สวัสดีคับ ชื่อ แบงค์ อยากมาแชร์ประสบการณ์การลดน้ำหนัก เชื่อว่าหลายๆคนกำลังลดอยู่
เราก็เป็นอีกคนนึงที่เคยประสบปัญหาน้ำหนักตัวมากเกินมาก่อน เข้าใจหัวอกหลายๆคนเลยนะคับ
การลดน้ำหนักของผมเป็นแบบธรรมชาติ ไม่ใช่ยาหรือสารเคมีอะไรเค้ามาช่วยเลยนะคับ ลดด้วยตัวเองล้วนๆ
ต้องอาศัย ความตั้งใจ เด็ดเดี่ยวและอดทนล้วนๆเลยคับ (คนเราแต่ละคนก็มีไม่เท่ากันเข้าใจนะคับ...แต่ไงก็สู้ๆผ่านมันไปได้แน่คับ)
ตอนแรกก็ตั้งใจแค่ลองลดๆดูเฉยๆคับ ไปๆมามันกลับฮวบฮาบ ผิดหูผิดตากลายเป็นคนละคนไปเลยสะงั้นๆ
ไม่เคยสังเกตุตัวเองเท่าไร่คับ แต่มารู้สึกเอาที่ว่าตอนมี คนรอบๆตัวเริ่มทัก และเสื้อผ้าปกติที่ใส่อยู่เริ่มหลวม และเข็มขัดต้องพันหลายครั้งมากขึ้น
..............................................................................................
อ่อ แต่ตอนที่อ้วนๆนี่ก็ไม่ได้มีปัญหาหรือคิดว่าเป็นอุปสรรค์กับชีวิตเลยนะคับ ใช้ชีวิตมาปกติเลย มีความสุขเป็นคนข่อนข้างอารมณ์ดีฮาๆไปด้วยซ้ำคับ ยอมรับเลยว่ามีความสุขกับการกินใครว่าอะไรก็ไม่แคร์ // แต่ก็เคยมีครั้งนึงนะที่แม่ว่าว่า "กินอะไรเยอะแยะ ดูตัวเองสะบ้างง สภาพยังกับหมีควายแล้ว" ณ จุดๆนั้น ยอมรับเลยคับว่าอิ้ง สตั๊นท์ไปเลย 5555 แต่ไม่เป็นไรเอาเป็นว่าหลังจากนั้นเวลา ซื้อขนมหรือหาอะไรมากินก็จะพยายามหลบๆซ่อนๆแม่กันแกบ่นเอาละกัน
+++ย้อนกลับไปช่วงแรกๆก่อนนะคับ+++
อ้วนตั้งแต่จำความได้ละคับ แต่อยู่ในเกณฑ์ท้วมๆอวบๆปกตินะคับ มันเพิ่งมาแบบ อ้วนสุดๆหยุดไม่อยู่ก็สมัยเพิ่งขึ้นมัธยมนี้เอง
โดยเฉพาะไอช่วงตอน ม.ปลาย ช่วงแห่งการเรียน การสอบคับ ช่วงนั้นก็ไม่ได้สนใจอะไร เรียน สอบ กิน ทำเท่านี้ ขอวงเล็บว่ากับไอการกินนี่ให้ความสำคัญมากคับ ตอนที่อยู่หอกับเพื่อน ไม่ว่า จะดึกดื่นแค่ไหน ฝนจะตก อากาศจะหนาว น้ำท่วม นี่ก็ยังจะออกไปหาของกินเลยคับ เหมือนจะเว่นะคับแต่เป็นเรื่องจริง ยังจำได้จนทุกวันนี้เลย //อย่าให้อะไรมาขัดขวางการกินของเรา
จำได้ว่าช่วงที่น้ำหนักขึ้นสุดๆ ก็เป็นช่วง ม.6 อะคับ ตอนที่เคยชั่ง 97 เลยก็ว่าได้ หลังจากนั้นกลัวตาชั่งคับไม่ชั่งอีกเลยย หลอนนน....

*********************************************
/// เริ่มต้นนะคับ ผมหนัก 97 ส่วนสูงประมาณ 172
ปัจจุบัน น้ำหนักเหลือ 64 กิโลกรัม เคยลงสุดได้ 60 ประมาณนี้คับ หลังจากนั้นก็อยู่ 62-64 ตลอดมาเลย ตามอัตราการกิน
ระยะเวลาที่ใช้ทั้งหมดประมาณ 10 เดือนได้เลย แต่เริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงจริงๆ 6 เดือน คนรอบข้างก็เริ่มทักละคับ
ขั้นตอนของเราที่ใช้เลยนะคับ เราจะยิดการกินแบบนี้
เช้า : ต้องกินข้าวเช้าทุกวัน (ขอย้ำว่าทุกวันนะคับ) เพราะเคยอ่านเจอมาว่าการที่เรากินข้าวเช้าจะทำให้ระบบการเผลาพลาญดีขึ้นและอาการหิวระหว่างวันลดน้อยลง ช่วงเวลาการกินก็เท่าไร่ก็ได้แต่อย่าเกิน 9 โมงเช้า
กลางวัน : กินข้าวหรืออะไรที่เราอยากกินได้ปกติเลย แต่ในปริมานที่พอดีนะ
เย็น : กินข้าวเล็กๆน้อย ก่อน 6 โมงเย็น *เล็กๆน้อยๆจิงๆนะคับ เอาแค่ไม่พอหิว จะได้ไม่ทรมาน
ระหว่างมื้อ หรือดึกๆ : ถ้าหิวก็กินเป็นผลไม้ ไม่ก็นมเปรี้ยวขวดเล็กก็ได้คับ
-------และก็อย่าลืมออกกำลังกายทุกวัน อย่างน้อยวันละ 30 นาทีนะคับ------- ถ้าไม่ว่างจริงๆก็หาเวลาว่างอย่างน้อยอาทิตย์ละ 3 วันก็ได้ ควบคุมน้ำหนักอย่างเดียวมันจะไปช้าๆ แต่ถ้าออกกำลังกายไปด้วยนี่เห็นผลดีขึ้นแน่นอนคับ
รูปแรกเลย ในรูปนี่ช่วงสมัย ม.ปลาย โตเต็มที่จริงๆคับ ประมาน 97-100 กว่าๆได้
ช่วง ม.6 นี่คือรูปตอนอ้วนมากๆเลยคับ ตอนนั้นยังไม่ได้คิดจะลดอะไรนะคับ เฉยๆชีวิตมีความสุขดี
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
***จุดเปลี่ยนมันมาอยู่ช่วงมหาลัยนี่หละคับ คือด้วนความที่เราต้องเปลี่ยนเพื่อนใหม่ สังคมใหม่ๆ สภาพแวล้อมที่เปลี่ยนไป ใครๆรอบตัวเราก็ดูดีขึ้น ไอเราก็อยากจะมีอารมณ์แบบนั้นบ้างคับ เลย เริ่มปฎิบัติการลดน้ำหนักด้วยตัวเองเลย
สมัยมารายงานตัวใหม่ๆเลยคับ
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
ช่วงแรกก็ยังกินปกติเลยคับ แต่ด้วยการที่กิจกรรมรับน้องหนักด้วย และก็ไม่ค่อยกินจุบจิบด้วย บวกกับเริ่มที่จะเลือกไม่กินมั่วตั้วแแล้วก็ทำให้ลดลงมาได้นิดนึงละคับ หายไปประมาน 2-3 โลได้ น ตอนนั้น ต่อก็ไม่ได้รู้สึกอะไรเฉยๆ
ช่วงรับน้องคับ

.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
หลังจากช่วงรับน้องผ่านไปก็เริ่มเอาจริงเอาจังละคับ ทำตามที่บอกมาข้างต้นเลย
เช้า : ต้องกินข้าวเช้าทุกวัน (ขอย้ำว่าทุกวันนะคับ) เพราะเคยอ่านเจอมาว่าการที่เรากินข้าวเช้าจะทำให้ระบบการเผลาพลาญดีขึ้นและอาการหิวระหว่างวันลดน้อยลง ช่วงเวลาการกินก็เท่าไร่ก็ได้แต่อย่าเกิน 9 โมงเช้า
กลางวัน : กินข้าวหรืออะไรที่เราอยากกินได้ปกติเลย แต่ในปริมานที่พอดีนะ
เย็น : กินข้าวเล็กๆน้อย ก่อน 6 โมงเย็น *เล็กๆน้อยๆจิงๆนะคับ เอาแค่ไม่พอหิว จะได้ไม่ทรมาน
ระหว่างมื้อ หรือดึกๆ : ถ้าหิวก็กินเป็นผลไม้ ไม่ก็นมเปรี้ยวขวดเล็กก็ได้คับ
ผมก็ทำแบบนี้ไปสัก 5-6 เดือน ปรากฎว่ามีคนทักคำว่าไปทำไรมา ผอมลง ไอเราก็ได้แต่ตอบว่าป่าวคับ ไม่ได้ทำไร
แต่ในใจก็แอบดีใจเหมือนกันนะคับ ที่มันลงมา ยิ้มเลยยย....


นี่ช่วงหลังจากลดอย่างจิงจรังมา 4-5 เดือนคับ
พอมีคนมาทักมากเรื่อยๆไอเราก็มีกำลังใจขึ้นมาเรื่อยๆนะคับ ยอมรับเลยว่า ใจเรานี่ละสำคัญมากๆเลยในการลดน้ำหนัก


แต่คนทักผมก็ไม่ได้มีความรุ้สึก ดีใจหรืออะไรมากมายนะคับ เรา ยังคงใช้ชีวิตอยู่ในการควบคุมน้ำหนักปกติคับ ยังคง จำกัดการกิน ออกกำลังกาย และเลือกที่จะดูพวกข้อมูลอาหารก่อนกินอยู่ปกติเลยคับ

**นี่เป็นสิ่งที่ผมทำตลอดช่วงดน้ำหนักเลยคับ ปัจจุบันผมก็ยังทำอยู่นะคับไม่ได้ห่างหายหรือทิ้งมันไปไหนเลย ยังควบคุมน้ำหนักอยู่
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
มาทิ้งอีกช่วงเลยผมทำงาน Part time หารายได้ระหว่างเรียนด้วยคับ เลยทำให้ลดน้ำหนักไปด้วยได้อีกเยอะเลย เพราะงานต้องเดินคตลอดคับ เลยลงมาด้วย จนเพื่อนที่ทำงาน เพื่อนที่มหาลัย ก็ทักกันเกือบทุกคนเลยคับว่าไปทำอะไมาถึงผม เสบยาบ้า ยาลดความอ้วน หรือมีของดีอะไรรึป่าว ไอผมก็ได้แต่หัวเราะกับไป ฮึฮึ ถ้ามีนี่กูขายต่อให้ละคับ คงรวยไปแล้ว 5555
ช่วงนี้น้ำหนักน่าจะอยู่ที่ 76 ประมานนี้ละคับ
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
และผมก็ใช้ชีวิต ควบคุมน้ำหนัก ออกกำลังกายมาปกติ
และแล้ววันนี้ที่รอคอยก็มาถึงคับ...
ตอนแรกหนัก 97 กิโลก จนมาถึงทุกวันนี้ปัจจุบัน น้ำหนัก 64 กิโล
หายไป!!! 33 กิโลกรัม
มีขึ้นบ้าง ลดบ้าง ถ้าช่วงไหนกินเยอะ
และนี่คือ ความสำเร็จหลังจากสิ่งที่ตั้งใจทำไป โดยไม่ได้คาดฝันว่าจะมีอย่างทุกววันนี้ได้!!....
******** จบแล้วค๊าบบบ เรื่องเล่าจากเด็กอ้วนคนนึง
ผมก็เป็นอีกคนนะคับ ที่เคยถูกเพื่อน หรือ คนรอบตัว บอกว่า ยังยังไงก็คงไม่มีทางผอมได้
แต่ผมไม่ได้คิดมากอะไรนะคับ กลับกันผมนำมันมาเป็นแรงผลักดันในการใช้ชีวิตมากกว่า
คนอ้วน ใช่ว่าจะเป็นคนไม่ดี หรือ แปลกอะไรเลย คุณก็คือคนปกติ น่ารักกว่าใครหลายๆคนด้วยซ้ำ ตอนผมอ้วนผมก็เฉยๆและมีความสุขกับการใช้ชีวิตของผมมาตลอดเลย
สุดท้ายนี้มาเป็น กำลังใจ ให้กับคนที่กำลังลดน้ำหนักอยู่นะคับ
ยาไปทานยา หรือ ใช้วิธีผิดๆเลยมันอันตรายต่อสุขภาพ เสี่ยงด้วยนะคับ
ผมเชื่อว่าทุกคนทำได้คับ ของยังงี้มันอยูที่ ใจ ของเราล้วนๆเลยคับ
" ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ " นะคับคุณอยู่กับว่าคุณได้ลงมือทำและทำมันดีที่สุดหรือยัง
สู้ๆคับ แล้วคุณจะผ่านมันไป....



สุดท้ายนี่ใครมีอะไรสงสัยเพิ่มเติมก็แอดเฟสหรืออินบล๊อคมาถามผมได้นะคับ ยินดีให้คำปรึกษาได้เสมอเลย
https://www.facebook.com/bankza.thongkaew
สิ่งที่ไม่เคยคิดและหวังมันก็เป็นจริง... จากเด็กอ้วนคนนึง จากหนัก 97 เหลือ 64.. #ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้
เราก็เป็นอีกคนนึงที่เคยประสบปัญหาน้ำหนักตัวมากเกินมาก่อน เข้าใจหัวอกหลายๆคนเลยนะคับ
การลดน้ำหนักของผมเป็นแบบธรรมชาติ ไม่ใช่ยาหรือสารเคมีอะไรเค้ามาช่วยเลยนะคับ ลดด้วยตัวเองล้วนๆ
ต้องอาศัย ความตั้งใจ เด็ดเดี่ยวและอดทนล้วนๆเลยคับ (คนเราแต่ละคนก็มีไม่เท่ากันเข้าใจนะคับ...แต่ไงก็สู้ๆผ่านมันไปได้แน่คับ)
ตอนแรกก็ตั้งใจแค่ลองลดๆดูเฉยๆคับ ไปๆมามันกลับฮวบฮาบ ผิดหูผิดตากลายเป็นคนละคนไปเลยสะงั้นๆ
ไม่เคยสังเกตุตัวเองเท่าไร่คับ แต่มารู้สึกเอาที่ว่าตอนมี คนรอบๆตัวเริ่มทัก และเสื้อผ้าปกติที่ใส่อยู่เริ่มหลวม และเข็มขัดต้องพันหลายครั้งมากขึ้น
..............................................................................................
+++ย้อนกลับไปช่วงแรกๆก่อนนะคับ+++
อ้วนตั้งแต่จำความได้ละคับ แต่อยู่ในเกณฑ์ท้วมๆอวบๆปกตินะคับ มันเพิ่งมาแบบ อ้วนสุดๆหยุดไม่อยู่ก็สมัยเพิ่งขึ้นมัธยมนี้เอง
โดยเฉพาะไอช่วงตอน ม.ปลาย ช่วงแห่งการเรียน การสอบคับ ช่วงนั้นก็ไม่ได้สนใจอะไร เรียน สอบ กิน ทำเท่านี้ ขอวงเล็บว่ากับไอการกินนี่ให้ความสำคัญมากคับ ตอนที่อยู่หอกับเพื่อน ไม่ว่า จะดึกดื่นแค่ไหน ฝนจะตก อากาศจะหนาว น้ำท่วม นี่ก็ยังจะออกไปหาของกินเลยคับ เหมือนจะเว่นะคับแต่เป็นเรื่องจริง ยังจำได้จนทุกวันนี้เลย //อย่าให้อะไรมาขัดขวางการกินของเรา
จำได้ว่าช่วงที่น้ำหนักขึ้นสุดๆ ก็เป็นช่วง ม.6 อะคับ ตอนที่เคยชั่ง 97 เลยก็ว่าได้ หลังจากนั้นกลัวตาชั่งคับไม่ชั่งอีกเลยย หลอนนน....
/// เริ่มต้นนะคับ ผมหนัก 97 ส่วนสูงประมาณ 172
ปัจจุบัน น้ำหนักเหลือ 64 กิโลกรัม เคยลงสุดได้ 60 ประมาณนี้คับ หลังจากนั้นก็อยู่ 62-64 ตลอดมาเลย ตามอัตราการกิน
ระยะเวลาที่ใช้ทั้งหมดประมาณ 10 เดือนได้เลย แต่เริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงจริงๆ 6 เดือน คนรอบข้างก็เริ่มทักละคับ
ขั้นตอนของเราที่ใช้เลยนะคับ เราจะยิดการกินแบบนี้
เช้า : ต้องกินข้าวเช้าทุกวัน (ขอย้ำว่าทุกวันนะคับ) เพราะเคยอ่านเจอมาว่าการที่เรากินข้าวเช้าจะทำให้ระบบการเผลาพลาญดีขึ้นและอาการหิวระหว่างวันลดน้อยลง ช่วงเวลาการกินก็เท่าไร่ก็ได้แต่อย่าเกิน 9 โมงเช้า
กลางวัน : กินข้าวหรืออะไรที่เราอยากกินได้ปกติเลย แต่ในปริมานที่พอดีนะ
เย็น : กินข้าวเล็กๆน้อย ก่อน 6 โมงเย็น *เล็กๆน้อยๆจิงๆนะคับ เอาแค่ไม่พอหิว จะได้ไม่ทรมาน
ระหว่างมื้อ หรือดึกๆ : ถ้าหิวก็กินเป็นผลไม้ ไม่ก็นมเปรี้ยวขวดเล็กก็ได้คับ
-------และก็อย่าลืมออกกำลังกายทุกวัน อย่างน้อยวันละ 30 นาทีนะคับ------- ถ้าไม่ว่างจริงๆก็หาเวลาว่างอย่างน้อยอาทิตย์ละ 3 วันก็ได้ ควบคุมน้ำหนักอย่างเดียวมันจะไปช้าๆ แต่ถ้าออกกำลังกายไปด้วยนี่เห็นผลดีขึ้นแน่นอนคับ
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
***จุดเปลี่ยนมันมาอยู่ช่วงมหาลัยนี่หละคับ คือด้วนความที่เราต้องเปลี่ยนเพื่อนใหม่ สังคมใหม่ๆ สภาพแวล้อมที่เปลี่ยนไป ใครๆรอบตัวเราก็ดูดีขึ้น ไอเราก็อยากจะมีอารมณ์แบบนั้นบ้างคับ เลย เริ่มปฎิบัติการลดน้ำหนักด้วยตัวเองเลย
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
เช้า : ต้องกินข้าวเช้าทุกวัน (ขอย้ำว่าทุกวันนะคับ) เพราะเคยอ่านเจอมาว่าการที่เรากินข้าวเช้าจะทำให้ระบบการเผลาพลาญดีขึ้นและอาการหิวระหว่างวันลดน้อยลง ช่วงเวลาการกินก็เท่าไร่ก็ได้แต่อย่าเกิน 9 โมงเช้า
กลางวัน : กินข้าวหรืออะไรที่เราอยากกินได้ปกติเลย แต่ในปริมานที่พอดีนะ
เย็น : กินข้าวเล็กๆน้อย ก่อน 6 โมงเย็น *เล็กๆน้อยๆจิงๆนะคับ เอาแค่ไม่พอหิว จะได้ไม่ทรมาน
ระหว่างมื้อ หรือดึกๆ : ถ้าหิวก็กินเป็นผลไม้ ไม่ก็นมเปรี้ยวขวดเล็กก็ได้คับ
ผมก็ทำแบบนี้ไปสัก 5-6 เดือน ปรากฎว่ามีคนทักคำว่าไปทำไรมา ผอมลง ไอเราก็ได้แต่ตอบว่าป่าวคับ ไม่ได้ทำไร
แต่ในใจก็แอบดีใจเหมือนกันนะคับ ที่มันลงมา ยิ้มเลยยย....
นี่ช่วงหลังจากลดอย่างจิงจรังมา 4-5 เดือนคับ
แต่คนทักผมก็ไม่ได้มีความรุ้สึก ดีใจหรืออะไรมากมายนะคับ เรา ยังคงใช้ชีวิตอยู่ในการควบคุมน้ำหนักปกติคับ ยังคง จำกัดการกิน ออกกำลังกาย และเลือกที่จะดูพวกข้อมูลอาหารก่อนกินอยู่ปกติเลยคับ
**นี่เป็นสิ่งที่ผมทำตลอดช่วงดน้ำหนักเลยคับ ปัจจุบันผมก็ยังทำอยู่นะคับไม่ได้ห่างหายหรือทิ้งมันไปไหนเลย ยังควบคุมน้ำหนักอยู่
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
ช่วงนี้น้ำหนักน่าจะอยู่ที่ 76 ประมานนี้ละคับ
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
และแล้ววันนี้ที่รอคอยก็มาถึงคับ...
หายไป!!! 33 กิโลกรัม
มีขึ้นบ้าง ลดบ้าง ถ้าช่วงไหนกินเยอะ
และนี่คือ ความสำเร็จหลังจากสิ่งที่ตั้งใจทำไป โดยไม่ได้คาดฝันว่าจะมีอย่างทุกววันนี้ได้!!....
******** จบแล้วค๊าบบบ เรื่องเล่าจากเด็กอ้วนคนนึง
ผมก็เป็นอีกคนนะคับ ที่เคยถูกเพื่อน หรือ คนรอบตัว บอกว่า ยังยังไงก็คงไม่มีทางผอมได้
แต่ผมไม่ได้คิดมากอะไรนะคับ กลับกันผมนำมันมาเป็นแรงผลักดันในการใช้ชีวิตมากกว่า
คนอ้วน ใช่ว่าจะเป็นคนไม่ดี หรือ แปลกอะไรเลย คุณก็คือคนปกติ น่ารักกว่าใครหลายๆคนด้วยซ้ำ ตอนผมอ้วนผมก็เฉยๆและมีความสุขกับการใช้ชีวิตของผมมาตลอดเลย
สุดท้ายนี้มาเป็น กำลังใจ ให้กับคนที่กำลังลดน้ำหนักอยู่นะคับ
ยาไปทานยา หรือ ใช้วิธีผิดๆเลยมันอันตรายต่อสุขภาพ เสี่ยงด้วยนะคับ
ผมเชื่อว่าทุกคนทำได้คับ ของยังงี้มันอยูที่ ใจ ของเราล้วนๆเลยคับ
" ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ " นะคับคุณอยู่กับว่าคุณได้ลงมือทำและทำมันดีที่สุดหรือยัง
สู้ๆคับ แล้วคุณจะผ่านมันไป....
สุดท้ายนี่ใครมีอะไรสงสัยเพิ่มเติมก็แอดเฟสหรืออินบล๊อคมาถามผมได้นะคับ ยินดีให้คำปรึกษาได้เสมอเลย
https://www.facebook.com/bankza.thongkaew