อ่านดูเเล้วเหมือนว่าเจอตั้งแต่ปี49นะครับ มีบริษัทเอกชนเป็นคนเจอ แต่เหมือนบอกว่าเพิ่งยกให้เป็นสมบัติของรัฐบาลอุรุกวัย ให้จัดการเอา
อุรุกวัยจะจัดการอย่างไรกับสมบัติก้นทะเลสัญลักษณ์นาซีเยอรมนี
การค้นพบประติมากรรมเครื่องหมายสวัสดิกะในกรงเล็บพญาอินทรีย์แผ่ปีกกว้างที่ก้นทะเลนอกชายฝั่งของอุรุกวัย ทำให้เกิดข้อพิพาทว่าใครควรเป็นเจ้าของและควรจัดการอย่างไรกับสมบัติที่เป็นสัญลักษณ์ขอนาซีเยอรมนีชิ้นนี้
ย้อนไปเมื่อปี พ.ศ. 2482 เรือลาดตระเวนหนักของเยอรมนีที่มีชื่อว่าแอดมิรัล กราฟ ชเป ถูกยิงชำรุดหลายจุดในยุทธนาวีแม่น้ำพลาเต ขณะลาดตระเวนเพื่อรังควาญเรือสินค้าของฝ่ายพันธมิตร ต่อมากัปตันเรือตัดสินใจทำลายเรือลงที่อ่าวมอนเตวิเอโด เพราะไม่ต้องการให้อังกฤษล่วงรู้และขโมยข้อมูลเกี่ยวกับเทคโนโลยีที่ทันสมัยของเยอรมนีไป หลังจากนั้นกัปตันเรือก็ปลิดชีวิตของตัวเองด้วยการยิงตัวตาย
เมื่อปี พ.ศ. 2549 บริษัทเอกชนแห่งหนึ่งพบประติมากรรมพญาอินทรีย์ที่ทำด้วยทองสัมฤทธิ์ น้ำหนัก 4 ตัน ซึ่งเป็นส่วนประดับของท้ายเรือแอดมิรัลกราฟ ชเป ที่นอกชายฝั่งอุรุกวัย หนึ่งในนักธุรกิจที่พบประติมากรรมชิ้นนี้บอกบีบีซีว่า ราคาประมูลคงอยู่ที่ราว 500 ล้านบาท
ตอนนี้ขึ้นอยู่กับรัฐบาลอุรุกวัยว่าจะจัดการอย่างไร หลังจากที่ศาลฏีกาอุรุกวัยตัดสินให้รัฐบาลเป็นเจ้าของ แต่ในคำพิพากษายังระบุว่าควรจะแบ่งเงิน 50% ให้กับบริษัทที่กู้ขึ้นมาด้วย
ขณะเดียวกัน เยอรมนีก็แสดงความไม่พอใจและเป็นห่วงว่าสมบัติสงครามชิ้นนี้อาจตกไปอยู่ในมือพวกคลั่งลัทธินาซี หากนักสะสมของเก่าส่วนบุคคลได้ไป
ขณะที่ทางบริษัทที่พบและกู้ขึ้นมาอยากให้ขาย เพื่อรัฐบาลจะได้นำเงินไปทำประโยชน์กับประเทศ เช่น พัฒนาด้านการศึกษาและเทคโนโลยี แทนที่จะเก็บใส่กล่องทิ้งไว้ในโกดังโดยมิได้ประโยชน์อันใด
Credit ข่าว-ภาพ : บีบีซีไทย - BBC Thai
รัฐบาลอุรุกวัยเจอรูปปั้นสัญลักษณ์นาซีเยอรมนี
อุรุกวัยจะจัดการอย่างไรกับสมบัติก้นทะเลสัญลักษณ์นาซีเยอรมนี
การค้นพบประติมากรรมเครื่องหมายสวัสดิกะในกรงเล็บพญาอินทรีย์แผ่ปีกกว้างที่ก้นทะเลนอกชายฝั่งของอุรุกวัย ทำให้เกิดข้อพิพาทว่าใครควรเป็นเจ้าของและควรจัดการอย่างไรกับสมบัติที่เป็นสัญลักษณ์ขอนาซีเยอรมนีชิ้นนี้
ย้อนไปเมื่อปี พ.ศ. 2482 เรือลาดตระเวนหนักของเยอรมนีที่มีชื่อว่าแอดมิรัล กราฟ ชเป ถูกยิงชำรุดหลายจุดในยุทธนาวีแม่น้ำพลาเต ขณะลาดตระเวนเพื่อรังควาญเรือสินค้าของฝ่ายพันธมิตร ต่อมากัปตันเรือตัดสินใจทำลายเรือลงที่อ่าวมอนเตวิเอโด เพราะไม่ต้องการให้อังกฤษล่วงรู้และขโมยข้อมูลเกี่ยวกับเทคโนโลยีที่ทันสมัยของเยอรมนีไป หลังจากนั้นกัปตันเรือก็ปลิดชีวิตของตัวเองด้วยการยิงตัวตาย
เมื่อปี พ.ศ. 2549 บริษัทเอกชนแห่งหนึ่งพบประติมากรรมพญาอินทรีย์ที่ทำด้วยทองสัมฤทธิ์ น้ำหนัก 4 ตัน ซึ่งเป็นส่วนประดับของท้ายเรือแอดมิรัลกราฟ ชเป ที่นอกชายฝั่งอุรุกวัย หนึ่งในนักธุรกิจที่พบประติมากรรมชิ้นนี้บอกบีบีซีว่า ราคาประมูลคงอยู่ที่ราว 500 ล้านบาท
ตอนนี้ขึ้นอยู่กับรัฐบาลอุรุกวัยว่าจะจัดการอย่างไร หลังจากที่ศาลฏีกาอุรุกวัยตัดสินให้รัฐบาลเป็นเจ้าของ แต่ในคำพิพากษายังระบุว่าควรจะแบ่งเงิน 50% ให้กับบริษัทที่กู้ขึ้นมาด้วย
ขณะเดียวกัน เยอรมนีก็แสดงความไม่พอใจและเป็นห่วงว่าสมบัติสงครามชิ้นนี้อาจตกไปอยู่ในมือพวกคลั่งลัทธินาซี หากนักสะสมของเก่าส่วนบุคคลได้ไป
ขณะที่ทางบริษัทที่พบและกู้ขึ้นมาอยากให้ขาย เพื่อรัฐบาลจะได้นำเงินไปทำประโยชน์กับประเทศ เช่น พัฒนาด้านการศึกษาและเทคโนโลยี แทนที่จะเก็บใส่กล่องทิ้งไว้ในโกดังโดยมิได้ประโยชน์อันใด
Credit ข่าว-ภาพ : บีบีซีไทย - BBC Thai