สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 35
**ผมตั้งกระทู้ผิดดันเป็นแบบคำถาม ถ้าจะอ่านเป็นลำดับขั้น กรุณาข้าม ตรงคห.สีเลือดหมูสุดยอดความเห็น แล้วอ่านไล่ คห. 1 2 3 ... นะครับ ขอบคุณครับ
-------------------
โอเค เราถือคติจะทำอะไรต้องทำให้สุดๆไปเลย เลเซอร์ที่ทรงพลังที่สุดในโลกอยู่ที่ National Ignition Facility , สหรัฐฯ
เป็นห้องแลปวิจัยฟิวชัน เป็นเลเซอร์เหนือม่วงมีกำลัง 500 เทระวัตต์หรือ 500*10^12 วัตต์

National Ignition Facility
อย่างไรก็ตามมันยิงออกมาในช่วงเวลาที่สั้นมากๆเป็นนาโนวินาที นั้นเราสมมติว่ามันสามารถยิงต่อเนื่องได้แล้วกันนะ
แต่มันก็ช่างโชคร้ายอีกเพราะอุณหภูมิสูงขนาดนี้เมื่อผ่านบรรยากาศโลกก็จะทำให้กลายเป็นพลาสมา และทำให้เราไม่สามารถมีชีวิต
อยู่ทำการทดลองต่อไป นั้นเอาใหม่เราสมมุติว่ามันสามารถผ่านบรรยากาศโลกไปได้โดยโดยไม่ถูกดูดซับพลังงานเลยแล้วกัน
แต่กระนั้นก็ดีเมื่อทุกคนบนโลกฉายเลเซอร์นี้ไปยังดวงจันทร์ ซึ่งจะสว่างเป็น 4000 เท่าของแสงที่มาจากดวงอาทิตย์ในตอน
กลางวันของโลกเรา โลกเราก็คงจะร้อนมากๆและพวกเราก็คงไม่น่ารอดกันอยู่ดีนั่นแหละ
แต่ลืมโลกไปก่อน
เพื่อการศึกษาวิจัย โปรดสนใจแต่ดวงจันทร์
เกิดอะไรขึ้นกับดวงจันทร์ ?
ด้วยพลังงานขนาดนี้ส่องไปจะเกิดแรงดันของการแผ่รังสี ค่อยๆดันดวงจันทร์ออกไป ภายในไม่กี่ปีมันก็จะหลุดจากวงโคจรรอบโลก
พลังงาน 40 เมกะจูลเพียงพอในการระเหยหินมวล 1 กิโลกรัม สมมติหินดวงจันทร์มีความหนาแน่น 3 kg/liter เลเซอร์นั้นจะ
ทำลายชั้นหินบนดวงจันทร์ไปเรื่อยๆในอัตรา 4 m/s
แต่หินดวงจันทร์จะไม่ระเหยเร็วแบบนั้นเพราะมันไม่ได้หายไปไหนมันจะกลายเป็นพลาสมาและปิดกั้นเส้นทางของลำแสง
เลเซอร์เมื่อฉายไปเรื่อยๆพลาสมาก็จะร้อนขึ้นเรื่อยๆในที่สุด ทนไม่ไหวแล้วนะ มันก็จะระเบิดออกมาสู่อวกาศด้วยความเร็วที่สูงมาก
อย่างกับเครื่องยนต์จรวดแน่ะ จริงๆแล้วการนำเลเซอร์ไปทำกับวัสดุแบบนี้เรียกว่า laser ablation หรือการเสียดทำลายโดยเลเซอร์
ซึ่งอาจจะสามารถเอาไปประยุกต์ใช้ในการขับดันยานอวกาศได้
สนใจอ่านต่อได้ที่ http://en.wikipedia.org/wiki/Laser_ablation

กลับมาดูชะตาชีวิตแสนรันทดของดวงจันทร์กันต่อ
ดวงจันทร์นั้นมีมวลมาก แต่พลาสมาจากหินนี้เป็นเครื่องยนต์เจ็ทที่ด้านหนึ่งของดวงจันทร์ ขับดันไป มันจะค่อยๆห่างจากโลก
และพลาสมานี้ก็จะทำลายผิวของดวงจันทร์ส่วนหนึ่งด้วย ลองคำนวณแบบคร่าวๆมันจะมีความเร็วเฉลี่ย 500 km/s และต้องใช้
เวลาหลายเดือนกว่าจะพ้นระยะแสงเลเซอร์ของชาวโลก ดวงจันทร์นี้ยังคงสามารถรักษามวลส่วนใหญ่ของมันไว้ได้ มันจะค่อยๆหลุด
จากแรงดึงดูดของโลก และโคจรรอบดวงอาทิตย์แบบโงนเงน ไม่มั่นคง
ตามนิยามของ IAU สหพันธ์ดาราศาสตร์สากล มันจะไม่เป็นดาวเคราะห์ดวงใหม่ แต่จะเป็นดาวเคราะห์แคระแบบพลูโตมากกว่า
และก็อาจจะไปกวนระบบการโคจรแบบคาบของดาวเคราะห์ดวงอื่น หรือพุ่งเข้าใส่ดวงอาทิตย์ หรืออาจจะพุ่งเข้าใส่ดาวเคราห์ดวงอื่นๆ
หรือแย่ที่สุด มันอาจจะกลับมาพุ่งชนโลกของเราก็ได้
ซึ่งผมว่าเราก็สมควรโดนแล้วแหละ

นี่คือผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ก่อนจะจบ เผื่อใครอยากฟังเพลงให้เข้ากับบรรยากาศ
ถ้าหากโลกนี้ไม่มีดวงจันทร์ illslick

เนื้อร้อง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
--------------------------------------------------
จบแล้วครับ จากคำถามที่อาจดูตลกกลับพาเราไปพบเจอเรื่องราวน่าตื่นเต้น และความรู้ใหม่ๆ มากมาย สนุกดีนะครับสำหรับการผจญภัย
ครั้งนี้ ขอบคุณทุกท่านมากที่ติดตามอ่านและช่วยฉายเลเซอร์
ก่อนจากไปมีคำคม
“Learn from yesterday, live for today, hope for tomorrow. The important thing is to not stop questioning.”
"เรียนรู้จากเมื่อวาน อยู่กับวันนี้ มีความหวังสำหรับวันพรุ่งนี้ สิ่งสำคัญคืออย่าหยุดตั้งคำถาม"
-Albert Einstein, Relativity: The Special and the General Theory
เนื้อหามาจากหนังสือ What If?: Serious Scientific Answers to Absurd Hypothetical Questions โดย Randall Munroe

เป็นหนังสือที่อ่านสนุกมาก คำถามน่าสนใจมากมายเช่น ถ้าเราไปว่ายในสระ nuclear fuel จะอยู่รอดได้นานเท่าไร หรือ ถ้าขว้างลูกเบสบอลด้วยความเร็วใกล้แสงให้นักเบสบอลตีจะเกิดอะไรขึ้น หรือ ถ้าคนบนโลกมารวมกันและกระโดดพร้อมกันจะเกิดอะไรขึ้น ยังมีคำถามที่น่าสนใจอีกมากมายพร้อมคำตอบ สนใจไปหาอ่านกันได้ครับ
----------------------------------------
อ้างอิง
-What If?: Serious Scientific Answers to Absurd Hypothetical Questions โดย Randall Munroe
-http://www.lesa.biz/astronomy/astro-events/moon-phases
-http://en.wikipedia.org/wiki/Laser_ablation
-http://pantip.com/topic/30096254
ขอบคุณที่มาอ่านกัน ถ้ามีโอกาสจะมาแลกเปลี่ยนความรู้กันใหม่ สำหรับวันนี้สวัสดีครับ
จบแล้วครับ ^_^
-------------------
โอเค เราถือคติจะทำอะไรต้องทำให้สุดๆไปเลย เลเซอร์ที่ทรงพลังที่สุดในโลกอยู่ที่ National Ignition Facility , สหรัฐฯ
เป็นห้องแลปวิจัยฟิวชัน เป็นเลเซอร์เหนือม่วงมีกำลัง 500 เทระวัตต์หรือ 500*10^12 วัตต์

National Ignition Facility
อย่างไรก็ตามมันยิงออกมาในช่วงเวลาที่สั้นมากๆเป็นนาโนวินาที นั้นเราสมมติว่ามันสามารถยิงต่อเนื่องได้แล้วกันนะ
แต่มันก็ช่างโชคร้ายอีกเพราะอุณหภูมิสูงขนาดนี้เมื่อผ่านบรรยากาศโลกก็จะทำให้กลายเป็นพลาสมา และทำให้เราไม่สามารถมีชีวิต
อยู่ทำการทดลองต่อไป นั้นเอาใหม่เราสมมุติว่ามันสามารถผ่านบรรยากาศโลกไปได้โดยโดยไม่ถูกดูดซับพลังงานเลยแล้วกัน
แต่กระนั้นก็ดีเมื่อทุกคนบนโลกฉายเลเซอร์นี้ไปยังดวงจันทร์ ซึ่งจะสว่างเป็น 4000 เท่าของแสงที่มาจากดวงอาทิตย์ในตอน
กลางวันของโลกเรา โลกเราก็คงจะร้อนมากๆและพวกเราก็คงไม่น่ารอดกันอยู่ดีนั่นแหละ
แต่ลืมโลกไปก่อน
เพื่อการศึกษาวิจัย โปรดสนใจแต่ดวงจันทร์
เกิดอะไรขึ้นกับดวงจันทร์ ?
ด้วยพลังงานขนาดนี้ส่องไปจะเกิดแรงดันของการแผ่รังสี ค่อยๆดันดวงจันทร์ออกไป ภายในไม่กี่ปีมันก็จะหลุดจากวงโคจรรอบโลก
พลังงาน 40 เมกะจูลเพียงพอในการระเหยหินมวล 1 กิโลกรัม สมมติหินดวงจันทร์มีความหนาแน่น 3 kg/liter เลเซอร์นั้นจะ
ทำลายชั้นหินบนดวงจันทร์ไปเรื่อยๆในอัตรา 4 m/s
แต่หินดวงจันทร์จะไม่ระเหยเร็วแบบนั้นเพราะมันไม่ได้หายไปไหนมันจะกลายเป็นพลาสมาและปิดกั้นเส้นทางของลำแสง
เลเซอร์เมื่อฉายไปเรื่อยๆพลาสมาก็จะร้อนขึ้นเรื่อยๆในที่สุด ทนไม่ไหวแล้วนะ มันก็จะระเบิดออกมาสู่อวกาศด้วยความเร็วที่สูงมาก
อย่างกับเครื่องยนต์จรวดแน่ะ จริงๆแล้วการนำเลเซอร์ไปทำกับวัสดุแบบนี้เรียกว่า laser ablation หรือการเสียดทำลายโดยเลเซอร์
ซึ่งอาจจะสามารถเอาไปประยุกต์ใช้ในการขับดันยานอวกาศได้
สนใจอ่านต่อได้ที่ http://en.wikipedia.org/wiki/Laser_ablation

กลับมาดูชะตาชีวิตแสนรันทดของดวงจันทร์กันต่อ
ดวงจันทร์นั้นมีมวลมาก แต่พลาสมาจากหินนี้เป็นเครื่องยนต์เจ็ทที่ด้านหนึ่งของดวงจันทร์ ขับดันไป มันจะค่อยๆห่างจากโลก
และพลาสมานี้ก็จะทำลายผิวของดวงจันทร์ส่วนหนึ่งด้วย ลองคำนวณแบบคร่าวๆมันจะมีความเร็วเฉลี่ย 500 km/s และต้องใช้
เวลาหลายเดือนกว่าจะพ้นระยะแสงเลเซอร์ของชาวโลก ดวงจันทร์นี้ยังคงสามารถรักษามวลส่วนใหญ่ของมันไว้ได้ มันจะค่อยๆหลุด
จากแรงดึงดูดของโลก และโคจรรอบดวงอาทิตย์แบบโงนเงน ไม่มั่นคง
ตามนิยามของ IAU สหพันธ์ดาราศาสตร์สากล มันจะไม่เป็นดาวเคราะห์ดวงใหม่ แต่จะเป็นดาวเคราะห์แคระแบบพลูโตมากกว่า
และก็อาจจะไปกวนระบบการโคจรแบบคาบของดาวเคราะห์ดวงอื่น หรือพุ่งเข้าใส่ดวงอาทิตย์ หรืออาจจะพุ่งเข้าใส่ดาวเคราห์ดวงอื่นๆ
หรือแย่ที่สุด มันอาจจะกลับมาพุ่งชนโลกของเราก็ได้
ซึ่งผมว่าเราก็สมควรโดนแล้วแหละ



นี่คือผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ก่อนจะจบ เผื่อใครอยากฟังเพลงให้เข้ากับบรรยากาศ

ถ้าหากโลกนี้ไม่มีดวงจันทร์ illslick

เนื้อร้อง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
--------------------------------------------------
จบแล้วครับ จากคำถามที่อาจดูตลกกลับพาเราไปพบเจอเรื่องราวน่าตื่นเต้น และความรู้ใหม่ๆ มากมาย สนุกดีนะครับสำหรับการผจญภัย
ครั้งนี้ ขอบคุณทุกท่านมากที่ติดตามอ่านและช่วยฉายเลเซอร์
ก่อนจากไปมีคำคม
“Learn from yesterday, live for today, hope for tomorrow. The important thing is to not stop questioning.”
"เรียนรู้จากเมื่อวาน อยู่กับวันนี้ มีความหวังสำหรับวันพรุ่งนี้ สิ่งสำคัญคืออย่าหยุดตั้งคำถาม"
-Albert Einstein, Relativity: The Special and the General Theory
เนื้อหามาจากหนังสือ What If?: Serious Scientific Answers to Absurd Hypothetical Questions โดย Randall Munroe

เป็นหนังสือที่อ่านสนุกมาก คำถามน่าสนใจมากมายเช่น ถ้าเราไปว่ายในสระ nuclear fuel จะอยู่รอดได้นานเท่าไร หรือ ถ้าขว้างลูกเบสบอลด้วยความเร็วใกล้แสงให้นักเบสบอลตีจะเกิดอะไรขึ้น หรือ ถ้าคนบนโลกมารวมกันและกระโดดพร้อมกันจะเกิดอะไรขึ้น ยังมีคำถามที่น่าสนใจอีกมากมายพร้อมคำตอบ สนใจไปหาอ่านกันได้ครับ
----------------------------------------
อ้างอิง
-What If?: Serious Scientific Answers to Absurd Hypothetical Questions โดย Randall Munroe
-http://www.lesa.biz/astronomy/astro-events/moon-phases
-http://en.wikipedia.org/wiki/Laser_ablation
-http://pantip.com/topic/30096254
ขอบคุณที่มาอ่านกัน ถ้ามีโอกาสจะมาแลกเปลี่ยนความรู้กันใหม่ สำหรับวันนี้สวัสดีครับ
จบแล้วครับ ^_^
ความคิดเห็นที่ 42
ก็ผมเอามาจากหนังสือนี่ครับ ทำไมผมจะต้องใส่เครดิตเว็บด้วย ผมใส่เครดิตหนังสือก็ถูกต้องแล้ว คุณเข้าใจผิดไปเอง ผมก็ไม่ได้อ่านจากเว็บแบบที่คุณกล่าว ผมก็พึ่งมารู้เหมือนกันว่ามีเว็บนี้ ก็ขอบคุณคนโพสบอกด้วยครับ ผมได้แปล เรียบเรียง และใส่เนื้อหา ทำสำนวนให้เนื้อเรื่องดูน่าสนใจ ให้คนที่ไม่มีโอกาสอ่าน ได้อ่านบทความดีๆบ้าง เห็นเนื้อหาน่าสนใจจึงนำมาเขียน อยากให้เรื่องที่แชร์ในสื่อออนไลน์ของบ้านเรามีเรื่องวิทยาศาสร์สนุกๆบ้างผมก็นำมาแบ่งปันกัน ผมก็เขียนไว้แล้วว่ายังมีคำถามที่น่าสนใจอีกมากในหนังสือถ้าสนใจก็ให้ไปติดตามต่อ แต่ยังไงก็ขอบคุณสำหรับความเห็นและการติดตามอ่านนะครับ นึกว่าท่านจะไม่อ่านต่อแบบที่เขียนไว้แล้วซะอีก ก็แบบที่ผมอยากจะสื่อในกระทู้แหละครับทุกคนสามารถตั้งคำถามได้เสมอๆอยู่แล้ว ขอบคุณครับ
ปล.ในเว็บอะเมซอนมีหนังสือดีๆขายมากมาย จะซื้อแบบหนังสือจริงๆก็ได้หรือจะซื้อแบบE-book แบบ Kindle ตัดเงินผ่านบัตรเครดิต
ก็ได้เผื่อสนใจกันนะครับ ^_^
ปล.ในเว็บอะเมซอนมีหนังสือดีๆขายมากมาย จะซื้อแบบหนังสือจริงๆก็ได้หรือจะซื้อแบบE-book แบบ Kindle ตัดเงินผ่านบัตรเครดิต
ก็ได้เผื่อสนใจกันนะครับ ^_^

ความคิดเห็นที่ 2

"ลูกผู้ชายมีบ้างพึงกระทำ บ้างไม่พึงกระทำ บางเรื่องบางประการ หากท่านทราบว่ามิสามารถทำได้ ยังมิอาจไม่กระทำ"
เราจะไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ ทีนี้ลองเปลี่ยนมาใช้อีกสิ่งนึงที่เรียกว่า Nightsun
ถ้าเอ่ยชื่อนี้บางท่านอาจไม่รู้จัก แต่ท่านคงเคยเห็นแน่
ในหนังฝรั่ง ตอนกลางคืนเวลาโจรหนีตำรวจ แล้วตำรวจขับฮอบินตาม ตำรรวจจะใช้ไฟแรงๆส่องมาที่พื้นหาผู้ร้าย
นั่นแหละเรียกว่า Nightsun หรือเวลามีงานวัดบ้านเรามักจะมีลำแสงฉายขึ้นฟ้าเหมือนรหัสเรียกแบทแมน แบบนั้นก็ใช่

Nightsun

ส่วนประกอบของ Nightsun
ผมจะจ่ายแจกNightsun ให้ทุกคนบนโลกนะ มันลำแสงกว้างทุกคนไปติดเลนส์โฟกัสให้ลำแสงแคบ เหลือ 0.5 องศาก่อนนะ
โอเค พร้อมแล้วใช่ไหม
มือนิ่งๆนะทุกคน เอาแหละนะผมนับหนึ่งถึงสาม และฉายไปพร้อมกันนะ
1
2
3.....
แตนแต๊น
ผลคือ


ฮือๆมันสว่างเพิ่มขึ้นมานิดเดียวจนแยกไม่ออกเลยอ่า Nightsun กำลังของความสว่าง 50,000 ลูเมน มันสามารถส่องสนามหญ้าตอนกลางคืนเป็นดุจกลางวันได้ แต่พอคนทั้งโลกไปส่องดวงจันทร์กลับสว่างขึ้นมานิดเดียวจนแทบไม่เห็นอะไร ไม่เป็นไรอย่างน้อยเราก็พัฒนา ลำแสงนี้มี ความสว่าง 20 ลักซ์ ในส่วนด้านสว่างของดวงจันทร์มันไม่ส่งผลใดๆเลย แต่ด้านมืดมันสว่างเพิ่มขึ้นมาอีกนิดเดียวเอง นิดเดียวจริงๆแทบไม่เห็นผลอะไรเลย
นั้นถ้าเราเพิ่มพลังให้มากกว่านี้หล่ะ

ง่วงนอนแล้ว เดี๋ยวพรุ่งนี้มาส่องพระจันทร์กันใหม่ครับ ราตรีสวัสดิ์

"ลูกผู้ชายมีบ้างพึงกระทำ บ้างไม่พึงกระทำ บางเรื่องบางประการ หากท่านทราบว่ามิสามารถทำได้ ยังมิอาจไม่กระทำ"
เราจะไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ ทีนี้ลองเปลี่ยนมาใช้อีกสิ่งนึงที่เรียกว่า Nightsun
ถ้าเอ่ยชื่อนี้บางท่านอาจไม่รู้จัก แต่ท่านคงเคยเห็นแน่
ในหนังฝรั่ง ตอนกลางคืนเวลาโจรหนีตำรวจ แล้วตำรวจขับฮอบินตาม ตำรรวจจะใช้ไฟแรงๆส่องมาที่พื้นหาผู้ร้าย
นั่นแหละเรียกว่า Nightsun หรือเวลามีงานวัดบ้านเรามักจะมีลำแสงฉายขึ้นฟ้าเหมือนรหัสเรียกแบทแมน แบบนั้นก็ใช่

Nightsun

ส่วนประกอบของ Nightsun
ผมจะจ่ายแจกNightsun ให้ทุกคนบนโลกนะ มันลำแสงกว้างทุกคนไปติดเลนส์โฟกัสให้ลำแสงแคบ เหลือ 0.5 องศาก่อนนะ
โอเค พร้อมแล้วใช่ไหม
มือนิ่งๆนะทุกคน เอาแหละนะผมนับหนึ่งถึงสาม และฉายไปพร้อมกันนะ
1
2
3.....
แตนแต๊น
ผลคือ


ฮือๆมันสว่างเพิ่มขึ้นมานิดเดียวจนแยกไม่ออกเลยอ่า Nightsun กำลังของความสว่าง 50,000 ลูเมน มันสามารถส่องสนามหญ้าตอนกลางคืนเป็นดุจกลางวันได้ แต่พอคนทั้งโลกไปส่องดวงจันทร์กลับสว่างขึ้นมานิดเดียวจนแทบไม่เห็นอะไร ไม่เป็นไรอย่างน้อยเราก็พัฒนา ลำแสงนี้มี ความสว่าง 20 ลักซ์ ในส่วนด้านสว่างของดวงจันทร์มันไม่ส่งผลใดๆเลย แต่ด้านมืดมันสว่างเพิ่มขึ้นมาอีกนิดเดียวเอง นิดเดียวจริงๆแทบไม่เห็นผลอะไรเลย
นั้นถ้าเราเพิ่มพลังให้มากกว่านี้หล่ะ

ง่วงนอนแล้ว เดี๋ยวพรุ่งนี้มาส่องพระจันทร์กันใหม่ครับ ราตรีสวัสดิ์

แสดงความคิดเห็น
== เอถ้าทุกคนบนโลกเอาเลเซอร์ไปฉายดวงจันทร์พร้อมกันจะเกิดอะไรขึ้นนะ ==
สมการทางฟิสิกส์ควรมีเพียง 4 สมการการเคลื่อนที่ใน 2 มิติแค่นั้นแหละ ทำไมมันถึงกลับมีตั้งมากมายผมแปลกใจ
4 สมการการเคลื่อนที่ใน 2 มิติ
แต่เมื่อผมเรียนฟิสิกส์ตอนมอปลาย สมการพื้นฐานเหล่านี้กลับแปลงร่างกันไปมา โยงใยไปสู่เรื่อง การเคลื่อนที่แบบมีความเร่ง ไปสู่การเคลื่อนที่แบบโปรเจคไตล์ และมีการเปลี่ยนพิกัด ไปสู่การเคลื่อนที่แบบหมุน มีการพัฒนาไปสู่คอนเซปเรื่อง งานและพลังงาน และอื่นๆอีกมากมาย
การเปลี่ยนไปสู่การเคลื่อนที่แบบหมุน
และความรู้ทางฟิสิกส์ในปัจจุบันนี้ก็มีมากมาย หลายหลาย เหตุผลนึงที่เป็นแบบนี้ก็เพราะธรรมชาติเป็นแบบนี้แหละ มันเป็นแบบนี้เป็นปกติของมัน หรือถ้ามองอีกมุมนึงก็เพราะว่า เพราะเราเป็นสิ่งมีชีวิตทรงปัญญาสามารถคิดถึงเรื่องราวเหล่านี้ได้ ก็เพราะว่าธรรมชาตินั้นซับซ้อนถึงสามารถสร้างสิ่งมีชีวิตทรงปัญญาได้ ดังนั้นจึงไม่แปลกที่เราจะเกิดมาในเอกภพที่ซับซ้อน
อีกเหตุผลนึงที่สำคัญคือมนุษย์นั้นชอบสงสัย ใคร่รู้ มีการตั้งคำถามสงสัยถึงสิ่งต่างๆ และการตั้งคำถามสงสัยสิ่งต่างๆนี่แหละทำให้มนุษย์เรามีความรู้ พัฒนาขึ้นมา และสิ่งสำคัญคือในโลกของวิทยาศาสตร์นั้นต่างจากโลกของศาสนาหรือโลกอื่นๆ คือเราสามารถที่จะตั้งคำถาม แสดงความเห็นได้อย่างอิสระเสรี ในวิทยาศาสตร์ไม่มีหนังสือเล่มไหนครบถ้วนสมบูรณ์แบบ ทุกเล่มทุกความรู้สามารถที่จะตั้งคำถาม และสงสัยได้ แม้ทฤษฎีนั้นจะถูกสร้างโดยคนที่เก่งที่สุดในโลกในศาสตร์นั้น แม้แต่เด็กอนุบาลก็สามารถสงสัยและตั้งคำถามต่อทฤษฎีนั้นได้ นี่แหละคือเหตุผลนึงที่วิทยาศาสตร์สามารถพัฒนาไปได้อย่างมากและประสพผลสำเร็จอย่างดีในการอธิบายสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้น หรือแม้แต่ทำนายสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นก็ได้
เด็กสงสัย ใคร่รู้
มากระทู้นี้ เราจะลองมาตั้งคำถามที่แปลกๆ น่าสงสัยกัน คำถามที่อาจดูแปลกนี้อาจนำไปสู่ผลลัพธ์ของคำตอบที่น่าสนใจมากเลยทีเดียว
และคุณจะค้นพบว่า ไม่มีคำถามไหนเป็นคำถามที่โง่ ทุกคำถามล้วนถามได้ และพลังการไขปริศนาและตอบคำถามของวิทยาศาสตร์นั้นช่างทรงพลังเสียจริงๆ
คำถาม
เอถ้าทุกคนบนโลกเอาเลเซอร์ไปฉายดวงจันทร์พร้อมกันจะเกิดอะไรขึ้นนะ ?
จะฟังเพลงก่อนก็ได้ หลังจากนี้เราจะเข้าสู่เนื้อหาวิชาการแล้วครับ
Mark Ronson - Uptown Funk ft. Bruno Mars
------------------------------------------
เอ อย่างแรกที่ต้องพิจารณาก่อนเลย คือไม่ทุกคนบนโลกที่มองเห็นดวงจันทร์พร้อมกัน เพราะประชากรโลก สามในสี่ อาศัยอยู่แถว ระหว่าง 0°E ถึง 120°E นั้นเราสมมุติให้ดวงจันทร์อยู่เหนือทะเลอราเบียนแล้วกัน
พิกัดที่ใช้บอกตำแหน่งบนพื้นโลก
ข้างขึ้นข้างแรม (The Moon's Phases) คือปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เรามองเห็นดวงจันทร์เปลี่ยนแปลงเป็นเสี้ยว บางคืนก็เสี้ยวเล็ก บางคืนก็เสี้ยวใหญ่ บางคืนสว่างเต็มดวง เอาแบบไหนดีนะ นั้นเอาแบบประมาณสว่างครึ่ง มืดครึ่ง แล้วกัน จะได้เปรียบเทียบได้
เอาพระจันทร์สัก แรม 8 ค่ำแล้วกัน
ส่วนอุปกรณ์เลเซอร์พ้อยเตอร์ก็แบบนี้ อันนึงมีพลังงานประมาณ 5 มิลลิวัตต์
แจกจ่ายกันไปทุกคนบนโลก เข้าแถวมารับกันเร็ว ห้ามแซงคิวกันนะ
อืมตอนฉายไปดวงจันทร์คงโดนบรรยากาศดูดซับไปหน่อย และก็คง distort ถูกทำให้ผิดรูปไปด้วย และไปถึงลำแสงก็คงขยายกว้างบนผิดของดวงจันทร์แหละ เพราะมันไกลเอาเรื่องเหมือนกันนะ ไม่เชื่อลองขับรถไปสิ
ลำแสง
ประกาศ โปรดฟังอีกครั้ง ทุกคนบนโลกฟังผมนะ เดี๋ยวเรารอเวลาและฉายเลเซอร์ไปดวงจันทร์พร้อมกันนะ
อืม รอจนได้เวลาเที่ยงคืนครึ่ง ได้เวลาแระ มือนิ่งๆนะทุกคน เอาแหละนะผมนับหนึ่งถึงสาม และฉายเลเซอร์ไปพร้อมกันนะ
1
2
3.....
แต่นแต๊น
นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้น
ฮือๆเสียใจจัง แต่ลองคำนวณดูก็น่าจะต้องเป็นแบบนี้แหละ แสงจากดวงอาทิตย์ส่องไปดวงจันทร์ตกที่ประมาณ 1 กว่าๆ กิโลวัตต์ต่อตารางเมตร โดยพื้นที่ตัดขวางของดวงจันทร์มีประมาณ 10^13 ตารางเมตร ก็ตกประมาณรวม 10^16 วัตต์ของแสงอาทิตย์ หรือ 10 เพตะวัตต์ หรือ 2 เมกาวัตต์ต่อคน ซึ่งมันเทียบกันไม่ได้เลยกับเลเซอร์ 5 มิลลิวัตต์
ฮือๆ ไม่เป็นไร เหล่าจอมยุทธ์อย่าพึ่งยอมแพ้
นั้นถ้าเราเพิ่มพลังให้มากกว่านี้หล่ะ
เดี๋ยวมาดูกันต่อ ขอตัดเข้าโฆษณาก่อนครับ
**ผมตั้งกระทู้ผิดดันเป็นแบบคำถาม ถ้าจะอ่านเป็นลำดับขั้น กรุณาข้าม ตรงคห.สีเลือดหมูสุดยอดความเห็น แล้วอ่านไล่ คห. 1 2 3 ... นะครับ ขอบคุณครับ
--------------------
"สวัสดีค่ะ จขกท ฝากมาบอกว่าถ้าชอบก็ช่วยกันกดบวกด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ"