ปรึกษาผู้รู้เรื่องหย่ากับผู้มีอิทธิพล สินสอด สินสมรส

เรื่องราวของเพื่อนดิฉันเอง
เพื่อนดิฉันแต่งงานกับลูกของคนมีหน้ามีตา มีการศึกษาสูง อาชีพมีเกียรติ พ่อสามีตำแหน่งใหญ่มากๆ ตัวสามีก็เป็นถึงระดับตำแหน่งระดับผู้บริหาร เพื่อนดิฉันยอมออกจากบ้านย้ายมาอยู่ต่างบ้านต่างเมืองเพียงลำพัง ตอนแรกช่วงรักกัน ฝ่ายสามีบอกจะยกบ้านให้เป็นสินสอด แต่แม่สามีโอนบ้านให้เป็นชื่อลูกชายก่อน บอกกับเพื่อนเราว่าจะได้ไม่จ่ายค่าธรรมเนียมแพงแล้วค่อยให้พี่เขาโอนให้ทีหลัง. ด้วยรักกันก็ไม่ได้ว่าอะไรในช่วงแรก  และซื้อคอนโดใกล้ที่ทำงานก็ออกมาอยู่คอนโด สามีเพื่อนดิฉันเป็นคนผ่อนคอนโด เพื่อนดิฉันออกค่าใช้จ่ายในบ้าน ค่าน้ำ  ค่าไฟ ค่ากินอยู่
ต่อมาสามีนอกใจ ควงหญิงหลายคนเปิดเปย
เพื่อนดิฉันจึงย้ายออกมาจากคอนโด แยกกันอยู่
เพื่อนๆน้อยคนรู้ว่าแยกกันอยู่แล้ว ยังคงรักษาภาพว่ารักกันดีเพราะบ้านสามีมีหน้ามีตามาก
ไม่ต้องการให้เป็นข่าว จนที่สุดเพื่อนๆก็ได้รู้ว่าสถานการณ์เลวร้ายมากเพราะเพื่อนดิฉันซึมเศร้ากินยาฆ่าตัวตาย หลังจากนั้น ฝ่ายสามีบอกว่าหมดรักไปแล้ว ทั้งคู่ก็แยกกันอยู่แยกกันใช้ชีวิต เพื่อนดิฉันเข้มแข็งมากหลังจากนั้น ทุ่มเทให้งานอย่างเดียว เปิดกิจการส่วนตัวโดยกู้เงินธนาคาร ตอนแรกสามีทราบเรื่องทุกอย่างและบอกว่าอยากทำอะไรก็ทำ ยอมเซ็นชื่อให้ตอนกู้เงิน. กิจการนั้นเพื่อนดิฉันบริหารเองทั้งหมดจนกิจการรุ่งมากในช่วงเวลาสองปี มูลค่าหลายล้าน สามีไม่ได้มาช่วย ช่วงหลังระหองระแหงหนัก ไม่ยอมให้พบ ไม่ยอมเซ็นทำธุรกรรมใดๆทั้งสิ้น อีกทั้งฝ่ายสามีก็พาหญิงอื่นเข้าบ้านเปิดตัวกับพ่อแม่ตัวเอง กินข้าวร่วมวงในวันสำคัญ ถ่ายรูปลงเฟส ถึงจุดนี้ที่พาหญิงอื่นเข้าบ้าน โดยพ่อแม่สามีก็รับรู้ เพื่อนดิฉันทนไม่ไหว ตัดสินใจขอหย่า แต่อีกฝ่ายไม่ยอมหย่า เข้าใจว่าห่วงสถานะทางสังคมและตกลงเรื่องทรัพย์สินไม่ลงตัว
ทางฝ่ายพ่อแม่สามีพูดประมาณว่า เพื่อนดิฉันก็ต้องพิจารณาตัวเองด้วย เพราะเป็นฝ่ายแยกตัวออกมา และควรพิจารณาตัวเองว่าทำไมสามีจึงไปมีน้อย เพื่อนดิฉันเสียใจมาก แต่ก็ดำเนินการหย่าต่อ
ฝ่ายสามีต้องการทั้งสินสอด สินสมรส
สินสอด;  ชื่อบ้าน ชื่อพันธบัตร เป็นของสามีหมด บ้านนั้นแม่สามีบอกโอนให้ลูกด้วยเสน่หา. สรุปเพื่อนดิฉันไม่ได้อะไรเลย
สินสมรส: ต้องการหารสองทั้งหมด
กิจการที่รุ่งเรืองนั้น ให้ขายตึกทิ้ง ไม่ให้ทำทึ่เดิม เอาบัญชีรายได้มาเปิดทุกบัญชี ต้องการหารสอง(คือไม่ได้ลงทุนลงแรง แต่จะเรียกร้องตามสิทธิ์) รวมทั้งรถยนต์พ่อเพื่อนดิฉันดาวน์ให้เพื่อนดิฉันผ่อน เขาก็จะให้ขายหารสอง คอนโดด้วย
ตอนนี้ฟ้องหย่า เพื่อนดิฉันมีแต่หลักฐานสามีกินข้าวเดินควงหญิงอื่น ไม่มีรูปชัดๆแบบนัวเนีย
พยาน เนื่องเกิดในที่ทำงาน จึงไม่มีใครจะกล้าพาดพิงผู้บริหาร หลายคนเลือกที่จะเงียบ รู้ เห็น แต่ไม่เป็นพยาน เดี๋ยวไม่มีงานทำ
เรื่องมีประมาณนี้ เขาเล่าเยอะกว่านี้แต่เท่านี้ฟังแล้วรู้สึกโหดร้ายมาก ชื่อเจ้าของทรัพย์สินส่วนมากเป็นชื่อสามี
สรุป หย่าครั้งนี้เพื่อนดิฉันแทบไม่ได้อะไร กิจการก็อาจจะล่ม
อีกทั้งอาจโดนฟ้องกลับว่าที่แยกมาอยู่เองเพราะมีชายอื่น
ถามผู้รู้
1. ฝ่ายหญิงจะสู้กับผู้มีอิทธิพลต่อดีไหม ฟ้องหย่าต่อ หรือยอมตามเขาว่าดี ถ้ายอมอย่างน้อยก็ได้สินสมรสครึ่งนึง ถ้าไม่ยอมอาจได้น้อยกว่านี้ เผลอๆโดนฟ้องกลับเรื่องไม่มีมูลเรื่อวชู้สาว
2. ถ้าฝ่ายหญิงฟ้องหย่าต่อ ทำอย่างไรให้ได้สินสมรสมากกว่า โดยเฉพาะกิจการที่ก่อร่างสร้างตัวขึ้นมาเอง รถยนต์ที่พ่อเขาซื้อให้ บ้านที่ควรจะเป็นสินสอด
เพื่อนดิฉันเล่าให้ฟังด้วยความทุกข์ เขาไม่ได้อ่อนแอแล้ว แต่ทุกข์ใจ
ดิฉันเป็นเพื่อน ได้แต่รับฟัง อยากให้คำปรึกษาที่ดีกว่านี้ รบกวนผู้รู้ ช่วยให้คำปรึกษา ขอบคุณค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่