สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 8
คห.สต. นะครับ ...
ต้องบอกก่อนว่า ผมไม่ได้มองในเชิงว่า อาหารคลีนจะได้เปรียบอาหารปกติในด้านโภชนาการ หรือการลดน้ำหนัก แต่ผมมองในแง่ถ้าผมเป็นนักศึกษา ที่มีเงินแค่ 100 บาท ผมกลับมองว่า "79 บาทเป็นราคาที่ไม่สนองตอบต่อจุดดุลยภาพ" ครับ เหตุเพราะ ถ้าคุณจะมองอาหารคลีนว่ามีข้อได้เปรียบในเรื่องของกระแส (เป็นผลพวงสืบเนื่องจากกระแสรักสุขภาพและออกกำลังกาย) ผมกลับมองว่ามันมีจุดอ่อนจากจุดแข็งนี้ด้วย ดังนี้ ...
- ในความเป็นจริง "คุณเลือกลูกค้าไม่ได้" แม้ว่า Target Group ของคุณจะเป็นคนที่เข้าฟิตเนส หรือคนรักสุขภาพก็ตาม แต่ถ้าคุณเปิดขายภายใน ม.กรุงเทพฯ และ มธ.รังสิต เมื่อเทียบสัดส่วนแล้ว ผมแน่ใจว่า Target ของคุณอาจจะมีจำนวนประชาการไม่ถึง 10% ของนักศึกษาทั้ง ม. ด้วยซ้ำ และกลุ่มลูกค้าที่คุณจะจับได้เป็นหลัก ก็คือ กลุ่มเด็กหอ ซึ่งก็รู้ๆกันอยู่ว่ามีงบฯค่ากินไม่เยอะ และต้องการเรื่องความสะดวกและราคาถูกมากกว่า นี่จึงเป็นปัญหาสำคัญที่จะทำให้ลูกค้าของคุณมีจำนวนไม่มากเท่าที่คาดไว้
- พฤติกรรมการบริโภคของนักศึกษาส่วนใหญ่ เน้นความสะดวกสะบายมากกว่าครับ เป็นสาเหตุให้ข้าวกล่องใน 7-11 บุกตลาดได้มากขึ้น แถมเดี๋ยวนี้ก็มีการปรับปรุงรสชาติให้ดีขึ้น ราคาก็อยู่ที่ 30 - 50 บาท/กล่อง ถ้าคุณขาย 79 บาท/กล่อง คุณจะเจอศึกหนักเพราะว่าคุณต้องแข่งกับมหาอำนาจทางการขายปลีกเลยทีเดียว ไหนจะมีพวกโรงอาหาร และร้านอาหาร Junk Food แบบ Delivery อีก (ล่าสุด มธ.รังสิตเปิดตัว Self-Access Learning Center ซึ่งชั้นล่างมีร้านขายอาหารในเครือ CP มาเปิดอีก) ...
- ผมกลับมองว่า "อาหารคลีนเป็นกระแส" ครับ ธุรกิจใดก็ตามที่เป็นกระแส ย่อมมีโอกาสสูงที่จะอยู่ได้ไม่นาน เพราะคนส่วนใหญ่ใช้บริการเพราะเห่อตามกระแส และการันตีไม่ได้เลยว่าลูกค้าคนไหนจะกลับมา "ซื้อซ้ำ" แม้กระทั่ง Target ของคุณก็ตาม ถ้าคุณจะอ้างว่า Packaging ดูดี หรือ รสชาติอร่อยเพราะป้าแม่บ้านเคยเป็นแม่ครัวในภัตตาคารมาก่อน ผมบอกเลยว่า "มันเป็นคุณสมบัติพื้นฐานที่คุณต้องมีและต้องรักษาไว้ให้ได้ครับ แต่ไม่ใช่จุดแข็ง" ...
ฉะนั้น ผมว่าถ้าจะทำขายจริงๆ คุณอาจต้องปรับเปลี่ยนเรื่อง Packaging ปรับเปลี่ยนวัตถุดิบ เพื่อลดต้นทุน และที่สำคัญ คุณแข่งด้วยการขายแบบตั้งร้านอย่างเดียวไม่รอดแน่ๆครับ ต้องขยายช่องทางจัดจำหน่ายทางอื่นด้วย ที่แน่ๆถ้าคุณเปิดทางออนไลน์เพิ่ม คุณก้จะต้องแข่งกับดีเจชื่อดังคนนั้นด้วย ผมจึงคิดว่า "ตลาดอาหารคลีน ไม่เหมาะกับคุณ" เพราะมันเป็นธุรกิจตามกระแส และ เป็นธุรกิจที่ยังไม่ค่อยมีใครทำสำเร็จเป็นรูปธรรม ทำให้เกิดการแข่งขันสูง ถ้าคุณจะแข่ง คุณต้องใช้เงินทุนมากจึงจะเข้าสู่ตลาดได้ หรือไม่งั้นก็ต้องสร้างความแปลกใหม่ ที่มีมากกว่าความเป็น "อาหารคลีนที่อร่อย" ถึงจะสามารถสร้างจุดแข็งให้พออยู่ในการแข่งขันได้ครับ ...
ปล. เรื่อง "ความอร่อย" นั้น มันแล้วแต่ลิ้นของแต่ละคนครับ ผมก็ไม่รู้ว่าคุณทำอร่อยจริงมั๊ย ? แต่ที่แน่ๆก็คือ ขึ้นชื่อว่า "ธุรกิจอาหาร" ถ้าไม่อร่อย ต่อให้มีจุดแข็งอื่นดียังไง ก็อยู่ได้ไม่นานครับ ...
ต้องบอกก่อนว่า ผมไม่ได้มองในเชิงว่า อาหารคลีนจะได้เปรียบอาหารปกติในด้านโภชนาการ หรือการลดน้ำหนัก แต่ผมมองในแง่ถ้าผมเป็นนักศึกษา ที่มีเงินแค่ 100 บาท ผมกลับมองว่า "79 บาทเป็นราคาที่ไม่สนองตอบต่อจุดดุลยภาพ" ครับ เหตุเพราะ ถ้าคุณจะมองอาหารคลีนว่ามีข้อได้เปรียบในเรื่องของกระแส (เป็นผลพวงสืบเนื่องจากกระแสรักสุขภาพและออกกำลังกาย) ผมกลับมองว่ามันมีจุดอ่อนจากจุดแข็งนี้ด้วย ดังนี้ ...
- ในความเป็นจริง "คุณเลือกลูกค้าไม่ได้" แม้ว่า Target Group ของคุณจะเป็นคนที่เข้าฟิตเนส หรือคนรักสุขภาพก็ตาม แต่ถ้าคุณเปิดขายภายใน ม.กรุงเทพฯ และ มธ.รังสิต เมื่อเทียบสัดส่วนแล้ว ผมแน่ใจว่า Target ของคุณอาจจะมีจำนวนประชาการไม่ถึง 10% ของนักศึกษาทั้ง ม. ด้วยซ้ำ และกลุ่มลูกค้าที่คุณจะจับได้เป็นหลัก ก็คือ กลุ่มเด็กหอ ซึ่งก็รู้ๆกันอยู่ว่ามีงบฯค่ากินไม่เยอะ และต้องการเรื่องความสะดวกและราคาถูกมากกว่า นี่จึงเป็นปัญหาสำคัญที่จะทำให้ลูกค้าของคุณมีจำนวนไม่มากเท่าที่คาดไว้
- พฤติกรรมการบริโภคของนักศึกษาส่วนใหญ่ เน้นความสะดวกสะบายมากกว่าครับ เป็นสาเหตุให้ข้าวกล่องใน 7-11 บุกตลาดได้มากขึ้น แถมเดี๋ยวนี้ก็มีการปรับปรุงรสชาติให้ดีขึ้น ราคาก็อยู่ที่ 30 - 50 บาท/กล่อง ถ้าคุณขาย 79 บาท/กล่อง คุณจะเจอศึกหนักเพราะว่าคุณต้องแข่งกับมหาอำนาจทางการขายปลีกเลยทีเดียว ไหนจะมีพวกโรงอาหาร และร้านอาหาร Junk Food แบบ Delivery อีก (ล่าสุด มธ.รังสิตเปิดตัว Self-Access Learning Center ซึ่งชั้นล่างมีร้านขายอาหารในเครือ CP มาเปิดอีก) ...
- ผมกลับมองว่า "อาหารคลีนเป็นกระแส" ครับ ธุรกิจใดก็ตามที่เป็นกระแส ย่อมมีโอกาสสูงที่จะอยู่ได้ไม่นาน เพราะคนส่วนใหญ่ใช้บริการเพราะเห่อตามกระแส และการันตีไม่ได้เลยว่าลูกค้าคนไหนจะกลับมา "ซื้อซ้ำ" แม้กระทั่ง Target ของคุณก็ตาม ถ้าคุณจะอ้างว่า Packaging ดูดี หรือ รสชาติอร่อยเพราะป้าแม่บ้านเคยเป็นแม่ครัวในภัตตาคารมาก่อน ผมบอกเลยว่า "มันเป็นคุณสมบัติพื้นฐานที่คุณต้องมีและต้องรักษาไว้ให้ได้ครับ แต่ไม่ใช่จุดแข็ง" ...
ฉะนั้น ผมว่าถ้าจะทำขายจริงๆ คุณอาจต้องปรับเปลี่ยนเรื่อง Packaging ปรับเปลี่ยนวัตถุดิบ เพื่อลดต้นทุน และที่สำคัญ คุณแข่งด้วยการขายแบบตั้งร้านอย่างเดียวไม่รอดแน่ๆครับ ต้องขยายช่องทางจัดจำหน่ายทางอื่นด้วย ที่แน่ๆถ้าคุณเปิดทางออนไลน์เพิ่ม คุณก้จะต้องแข่งกับดีเจชื่อดังคนนั้นด้วย ผมจึงคิดว่า "ตลาดอาหารคลีน ไม่เหมาะกับคุณ" เพราะมันเป็นธุรกิจตามกระแส และ เป็นธุรกิจที่ยังไม่ค่อยมีใครทำสำเร็จเป็นรูปธรรม ทำให้เกิดการแข่งขันสูง ถ้าคุณจะแข่ง คุณต้องใช้เงินทุนมากจึงจะเข้าสู่ตลาดได้ หรือไม่งั้นก็ต้องสร้างความแปลกใหม่ ที่มีมากกว่าความเป็น "อาหารคลีนที่อร่อย" ถึงจะสามารถสร้างจุดแข็งให้พออยู่ในการแข่งขันได้ครับ ...
ปล. เรื่อง "ความอร่อย" นั้น มันแล้วแต่ลิ้นของแต่ละคนครับ ผมก็ไม่รู้ว่าคุณทำอร่อยจริงมั๊ย ? แต่ที่แน่ๆก็คือ ขึ้นชื่อว่า "ธุรกิจอาหาร" ถ้าไม่อร่อย ต่อให้มีจุดแข็งอื่นดียังไง ก็อยู่ได้ไม่นานครับ ...
ยัยตัวน่ารัก ถูกใจ, ทดลองหล่อฟรุ้งฟริ้ง ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1228010 ทึ่ง, เม่า Hi So ถูกใจ, สกุณาวายุ ถูกใจ, อยากเป็นกบนอกกะลาครับ ถูกใจ, Blosm ถูกใจ, เม็ดทรายใต้น้ำ ถูกใจ
แสดงความคิดเห็น
ทำอาหารคลีนขายในราคา79บาท ขายนศ.แถวรังสิต แพงไปไหมคะ
คือตอนเค้าเล่นเค้าอีทคลีนแบบคลีนมาก แคลอรี่นี่เป๊ะมาก แล้วก็ดูแลตัวเองดีมากๆ
เพื่อนเราก็มีเล่นกันเยอะ ส่วนมากจะสั่งข้าวกล่องของดีเจชื่อดังท่านนึง แต่เพื่อนบ่นกันเรื่องราคากันเยอะมากค่ะ
มื้อนึงค่าข้าว+ค่าส่ง 100++ เราเลยกะจะทำขายดู ซึ่งเคยลองทำให้เพื่อนชิมแล้วเพื่อนบอกอร่อยเลย ขายได้แน่ๆ
คือรสชาติอร่อยเพราะป้าแม่บ้านเราเคยเป็นแม่ครัวในภัตตาคารมาก่อนค่ะ 5555
การฟอร์มทีมของเราเลยดีมาก เพราะข้อมูลทางโภชนาการก็แน่น รสชาติก็เป๊ะ
จะขายในราคา79บาทเท่านั้น กำไรถือว่าไม่เยอะเลยค่ะ แต่คิดว่าถ้าขายถูกคงขายได้หลายกล่องและกำไรก็จะเยอะเอง
1กล่องเราประกอบไปด้วยข้าวกล้อง กับข้าว และผักค่ะ
กับข้าวส่วนมากจะเป็นอกไก่และปลา ผักก็จะเป็นผักต้มค่ะ
ส่วนข้าว เป็นข้าวกล้องสังข์หยดแท้ๆที่รับมาจากนาข้าวเลย (บ้านเราอยู่ตจว.ค่ะ เอามาจากต่างอำเภอแถวบ้านเลย)
กล่องก็เป็นจานหลุม มีฝาปิด มีที่คาดดีไซน์สวย รวมออกมาคือดูดีมาก พร้อมขึ้นห้างเลยจริงๆ 555
เรากำลังจะขายผ่านไอจี เฟสบุค และหน้าร้านเช่าที่แถวมหาวิทยาลัยค่ะ ทั้งธรรมศาสตร์และมอกรุงเทพ
อยากถามความเห็นของพี่ๆเพื่อนๆน้องๆชาวพันทิป ว่าเราขายมนราคานี้ถือว่าถูกหรือแพงไปไหมคะ และมีข้อแนะนำตรงไหนบ้าง แนะนำได้เลยค่ะ