หัวอกผู้หญิง เมีย และแม่

กระทู้สนทนา
สัปดาห์นี้ทั้งสัปดาห์ รู้สึกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก ตั้งแต่จำความได้ภาพของครอบครัวที่อบอุ่นยังติดตรึงในใจเสมอ พ่อแม่ไม่ได้เป็นคนร่ำรวยอะไร ครอบครัวดิฉันมีอาชีพค้าขาย เรามีกิจการเล็กๆ ในครอบครัวที่รวมญาติพี่น้องเป็นลูกมือ แม่เล่าว่า หลังจากแม่แต่งงานกับพ่อ แม่ก็ตัดสินใจชวนพ่อจากบ้านเกิดเมืองนอนมาอยู่ต่างจังหวัด ด้วยเงินที่ติดตัวมาสร้างครอบครัวเพียง 200 บาท (47 ปีที่แล้ว) แม่กับพ่อต้องมาเช่าบ้านเดือนละ 100 เหลือเงินสำหรับลงทุนอีก 100 แม่ซึ่งมีความรู้แค่ ป.2 เริ่มจากทำขนมขายในตลาด กำไรที่ได้มาก็นำมาต่อทุน แม่เพิ่มสินค้าของแม่เรื่อย จากทำขนมผิง ตามด้วยน้ำหวานตัวตุ๊กตา ส่งขายในตลาด แม่ตั้งตัวได้จากหยาดเหงื่อของแม่ ดิฉันมีชีวิตที่สุขสบายในวัยเด็ก มีหน้าที่เรียนหนังสือ งานบ้านแทบจะไม่แตะเพราะมีคนคอยทำให้ เมื่อความสุขสบายเข้ามาแทนที่ความลำบาก แม่กลับต้องทุกข์ใจอย่างหนักเพราะพ่อมีผู้หญิงอีกคน ดิฉันเห็นน้ำตาของแม่เพียงครั้งเดียวคือวันที่แม่รู้ว่าพ่อมีผู้หญิงอีกคน หลังจากนั้นดิฉันเห็นผู้หญิงอีกคนที่แกร่ง แม่ไม่เคยร้องขออะไรจากพ่อ ตี 4 แม่ตื่นทำงานในโรงงาน คุมลูกน้อง ตึ 5 แม่ออกไปขายของที่ตลาด 5 โมงเช้าแม่รีบกลับบ้านทำกับข้าวเพื่อเอาไปให้ลูกที่โรงเรียน แม่จะคอยป้อน แม่ทำเช่นนี้จนดิฉันและน้องเรียนจบ ป.6 พ่อไม่เคยกลับมานอนบ้าน บ้านหลังใหญ่จึงมีเพียงแม่และลูกๆ คนงานอีก 4-5 คน แม่ยังคงดูแลทุกอย่างในบ้าน แม่มีความสุขกับลูกๆ จนวินาทีสุดท้ายของชีวิตท่าน
          มาถึงตัวดิฉันเองบ้าง หลังจากเรียนจบดิฉันได้ทำงานและมีครอบครัว ดิฉันแต่งงานตามความเห็นชอบของผู้ใหญ่และตัวดิฉันเองด้วย แม่ทุกข์มามาก เมื่อแม่และญาติๆ เห็นว่าผู้ชายคนนี้มีความเหมาะสมที่ดิฉันจะใช้ชีวิตร่วมกับเค้า ดิฉันก็ไม่ลังเล เราใช้ชีวิตคู่ด้วยกัน 10 กว่าปี โดยที่ดิฉันเป็นฝ่ายหาเลี้ยงครอบครัว แต่ครอบครัวเราก็มีความสุขเพราะเห็นแม่มีความสุข เรามีลูกด้วยกัน 2 คน จู่ๆ วันหนึ่งก็มีผู้หญิงมาเคาะประตูบ้าน แสดงตัวเป็นผู้หญิงของสามีดิฉัน ดิฉันขอให้สามีดิฉันเคลียร์ตัวเอง ระยะเวลาการเคลียร์ตัวเองของสามีดิฉันผ่านไป 5 ปี โดยที่ระหว่างนั้นดิฉันขอแยกมาอยู่กับแม่เพื่อดูแลแม่ที่เริ่มป่วย 5 ปีที่สามีดิฉันขอเคลียร์ตัวเองเค้าก็มีลูกกับผู้หญิงคนนั้น 2 คน สุดท้ายดิฉันก็เลือกการฟ้องหย่า เหตุผลเดียวที่ดิฉันเลือกฟ้องหย่าคือสิทธิ์ในการดูแลและปกครองลูกทั้ง 2 คน
         ปัจจุบัน เรา  3 แม่-ลูกมีความสุขที่สุด ไปไหนไปกัน วันไหนโรงเรียนลูกปิด ดิฉันก็จะลางาน ปิดด้วยเช่นกัน เรามีกันและกันไม่ว่ายามทุกข์หรือสุข ดิฉันเคยตั้งคำถามกับตัวเองว่า "ถ้าเหตุการณ์บ้านแตกเกิดขึ้นกับดิฉัน ดิฉันจะทำอย่างไร" แต่เมื่อมันมาถึงจริงๆ ดิฉันกลับนิ่ง สงบ จนเยือกเย็น ไม่มีโวยวาย ไม่มีร้องไห้ เริ่มนับถอยหลังจนถึงวันที่ดิฉันรู้ว่า ยื้อไปก็ไม่มีประโยชน์ จึงเลือกที่จะหยุด และนับใหม่กับลูก
         ข่าวและภาพต่างๆ ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้ดิฉันร้องไห้ทุกครั้ง ดิฉันเข้มแข็งกับชีวิตตัวเอง แต่ก็เสียน้ำตาจนได้ อยากบอกกับผู้หญิงทุกๆ คนค่ะว่า กำลังใจที่ดีที่สุดคือตัวเอง คนที่จะเป็นพลังให้เราได้คือ ลูก

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่