สังคมออนไลน์เป็นสิ่งที่แปลกใหม่และเติบโตมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา
ไม่น่าเชื่อว่าแค่ข้อความที่ใช้โต้ตอบกันจะทำให้เรามีความรู้สึกเหมือนมีตัวตนๆจริงอยู่ในสังคมออนไลน์ได้
ความรู้สึกที่เกิดขึ้นนี้ในหลักพุทธศาสนาก็ต้องเรียกว่าอุปทานถ้าไม่มีอุปทานเสียแล้ว
ความรู้สึกมีตัวตนในสังคมออนไลน์คงเกิดขึ้นไม่ได้แต่อุปทานนี้ก็ต้องอาศัยความเพลิดเพลินคือความพอใจหรือไม่พอใจนั่นเอง
เป็นปัจจัยแม้ผมจะรู้หลักการมีอยู่ของตัวตนในสังคมออนไลน์มาบ้างแล้วแต่ก็อดห้ามใจไม่ให้หลงเพลิดเพลินไปกับการสนทนาปราศัย
กับมิตรสหายในห้องสนทนานี้ไม่ได้ที่จริงจะว่าไปชีวิตในห้องศาสนาก็มีสิ่งดีอยู่หลายอย่าง
เช่นมีคนดีๆคนเก่งๆหลากหลายอาชีพและหลายทัศนคติรวมทั้งหลากหลายอารมย์อยู่ด้วย
ล็อกอินแต่ละคนก็คือชื่อแทนของแต่ละคนสำนวนโวหารคือบุคคลิกและแน่นอนรวมนิสัยใจคออยู่ในนั้นด้วย
แปลกแต่จริงแม้ไม่เห็นหน้าและไม่เคยโทรคุยกันแต่บางครั้งแค่เห็นชื่อล็อกอินนั้นบางครั้งก็อยากเข้าไปทักท้ายแล้ว
แต่สำหรับบางล็อกอินก็รีบคลิ๊กผ่านไปให้ไวๆแต่ในสังคมของโลกอุปทานออนไลน์นี้ก็ยังแฝงเร้นไปด้วยการเบียดเบียนกันและเอื้อกัน
แทบไม่ต่างไปจากสังคมภายนอกที่เรามีชีวิตจริงๆอาศัยอยู่สำหรับผมแล้วบางวันถ้าเพลินๆหน่อยก็อาจนั่งได้นาน
เป็นชั่วโมงสองชั่วโมงติดกันเลยเขียนมาเพื่อแนะนำเพื่อบางท่านที่ติดหรือเพลินในสังคมออนไลน์นี้จะได้ปรับตัวได้มากขึ้น
เพราะทั้งเทพและมารในห้องนี้หรือห้องไหนๆมันไม่มีจริงอย่างที่รู้กันมันมีแต่อุปทานที่อาศัยความเพลินของเราทำให้เกิดขึ้น
วิธีแก้ไขปัญหาของมาร อยู่ที่กายอุปทานคือล็อกอินของเรานั่นเองถ้าปล่อยวางมันเสียได้รวมทั้งเทพและมารด้วย
ทั้งหมดก็จะหายไปเหลือแต่เพียงประโยคข้อความเท่านั้น ผมเห็นปัญหามันมีอยู่จริงถ้าไม่รู้จักวิธีสลายอุปทานก็จะพยาบาทจองเวรกันไม่จบนะครับ
....มารู้จักชีวิตในภพ(ห้องศาสนา)!!!
ไม่น่าเชื่อว่าแค่ข้อความที่ใช้โต้ตอบกันจะทำให้เรามีความรู้สึกเหมือนมีตัวตนๆจริงอยู่ในสังคมออนไลน์ได้
ความรู้สึกที่เกิดขึ้นนี้ในหลักพุทธศาสนาก็ต้องเรียกว่าอุปทานถ้าไม่มีอุปทานเสียแล้ว
ความรู้สึกมีตัวตนในสังคมออนไลน์คงเกิดขึ้นไม่ได้แต่อุปทานนี้ก็ต้องอาศัยความเพลิดเพลินคือความพอใจหรือไม่พอใจนั่นเอง
เป็นปัจจัยแม้ผมจะรู้หลักการมีอยู่ของตัวตนในสังคมออนไลน์มาบ้างแล้วแต่ก็อดห้ามใจไม่ให้หลงเพลิดเพลินไปกับการสนทนาปราศัย
กับมิตรสหายในห้องสนทนานี้ไม่ได้ที่จริงจะว่าไปชีวิตในห้องศาสนาก็มีสิ่งดีอยู่หลายอย่าง
เช่นมีคนดีๆคนเก่งๆหลากหลายอาชีพและหลายทัศนคติรวมทั้งหลากหลายอารมย์อยู่ด้วย
ล็อกอินแต่ละคนก็คือชื่อแทนของแต่ละคนสำนวนโวหารคือบุคคลิกและแน่นอนรวมนิสัยใจคออยู่ในนั้นด้วย
แปลกแต่จริงแม้ไม่เห็นหน้าและไม่เคยโทรคุยกันแต่บางครั้งแค่เห็นชื่อล็อกอินนั้นบางครั้งก็อยากเข้าไปทักท้ายแล้ว
แต่สำหรับบางล็อกอินก็รีบคลิ๊กผ่านไปให้ไวๆแต่ในสังคมของโลกอุปทานออนไลน์นี้ก็ยังแฝงเร้นไปด้วยการเบียดเบียนกันและเอื้อกัน
แทบไม่ต่างไปจากสังคมภายนอกที่เรามีชีวิตจริงๆอาศัยอยู่สำหรับผมแล้วบางวันถ้าเพลินๆหน่อยก็อาจนั่งได้นาน
เป็นชั่วโมงสองชั่วโมงติดกันเลยเขียนมาเพื่อแนะนำเพื่อบางท่านที่ติดหรือเพลินในสังคมออนไลน์นี้จะได้ปรับตัวได้มากขึ้น
เพราะทั้งเทพและมารในห้องนี้หรือห้องไหนๆมันไม่มีจริงอย่างที่รู้กันมันมีแต่อุปทานที่อาศัยความเพลินของเราทำให้เกิดขึ้น
วิธีแก้ไขปัญหาของมาร อยู่ที่กายอุปทานคือล็อกอินของเรานั่นเองถ้าปล่อยวางมันเสียได้รวมทั้งเทพและมารด้วย
ทั้งหมดก็จะหายไปเหลือแต่เพียงประโยคข้อความเท่านั้น ผมเห็นปัญหามันมีอยู่จริงถ้าไม่รู้จักวิธีสลายอุปทานก็จะพยาบาทจองเวรกันไม่จบนะครับ