...สลิ่ม..หลายคนอาจมีความเข้าใจที่เเตกต่างกัน มนุษย์สลิ่ม(โรคสลิ่ม) มีที่มาจากการเปลี่ยนสีไปมา เรื่อยๆ เกาะโหนสีเสื้อต่างๆสุดเเล้วเเต่โอกาส อำนวย ถามว่าทำไมต้องไปโหนสีเสื้อ ตอบให้ คือไร้จุดยืน ไร้เหตุผล เสื้อสีนั่นมีความหมายก็เอามาสวมไส่เพื่อหลอกให้ คนที่ไม่มีความเข้าใจเหตุผลที่เเท้จริงในการเคลื่อนไหวได้ตกหลุมพราง พอใช้สีนั้นจนหมดความชอบธรรมก็จะหาสีใหม่เพื่อเกาะกระเเสเรื่องนั้นๆ
จากเหลือง มาสีฟ้า มาสีขาว มาสีม่วง ดำ เขียว จนยากเเก่การจดจำ อีตาหนูหริ่งเลยเอามารวมกันเรียกว่าสลิ่ม คำว่าสลิ่มดูไม่รุนเเรงเหมือนฝ่ายตรงข้ามที่เรียกว่าเควายเเดง เพื่อกดให้ดูต่ำเตี้ยเรี่ยดิน หากเเต่คำว่าสลิ่ม หากพิจารณากันอย่างถ้วนถี่ อย่างที่จั่วไว้ข้างบน สลิ่มจึงดูเป็นคำที่เหยีดหยาม อย่างลึกซึ้งเเละเจ็บเเสบ
เมื่อรู้ตัวว่าเป็นสลิ่ม สิ่งที่ต้องพยายามมีคือความเข้าใจทางการเมือง เเบบที่ค้นหามาด้วยสมองของตัวเอง หากเป็นสลิ่มตามความนิยม เสพสิ่งที่ได้มาจากน้ำลายคนอื่น โดยไม่มีความเข้าใจ เมื่อต้องมาอยู่ท่ามกลางข้อมูลข้อเท็จจริงที่ต้องตอบกันด้วยเหตูเเละผล มันจึงเป็นเรื่องยากของเหล่าสาวกสลิ่ม ที่จะหาคำตอบมาตอบคำถาม
สลิ่มมักจบคำถามด้วยคำเหยียดหยาม ตามด้วยเย้ยหยัน กระทบกระเทียบเเด รกดัน ลามต่อกันเป็นเชื้อสายสลิ่ม สลิ่มต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการเสพสื่อ เเลต้องทำความเข้าใจในเรื่องต่างๆอย่างเเยกเเยะ สลิ่มต้องเลิกเเห่ตามกระเเส สลิ่มต้องมีหลักการมีจุดยืนของสลิ่ม ต้านคอร์รัปชั่นสลิ่มต้องไม่มีข้อยกเว้น
สลิ่มต้องไม่ความจำสั้น สลิ่มพุดอะไรเรียกร้องอะไรต้องไม่ลืม สลิ่มต้องไม่กลืนน้ำลายตัวเอง สลิ่มต้องเลิกพฤติกรรมเหยียดหยามผู้อืน ยกตนเอง สลิ่มต้องพิจารณาความดีจากการกระทำของคนนั้นๆ ไม่ใช่พวกเราเท่านั้นคือคนดี สลิ่มต้องด่าเเบบมีเหตุผล ไม่ใช่หลับหูหลับตาด่าไปเรื่อย ทุกอย่างที่เป็นฝ่ายตรงข้ามคือผิดหมด
เป็นสลิ่มเป็นง่าย เเต่เลิกยาก สลิ่มไม่มียารักษา ต้องหาความรู้เท่านั้นจึงหายได้ สลิ่มไม่ใช่โรคติดต่อทางการสัมผัสเเต่สามารถเป็นได้หากทางการได้ยินอ่านน้อย เเละใจง่ายเชื่อโดยไม่มีเหตุผล ยารักษาสลิ่มไม่มีวางขายหากต้องการหายต้องหมั่นศึกษาหาข้อมูล
คนที่เป็นสลิ่มจะมีอาการ ระยะสุดท้าย จะโมโหเกรี้ยวกราดง่าย หงุดหงิด ใจร้อน ท้องอืดท้องเฟ้อเรอเหม็นเปรี๊ยว มีกรดในกระเพาะ มีเเผลในปาก ปวดหัวข้างเดียว รู้สึกเเน่นในอก ฟกช้ำทางด้านจิตใจเหงื่อไหลตามมือ คันตามนิ้วมือนิ้วเท้า คันในร่มผ้าเชื้อราบนหนังศรีษะ หูจะเเว่ว ตาจะพร่ามัวมีอาการร้อนในลูกตา ตาเเดง มีลมในหู ติ่นเช้ามีขี้ตา มีกลิ่นปาก อาจมีตกขาวเจือปน มีขนขึ้นรอบสะดืม เหงือกร่น ปนเลือดออกตามไรฟัน
หากไม่รีบรักษา โอกาสลามไปติดต่อมน้ำเหลืองลุกลามเข้าตับอ่อน หายใจไม่สะดวกมีเสมหะติดค้างในลำคอ ปอดอาจติดเชื้อ เเละหมดความรูสึกทางเพศ
การบำบัดอาการสลิ่มสิ่งเเรกที่ต้องทำคือ เอาสากกระเบือออกจากปาก ล้างตาด้วยน้ำสะอาด บริหารดวงตาด้วยตัวหนังสือ สลิ่มที่ติดเชื้อทางตาควรงดเสพสื่อ ผู้จัดการบลูสกายเเละควรงดเเละห่างจากพรรคเเมลงสาป อย่างถาวร
อาการสลิ่มผู้ป่วยมักไม่พบหรือรู้สึกตัวเอง ใช้ชีวิตเหมือนคนปรดติ เเต่จะเกิดอาการเมื่อไม่พอใจ มักคิดเอาเองว่าสิ่งที่ได้ยินมาถูกต้องที่สุดเเม้ไม่มีเหตุผลก็ตาม สลิ่มมักพูดเสมอๆว่าสลิ่มคือคนดี สลิ่มมักเชื่อคนง่าย สลิ่มมักไม่คิดยาว สลิ่มจะพูดซ้ำๆประโยคเดิมๆ เมื่อรู้ตัวว่าอาการสลิ่มกำเริบควรงด ขับขี่รถยนต์มอร์ไซ เเละอย่าทำงานไกล้เครื่องจักร หากพบเห็นคนเกิดอาการสลิ่ใ ให้ถอยห่างอย่างไปต่อปาดต่อคำ สลิ่มเป็นง่ายหายยาก ...คุณตรวจอาการสลิ่มเเล้วหรือยัง
------------------เมื่อรู้ตัวว่าเป็น(โรค)สลิ่ม--------------(สลิ่ม18+)
จากเหลือง มาสีฟ้า มาสีขาว มาสีม่วง ดำ เขียว จนยากเเก่การจดจำ อีตาหนูหริ่งเลยเอามารวมกันเรียกว่าสลิ่ม คำว่าสลิ่มดูไม่รุนเเรงเหมือนฝ่ายตรงข้ามที่เรียกว่าเควายเเดง เพื่อกดให้ดูต่ำเตี้ยเรี่ยดิน หากเเต่คำว่าสลิ่ม หากพิจารณากันอย่างถ้วนถี่ อย่างที่จั่วไว้ข้างบน สลิ่มจึงดูเป็นคำที่เหยีดหยาม อย่างลึกซึ้งเเละเจ็บเเสบ
เมื่อรู้ตัวว่าเป็นสลิ่ม สิ่งที่ต้องพยายามมีคือความเข้าใจทางการเมือง เเบบที่ค้นหามาด้วยสมองของตัวเอง หากเป็นสลิ่มตามความนิยม เสพสิ่งที่ได้มาจากน้ำลายคนอื่น โดยไม่มีความเข้าใจ เมื่อต้องมาอยู่ท่ามกลางข้อมูลข้อเท็จจริงที่ต้องตอบกันด้วยเหตูเเละผล มันจึงเป็นเรื่องยากของเหล่าสาวกสลิ่ม ที่จะหาคำตอบมาตอบคำถาม
สลิ่มมักจบคำถามด้วยคำเหยียดหยาม ตามด้วยเย้ยหยัน กระทบกระเทียบเเด รกดัน ลามต่อกันเป็นเชื้อสายสลิ่ม สลิ่มต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการเสพสื่อ เเลต้องทำความเข้าใจในเรื่องต่างๆอย่างเเยกเเยะ สลิ่มต้องเลิกเเห่ตามกระเเส สลิ่มต้องมีหลักการมีจุดยืนของสลิ่ม ต้านคอร์รัปชั่นสลิ่มต้องไม่มีข้อยกเว้น
สลิ่มต้องไม่ความจำสั้น สลิ่มพุดอะไรเรียกร้องอะไรต้องไม่ลืม สลิ่มต้องไม่กลืนน้ำลายตัวเอง สลิ่มต้องเลิกพฤติกรรมเหยียดหยามผู้อืน ยกตนเอง สลิ่มต้องพิจารณาความดีจากการกระทำของคนนั้นๆ ไม่ใช่พวกเราเท่านั้นคือคนดี สลิ่มต้องด่าเเบบมีเหตุผล ไม่ใช่หลับหูหลับตาด่าไปเรื่อย ทุกอย่างที่เป็นฝ่ายตรงข้ามคือผิดหมด
เป็นสลิ่มเป็นง่าย เเต่เลิกยาก สลิ่มไม่มียารักษา ต้องหาความรู้เท่านั้นจึงหายได้ สลิ่มไม่ใช่โรคติดต่อทางการสัมผัสเเต่สามารถเป็นได้หากทางการได้ยินอ่านน้อย เเละใจง่ายเชื่อโดยไม่มีเหตุผล ยารักษาสลิ่มไม่มีวางขายหากต้องการหายต้องหมั่นศึกษาหาข้อมูล
คนที่เป็นสลิ่มจะมีอาการ ระยะสุดท้าย จะโมโหเกรี้ยวกราดง่าย หงุดหงิด ใจร้อน ท้องอืดท้องเฟ้อเรอเหม็นเปรี๊ยว มีกรดในกระเพาะ มีเเผลในปาก ปวดหัวข้างเดียว รู้สึกเเน่นในอก ฟกช้ำทางด้านจิตใจเหงื่อไหลตามมือ คันตามนิ้วมือนิ้วเท้า คันในร่มผ้าเชื้อราบนหนังศรีษะ หูจะเเว่ว ตาจะพร่ามัวมีอาการร้อนในลูกตา ตาเเดง มีลมในหู ติ่นเช้ามีขี้ตา มีกลิ่นปาก อาจมีตกขาวเจือปน มีขนขึ้นรอบสะดืม เหงือกร่น ปนเลือดออกตามไรฟัน
หากไม่รีบรักษา โอกาสลามไปติดต่อมน้ำเหลืองลุกลามเข้าตับอ่อน หายใจไม่สะดวกมีเสมหะติดค้างในลำคอ ปอดอาจติดเชื้อ เเละหมดความรูสึกทางเพศ
การบำบัดอาการสลิ่มสิ่งเเรกที่ต้องทำคือ เอาสากกระเบือออกจากปาก ล้างตาด้วยน้ำสะอาด บริหารดวงตาด้วยตัวหนังสือ สลิ่มที่ติดเชื้อทางตาควรงดเสพสื่อ ผู้จัดการบลูสกายเเละควรงดเเละห่างจากพรรคเเมลงสาป อย่างถาวร
อาการสลิ่มผู้ป่วยมักไม่พบหรือรู้สึกตัวเอง ใช้ชีวิตเหมือนคนปรดติ เเต่จะเกิดอาการเมื่อไม่พอใจ มักคิดเอาเองว่าสิ่งที่ได้ยินมาถูกต้องที่สุดเเม้ไม่มีเหตุผลก็ตาม สลิ่มมักพูดเสมอๆว่าสลิ่มคือคนดี สลิ่มมักเชื่อคนง่าย สลิ่มมักไม่คิดยาว สลิ่มจะพูดซ้ำๆประโยคเดิมๆ เมื่อรู้ตัวว่าอาการสลิ่มกำเริบควรงด ขับขี่รถยนต์มอร์ไซ เเละอย่าทำงานไกล้เครื่องจักร หากพบเห็นคนเกิดอาการสลิ่ใ ให้ถอยห่างอย่างไปต่อปาดต่อคำ สลิ่มเป็นง่ายหายยาก ...คุณตรวจอาการสลิ่มเเล้วหรือยัง