ช่วงนี้เห็นคนสนใจอยากเล่นหุ้นกันเยอะมาก ผมเลยขอมาแชร์ความหมายของงบการเงินแบบคร่าวๆให้ฟังละกันครับ
งบการเงินที่ดาวน์โหลดได้จากเว็บต่างๆนั้น จะประกอบไปด้วย 3 ส่วนครับ
1. รายงานผู้สอบบัญชีรับอนุญาต
2. งบการเงิน
3. หมายเหตุประกอบงบการเงิน
1. รายงานผู้สอบบัญชีรับอนุญาตนี้เนี่ยคือความเห็นของผู้สอบบัญชีต่องบการเงินครับ
มีความเห็น 4 แบบครับ
1.1 ไม่มีเงื่อนไข (ดีที่สุดครับ สังเกตคำว่า งบการเงินถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญ) (ถ้าเป็นงบไตรมาส สังเกตคำว่า ไม่พบสิ่งที่ที่เป็นเหตุให้เชื่อว่าข้อมูลทางการเงินไม่ได้จัดทำขึ้นตามมาตรฐานการบัญชี ในสาระสำคัญ)
1.2 มีเงื่อนไข ว่าอาจจะผิดในบางจุด (แย่มาหน่อย)
1.3 ไม่แสดงความเห็น คือไม่สามารถแสดงความเห็นได้ครับว่าถูกหรือผิด (ไม่ไหวละ)
1.4 ไม่ถูกต้อง ก็คือผิดเลย (ปิดไฟล์เลยดีกว่า เลิกอ่านละ)
ตรงนี้ควรอ่านก่อนไปอ่านงบการเงินครับ เพราะจะเป็นการสรุปว่างบการเงินที่จะอ่านต่อไปนั้นมันถูกหรือผิดครับ
2. งบการเงิน ประกอบด้วย
2.1 งบแสดงฐานะการเงิน (งบดุลเก่า) แสดงถึงฐานะของกิจการ ณ วันใดวันหนึ่งครับ
งบแสดงฐานะการเงินวางอยู่บนหลักสมการคือ สินทรัพย์ = หนี้สิน + ทุน
เช่นสินทรัพย์ 100 หนี้สิน 20 ทุน 80 หมายความว่ามีเงินเจ้าของ 80 และยืมคนอื่นอีก 20 รวมเป็นสินทรัพย์ 100 บาท
งบนี้บอกว่ากิจการมีฐานะดีรึเปล่าครับ เหมือนคนเรา ถ้ากางกระเป๋าตังมาดู มีเงิน 10,000 บาท ก็คือสินทรัพย์ 10,000 บาท มีหนี้บัตรเครดิต 5,000 ที่เหลือก็คือทุนของเราอีก 5,000 เป็นต้น แต่ถ้ามีหนี้บัตรเครดิต 12,000 หละ ก็คือทุนเราไม่มีเลย ติดลบอีกย่ำแย่สุดๆ อาจล้มละลายได้
ในการจัดทำงบแสดงฐานะการเงินเนี่ยจะแบ่งเป็น สินทรัพย์ และหนี้สิน หมุนเวียนหรือไม่หมันเวียนด้วยครับ
ถ้าสินทรัพย์หมุนเวียน ความหมายคือ คาดว่าจะได้รับประโยชน์จากสินทรัพย์นั้นภายใน 12 เดือน หรือรอบระยะเวลาดำเนินงานปกติของกิจการครับ ถ้าไม่หมุนเวียนก็คือนอกจากนี้ครับ
ในทำนองเดียวกัน หนี้สินหมุนเวียนก็คือหนี้สินที่จะต้องจ่ายชำระภายใน 12 เดือน หรืออบระยะเวลาดำเนินงานปกติของกิจการ
ผมก็เป็นคนหนึ่งครับที่อยากเห็น สินทรัพย์หมุนเวียนมากกว่าหนี้สินหมุนเวียน นั่นหมายความว่ากิจการน่าจะสามารถมีเงินไปจ่ายชำระหนี้ได้ครับ
2.2 งบกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จ แสดงถึงการทำมาค้าขายของกิจการ ณ ช่วงเวลา
ต่างจากงบแสดงฐานะการเงินครับ อันนี้เป็นช่วงเวลา เช่นในระหว่างปี 2557 บริษัทขายของได้เท่าไหร่ มีต้นทุนเท่าไหร่ ค่าใช้จ่ายนู่นนี่เท่าไหร่ ภาษีเท่าไหร่ เบ็ดเสร็จออกมาเหลือกำไรหรือขากทุนเท่าไหร่
งบนี้ก็ตรงๆเลยครับ บอกเลยว่ากิจการเนี่ยทำมาค้าขายเป็นไง ใครๆก็คงอยากเห็นยอดขายและกำไรที่เพิ่มขึ้นทุกปี
งบนี้ต้องระวังครับว่าอย่าไปดูแค่บรรทัดล่างสุดอย่างเดียว ควรดูบรรทัดอื่นด้วย เช่น บางทีบริษัทมีกำไรพิเศษจากการขายที่ดินเข้ามา 100 ล้านทำให้กำไรเป็นบวก แต่มันเข้ามาแค่ทีเดียวครับ ในการวิเคราะห์อาจจะต้องตัดรายการประเภทนี้ออกไปครับ
2.3 งบแสดงการเปลี่ยนแปลงในส่วนของผู้ถือหุ้น (ทุน ในข้อ 2.1 นั่นแหละครับ) เป็นการกระทบยอดทุนต้นงวดไปทุนปลายงวดครับ
ส่วนใหญ่ก็จะเกิดจากการบวกกำไรในข้อ 2.2 หรือว่าหักเงินปันผลที่จ่ายในระหว่างงวดครับ แต่บางที่ก็จะมีเยอะแยะมากมายหลายเรื่องครับ
2.4 งบกระแสเงินสด งบนี้แสดงให้เห็นว่ากิจการมีเงินสดรับหรือจ่ายจากไหนบ้างครับ
โดยจะแบ่งเป็น 3 กิจกรรม คือ
2.4.1 กิจกรรมดำเนินงานครับ คือการดำเนินงานปกติครับ ซื้อของขายของ จ่ายเงินเดือน จ่ายค่าเช่าเป็นต้น
2.4.2 กิจกรรมลงทุน ว่า มีเงินสดจ่ายเพื่อลงทุนเพิ่ม หรือรับจากการของพวกเงินลงทุน หรือ สินทรัพย์ไปเท่าไหร่ครับ
2.4.3 กิจกรรมจัดหาเงิน ก็เป็นการบอกว่าได้เงินมาจากไหนครับ อาจจะเพิ่มทุนหรือกู้ธนาคาร หรือจ่ายเงินปันผลเป็นต้น
ส่วนใหญ่คงอยากเห็น เงินสดรับจากกิจกรรมดำเนินงานที่เป็น + ครับ แสดงถึงว่ากิจการดำเนินงานมีเงินสดเข้ามาครับ
3. หมายเหตุประกอบงบการเงิน เป็นส่วนขยายของงบการเงินครับ ว่ามีรายละเอียดอะไรบ้าง
และส่วนใหญ่จะมีข้อมูลสำคัญที่อาจมองข้ามไปเช่น เงินสดที่ติดภาระค้ำประกัน (ไม่สามารถนำมาใช้ได้) อัตราส่วนหนี้สินต่อทุนที่ต้องรักษาไว้เพราะเป็นเงื่อนไขในการกู้ยืมเงินจากธนาคาร คดีความที่ถูกฟ้องร้อง รวมถึงภาระผูกพันที่ต้องจ่ายในอนาคตเป็นต้นครับ
งบการเงินสามารถหาได้จากหลายที่ครับเช่น
www.settrade.com
www.set.or.th
www.sec.or.th (ด้านล่างขวามือสุด เลือกหาคำว่างบการเงิน รวมถึงมี 56-1 หรือรายงานประจำปีให้ด้วยครับ) (เว็บนี้มีย้อนหลังหลายๆปีเลยครับ)
อันนี้เป็นการอธิบายแบบคร่าวๆครับ สำหรับมือใหม่ที่ยังไม่มีความเข้าใจในงบการเงินนะครับผม
การลงทุนในหุ้นมีความเสี่ยงครับ คือการเป็นเจ้าของกิจการดังนั้นควรศึกษาก่อนดีๆครับ
ผิดพลาดประการใดขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ
อธิบายความหมายงบการเงินแบบคร่าวๆครับ
งบการเงินที่ดาวน์โหลดได้จากเว็บต่างๆนั้น จะประกอบไปด้วย 3 ส่วนครับ
1. รายงานผู้สอบบัญชีรับอนุญาต
2. งบการเงิน
3. หมายเหตุประกอบงบการเงิน
1. รายงานผู้สอบบัญชีรับอนุญาตนี้เนี่ยคือความเห็นของผู้สอบบัญชีต่องบการเงินครับ
มีความเห็น 4 แบบครับ
1.1 ไม่มีเงื่อนไข (ดีที่สุดครับ สังเกตคำว่า งบการเงินถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญ) (ถ้าเป็นงบไตรมาส สังเกตคำว่า ไม่พบสิ่งที่ที่เป็นเหตุให้เชื่อว่าข้อมูลทางการเงินไม่ได้จัดทำขึ้นตามมาตรฐานการบัญชี ในสาระสำคัญ)
1.2 มีเงื่อนไข ว่าอาจจะผิดในบางจุด (แย่มาหน่อย)
1.3 ไม่แสดงความเห็น คือไม่สามารถแสดงความเห็นได้ครับว่าถูกหรือผิด (ไม่ไหวละ)
1.4 ไม่ถูกต้อง ก็คือผิดเลย (ปิดไฟล์เลยดีกว่า เลิกอ่านละ)
ตรงนี้ควรอ่านก่อนไปอ่านงบการเงินครับ เพราะจะเป็นการสรุปว่างบการเงินที่จะอ่านต่อไปนั้นมันถูกหรือผิดครับ
2. งบการเงิน ประกอบด้วย
2.1 งบแสดงฐานะการเงิน (งบดุลเก่า) แสดงถึงฐานะของกิจการ ณ วันใดวันหนึ่งครับ
งบแสดงฐานะการเงินวางอยู่บนหลักสมการคือ สินทรัพย์ = หนี้สิน + ทุน
เช่นสินทรัพย์ 100 หนี้สิน 20 ทุน 80 หมายความว่ามีเงินเจ้าของ 80 และยืมคนอื่นอีก 20 รวมเป็นสินทรัพย์ 100 บาท
งบนี้บอกว่ากิจการมีฐานะดีรึเปล่าครับ เหมือนคนเรา ถ้ากางกระเป๋าตังมาดู มีเงิน 10,000 บาท ก็คือสินทรัพย์ 10,000 บาท มีหนี้บัตรเครดิต 5,000 ที่เหลือก็คือทุนของเราอีก 5,000 เป็นต้น แต่ถ้ามีหนี้บัตรเครดิต 12,000 หละ ก็คือทุนเราไม่มีเลย ติดลบอีกย่ำแย่สุดๆ อาจล้มละลายได้
ในการจัดทำงบแสดงฐานะการเงินเนี่ยจะแบ่งเป็น สินทรัพย์ และหนี้สิน หมุนเวียนหรือไม่หมันเวียนด้วยครับ
ถ้าสินทรัพย์หมุนเวียน ความหมายคือ คาดว่าจะได้รับประโยชน์จากสินทรัพย์นั้นภายใน 12 เดือน หรือรอบระยะเวลาดำเนินงานปกติของกิจการครับ ถ้าไม่หมุนเวียนก็คือนอกจากนี้ครับ
ในทำนองเดียวกัน หนี้สินหมุนเวียนก็คือหนี้สินที่จะต้องจ่ายชำระภายใน 12 เดือน หรืออบระยะเวลาดำเนินงานปกติของกิจการ
ผมก็เป็นคนหนึ่งครับที่อยากเห็น สินทรัพย์หมุนเวียนมากกว่าหนี้สินหมุนเวียน นั่นหมายความว่ากิจการน่าจะสามารถมีเงินไปจ่ายชำระหนี้ได้ครับ
2.2 งบกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จ แสดงถึงการทำมาค้าขายของกิจการ ณ ช่วงเวลา
ต่างจากงบแสดงฐานะการเงินครับ อันนี้เป็นช่วงเวลา เช่นในระหว่างปี 2557 บริษัทขายของได้เท่าไหร่ มีต้นทุนเท่าไหร่ ค่าใช้จ่ายนู่นนี่เท่าไหร่ ภาษีเท่าไหร่ เบ็ดเสร็จออกมาเหลือกำไรหรือขากทุนเท่าไหร่
งบนี้ก็ตรงๆเลยครับ บอกเลยว่ากิจการเนี่ยทำมาค้าขายเป็นไง ใครๆก็คงอยากเห็นยอดขายและกำไรที่เพิ่มขึ้นทุกปี
งบนี้ต้องระวังครับว่าอย่าไปดูแค่บรรทัดล่างสุดอย่างเดียว ควรดูบรรทัดอื่นด้วย เช่น บางทีบริษัทมีกำไรพิเศษจากการขายที่ดินเข้ามา 100 ล้านทำให้กำไรเป็นบวก แต่มันเข้ามาแค่ทีเดียวครับ ในการวิเคราะห์อาจจะต้องตัดรายการประเภทนี้ออกไปครับ
2.3 งบแสดงการเปลี่ยนแปลงในส่วนของผู้ถือหุ้น (ทุน ในข้อ 2.1 นั่นแหละครับ) เป็นการกระทบยอดทุนต้นงวดไปทุนปลายงวดครับ
ส่วนใหญ่ก็จะเกิดจากการบวกกำไรในข้อ 2.2 หรือว่าหักเงินปันผลที่จ่ายในระหว่างงวดครับ แต่บางที่ก็จะมีเยอะแยะมากมายหลายเรื่องครับ
2.4 งบกระแสเงินสด งบนี้แสดงให้เห็นว่ากิจการมีเงินสดรับหรือจ่ายจากไหนบ้างครับ
โดยจะแบ่งเป็น 3 กิจกรรม คือ
2.4.1 กิจกรรมดำเนินงานครับ คือการดำเนินงานปกติครับ ซื้อของขายของ จ่ายเงินเดือน จ่ายค่าเช่าเป็นต้น
2.4.2 กิจกรรมลงทุน ว่า มีเงินสดจ่ายเพื่อลงทุนเพิ่ม หรือรับจากการของพวกเงินลงทุน หรือ สินทรัพย์ไปเท่าไหร่ครับ
2.4.3 กิจกรรมจัดหาเงิน ก็เป็นการบอกว่าได้เงินมาจากไหนครับ อาจจะเพิ่มทุนหรือกู้ธนาคาร หรือจ่ายเงินปันผลเป็นต้น
ส่วนใหญ่คงอยากเห็น เงินสดรับจากกิจกรรมดำเนินงานที่เป็น + ครับ แสดงถึงว่ากิจการดำเนินงานมีเงินสดเข้ามาครับ
3. หมายเหตุประกอบงบการเงิน เป็นส่วนขยายของงบการเงินครับ ว่ามีรายละเอียดอะไรบ้าง
และส่วนใหญ่จะมีข้อมูลสำคัญที่อาจมองข้ามไปเช่น เงินสดที่ติดภาระค้ำประกัน (ไม่สามารถนำมาใช้ได้) อัตราส่วนหนี้สินต่อทุนที่ต้องรักษาไว้เพราะเป็นเงื่อนไขในการกู้ยืมเงินจากธนาคาร คดีความที่ถูกฟ้องร้อง รวมถึงภาระผูกพันที่ต้องจ่ายในอนาคตเป็นต้นครับ
งบการเงินสามารถหาได้จากหลายที่ครับเช่น
www.settrade.com
www.set.or.th
www.sec.or.th (ด้านล่างขวามือสุด เลือกหาคำว่างบการเงิน รวมถึงมี 56-1 หรือรายงานประจำปีให้ด้วยครับ) (เว็บนี้มีย้อนหลังหลายๆปีเลยครับ)
อันนี้เป็นการอธิบายแบบคร่าวๆครับ สำหรับมือใหม่ที่ยังไม่มีความเข้าใจในงบการเงินนะครับผม
การลงทุนในหุ้นมีความเสี่ยงครับ คือการเป็นเจ้าของกิจการดังนั้นควรศึกษาก่อนดีๆครับ
ผิดพลาดประการใดขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ