รักเอ๋ย..รู้ไหมใครตามหาอยู่

กระทู้สนทนา
*-* ขอขอบพระคุณท่านผู้อ่านทุกท่านที่สละเวลาเข้ามาอ่านนิยายเรื่องนี้นะคะ คนเขียนมือใหม่อาจไม่สละสลวย โปรดเมตตาชี้แนะติติงกันหน่อยเน่อ ^^

ความเดิมตอนที่แล้ว:
http://pantip.com/topic/33051740
♫ ♫ ♫ ♫ ♫ ♫♫ ♫ ♫



อากาศค่อนรุ่งเย็นสบาย ดวงดาวยังประดับประดาให้ฟ้าสวยเหมือนเมื่อตอนค่ำแต่กระจ่างชัดกว่า กลุ่มดาวขนาดใหญ่ปรากฏโดดเด่นอยู่ตรงกลางฟ้า มีชื่อว่ากลุ่มดาวนายพราน ...

กลุ่มดาวนายพรานเป็นกลุ่มดาวที่โดดเด่นมากที่สุด เพราะมีตำแหน่งอยู่กลางเส้นศูนย์สูตรฟ้า ดังนั้นไม่ว่าเราจะมองจากทางทิศไหนก็สามารถเห็นได้อย่างชัดเจน พรานป่าโบราณอาศัยกลุ่มดาวชนิดนี้บ่งชี้พิกัดตำแหน่งป้องกันการหลงป่า ด้วยเหตุผลที่ดาวกลุ่มนี้จะสว่างไสวมากที่สุด โดยเฉพาะในหน้าหนาว
กรีกโบราณเล่าตำนานการเกิดดาวนายพรานไว้ว่า เทพบุตรหนุ่มรูปงามนามว่าโอไรออน เป็นบุตรของเทพเจ้าแห่งท้องทะเล มีความสามารถเป็นเลิศด้านการล่าสัตว์ และเป็นชายหนุ่มที่เทพีแห่งดวงจันทร์หลงรัก...’

บนเส้นทางที่มืดสนิทและทอดยาวไปไกลสุดสายตา ร่างสูงลิบลิ่วของเทพบุตรรูปงามเดินฝ่าความมืดกลางทะเลหมอกปกคลุมแน่นหนาเข้ามาใกล้...ใกล้มากขึ้น มากขึ้น และดูเหมือนร่างกายของเขาจะใหญ่โตมากมายเมื่อมาหยุดยืนตรงหน้า ทันใดนั้นเอง ร่างใหญ่โตของเขาก็กระโจนพรวดเข้าใส่ ไม่ทันพูดจาอะไร ลิ้นยาวๆ ก็แลบออกมา เลียแผล็บๆ บนหน้าเธอตั้งแต่ซอกคอเลาะเรื่อยไปจนถึงใบหู...

“ว้าย...ย!” แล้วเจ้าของห้องที่นอนกองรวมอยู่กับพรมเช็ดเท้าบนพื้นร้องเสียงหลง อาการง่วงงันถูกขับไล่ด้วยบางสิ่งอุ่นๆ ที่โลมไล้อยู่บนผิวแก้ม ใบบัวกะพริบตา ปรับโฟกัสภาพไปยังสิ่งที่อยู่เบื้องหน้า

"เฉาก๊วย! มีอะไร คนจะนอน”

เจ้าของชื่อกระดิกหางดุ๊กๆ ดวงตาใสปิ๊งกะพริบวิบวับ ใบบัวดันร่างตัวเองกลับขึ้นไปที่เตียง พบว่าโทรศัพท์มือถือที่ตั้งค่าไม่ใช้เสียงเอาไว้กำลังสั่นและส่องแสงวาบๆ หญิงสาวเลื่อนมือลูบขนฟูแทนคำขอบคุณเจ้าหมาน้อย หยิบโทรศัพท์มองชื่อเจ้าของสายเรียกเข้า ยัยบานเช้าสุดรักนี่เอง

“มอร์นิ่งจ๊ะคุณหลาน” คนงัวเงียกรอกเสียงใส“มีอะไรมาฟ้องอาอีกล่ะ ให้เดานะ ต้องสำคัญมากแน่ๆ ไม่งั้นคงไม่โทรมาแต่เช้าแบบนี้หรอก ใช่มั้ย?”

“เมื่อไหร่อาบัวจะกลับมาสักทีคะ หนูเหงาจนจะขาดใจตายอยู่แล้ว”

ใบบัวส่ายหัวยิ้มขำๆ กับคำพูดของคนในสาย ยัยหลานแก่แดดช่างสรรหาถ้อยคำมาพูดชวนสงสารได้โอเวอร์เสียจริง

“แต่อาเพิ่งมาอยู่นี่ไม่ถึงอาทิตย์เลยนะ จะกลับลงไปให้ลุงของเราหัวเราะฟันคลอนหรือไง”เธอว่าและคิดไปถึงใบหน้ายิ้มๆของรณรงค์ เขายิ่งชอบแขวะว่าเธอติดหลานงอมแงมเหมือนเด็กติดหมอนข้าง ช่างเปรียบเทียบได้ถูกต้องมาก

“ไหนเราบอกอาว่าคนงานของลุงรอนมาอยู่ด้วยที่บ้านไงล่ะ คนคงเดินกันให้ขวักไขว่ ครึกครื้นน่าดู ยังจะมีป้าวีนัสแสนสวยอีก แล้วเราจะมาบ่นว่าเหงาได้ไง”

“ก็เพราะยัย...คุณป้าวีนัสนี่ล่ะค่ะ” บานเช้าเกือบจะหลุดปากเรียกยัยป้าหน้าเด้ง “หนูไม่ชอบเลย ป้าวีนัสชอบทำท่าสนิทสนมกับลุงรอนเหมือนเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ หนูไม่ยอมหรอกนะคะ ที่จะให้ลุงรอนคว้ายัย...คุณป้าคนนั้นมาเป็นแฟนของลุงรอน”

“แก่แดดขึ้นทุกวันแล้วนะเรา”ใบบัวเอ็ด นี่ถ้าอยู่กันใกล้ๆ คงได้บี้จมูกทำโทษไปแล้ว แต่ถึงจะดุหลานออกไปแบบนั้นเธอก็แอบอมยิ้ม อย่างน้อยเธอก็มั่นใจได้ว่ารณรงค์จะยังไม่มีใคร เหมือนๆ กับที่เธอเองก็ไม่มีใคร เหตุผล...เพียงเพราะเธอจะรอเขา

“ว่ายังไงล่ะคะ เมื่อไหร่อาบัวจะกลับ”

“งานที่นี่กำลังมีปัญหา อาต้องอยู่ดูแล คงกลับไปตอนนี้ไม่ได้หรอก” พูดเสร็จ ต้นสายก็เงียบไป รู้เลยว่าเด็กแสนงอนกำลังทำหน้าบูดเป็นตูดแมวอยู่แน่ๆ

“เอาล่ะๆ อาจะเช็คตารางงานดูอีกที ไม่แน่จะเป็นอาทิตย์หน้า”

“จริงนะคะ”เสียงบานเช้าใสแจ๋วตอบกลับมา

“อือ จริงก็จริง” ใบบัวรับปากไปในที่สุด“งานมันจะสำคัญไปกว่าหลานสาวคนเดียวได้ไง”

“เย้ๆ รักอาบัวที่สุดเลย” แล้วเสียงเย้ๆ ก็ดังกังวานผ่านมาในสาย เชื่อเลยว่าถึงจะวางสายไปแล้วก็คงยังตะโกนเย้ๆ เสียงใสอารมณ์ดีไปตลอดทั้งวัน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่