึงแฟนเราชาตแบตโทรศัพท์ทิ้งไว้ แล้วเดินไปไหนไม่รู้ เราก็เลยรีบเข้าไลน์ไปอ่านแชทล่าสุดปรากฏว่า แฟนเรากำลังคุยกะน้องบี คุยกะนุ้งนิ้งมาก แฟนเราขอน้องบีเป็นแฟน แต่น้องบีบอก ยังไม่พร้อม เรานี่น้ำตาแตกเลย แฟนเราเดินกลับมาเห็นเรานั่งร้องไห้ รีบเดินเข้ามาถามว่าเป็นไร เราบอกว่า เราเห็นหมดแล้วนะที่แกคุยกะน้องบี ถ้าแกเลือกน้องบีเรายอมถอยให้แกนะ เอรีบขอโทษเรากอดและเราแน่นมากบอกว่าเลือกเรา จะเลิกคุยกะน้องบี ขอร้องเราว่าอย่าทิ้งเขาไป ขอโทษจริงๆ คือตอนนั้นเราแบบร้องไห้หนักมาก เสียใจสุดๆทำไม ผช.ที่เคยบอกรักเรามากถึงเปลี่ยนไปขนาดนี้ แฟนเราขอโอกาส เราก็ให้เพราะเห็นว่าเพิ่งเป็นครั้งแรก แต่ตอนนั้นความเชื่อใจไว้ใจที่เราเคยมีให้ก็เริ่มหายไป เราก็ยังไปหาแฟนเราเหมือนเดิม คุยกันทุกวัน ทะเลาะกันก็แทบทุกวัน จนถึงวันครบรอบ1ปี เราเตรียมเซอไพให้แฟน เราซื้อคัพเค้กที่แฟนบ่นว่าอยากกินมาให้ เป่าลูกโปร่งแต่งห้องให้น่ารักๆ ทำการ์ด ทำกรอบรูป คือ คิดว่าแฟนต้องชอบแน่ๆ แต่ผลที่ได้กลับมาคือ เอบ่นว่าทำทำไม ซื้อมาทำไม เปลืองตัง เก็บตังไว้ซื้อของเข้าห้องให้เค้าดีกว่ามั๊ย ตอนนั้นเรานี่ร้องไห้เลย(เราเป็นคนร้องไห้ง่ายมาก) คือเราตั้งใจทำมาก แต่กลับโดนว่า เราโครตเสียความรู้สึกมาก พอเอบ่นเราเสร็จก็ออกไปกินเหล้ากับเพื่อนและน้องบี! ปล่อยให้เรานอนร้องไห้อยู่หอคนเดียว เราร้องไห้จนหลับ ประมาณตี1เอก็กลับห้อง คืนนั้นแฟนเราไม่สบาย ไข้ขึ้น จากที่เราน้อยใจแฟนเราอยู่ เราก็ต้องมานั่งเช็ดตัวดูแลแฟนเราทั้งคืน จากโกรธๆเลยหายโกรธ เช้าวันรุ่งขึ้น เราต้องกลับบ้านแต่เอยังไม่หายดี เราเลยบอกให้นอนพักไม่ต้องไปส่ง เดี๋ยวเรากลับเอง เอก็บอกโอเค จนเราถึงบ้านเอโทรมาหาเราบอกว่า เดี๋ยวจะไปเซนลาดนะ จะไปซื้อของ เราก็บอกไปว่า จะไปซื้ออะไร ยังไม่หายดี นอนพักไปก่อนดีกว่า แต่เอก็ดึงดันจะไปให้ได้ เราเลยถามว่าไปกะใคร เอบอกว่าไปกะน้องดี (นามสมุติ) ซึ่งน้องดีเราก็รู้จักอยู่แล้ว เลยไม่ถามอะไรต่อ เราก็เลยบอกแค่ให้ดูแลตัวเองแล้วรีบๆกลับ
(เดี๋ยวไว้มาต่อพรุ่งนี้นะค่ะ)