จากกระทู้ MT รำคาญ AT หลายคนเข้าใจสิ่งที่เค้าสื่อมั้ยครับเนี่ย

ผมล่ะสงสัยกระทู้นั้นว่า ทำไมหลายคนจะพิมพ์ ครับๆๆๆๆ เป็นงานฝังลูกนิมิตอะไรนักหนา

มันสื่อว่าพวกคุณไม่เข้าใจว่าการขับรถ AT บนดอยโดยปราศจากความรู้เรื่องเกียร์ มันอันตรายขนาดไหนหรือเปล่าครับ


เอาแค่ดอยง่ายๆแบบดอยสุเทพ ผมก็เจอครับ ที่ขับ AT โดยค้างไว้แค่ D เท่านั้น ในบางครั้งก็ไปแบบผีตายซาก คือจะเนิบอะไรนักหนาไม่รู้ครับ

บอกให้ตรงนี้ว่า หลายคนขับ MT เก่ง แต่ก็เก่งในที่ราบครับ จึงไม่ค่อยมีทักษะขับบนภูเขา และไม่มีวันรู้เลยว่า "จังหวะ" ของ MT บนภูเขา ไม่เหมือนที่ราบที่หลายๆคนอยู่ปกติ

ยิ่งบางคน ขับ AT ขึ้นดอยแบบผิดๆ ไอ้ตรงบางจุดน่ะ เกียร์มันหมดแรงครับ ต้องลง D2 หรือกดปุ่ม Overdrive ถึงจะ "พรวดขึ้นไป" ทีนี้ก็อืดไปหมด โดยคนที่ประสบการณ์บนภูเขาน้อยๆจะมีกี่คนที่รู้เรื่องรู้ราวครับ แทบนับหัวได้

ทีนี้ รถ MT ที่ตามมา เค้าเร่งส่งมาตามปกติ ที่เกียร์ 4 และมาเจอ AT รู่น้อย ที้อืดแบบนั้น เกียร์ 4 ก็ต้องลง 2 ครับ ทีนี้ จบครับ เสียจังหวะไปหมด

และ AT ที่ขับแย่ๆแบบนั้น พอถึงจุดเปลี่ยนเกียร์ เกียร์มันก็เปลี่ยน คุณก็เร่งออกไปเลย โดยไม่ได้รู้เรื่องราวเลยว่า ขับรถเกะกะโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์

ไอ้รถ MT ที่หดเหลือเกียร์ 2 นี่แหละครับ ภาระเลย กว่าจะเร่งได้ใหม่ กว่าจะัตั้งสปีดเปลี่ยนเกียร์ 3 ได้ นานครับ เพราะรถ AT บางคันที่ไม่มีทักษะนี่แหละครับ ไม่ยอมเปลี่ยนเกียร์ตามความชัน

ใช้ AT ไม่ได้แปลว่าไม่ต้องเอามือควบคุมเกียร์นะครับ บางครั้งก็ต้องลงมาที่ D2 D3 บ้าง

AT ไม่ได้มีแค่ D , P , N ครับ ต้องใช้เป็นด้วย

เลิกประชดกันครับ เอาความจริงมาคุยกันว่า หลายคน ไม่มีทักษะครับ บอกตรงๆ

เชียงใหม่บ้านผม แชมป์อุบัติเหตุและตายครับ และผมชักอยากรู้เหมือนกันว่า

รถที่ชนและคนที่ตายน่ะ รถทะเบียน จว อะไร และคนที่ตายน่ะ คน จว ไหน .....
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่