[CR] 2คน1คัน 7วัน6คืน กับเงิน6500บาท เที่ยวเหนือ

การเดินทางขึ้นเหนือโดยไม่มีแบบแผนในช่วงปีใหม่นี้ ตั้งใจไว้ว่าค่ำไหนนอนนั่น ผ่านจังหวัดไหนอยากเที่ยวก็เลี้ยวเลย ทริปนี้ เราไปกัน2คนกับมอไซค์คู่ใจอีก 1คันค่ะ
ค่าใช้จ่ายทั้งหมด โดยประมาณ 6500/2คนค่ะ ระยะทางประมาณ 2100 กม.


วันที่ 28/12/57 เราออกเดินทางประมาณตี4 แฟนเรานัดเจอคนรู้จักที่ปั๊มน้ำมันบางปะหัน เพื่อขี่รถไปด้วยกันแล้วแยกกันที่ จ.กำแพงเพชรค่ะ


หลังจากนั้นเราก็มุ่งหน้าไปบ้านเพื่อน คืนแรกของเรา นอนบ้านเพื่อนค่ะ ให้เพื่อนพาเที่ยวซะเลยยิ้ม

ที่นี่คือ บ้านบ่อสามแสน จ.กำแพงเพชรค่ะ

จากนั้นเพื่อนก็พาไปน้ำตกคลองลาน ระหว่างทาง เจอเจ้าตัวนี้ เราชอบมากกกกกกกกกกกกก ฟัดกันอยู่นาน

น้ำตกคลองลานตอนที่ไปอากาศเย็นกำลังดีค่ะ



เล่นน้ำกันหนำใจก็กลับมาอาบน้ำ ทำกับข้าวกินกันพอหอมปากหอมคอ

หมาที่บ้านเพื่อน เห็นของกินเป็นไม่ได้ โชว์ความสามารถพิเศษเลยค่ะ ฮ่าาา


วันแรกผ่านไป ต้องขอขอบคุณเพื่อนที่เอื้อเฟื้อที่พักฟรีให้เราค่ะ ^^


วันที่2 เรามุ่งหน้าเข้าตากค่ะ ว่าจะไปนอนที่อุทยานแห่งชาติแม่เมย ขับรถไปเรื่อยๆ ระหว่างทางเมื่อยก็พัก เจอสถานที่อะไรน่าสนใจ ก็แวะถ่ายรูปไปเรื่อย



ตรงนี้เป็นหมู่บ้านแม่หลักค่ะ ลักษณะภายในเหมือนเป็นเขตกักกันผู้อพยพ อะไรทำนองนี้ เขาจะมีรั้วกั้นไม่ให้คนออกจาเขตค่ะ และมีป้อมรักษาการเป็นจุด


คำแรกที่ได้ยินจากปากของเด็กเหล่านี้คือ "ขอ สิ บะ"   555+


จากนั้นเราก้อแวะไปถ้ำแม่อุษุค่ะ เป็นถ้ำที่ ต้องใช้จินตนาการในการมองหินแปลกๆ เดินข้ามแอ่งน้ำไม่ลึกมากประมาณเข่า ข้างในสวยดีค่ะ ถ้ำนี้จะมีไกด์เด็กเป็นคนนำทาง ค่าจ้างแล้วแต่เราจะให้ค่ะ ไกด์ไม่พูดอะไรเลย กลายเป็นเราชวนน้องเขาคุยซะงั้นค่ะ







ตรงนี้แล้วแต่คนจะจินตนาการเลยค่ะ

ระหว่างเดินสำรวจถ้ำเราก็พูดคุยกะเด็กไปเรื่อยๆ ได้ทราบว่าเด็กพวกนี้สวนใหญ่จบป.6แล้วก็จะยู่บ้านหรือไม่ก็ทำงานเลย ไม่เรียนต่อ เนื่องจากแถวบ้าน โรงเรียนจะมีสูงสุดที่ชั้น ป.6 แต่ถ้าใครอยากเรียนสูงกว่านั้นต้องเข้าไปเรียนในตัวเมืองค่ะ

จากนั้นเราก็มุ่งหน้าไปอุทยานแห่งชาติแม่เมยเลยค่ะ เพราะตอนนั้นก็เกือบ 5โมงเย็นแล้ว กลัวจะไปถ่ายรูปพระอาทิตย์ตกไม่ทัน
คืนที่2 เราพักบนม่อนกิ่วลม ซื้อเสบียงขึ้นไปกิน+ค่าเข้าอุทยาน+ค่ายานพาหนะ+ค่าเช่าที่กางเต๊นท์ รวมไม่เกิน300 บาทค่ะ

ขึ้นไปทันเวลาพระอาทิตย์ตกพอดี ที่ม่อนครูบาใส


จากนั้นก็ขี่รถขึ้นไปกางเต๊นท์ที่ม่อนกิ่วลมค่ะ เพื่อรอชมพระอาทิตย์ขึ้นตอนเช้า ระหว่างเดินหาทีกางเต๊นท์ก็มีคนนึงมาทัก ถามว่าขี่มอไซค์มาหรอ ผมก็ขี่มาเหมือนกัน และชวนให้กางเต๊นท์นอนข้างๆกัน วิวดีเลยค่ะ แหม่เจอคนคอเดียวกัน สบายเลย




ถ่ายรูปกันพอหอมปากหอมคอก็เก็บเต๊นท์ลงมาหาข้าวกินและลุยต่อ

วันที่3 อยากไหว้พระ ระหว่างทางเจอวัดเลยแวะเข้าไปไหว้ซักหน่อย




แล้วขับรถไปเรื่อยๆ วันนี้ว่าจะไปแม่ฮ่องสอนค่ะ ขับเรื่อยๆ เมื่อยก็พัก

รุปนี้เป็นร้านขายของข้างทาง ตอนแรกก้อว่าจะนั่งพักซื้อน้ำดื่มเฉยๆ  คุยกับน้าเจ้าของร้านไปๆมาๆถูกคอ เขาชวนลงไปดูบ้านข้างในของเขา มีน้ำตกไหลผ่านหลังบ้าน ได้บรรยากาศสุดๆ มีลูก3คนอยู่กทม. กำลังจะเดิทางมาหาน้า เขาก็ชวนนอนค้างที่บ้านสักคืน เผื่อเจอลูกๆของเขา แต่เป้าหมายของเราในวันนี้คือขุนยวมค่ะ นั่งพักผ่อนสักแปปก็ขอตัวเดินทางต่อ ไปถึงขุนยวมก็เกือบ5โมงเย็น ก็คิดว่าจะหาที่อาบน้ำก่อนขึ้นภูไม่งั้นจะไม่ได้อาบน้ำแน่ๆ เลยไปอาบน้ำที่วัดค่ะ แหม่ สบายจริงๆไมมีใครมาแย่งห้องน้ำด้วย ฮ่าาาาา
จากนั้นก็ซื้อเสบียงเตรียมขึ้น ภูชี้เพ้อ ค่ะ
ภูชี้เพ้อตั้งอยู่ใน หน่วยจัดการต้นน้ำแม่หยอด ทางเดียวกับที่จะไปชมทุ่งดอกบัวตองค่ะ


ทางขึ้นลำบากนิดหน่อย ทางแคบนิดหน่อย แต่ไปได้ค่ะ




ขึ้นไปถึงข้างบนก็เกืบจะมืดแล้ว เราก็ขอเจ้าหน้าที่กางเต๊นท์นอน จนท.ใจดีมากค่ะ อยากกางตรงไหนก็กาง เราเลยจัดการหามุมกางเต๊นท์ ขอบอกเลยว่าประทับใจที่นี่มากกก คนน้อยมากก  จุดที่เรากางไม่มีคนเลยค่ะ บรรยากาศดีมากกกกกกก กลางคืนดาวเยอะ อากาศอย่างหนาวเลย


วันที่ 4 ตื่นเช้ามาก็เดินขึ้นไปบนจุดชมวิวค่ะ หอบเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน ประมาณเกือบ 1กิโลน่าจะได้ค่ะ แต่บรรยากาศ วิว จัดว่าดีมาก คนน้อยด้วย





จากนั้นก็ลงมาเก็บเต๊นท์ และมุ่งหน้าจะไปนอนที่ ม่อนอังเกตุ ค่ะ ไปร่ำลา จนท.ละเขาก็บอกให้ไปทางลัดมันจะใกล้กว่า เราเลยมั่วๆทางกันไป
จนท.บอกระวังหลงทาง ทางก็มีลูกรังบ้าง คอนกรีดบ้าง เราก็โอเคค่ะ สบายๆ ตัดสินใจไปทางลัด แรกๆก็ไม่เท่าไหร่ อืม ทางลูกรังเยอะจังวุ๊ย ผ่านมาสัก1ชม. ผิดทางป่ะว๊าาา ทำไมไม่เจอทางลาดยาง เจอแต่ทางฝุน ฝุ่นจริงๆนะ

สังเกตุที่รองเท้าเราค่ะ คือเหยียบพื้นไปนี่จมฝุ่นเลย รองเท้าขาวเปลี่ยนสีในทันใด
คิดว่าอยู่ทะเลทรายซาฮาร่า สงสัยต้องเจออูฐสักตัวบ้างแหละ โชคดีของเราที่มีน้ำเปล่าติดรถไว้ เพราะตลอดทางผ่านมา2ชม.ไม่เจอร้านค้า บ้านคนเลย


ภาพนี้ระะหว่างรถกะบะสวนทางค่ะ 1วินาทีต่อจากนั้น

ก็เป็นตามสภาพนี้เลยค่ะ  ฝุ่นเยอะจริงๆ 55555555

พักข้างทางสักพักก็เดินทางต่อไปค่ะ ในใจหวังขอให้เอหมู่บ้านคนบ้างเถ๊อะ สาธุ (-/\-)
แล้วสวรรค์ก็เมตตา เจอหมู่บ้านคนแล้ววว  เป็นหมู่บ้านของชาวกระเหรี่ยงค่ะ


นั่งพักให้ไวเลยค่ะ เขากำลังจัดงานศพ ทำกับข้าวกันอยู่เลย



พอหายเหนื่อยก็เดินทางต่อ ชาวบ้านบอกว่า ทางต่อไปนี้จะลำบากกวานี้นะ ทางฝุ่น ทางหิน ทางชัน ในใจคิด มีโหดกว่านี้อีกหรอเนี่ยยยยยยยย
อีกประมาณ20กิโลเท่านั้น เป็น20กิโลที่สุดแสนจะยาวนาน 1.30 ชม. กว่าจะเจอทางลาดยาง กว่าจะหลุดออกจากเขา เล่นซะเกือบหมดวัน
พอออกมาได้แฟนเรานอนตายเลยค่ะ


ขับต่อไปเรื่อยๆ แฟนเราเริ่มอาการไม่ค่อยดีแล้ว ทอมซิลอักเสบกำเริบ เพราะเจอทางฝุ่นเยอะด้วยแหละ  เริ่มใกล้มืดลงทุกที ก็ไปจอดแวะกินข้าวตรงขุนแม่ยะ ตอนแรกว่าจจะไปต่อ แต่สภาพแฟนเราเริ่มไม่ค่อยดี ไปต่อไม่ไหว เราเลยเปลี่ยนแผนเข้าไปนอนในขุนแม่ยะค่ะ

จากปากทางเข้าไปประมาณ 8กิโล ทางวิบากอีกแล้วววว แสงสว่างเริ่มหมดลง ในใจภาวนา อย่าเพิ่งมืดเลย ขอถึงที่พักก่อน และแล้วก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น รถล้มค่ะ - -* แต่ไม่เป็นอะไรมาก ตอนนั้นคิดแค่ว่าไม่ตกหน้าผาเป็นพอ รีบลุกขึ้นมาและขี่ต่อ ขึ้นไปถึงก็มืดพอดี คนน้อยอีกตามเคย สบายหูค่ะ คืนนี้ที่อื่นเขาจัดงาน กินเลี้ยง countdown กัน แต่เราหลับกันข้ามปีเลยค่ะ เหนื่อย เพลียจริงๆวันนี้
มื้อแรกของวันปีใหม่


วันที่5 เราขับรถออกจากหุบเขา คืนนี้ไม่มีโปรแกรมว่าจนอนที่ไหนดี ก็หาๆไปเรื่อยๆ แฟนยังไม่หายดี ไปไหนได้ไม่ไกล เลยไปจบที่แม่แตง จ.เชียงใหม่ค่ะ
วันนี้เข้าที่พักเร็วมากกกกกก แต่โชคดีที่รีสอร์ทที่เราพัก มีหมู่บ้านกระเหรี่ยงอยู่ข้างในค่ะ เราเลยเดินชมเพลินๆ
วังน้ำหยาดรีสอร์ทค่ะ ราคาไม่แพง 500 บาทห้องพักลม บรรยากาศดีมากกกกก  วิวหน้าห้องคือน้ำตกเลยค่ะ




หมู่บ้านกระเหรี่ยงค่ะ


ชื่อสินค้า:   ที่เที่ยว ที่กิน ตลอดการเดินทางจาก กทม. ไปภาคเหนือ
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่