เรื่องนี้เกิดขึ้นไม่นานกับเพื่อนร่วมงานของฉัน
เรื่องมีอยู่ว่า ฉันและเพื่อนทำงานเป็น operator ของโรงงานยางรถยนต์แห่งหนึ่งในจังหวัดระยอง ( ที่นี่จะเรียกพนักงาน **ฝ่ายผลิต** ว่า **operator** ) ฉเพื่อนเพิ่งเข้ามาทำงานที่นี่ได้ไม่ถึงปี เราทำงานอยู่แผนกวิศวะกรรม ทำงานอยู่กับช่างช่อมบำรุงที่เป็นผู้ชายทั้งหมดจะมีเราเป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวใน group เพื่อนร่วมงานเป็นผู้ชาย หัวหน้าเป็นผู้ชาย ( ฉันกับเพื่อนทำงานเข้าคนล่ะกะ )
ประเด็นมันมีอยู่ว่าเพื่อนของฉันเขาจะซื้อรถยนต์ราคาน่าจะประมาณ 800,000 กว่าๆ ค่ะ แล้วเพื่อนก็ไปปรึกษากันหัวหน้าชื่อพี่เด ซึ่งพี่เดแกมีรถยนต์ 2 คัน ก็เลยจะถามแกเรื่องรถ แล้วพี่กิจหัวหน้าอีกคนก็มาได้ยินว่าเพื่อนจะซื้อรถราคาเท่านี้ แกก็พูดขึ้นว่า
*****เป็นแค่ operator ขับรถราคาแพงๆ เชิดหน้า ชูคอ แต่ไม่มีจะ-*****
มันเป็นคำพูดที่ไม่อยากจะเชื่อว่าออกจากปากคนที่เป็นหัวหน้า ตั้งแต่วันนั้นเพื่อนก็คิดมาก ไม่ค่อยพูด ไม่ค่อยกิน จากคนที่พูดเก่ง กินเก่ง ตัวฉันเองก็คิดว่าพี่กิจแกไม่น่าจะพูดออกมาแบบนั้น ฉันคิดว่าคุณพูดแรงเกินไปรึป่าว มันไม่ต่างจากคำว่าดูถูกคนที่ตำแหน่งงานต่ำกว่า เพื่อนมาทำงานได้ไม่ถึงปีเขามีเงินพอที่จะไปดาวล์รถยนต์สักคันเอาไว้ขับกลับบ้านที่ต่างจังหวัด แล้วตัวคุณเองล่ะทำงานที่นี่ก็หลายปี อายุก็ 30+ แล้ว มีอะไรที่เป็นของตัวเองบ้าง ที่หามาด้วยน้ำพัก น้ำแรงตัวเองมีสักอย่างมั้ย ว่าแต่คนอื่น แต่ไม่มองดูตัวเอง ฉันก็ไม่เข้าใจว่าคุณจะพูดไปเพื่ออะไร เราต่างก็มาทำงานใช่แรงแลกเงินเหมือนกัน ใครๆ ก็อย่ากที่จะมีรถ มีบ้านเป็นของตัวเองทั้งนั้น
*** เด็กบ้านนอกอายุ 23 ปี ออกจากบ้านมาทำงาน หาเงิน เพื่อที่จะสร้างฐานะให้ตัวเอง ต้องทนกับคำดูถูก เหยียดหยาม จากคนรอบข้าง ต้องทนกับงานที่หนัก แล้วยังต้องมาเจอกับหัวหน้าทีปาก........อีก ความอดทนของคนเราก็มีขีดจำกัดนะ ไม่รู้ว่าจนทนได้นานแค่ไหน ไม่รู้ว่าจะถึงจุดหมายเมื่อไร แต่เมื่อเราเลือกที่จะก้าวเท้าออกจากบ้านแล้ว เราต้องสู้ให้ถึงที่สุด *** ( สู้ สู้ นะเพื่อนฉัน สักวันเราจะไปยืนที่เส้นชัยด้วยกัน/เด็ก โคราช )
เป็นแค่พนักงาน**ฝ่ายผลิต**ไม่มีสิทธิ์ซื้อของราคาแพงๆ หรอค่ะ
เรื่องมีอยู่ว่า ฉันและเพื่อนทำงานเป็น operator ของโรงงานยางรถยนต์แห่งหนึ่งในจังหวัดระยอง ( ที่นี่จะเรียกพนักงาน **ฝ่ายผลิต** ว่า **operator** ) ฉเพื่อนเพิ่งเข้ามาทำงานที่นี่ได้ไม่ถึงปี เราทำงานอยู่แผนกวิศวะกรรม ทำงานอยู่กับช่างช่อมบำรุงที่เป็นผู้ชายทั้งหมดจะมีเราเป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวใน group เพื่อนร่วมงานเป็นผู้ชาย หัวหน้าเป็นผู้ชาย ( ฉันกับเพื่อนทำงานเข้าคนล่ะกะ )
ประเด็นมันมีอยู่ว่าเพื่อนของฉันเขาจะซื้อรถยนต์ราคาน่าจะประมาณ 800,000 กว่าๆ ค่ะ แล้วเพื่อนก็ไปปรึกษากันหัวหน้าชื่อพี่เด ซึ่งพี่เดแกมีรถยนต์ 2 คัน ก็เลยจะถามแกเรื่องรถ แล้วพี่กิจหัวหน้าอีกคนก็มาได้ยินว่าเพื่อนจะซื้อรถราคาเท่านี้ แกก็พูดขึ้นว่า
*****เป็นแค่ operator ขับรถราคาแพงๆ เชิดหน้า ชูคอ แต่ไม่มีจะ-*****
มันเป็นคำพูดที่ไม่อยากจะเชื่อว่าออกจากปากคนที่เป็นหัวหน้า ตั้งแต่วันนั้นเพื่อนก็คิดมาก ไม่ค่อยพูด ไม่ค่อยกิน จากคนที่พูดเก่ง กินเก่ง ตัวฉันเองก็คิดว่าพี่กิจแกไม่น่าจะพูดออกมาแบบนั้น ฉันคิดว่าคุณพูดแรงเกินไปรึป่าว มันไม่ต่างจากคำว่าดูถูกคนที่ตำแหน่งงานต่ำกว่า เพื่อนมาทำงานได้ไม่ถึงปีเขามีเงินพอที่จะไปดาวล์รถยนต์สักคันเอาไว้ขับกลับบ้านที่ต่างจังหวัด แล้วตัวคุณเองล่ะทำงานที่นี่ก็หลายปี อายุก็ 30+ แล้ว มีอะไรที่เป็นของตัวเองบ้าง ที่หามาด้วยน้ำพัก น้ำแรงตัวเองมีสักอย่างมั้ย ว่าแต่คนอื่น แต่ไม่มองดูตัวเอง ฉันก็ไม่เข้าใจว่าคุณจะพูดไปเพื่ออะไร เราต่างก็มาทำงานใช่แรงแลกเงินเหมือนกัน ใครๆ ก็อย่ากที่จะมีรถ มีบ้านเป็นของตัวเองทั้งนั้น
*** เด็กบ้านนอกอายุ 23 ปี ออกจากบ้านมาทำงาน หาเงิน เพื่อที่จะสร้างฐานะให้ตัวเอง ต้องทนกับคำดูถูก เหยียดหยาม จากคนรอบข้าง ต้องทนกับงานที่หนัก แล้วยังต้องมาเจอกับหัวหน้าทีปาก........อีก ความอดทนของคนเราก็มีขีดจำกัดนะ ไม่รู้ว่าจนทนได้นานแค่ไหน ไม่รู้ว่าจะถึงจุดหมายเมื่อไร แต่เมื่อเราเลือกที่จะก้าวเท้าออกจากบ้านแล้ว เราต้องสู้ให้ถึงที่สุด *** ( สู้ สู้ นะเพื่อนฉัน สักวันเราจะไปยืนที่เส้นชัยด้วยกัน/เด็ก โคราช )