https://www.prachachat.net/finance/news-1832116
กล่าวโดยย่อ...
เหตุผลใหญ่ที่สุด การที่ตลาดหุ้นไทยไม่ไปไหนก็คือ จำนวนประชากรของประเทศที่กำลังลดลง แล้วก็แก่ตัวลงอย่างรวดเร็ว ทำให้การบริโภคน้อยลงตามไปด้วย ทำให้เศรษฐกิจภาพใหญ่ไม่ค่อยโต สินค้าส่วนใหญ่ในประเทศไม่โต แต่ก็มีบางธุรกิจที่ไปได้ เช่น เฮลท์แคร์ เพราะคนแก่ใช้บริการมากขึ้น
“ดร.นิเวศน์” กล่าวว่า การเลือกหุ้นต้องประเมินและคาดการณ์ปันผล คาดการณ์จากธุรกิจ หากธุรกิจดี มีรายได้ดี มีกำไรและมีนโยบายจ่ายปันผลชัดเจน เช่น ปันผล 50-60% ของกำไร ซึ่งก็จะบอกเองว่า อีก 5 ปีบริษัทนั้นจะสามารถจ่ายปันผลได้เท่าเดิมหรือไม่
“ถ้ายังเล่นหุ้น Growth ในที่ที่ไม่มี Growth มันก็ไปไม่ได้ ก็ต้องกลับมาเป็น Value คือ เน้นหุ้นถูก และคำว่าถูก ถ้าถูกที่สุด ก็ใช้เกณฑ์ของ Dividend เกณฑ์ของปันผล นี่คือ Conservative (เล่นแบบระมัดระวัง) สุด ๆ แล้ว คือเล่นแล้ว ก็หวังปันผลเป็นหลัก”
“กูรู VI” ย้ำว่า รอบนี้เป็นวิกฤตที่ยังไม่เห็นโอกาส?
กล่าวโดยย่อ...
เหตุผลใหญ่ที่สุด การที่ตลาดหุ้นไทยไม่ไปไหนก็คือ จำนวนประชากรของประเทศที่กำลังลดลง แล้วก็แก่ตัวลงอย่างรวดเร็ว ทำให้การบริโภคน้อยลงตามไปด้วย ทำให้เศรษฐกิจภาพใหญ่ไม่ค่อยโต สินค้าส่วนใหญ่ในประเทศไม่โต แต่ก็มีบางธุรกิจที่ไปได้ เช่น เฮลท์แคร์ เพราะคนแก่ใช้บริการมากขึ้น
“ดร.นิเวศน์” กล่าวว่า การเลือกหุ้นต้องประเมินและคาดการณ์ปันผล คาดการณ์จากธุรกิจ หากธุรกิจดี มีรายได้ดี มีกำไรและมีนโยบายจ่ายปันผลชัดเจน เช่น ปันผล 50-60% ของกำไร ซึ่งก็จะบอกเองว่า อีก 5 ปีบริษัทนั้นจะสามารถจ่ายปันผลได้เท่าเดิมหรือไม่
“ถ้ายังเล่นหุ้น Growth ในที่ที่ไม่มี Growth มันก็ไปไม่ได้ ก็ต้องกลับมาเป็น Value คือ เน้นหุ้นถูก และคำว่าถูก ถ้าถูกที่สุด ก็ใช้เกณฑ์ของ Dividend เกณฑ์ของปันผล นี่คือ Conservative (เล่นแบบระมัดระวัง) สุด ๆ แล้ว คือเล่นแล้ว ก็หวังปันผลเป็นหลัก”