บอกตรงๆ ไม่เคยคิดว่าจะได้มาจับธุรกิจแนวนี้เลย เมื่อก่อนเป็นแค่พนักงานออฟฟิสทำงาน8โมงเช้าเลิก5โมงเย็น หยุดทุกวันอาทิตย์  พอมีโอกาสได้มาลองทำ ก็ค้นพบว่าธุรกิจนี้เหนื่อยมาก บ่องตง งานหนักเพราะต้องทนกับสภาวะแวดล้อมทั้งแดด ทั้งฝน กลิ่น สาระพัด วันหยุดน้อยมากจริงๆ เพราะต้องรับของเข้าตลอด ที่โรงงานทำพลาสติกบดครับ ส่งโรงหลอมอีกที ทำมาได้ปีกว่า จากที่ได้สัมผัสมาหลายๆอย่าง  ทำให้เริ่มคิดอะไรได้มากมายในธุรกิจนี้ พอจะสรุปได้ดังนี้
1.เดี่ยวนี้คนหันมาทำอาชีพนี้กันเยอะ โดยเฉพาะพวกรับซื้อของเก่า เมื่อก่อนคนยังทำไม่เยอะมาก ทำให้ยังหาของได้ โรงงานเลยมีของเข้าเยอะ พอเดี่ยวนี้คนหันมาทำกันเยอะ เพราะหลายคนมองเป็นอาชีพทำรายได้ดี เลยแย่งกันหาของ จนต่างคนต่างได้ของน้อย จากเมื่อก่อนมาส่งอาทิย์ละ4/5ครั้ง เดี่ยวนี้โผล่มาเดือนละ4-5ครั้งเอง  เพราะหาของมาส่งให้ไม่ได้ ที่โรงงานเลยแทบไม่มีของเข้าเลย
2.หลายองค์กรเน้นการคัดแยกขยะมากขึ้น จากเมื่อก่อนที่รวมๆสารพัดส่งๆมา ซื้อในราคาแค่10กว่าบาทแล้วทางโรงงานค่อยแยกบดเอาเอง  ทำให้โรงงานบดมีกำไรจากขยะพลาสติกราคาแพงที่ปนมากับพลาสติกราคาถูก แต่พอเน้นแยกขยะ ทำให้ลูกค้าเริ่มแยกของแพงของถูกมาขาย จนโรงงานบดแทบไม่มีกำไรเพราะราคาซื้อที่แพงในบางตัวบวกค่าต้นทุนแล้วแทบเสมอตัวครับT.T
3.ธุรกิจอัดก้อนขยะที่มากขึ้น ทำให้กล้าเสนออัดราคาสูง จนโรงบดยังไม่กล้าสู้ เพราะอัดก้อนจะเน้นส่งออก แต่โรงบดเน้นส่งโรงหลอมในประเทศ
4.สภาพเศรษฐกิจที่ราคาพลาสติกขึ้นๆลงๆ กำไรเลยไม่แน่นอ
จากข้อข้างต้นที่กล่าว โรงงานบดพลาสติกรีไซเคิลจึงอยู่ยากในอนาคต เพราะทำไปก็ได้กำไรพออยุ่ได้หรือเสมอตัว ผมจึงมองว่าธุรกิจนี้ยั่งยืนแต่กำไรจะน้อยและไม่ไม่แน่นอนในอนาคต หรือท่านอื่นที่ทำธุรกิจนี้เหมือนกันมองว่ายังไงบ้างครับ