หัวใจสลายที่ปลายฟ้า (44)...หนึ่งความหวังยังดีกว่าร้อยความสิ้นหวัง

กระทู้คำถาม
หัวใจสลายที่ปลายฟ้า (44)...หนึ่งความหวังยังดีกว่าร้อยความสิ้นหวัง 
 
            ดวงเนตรถอยหลังไปนั่งรวมกับกลุ่มคนไม่ไกลจากรั้วที่กั้นอยู่ พี่พลหายไปเกือบสองชั่วโมงกลับมา เดินตรงมาที่ดวงเนตรก่อน
            “ดวงเนตรพี่พลซื้อนมกล่อง น้ำผลไม้ กับน้ำขวดมาเผื่อ กินอะไรซักหน่อยนะจะได้มีแรง อดทนไว้ดวงเนตรอดทนไว้” พี่พลพยายามให้กำลัง
ใจสาวน้อย พี่พลอดคิดถึงหนอยไม่ได้ เมื่อคราวที่ได้รับบาดเจ็บ เสียงหนอยยังก้องอยู่ในหู
            “พี่พลอดทนไว้ พี่พลจะหายเป็นปกติแล้ว” พี่พลสูดลมหายใจลึก ๆ ได้แต่สวดอ้อนวอน‘พระผู้เป็นเจ้าทรงโปรดเมตตาด้วยเถิด’ พลเดินไปที่รั้ว
พี่ภัทรเดินกลับมาพร้อมลุงหมอ ดวงเนตรยืนฟังอยู่ข้างพี่พล
            “ผมเจอดอกเตอร์แฮรี่ แกรู้สึกตัวแล้วอาการพ้นขีดอันตราย มีน่าห่วงตรงที่แกโดนไฟคลอกแขนเป็นแผลใหญ่ ขาข้างซ้ายหัก กรามหักด้วย
เลยต้องให้อาหารทางสายยางไปก่อน เขาพยายามสื่อสารทั้งที่อาการยังสาหัสว่าเห็นหนอยพุ่งตัวตามลงมาขณะที่เครื่องระเบิด เขามารู้สึกตัวอีกที
ที่โรงพยาบาล และก็พยายามถามหาหนอย ด้วยความเป็นห่วงมาก เสียงเขาไม่แน่ใจเลยว่าหนอยจะออกมาทันก่อนการระเบิดรึไม่ ผมให้ดร.แฮรี่พัก
ให้สบายทางเรากำลังค้นหนอยอยู่”
            คำว่าหนอยจะออกม่ทันก่อนเครื่องระเบิดหรือไม่ ช่างเจ็บปวดนักสำหรับสาวน้อย

            พี่ภัทรอาศัยเส้นสายตามแกะรอยหนอยทุกที่ สองทุ่มแล้วอากาศเย็นจัดพี่ภัทรได้เวลาเปลี่ยนเวรเพื่อให้ชุดใหม่ที่จะค้นหาต่อไปว่ายังมีใคร
รอดชีวิตอีกบ้าง ทั้งหมดต้องกลับกันก่อนแล้วพรุ่งนี้จะได้ออกมาแต่เช้า การค้นหาผู้อาจรอดชีวิตเพราะเครื่องวิ่งไปสุดรันเวย์ซึ่งต่อเข้าเขตเนินเขา
และป่าไม้
 
            รถขับกลับไปบ้านพี่ภัทร  ดวงเนตรดึงเสื้อหนาวกระชับตัว ใจจะขาดรอน ๆ เมื่อนึกถึง...พี่หนอยคงอยู่ที่ไหนสักแห่ง...พี่หนอยจะหนาวไหม
จะหิวไหม พี่หนอยเจ็บมากไหม...โอ้ดวงใจของดวงเนตร
 
                      ******หัวใจน้องสลาย  ละลาย  เลือน          ฟ้าเสมือน  ร่ำไห้  ระโหยหา
                               ไม่ใยดี  แจ่มจันทร์  พันดารา            ปรารถนา  เพียงแสง  แห่งตะวัน
                               เคยแอบ  แนบอิง  พิงภักดิ์               สองรัก  สมานหมาย  ปลายทางฝัน
                               ลับตา  ห่างร้างไกล  หนใดกัน           ใจหวาดหวั่น  ผวา  ครวญหาใจ******
 
 
            เมื่อเข้าบ้านพี่ภัทรเรียบร้อยแล้ว พี่ภัทรเอ่ยปากเป็นการขอโทษลุงหมอกลาย ๆ  
            “บ้านคนโสดรกรุงรังหน่อยนะครับ มีห้องสองห้อง แม่บ้านเพิ่งมาทำความสะอาดเสร็จเมื่อวานนี้ครับ ลุงหมอจะนอนไหนดี”
            “ห้องกลางนั้นห้องใหญ่ใช่ไหม” ลุงหมอถาม
            “ครับผม”
            “งั้นลุงว่าเรานอนรวมกันสามคนดีกว่ามีฟูกไหมล่ะ ดวงเนตรนอนฟูกนะลูก”
            “ค่ะ” เสียงตอบแผ่วหาย
            “หนูเข้าไปอาบน้ำให้สบายตัวก่อน เดี๋ยวลุงกับภัทรจะออกไปซื้ออาหารจีนมานะ”
            “ค่ะลุงหมอ เนตรขอบพระคุณมากค่ะ”
            
            เธอแยกไปอาบน้ำ คุณป้าสุรีย์ช่างใส่ใจนักช่วยจัดของมาให้มีครบทุกอย่าง...น้ำตาไหล เป็นบุญของเธอที่มีแต่คนดีคอยช่วยเหลือตลอดมา
            ช่วงดวงเนตรอาบน้ำ ลุงหมอคุยกันสามคนว่าที่ต้องให้นอนรวมกัน เพราะลุงหมอเป็นห่วงดวงเนตรกลัวเธอจะคิดมากจนทำร้ายตัวเอง พี่พล
เห็นด้วยแต่เขาเอ่ยว่า
            “ลุงหมอครับดวงเนตรดูอ่อนโยน อ่อนหวาน แต่ใจเธอก็เป็นนักสู้คนหนึ่ง ผมเชื่ออย่างนั้น เรานอนรวมกันดีแล้วอย่างน้อยเธอจะได้รู้สึกอบ
อุ่นขึ้น”
            “ลุงว่าพลน่ะรู้จักดวงเนตรดีกว่าใคร ไง ๆ ก็คนครอบครัวเดียวกันไม่ใช่ก็เหมือนใช่”  
            “ครับผม”
            ภัทรมองดูออกแปลกใจแม้ไม่รู้จักดวงเนตรมากนัก ‘คนแวดล้อมเธอ มีแต่ความอาทรกับเธอมากน่าสนใจ’ภัทรนึกฉงน
 
            หลังอาหารค่ำเสร็จแล้ว ดวงเนตรขอตัวไปพักผ่อน เธอเข้าห้องกราบพระ ล้มตัวลงนอน  ดวงเนตรรู้สึกเพียงว่าใจมันกลวง เหน็บหนาวและ
ว้าเหว่ “เราต้องมีแรงที่จะค้นหาพี่หนอยต่อนอนซะเถิด” ดวงเนตรพูดกับตัวเอง เธอใช้สองแขนโอบกอดตัวเองไว้น้ำตาไหลจนหลับไป
           
            การค้นหาวันที่สามสิ้นสุดลงไม่มีแม้วี่แววใด ๆ เพิ่มเติมเกี่ยวกับพี่หนอย และหลายชีวิตที่ตายและสูญหาย เขาถูกบันทึกลงในกลุ่มบุคคล
ที่สูญหาย “ทุกอย่างจบแล้วครับลุงหมอเราทำเต็มที่แล้ว” ดวงเนตรมองหน้าพี่ภัทรเหมือนเป็นการต่อว่า...พูดง่าย ๆ สำหรับคนที่ไม่ใช่ผู้สูญเสีย
ทุกอย่างอาจจบแล้ว แต่สำหรับเธอมันกำลังจะเริ่มขึ้น
            “พี่หนอยค่ะให้สัญญากับเนตรนะคะ ว่าจะไม่หายไปโดยไม่กล่าวลา” “ครับผม พี่หนอยจะไปไหนได้ ดวงใจพี่หนอยอยู่ที่นี่ไง”  
หนอยชี้มาที่เสื้อดวงเนตรตรงกับหัวใจดวงนี้... นั่นคือสิ่งที่เธอยึดไว้มั่นในใจดวงนี้
            
            “ไม่ว่าจะอีกนานเท่าไร แม้จนลมหายใจสุดท้ายของเธอ” คำพูดนี้คือสัญญาที่ดวงเนตรมั่นใจเหนือสิ่งใด ๆ  วันที่ดวงเนตรจะกลับ ลุงหมอยื่น
นมแก้วใหญ่ให้หลังอาหารเช้า มองด้วยสายตาบังคับ
            “เนตรดื่มให้หมดอย่าทำร้ายตัวเอง ทานได้ยิ่งมากยิ่งมีแรงนะ”
            “ค่ะลุงหมอ”  
 
            ภัทรมาส่งทุกคนที่สนามบิน ดวงเนตรขอเวลาวางดอกกุหลาบดอกใหญ่สีขาวลายเส้นกลางสีม่วงอ่อนใกล้รั้ว ก่อนวางลงเธอยกขึ้นเตะ
ที่ริมฝีปาก พี่พลมองดูแล้วต้องเมินหน้าเพราะมันกระทบจิตใจเขามากมายเหลือเกิน
            “พี่หนอยคะ อดทนนะคะแล้วเนตรจะรีบกลับมา”
            “เนตรรักพี่หนอยเสมอและตลอดไป” ไม่มีแม้น้ำตาเพราะไม่ใช่การลาจาก แต่ดวงตาของเธอแห้งผากไร้แววใด ๆ  ภัทรหันไปทางลุงหมอ  
            “ความรักมันมีพลังที่ยิ่งใหญ่จริง ๆ  หนอยโชคดีนะครับที่เธอให้หนอยหมดทั้งหัวใจ”  
            “อือ!” ลุงหมอออกเสียงสั้นตามด้วยเสียงถอนใจ
            “ถ้าผมเจอน้องที่รักผมขนาดนี้ ผมคงสละโสดไปแล้ว” เขาเปรยขึ้น  
            “อย่างแกลอยไปลอยมาเป็นพ่อพวงมาลัยคงหาเจอหรอกนะ” ลุงหมอพูดประชดหลานชาย
 
            เที่ยวขากลับเซนต์หลุยส์ถึงสนามบินประมาณสิบโมง ทั้งคณะนั่งแท็กซี่กลับมาถึงบ้านลุงหมอใช้เวลายี่สิบนาที ทุกคนในบ้านก็กรูกันมาช่วย
รับของ ทุกวันและเวลาที่ผ่านไป...ทุกคนที่รอที่บ้านได้แต่ภาวนา แต่ก็ไร้ผล เพราะเรื่องที่พี่พลเล่าสรุปแล้วหนอยเป็นหนึ่งในหลายคนที่สูญหาย คำ
ตอบนั้นสำหรับทุกคน ลงความเห็นว่าหนอยเสียชีวิตแล้ว เช่นนั้นชีวิตที่เหลืออยู่ของดวงเนตรจะเป็นเช่นไร น้าวิวเริ่มหลั่งน้ำตาอีก พี่น้อยก็ด้วย มีพี่ศิริ
ดึงชายเสื้อสองคนเป็นการเตือนเพราะถ้าทุกคนร้องไห้ แล้วสถานการณ์ก็ยิ่งจะแย่ลงไปอีก ดวงเนตรกราบบนตักป้าสุรีย์เธอกอดดวงเนตไว้
            “ตัวเย็นเลยลูกไม่สบายหรือเปล่า”
             “ไม่เป็นอะไรหรอกค่ะคุณป้า” ดวงตาว่างเปล่ามองสบตา 
            ‘โอ้พุทธองค์! อีกนานไหมกว่าหนูจะกลับมาเหมือนเดิม’ คุณป้าคิด
            พี่พลบอกทั้งสองท่านว่า “เราคงรบกวนแค่นี้ล่ะครับคุณลุงจะได้พักผ่อน”
            “ไปเถอะดูแลกันดี ๆ นะ”
     
            ทั้งหมดกกลับถึงคาร์บอนเดลใกล้มืดแล้ว ด้วยอาการไม่ดีนัก ดวงเนตรเงียบมาตลอดทาง น้าวิวให้พี่น้อยอยู่เป็นเพื่อนดวงเนตรก่อนที่ห้อง
ส่วนตัวเองออกมาหาชูพลแล้วพูดว่า
            “อาการหนักนะพลไม่ยอมพูดอะไรเลย”
            “น้าวิวอย่ากังวลมากนะครับ ดวงเนตรเขาเหมือนต้นอ้อแต่ทนลมทนฝนดีกว่าที่เราคิด” เธอพยักหน้าเห็นด้วย
            “พลกลับไปเถอะเหนื่อยมากแล้ว จะได้พักบ้าง ขับรถไหวไหมไม่งั้นน้าจะเรียกหมากมาขับให้”
            “ไหวครับ ค่อย ๆ ไปเดี๋ยวถึงบ้านพี่วรรณแล้วผมจะโทรมาครับ”
            “ดีแล้วล่ะโทรมานะน้าเป็นห่วง”
            “ครับ”  พี่ศิริมาผลัดพี่น้อยไปอาบน้ำ น้าวิวหายไปครู่ใหญ่ อาบน้ำแล้ว เธอยกหม้อข้าวผัดมาด้วย
            “เนตรอาบน้ำก่อนนะจ๊ะ รอพี่น้อยมาแล้วเรามากินข้าวผัดกัน”
            “ค่ะ” คืนนั้น น้าวิวย้ายตัวเองมานอนเป็นเพื่อนดวงเนตร ก่อนจะเข้านอนเธอพูดกับดวงเนตรเหมือนปรึกษาว่า
            "พรุ่งนี้เราจะไปเคลียร์ของที่บ้านหนอยกัน ดวงเนตรไปไหวไหม น้าอยากให้พักผ่อนหรือไง”  
            “ให้เนตรไปด้วยนะคะ” เสียงเหมือนขอร้อง
            “ได้ ๆ เราไปด้วยกันหมดเลยดีกว่า” ดวงเนตรเอาฟูกมาปูข้าง ๆ แล้วสองคนก็สวดมนต์  ดวงเนตรนึกถึงใบหน้าพี่หนอย
            “รอเนตรนะคะ แม้เนตรต้องพลิกฟ้าพลิกดินค้นหาพี่หนอย เนตรจะต้องทำให้ได้พระผู้เป็นเจ้าโปรดทรงเมตตาเราด้วยเถิด”
 
             ******  ดวงดาวระยิบส่องแสงบนฟ้าใส
                       แต่อีกคนอยู่ไหนใจห่วงหา
                       ใจสองดวงที่มีกันทุกเวลา
                       หรือมิรู้ว่าคนรอแทบขาดใจ ******
 
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่