สวัสดีค่าาา เมื่อปลายเดือนธันวาคู่เราได้ไปทริปสุดพิเศษกว่าครั้งไหนๆ เป็นการเดินทางไปฮันนีมูนครั้งแรกหลังแต่งงาน

บินไปไกลถึงฝรั่งเศสแบบ 2 ต่อ 2 ก็คุณสามีเล่นแพลนทริปข้ามปีด้วยตัวเองเลยค่ะ (แพลนก่อนแต่ง เออ! น่ารักไปอี๊ก แฟนชั้นๆ!)
เริ่มต้นทริปของเช้าวันที่ 2 ประเดิมด้วยการไป Rue Saint Honore ซึ่งเป็นย่าน Shopping Street กันเลยค่าาา 555
จากการวางแผนอย่างดีของคุณสามี งานนี้ไม่มีหลงค่ะ เรา 2 คนลงที่สถานีรถไฟฟ้า Concorde เดินต่อมาอีกไม่ไกลก็ถึงแล้วค่ะ
ส่วนสาเหตุที่เลือกมาย่านนี้ก่อน เพราะคุณสามีตั้งใจอยากจะเปิดทริปฮันนีมูนเติมความหวานด้วยขนมมาการองที่ขึ้นชื่อที่สุดในปารีส พร้อมๆกับจัดเต็ม กระเป๋าหนึ่งใบ ที่เราอยากได้ >_< (อ๊ายยยย! ใจป๋าสุดๆ รักๆๆ)
ตลอดถนน Saint Honore มีร้านแบรนด์ดังๆเพียบ ระหว่างเดินชมบรรยากาศ เราตื่นเต้นกับสารพัดแบรนด์ดังตลอดทางเลยค่ะ
แบบแวะร้านโน้นหยุดร้านนี้ คุณสามีก็เอาใจ ไม่บ่นสักคำ จนในที่สุดคุณสามีก็พาเลี้ยวขวาเข้าซอยย่อยๆที่เรียกว่า Cambon Street
เดินต่อมาอีกนิดมองมาทางซ้ายก็พบ...
ร้าน Pierre Herme’ ค่าาา ร้านเด่นมากกกก สีดำเรียบหรูคลาสสิก
ส่วนเรื่องรสชาติ รับรองอร่อยรสหวานแบบที่เราชอบ อร๊ายยยย! (คือเพื่อนสามีที่เคยไปฮ่องกงซื้อมาแจกให้กินที่ออฟฟิศค่ะ คนอะไรรวยจริงๆ) และตามคำคุณสามี ร้านนี้เป็นร้านที่ไกด์บุ๊คถึงขั้นแนะนำด้วยว่า อยากกินมาการองอร่อยให้มาฝรั่งเศส แต่ถ้าอยากให้มาให้ถึงปารีสจริงๆ ต้องไม่พลาดมาการองปิแอร์!
แปะ Location ร้าน Pierre Herme ในฝรั่งเศส เผื่อว่าใครอยากไปสาขาเดียวกันกะคู่เราค่ะ (ความจริงมีหลายสาขานะ) >>>
http://bit.ly/1zqAaUn,
http://bit.ly/1CPcQWL
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้


ถนนเข้าได้หลายทางนะ แต่ที่เราเอามาให้ดูเป็นทางที่สามารถเดินเข้าไปตรงถนน Cambon ได้เลย แต่ถ้าใครอยากช้อปปิ้งด้วย ก็เดินเข้าเส้นถนน Rue Saint Honore จะดีกว่า
เวิ่นอยู่นาน ก็ไม่รอช้า! เดินตามกลิ่นเข้าไปในร้านทันที ด้านซ้ายมือจะมีเคาท์เตอร์และมาการองปิแอร์ในตู้กระจกหลายรสชาติมากมายเรียงรายอย่างเยอะ ยั่วต่อมของหวานสุดๆ
แอบถ่ายรูปในร้านมาเรียกน้ำย่อยกันซะหน่อย ละลานตา เลือกไม่ถูกเลย

ที่ร้านไม่ได้ขายมาการองอย่างเดียวนะคะ มีขนมเค้ก ชา แยม และ ช็อคโกแลต ขายด้วย ชวนน้ำลายไหล ระลอก 2 อิอิ หันไปทางไหนก็มีแต่ของหวาน อยากกินไปหมดเลยค่ะคู๊นนนนนนนน
ตื่นตาตื่นใจกันมามากพอแล้วกลับมาส่องมาการองกันต่อดีกว่า
นี่คือหน้าตามาการองรสชาติต่างๆ มีป้ายชื่อกำกับรสชาติหน้ามาการองเลยค่ะ อ่านออกบ้างไม่ออกบ้างแหะๆ ตามน้ำกันไป
Chocolate & Foie Gras : ขนมมาการองรสช็อกโกแลตและฟัวกราส์
Mogador : ขนมมาการองรสช็อกโกแลตนมและเสาวรส
Infiniment Rose : ขนมมาการองกลิ่นกุหลาบและกลีบกุหลาบ
Rose et coing : ขนมมาการองกลิ่นกุหลาบและผลควินซ์
หน้าตาขนาดกล่องของมาการอง มีหลายขนาด หลายราคาค่ะ ลวดลายของกล่องจะแตกต่างกันไป
ขึ้นอยู่กับจำนวนมาการองที่เราจะซื้อค่ะ
หลังจากเดินทั่วร้านแล้วก็ ยังตัดสินใจไม่ถูก อยากเหมามาลองทุกรสเลยค่า แต่ก็เกรงใจคุณสามี (จริงๆกลัวว่าถ้าซื้อหมดนี่ จะอดได้กระเป๋า Chanel ที่คุณสามีสัญญาว่าจะซื้อให้หน่ะสิ๊ 555) หันไปถามพนักงานว่ารสไหนเป็น Best Seller และในที่สุดก็ตัดสินใจซื้อมา 7 ชิ้น 6 รสค่ะ เพราะมีรสนึงอึ้งในการครีเอทรสมากค่ะ เลยตัดสินใจซื้อ 2 ชิ้นซะเลย (ใครอยากรู้ราคา ถามมาหลังไมค์ได้ค่ะ) ^___^
เอ้า! ซื้อเสร็จก็ต้อง ถ่ายภาพกับหน้าร้านสักหน่อยยย ประกาศให้โลกได้รู้ว่า ฉันได้กินปิแอร์ที่ปารีสแล้วคร่า
เลอค่ายันถุงใส่ปิแอร์ ก็ไม่ธรรมดานะ มีลูกเล่นฉลุลายเล็กๆ บนถุงด้วย ลมพัดที กลิ่นหอมของมาการองนี่ฟุ้งเชียะ
(ไม่รู้มโนไปเองรึเปล่า แต่ได้กลิ่นจริงๆ น้า) กลิ่นพุ่งทะลุถุง
รีบ แกะกล่องมือไม้สั่น เติมความหวานให้ฟินทันทีค่า ( เช็ดน้ำลายแพร่บ)

อยากรู้แล้วละสิแต่ละรสเป็นไงบ้าง และทำไมต้องอึ้งกับ มาการองสีเขียวขนาดซื้อมาลองคนละชิ้น มาค่ะจะรีวิวให้อ่านกัน
เริ่มจากชิ้นซ้ายมือไปขวามือค่ะ
รสที่ 1มาการองสีเขียว รสนี้ชื่อว่า Pomme Verte A L'Angelique de Montagne : มาการองรสแอปเปิ้ลเขียวและเซราลี่ (Celery)ค่ะ อึ้งกันมั้ยล่ะ เรานับถือเชฟที่ช่างคิดสูตร นำส่วนผสมที่ไม่น่ามีอยู่ในขนมมาทำเป็นขนมได้ (คิดกันนานมั้ย?! 555)
รสชาติจะออกครีมมี่ ที่ได้แน่ๆคือกลิ่นของเซราลี่ จัดเต็มมากค่ะ ใครที่ชอบกลิ่นที่ฉุนจัดจ้านและแปลกใหม่แนะนำให้ลองดู
(ส่วนตัวเราชอบค่ะ ตรงที่แปลกดี แต่ที่สามีเรา บ๊ายยย!)
รสที่ 2 Mogador (Milk chocolate & Passion fruit) : ชิ้นถัดมาที่สีออกส้มๆ อื้มมมมคำแรก เลิฟทันทีเลยค่าาา
รสเปรี้ยวของเสาวรสตัดกับความหวานขมของช็อคโกแลตได้อย่างละมุนละม่อม (นึกถึงเสียง TV Champion ไว้นะคะ) คือขนาดได้กินชิ้นนี้ทั้งชิ้นคนเดียวยังไม่อยากเชื่อเลยว่ารส ช็อคโกแลต กับ เสาวรสจะลงตัวได้ขนาดนี้
สมกับเป็นมาการองชิ้นพิเศษ The Best ของซีซั่น ที่พนักงานเรคคอมเมนด์แล้วเรคคอมเมนด์อีก พูดเลยรสนี้ ติดใจจนอยากไปซื้ออีก ^_^
ตามที่พนักงานบอกมานะ ชิ้นนี้ใช้การดีไซน์ คิดค้นส่วนผสม รสชาติ ที่ไม่น่าจะเข้ากันได้ มาผสมเข้ากันอย่างลงตัว จากทีมเชฟฝีมือดีหลายท่านเลยหล่ะ (อวยกันสุดเลย ท่านผู้โชมมม)
รสที่ 3 Infiniment Rose : สีชมพูหวานแหวว เป็นมาการองรสกุหลาบค่ะคุณขาาา พูดจริงไม่ได้ล้อเล่น เวลากินจะรู้สึกเสมือนอยู่ท่ามกลางสวนกุหลาบสวยๆ (ต้องลอง เค้าไม่ได้โม้) ส่วนรสอันนี้แอบผิดคาด เพราะหวังว่าจะได้รู้รสกุหลาบ แต่ว่าเป็นรสออกแนวบัตเตอร์ครีมที่มีกลิ่นกุหลาบค่ะ
รสที่ 4 Infiniment Chocolat Paineiras : มาการองช็อคโกแลตล้วน รสขมนิดๆ และเข้มข้นของช้อตโกแลตพุ่งสูงเรื่อยในทุกๆคำที่กิน ชิ้นนี้เลือกเอาใจสามีนิดนึง (แต่มิวาย อ้อนขอชิมสักคำ 555 )
รสที่ 5 Infiniment Mandarine : มาการองสีส้มเข้ม ชิ้นนี้ จขกท.รู้สึกว่าไส้จะหนากว่ารสอื่น (ไม่รู้ว่ามโนไปเองหรือเปล่า) รสหวาน อารมณ์ส้มจ๋าเลยจ้า ใครที่ชอบกินส้มอยู่แล้วต้องไม่พลาดรสนี้เลยนะ ^_^
รสที่ 6 Infiniment Caramel มาการองรสคาลาเมลเข้มข้น รสชาติออกเค็มนิดๆ (ก็นะตามประสาคาราเมล) ของที่นี่จะใช้คาราเมลล้วนๆ เพราะฉะนั้นตอนที่กินจะรู้สึกถึงความหนืดเหนียวของคาราเมล
>>> ฝากความฟินอีกครั้ง ซูมให้เห็นไส้ตู๊มๆ กันชัดๆ เนื้อเน้นๆ กัดเต็มปากเต็มคำ
ความพิเศษ ของมาการอง Pierre Herme’ คือไส้แต่ละชิ้นจะผลิตตามฤดูกาลค่ะ และผลิตแบบจำนวนจำกัดหมดแล้วหมดเลย ส่วนชิ้นที่รีวิวอยู่นี้อาจจะไม่มีให้ซื้อก็ได้นะ ถ้าอยากจะลอง 6 รสนี้ แนะนำให้รีบสั่งหรือไปฝรั่งเศสด่วนๆค่ะ แต่ถ้าเปลี่ยนฤดูแล้วก็ต้องลุ้นเอาว่าจะได้กินรสชาติไหนกัน (ไม่แน่...อาจจะเจอรสชาติที่แปลกกว่านี้ก็เป็นได้) 555
ส่วนตอนนี้มาการอง Pierre Herme ยังไม่มีวางขายในประเทศไทยค่ะ ถ้าอยากลิ้มลองรสชาติมาการองหรูอย่างทริปเรา ใกล้ที่สุดที่พอจะไปลองกินกันได้ก็ที่ฮ่องกงหรือไม่ก็ญี่ปุ่นค่า
จบแล้วจ้าทริปหวานผลงานการเซอร์ไพรส์ของคุณสามี กับทริปรีวิวขนมหวานๆ ของขนมมาการองหรูที่อร่อยที่สุดในโลก ^___^
คุณแฟนเอาใจขนาดนี้ จะขอให้เราไปนั่ง Big Bike อีกก็ยอมมมมมมมมมมมมม! 555
บ๊ายบายยยยย (ขอไปฟินกับกระเป๋าใบโปรดแปป

)
[CR] รีวิว มาการองหรู Pierre Herme’ หวานๆ เปิดทริปฮันนีมูนปารีส
บินไปไกลถึงฝรั่งเศสแบบ 2 ต่อ 2 ก็คุณสามีเล่นแพลนทริปข้ามปีด้วยตัวเองเลยค่ะ (แพลนก่อนแต่ง เออ! น่ารักไปอี๊ก แฟนชั้นๆ!)
เริ่มต้นทริปของเช้าวันที่ 2 ประเดิมด้วยการไป Rue Saint Honore ซึ่งเป็นย่าน Shopping Street กันเลยค่าาา 555
จากการวางแผนอย่างดีของคุณสามี งานนี้ไม่มีหลงค่ะ เรา 2 คนลงที่สถานีรถไฟฟ้า Concorde เดินต่อมาอีกไม่ไกลก็ถึงแล้วค่ะ
ส่วนสาเหตุที่เลือกมาย่านนี้ก่อน เพราะคุณสามีตั้งใจอยากจะเปิดทริปฮันนีมูนเติมความหวานด้วยขนมมาการองที่ขึ้นชื่อที่สุดในปารีส พร้อมๆกับจัดเต็ม กระเป๋าหนึ่งใบ ที่เราอยากได้ >_< (อ๊ายยยย! ใจป๋าสุดๆ รักๆๆ)
ตลอดถนน Saint Honore มีร้านแบรนด์ดังๆเพียบ ระหว่างเดินชมบรรยากาศ เราตื่นเต้นกับสารพัดแบรนด์ดังตลอดทางเลยค่ะ
แบบแวะร้านโน้นหยุดร้านนี้ คุณสามีก็เอาใจ ไม่บ่นสักคำ จนในที่สุดคุณสามีก็พาเลี้ยวขวาเข้าซอยย่อยๆที่เรียกว่า Cambon Street
เดินต่อมาอีกนิดมองมาทางซ้ายก็พบ...
ร้าน Pierre Herme’ ค่าาา ร้านเด่นมากกกก สีดำเรียบหรูคลาสสิก
ส่วนเรื่องรสชาติ รับรองอร่อยรสหวานแบบที่เราชอบ อร๊ายยยย! (คือเพื่อนสามีที่เคยไปฮ่องกงซื้อมาแจกให้กินที่ออฟฟิศค่ะ คนอะไรรวยจริงๆ) และตามคำคุณสามี ร้านนี้เป็นร้านที่ไกด์บุ๊คถึงขั้นแนะนำด้วยว่า อยากกินมาการองอร่อยให้มาฝรั่งเศส แต่ถ้าอยากให้มาให้ถึงปารีสจริงๆ ต้องไม่พลาดมาการองปิแอร์!
แปะ Location ร้าน Pierre Herme ในฝรั่งเศส เผื่อว่าใครอยากไปสาขาเดียวกันกะคู่เราค่ะ (ความจริงมีหลายสาขานะ) >>> http://bit.ly/1zqAaUn,http://bit.ly/1CPcQWL
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เวิ่นอยู่นาน ก็ไม่รอช้า! เดินตามกลิ่นเข้าไปในร้านทันที ด้านซ้ายมือจะมีเคาท์เตอร์และมาการองปิแอร์ในตู้กระจกหลายรสชาติมากมายเรียงรายอย่างเยอะ ยั่วต่อมของหวานสุดๆ
ที่ร้านไม่ได้ขายมาการองอย่างเดียวนะคะ มีขนมเค้ก ชา แยม และ ช็อคโกแลต ขายด้วย ชวนน้ำลายไหล ระลอก 2 อิอิ หันไปทางไหนก็มีแต่ของหวาน อยากกินไปหมดเลยค่ะคู๊นนนนนนนน
ตื่นตาตื่นใจกันมามากพอแล้วกลับมาส่องมาการองกันต่อดีกว่า
นี่คือหน้าตามาการองรสชาติต่างๆ มีป้ายชื่อกำกับรสชาติหน้ามาการองเลยค่ะ อ่านออกบ้างไม่ออกบ้างแหะๆ ตามน้ำกันไป
Chocolate & Foie Gras : ขนมมาการองรสช็อกโกแลตและฟัวกราส์
Mogador : ขนมมาการองรสช็อกโกแลตนมและเสาวรส
Infiniment Rose : ขนมมาการองกลิ่นกุหลาบและกลีบกุหลาบ
Rose et coing : ขนมมาการองกลิ่นกุหลาบและผลควินซ์
หน้าตาขนาดกล่องของมาการอง มีหลายขนาด หลายราคาค่ะ ลวดลายของกล่องจะแตกต่างกันไป
ขึ้นอยู่กับจำนวนมาการองที่เราจะซื้อค่ะ
หลังจากเดินทั่วร้านแล้วก็ ยังตัดสินใจไม่ถูก อยากเหมามาลองทุกรสเลยค่า แต่ก็เกรงใจคุณสามี (จริงๆกลัวว่าถ้าซื้อหมดนี่ จะอดได้กระเป๋า Chanel ที่คุณสามีสัญญาว่าจะซื้อให้หน่ะสิ๊ 555) หันไปถามพนักงานว่ารสไหนเป็น Best Seller และในที่สุดก็ตัดสินใจซื้อมา 7 ชิ้น 6 รสค่ะ เพราะมีรสนึงอึ้งในการครีเอทรสมากค่ะ เลยตัดสินใจซื้อ 2 ชิ้นซะเลย (ใครอยากรู้ราคา ถามมาหลังไมค์ได้ค่ะ) ^___^
(ไม่รู้มโนไปเองรึเปล่า แต่ได้กลิ่นจริงๆ น้า) กลิ่นพุ่งทะลุถุง
อยากรู้แล้วละสิแต่ละรสเป็นไงบ้าง และทำไมต้องอึ้งกับ มาการองสีเขียวขนาดซื้อมาลองคนละชิ้น มาค่ะจะรีวิวให้อ่านกัน
เริ่มจากชิ้นซ้ายมือไปขวามือค่ะ
รสที่ 1มาการองสีเขียว รสนี้ชื่อว่า Pomme Verte A L'Angelique de Montagne : มาการองรสแอปเปิ้ลเขียวและเซราลี่ (Celery)ค่ะ อึ้งกันมั้ยล่ะ เรานับถือเชฟที่ช่างคิดสูตร นำส่วนผสมที่ไม่น่ามีอยู่ในขนมมาทำเป็นขนมได้ (คิดกันนานมั้ย?! 555)
รสชาติจะออกครีมมี่ ที่ได้แน่ๆคือกลิ่นของเซราลี่ จัดเต็มมากค่ะ ใครที่ชอบกลิ่นที่ฉุนจัดจ้านและแปลกใหม่แนะนำให้ลองดู
(ส่วนตัวเราชอบค่ะ ตรงที่แปลกดี แต่ที่สามีเรา บ๊ายยย!)
รสที่ 2 Mogador (Milk chocolate & Passion fruit) : ชิ้นถัดมาที่สีออกส้มๆ อื้มมมมคำแรก เลิฟทันทีเลยค่าาา
รสเปรี้ยวของเสาวรสตัดกับความหวานขมของช็อคโกแลตได้อย่างละมุนละม่อม (นึกถึงเสียง TV Champion ไว้นะคะ) คือขนาดได้กินชิ้นนี้ทั้งชิ้นคนเดียวยังไม่อยากเชื่อเลยว่ารส ช็อคโกแลต กับ เสาวรสจะลงตัวได้ขนาดนี้
สมกับเป็นมาการองชิ้นพิเศษ The Best ของซีซั่น ที่พนักงานเรคคอมเมนด์แล้วเรคคอมเมนด์อีก พูดเลยรสนี้ ติดใจจนอยากไปซื้ออีก ^_^
รสที่ 3 Infiniment Rose : สีชมพูหวานแหวว เป็นมาการองรสกุหลาบค่ะคุณขาาา พูดจริงไม่ได้ล้อเล่น เวลากินจะรู้สึกเสมือนอยู่ท่ามกลางสวนกุหลาบสวยๆ (ต้องลอง เค้าไม่ได้โม้) ส่วนรสอันนี้แอบผิดคาด เพราะหวังว่าจะได้รู้รสกุหลาบ แต่ว่าเป็นรสออกแนวบัตเตอร์ครีมที่มีกลิ่นกุหลาบค่ะ
รสที่ 4 Infiniment Chocolat Paineiras : มาการองช็อคโกแลตล้วน รสขมนิดๆ และเข้มข้นของช้อตโกแลตพุ่งสูงเรื่อยในทุกๆคำที่กิน ชิ้นนี้เลือกเอาใจสามีนิดนึง (แต่มิวาย อ้อนขอชิมสักคำ 555 )
รสที่ 5 Infiniment Mandarine : มาการองสีส้มเข้ม ชิ้นนี้ จขกท.รู้สึกว่าไส้จะหนากว่ารสอื่น (ไม่รู้ว่ามโนไปเองหรือเปล่า) รสหวาน อารมณ์ส้มจ๋าเลยจ้า ใครที่ชอบกินส้มอยู่แล้วต้องไม่พลาดรสนี้เลยนะ ^_^
รสที่ 6 Infiniment Caramel มาการองรสคาลาเมลเข้มข้น รสชาติออกเค็มนิดๆ (ก็นะตามประสาคาราเมล) ของที่นี่จะใช้คาราเมลล้วนๆ เพราะฉะนั้นตอนที่กินจะรู้สึกถึงความหนืดเหนียวของคาราเมล
ความพิเศษ ของมาการอง Pierre Herme’ คือไส้แต่ละชิ้นจะผลิตตามฤดูกาลค่ะ และผลิตแบบจำนวนจำกัดหมดแล้วหมดเลย ส่วนชิ้นที่รีวิวอยู่นี้อาจจะไม่มีให้ซื้อก็ได้นะ ถ้าอยากจะลอง 6 รสนี้ แนะนำให้รีบสั่งหรือไปฝรั่งเศสด่วนๆค่ะ แต่ถ้าเปลี่ยนฤดูแล้วก็ต้องลุ้นเอาว่าจะได้กินรสชาติไหนกัน (ไม่แน่...อาจจะเจอรสชาติที่แปลกกว่านี้ก็เป็นได้) 555
ส่วนตอนนี้มาการอง Pierre Herme ยังไม่มีวางขายในประเทศไทยค่ะ ถ้าอยากลิ้มลองรสชาติมาการองหรูอย่างทริปเรา ใกล้ที่สุดที่พอจะไปลองกินกันได้ก็ที่ฮ่องกงหรือไม่ก็ญี่ปุ่นค่า
จบแล้วจ้าทริปหวานผลงานการเซอร์ไพรส์ของคุณสามี กับทริปรีวิวขนมหวานๆ ของขนมมาการองหรูที่อร่อยที่สุดในโลก ^___^
คุณแฟนเอาใจขนาดนี้ จะขอให้เราไปนั่ง Big Bike อีกก็ยอมมมมมมมมมมมมม! 555
บ๊ายบายยยยย (ขอไปฟินกับกระเป๋าใบโปรดแปป