ฝากถึง single mom ทั้งหลาย "อย่าหาพ่อใหม่มาให้ลูกของคุณเลย"

เราเป็นคนนึงที่โตมาในครอบครัวที่ร้าวฉาน พ่อแม่แยกทางกันตั้งแต่เด็ก เราและน้องชายอยู่กับแม่ พ่อก็แต่งงานมีครอบครัวใหม่ ชีวิตที่มีแม่ ที่เป็นทั้งพ่อและแม่คนเดียวกันมาตลอด เรากับน้องก็โอเคกับวงจรชีวิตอย่างนี้นะ โอเคมากเลย ไม่เคยคิดหรอกค่ะ ว่าแม่จะอยากมีความรัก จนถึงขั้นอยากแต่งงานใหม่รอบสอง เข้าใจว่าแม่คงเหนื่อยที่ต้องสู้มาตลอดชีวิตโดยไม่มีสามี แถมยังต้องเลี้ยงลูกคนเดียว ท่านคงขาดกำลังใจหรืออะไรสักอย่าง นั่นคงเป็นสาเหตุที่ทำให้แม่อยากแต่งงาน

       ตอนแรกแม่ก็มาถาม+ปรึกษาเรานะ ว่าถ้าเกิดแม่จะแต่งงานใหม่ ลูกจะว่าไง เราก็อึ้งค่ะ ไม่คิดว่าจะต้องมามีพ่อเลี้ยงเอาตอนนี้ แต่ก็ไม่ได้คัดค้านอะไร เพราะเห็นว่าแม่ก็อายุมากแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนไตร่ตรองมาอย่างดีแล้ว บางทีแม่ก็คงเหงา การมีความรักครั้งใหม่ก็คงดี แม่บอกว่า เค้าเด็กกว่าแม่ถึง 13 ปี เค้าเคยผ่านการแต่งงานมาแล้วเหมือนกัน แต่ไม่มีลูก เราก็อึดอัดนะ แต่จะขัดใจแม่ก็กลัวเป็นบาป

       แม่กับเค้าคบกันมาเกือบปี แต่เราก็เพิ่งมารู้ตอนแม่มาเล่าล่ะค่ะ แม่ตัดสินแต่งกับเค้าช่วงเดือนสิงหาคมปีนี้ค่ะ แรกๆ เค้าก็ดีค่ะ ดูเป็นคนตามใจแม่ทุกอย่าง ดูเหมือนว่าตอนนั้นเค้าจะไม่ค่อยชอบเราเท่าไหร่ค่ะ ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน ทั้งที่เราก็ไม่ได้ทำอะไรให้ เค้าอยากให้แม่ เราและน้องชาย ไปอยู่บ้านเค้า แต่เรากับน้องไม่อยากไป แม่ก็พลอยไม่อยากไปเลยค่อนข้างขัดใจเค้า บางทีเค้าก็ชวนแม่ไปค้างคืนบ้านเค้า เราก็อยู่คนเดียว เพราะตอนนั้นน้องชายไม่ค่อยอยู่บ้าน ช่วงนั้นรู้สึกว่ามีแต่คนทิ้งให้อยู่คนเดียว

       แต่แม่ก็ยังใส่ใจเราดีเหมือนเดิม ปลื้มแม่ก็ตรงนี้ล่ะค่ะ ตอนนั้นเราก็ใกล้จบแล้ว ยังเคว้งคว้างอยู่ เพราะต้องเริ่มหางานทำ แม่บอกว่าให้ไปทำงานที่บริษัทพ่อ(เลี้ยง) ก่อนมั้ย มาคิดดูแล้วเราก็ไม่ใช่คนเก่งที่ถึงขนาดว่าเลือกงานได้ตามใจฉัน เราก็เลยตัดสินใจทำตามที่แม่บอก ยังไงก็ดูๆลองๆไปก่อนก็ไม่เสียหายอะไร ช่วงนั้นเราตื่นเต้นกับชีวิตการทำงานมากค่ะ เงอะๆงะๆมาก

       พ่อเลี้ยงเราเค้าก็ดีกับเราค่ะ (ณ ตอนนั้น) สอนงานไปเรื่อยๆ เริ่มรู้สึกดีที่แม่แต่งงานกับเค้า แต่ไม่นานเค้าก็ลายออก เรารู้สึกได้ค่ะว่า เค้ามองเราแบบผู้ชายคนนึงที่มองผู้หญิงคนนึง ไม่ใช่พ่อมองลูก แต่ตอนนั้นเราก็พยายามคิดนะว่า เราคงคิดมากเกินไป แต่เราก็โตพอที่จะแยกออกว่า เค้าเริ่มคุกคามแล้วนะ มันเริ่มอันตราย ก็เลยห่างๆเค้าไว้ค่ะ

       เราไม่ได้เล่าเรื่องนี้ให้ใครฟังค่ะ จริงๆก็อยากเล่า แต่แม่กับน้องก็ไม่ค่อยอยู่บ้าน เรียกได้ว่าตอนนั้นแม่เกือบจะเฟดตัวเองออกจากเรามากขึ้น เพราะว่าแม่ก็มีสามีแล้วอ่ะเนอะ ถ้าจะอยู่แยกกันก็คงกระไรอยู่ ส่วนน้องชายเราก็ไม่ค่อยคุยกันเมือนแต่ก่อน ช่วงนั้นเรากับน้องเข้าหน้าไม่ติด

       ก็ได้แต่ระวังตัวค่ะ และก็มองหางานอื่นๆเผื่อไว้ ด้วยความที่อยู่คนเดียว คืนนั้นไม่มีใครค่ะ เราอยู่บ้านคนเดียว โชคร้ายที่โจรขึ้นบ้าน เราเกือบโดนข่มขืน ไม่มีใครช่วยเราค่ะ แต่โชคดีเราหนีออกมาได้ วิ่งจนล้มหัวฟาดพื้น แต่ก็ยังดีที่หัวไม่แตก แค่หัวโน อีกนิดเดียวก็จะแตกแล้ว

       ตอนนั้นอยากไปหาแม่ไปหาน้อง แต่ไม่มีตังค์ค่ะ โทรศัพย์ก็ไม่มี กลัวที่สุดในชีวิตแล้วค่ะ คิดดูสิคะ ตีสามกว่า เราเดินเป็นอีเพิ้งอยู่คนเดียวในซอย วิ่งเข้าซอยนี้ออกซอยนู้น ด้วยความที่อยากหนีจากโจร หัวก็ปวดจนจะแตก เราวิ่งๆเดินๆอยู่อย่างนั้นจนเช้า รอให้แน่ใจว่าที่บ้านปลอดภัยเลยกลับไปเอาโทรศัพย์โทรหาแม่ อย่าถามว่าทำไมเราไม่ร้องให้คนช่วย เราร้องจนปากฉีกค่ะ แต่โชคร้ายที่ไม่มีใครช่วยเลย

     เราโทรหาแม่ แม่กับพ่อเลี้ยงมารับเราที่บ้าน แล้วพาไปแจ้งความ ข้าวของมีค่าที่บ้านเราก็หายค่ะ แต่จำไม่ได้ว่าอะไรหายไปบ้าง ยังกลัวมาจนถึงทุกวันนี้ แม่เลยตัดสินใจให้เราย้ายของไปอยู่กับแม่และพ่อเลี้ยงค่ะ เราเลยต้องย้ายไปตามคำขอ แต่ก็บอกแม่แล้วว่า อยู่แค่ชั่วคราวไปก่อน ใจนึงก็กลัวพ่อเลี้ยงนะ แต่ถ้าอยู่คนเดียวก็กลัวโจรอีก

      พอย้ายมาอยู่บ้านพ่อเลี้ยง เราก็ต้องอยู่ด้วยความระมัดระวังตัว เราตัดสินใจบอกแม่ว่า พ่อเลี้ยงเค้าดูแปลกๆ เค้าไม่น่าจะไว้ใจได้ แม่ก็รับฟังค่ะ แต่ก็ทำเหมือนไม่ได้ยิน เพราะแม่บอกว่า ดีแล้ว ระวังตัวไว้น่ะดีแล้ว เราไม่เข้าใจแม่เลย เราทุกข์มากค่ะ อยากให้แม่หย่ากับเค้า อึดอัดมาก แต่ก็พูดอะไรไม่ได้

       พ่อเลี้ยงเราเค้าก็ทำเหมือนไม่ค่อยยุ่งกับเรา แต่พอแม่ไม่อยู่ เค้าก็ชอบมาอยู่ใกล้ๆ จนเราเกือบโดนข่มขืนอีกครั้ง ที่เลวที่สุดคือ เค้าบอกว่าเราไปอ่อยเค้า ทั้งที่บุคลิกภายนอกเราเกือบจะเหมือนทอม แต่มันดันบอกว่าเราไปอ่อย ไปยั่ว เลวจริงๆค่ะ ตอนนั้นเรารอดมาได้เพราะเราวิ่งออกมาจากบ้านเค้า เหตุการณ์เกือบเหมือนตอนที่เราหนีจากโจร แต่ยังดีที่เราหยิบโทรศัพย์มาด้วย พี่วินหน้าปากซอยช่วยไว้ค่ะ อยากขอบคุณพี่วินคนนั้นอีกครั้ง

       เราโทรหาน้องชายเรา เค้ารีบมารับเรา แล้วออกไปหาแม่กันสองคน วันนั้นกลายเป็นเรื่องใหญ่เลยค่ะ แม่เราโกรธมาก แต่ตำรวจก็ช่วยอะไรไม่ได้เพราะพ่อเลี้ยงเรา มันเป็นลูกชายผู้มีอิทธิพลในแถบนั้น น่าเสียใจจริงๆเลยนะคะที่แม้แต่กฏหมายก็ทำอะไรคนพวกนั้นไม่ได้ ตอนนี้แม่หย่ากับมันแล้วค่ะ เรารู้ว่าแม่เสียใจและผิดหวังกับมัน แต่ก็ยังดีที่ถ้าวันนั้นไม่เกิดเหตุการณ์อย่างนี้ แม่คงไม่รู้เช่นเห็นชาติผู้ชายคนนั้น

       บอกตามตรงว่าเรากลัวและไม่อยากให้แม่แต่งงานกับใครอีกแล้ว แต่ถ้าหากวันนึงแม่เจอคนที่ดี เราก็ยินดี แต่ใครจะรู้ล่ะคะว่า คนๆนั้นจะดีอย่างที่เค้าแสดงออกมาภายนอกหรือเปล่า โดยเฉพาะ single mom ที่มีลูกสาวอย่างบ้านเรา ข่าวพ่อเลี้ยงข่มขืนลูกสาว ก็มีให้เห็นอยู่ทุกวี่ทุกวัน บางรายข่มขืนตั้งแต่เด็กยันโตเป็นวัยรุ่นเลยก็มี โลกนี้ก็ช่างอยู่ยาก ดูแลคนในครอบครัวให้ดีๆนะคะ นี่คงเป็นเหตุการณ์แล้วร้ายที่สุดในชีวิตแล้ว

อยากขอบคุณพี่วินฯคนนั้นอีกครั้ง พี่จิตใจดีกว่าคนที่เรียนสูงๆบางคนอีกค่ะ...
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่