ติดตามหรือแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารได้นะครับ ^_____^
ตอนแรก
http://pantip.com/topic/32421424
ตอนที่ 2
http://pantip.com/topic/32469108
ตอนที่ 3
http://pantip.com/topic/32481145
ตอนที่ 4
http://pantip.com/topic/32495721
ตอนที่ 5
http://pantip.com/topic/32504441
ขอสวัสดีทุกๆๆ ท่านนะครับ พี่ๆ เพื่อนๆ และน้องๆๆ คงจะจำกันได้สำหรับผมที่เคยมารีวิววิธีการลดความอ้วนนะครับ ที่ผมหายหน้าไป เพราะผมได้ทุนรัฐบาลไปศึกษาต่อด้านวิศวกรรมศาสตร์น้ำ ในระดับปริญญาเอก ที่ประเทศเนเธอร์แลนด์ครับ ด้วยการที่เรียนหนัก ต้องปรับตัวเรื่องความเป็นอยู่ ความไม่สะดวกสบาย อยู่มาสองเดือนรายงานผลงานต่อ prof. 2-3 ครั้งแล้วครับ จึงไม่ได้มาอัพเดทข้อมูลเพิ่มเติม วันนี้ผมจะมาบอกว่า "แม้ว่าจะอยู่ต่างแดน เวลาน้อย ภาระเยอะ อาหารการกินไม่อำนวย อากาศไม่เหมาะแก่การออกกำลังกาย" ผมก็ยังสามารถรักษามวลกล้ามเนื้อ เอว และน้ำหนักคงที่ครับ เผลอๆๆๆ จะดีกว่าเดิมอีก ดังนั้น
โปรดอย่าเอาเป็นข้ออ้างในการสร้างกรอบและขีดจำกัดของตนเองในการลดความอ้วนและไม่ดูแลรักษาสุขภาพนะครับ
ก่อนที่จะมาเรียนต่อเมื่อ สามเดือนที่แล้ว
รูปภาพปัจจุบัน เมื่ออยู่ที่เนเธอร์แลนด์ รูปนี้ผมถ่ายวันนี้ หลังจากออกกำลังด้วย ท่าสควอท 120 กิโล และ leg press 190 กิโลครับ (หัวโล้นหน่อยนะครับ ก่อนมานี้ไปบวชมา ผมขึ้นไม่มากนัก) น้ำหนักเดิม 125 กิโลกรัม เหลือ 78 กิโลกรัม เอวจาก 42 เหลือ 30.5 นิ้วครับ
อาหารผมก็กินทำเองหมด ใช้น้ำตาลหญ้าหวาน มีแกงกะทิ บ้าง ซูชิบ้าง แกงข่าไก่ ผัดกระเพรา ดื่มเบียร์หนักๆๆ อาทิตย์ละครั้ง ที่นี่เบียร์ถูกครับ โฮการ์เด้นกระป๋องครึ่งลิตร ราคา สี่สิบ บาทเอง ทั้ง leffe stella duvel
ขนม ไอติม ผมก็ชอบทาน เค้กนี่ต้วดีเลย มีร้านเค้กในเมืองเปิดมาเป็นระยะเวลาติดต่อกัน ร่วม 400 ปี (ตั้งแต่ปี 1732) เป็นร้านรางวัลที่หนึ่งด้านเบอเกอรี่ของเนเธอร์แลนด์ด้วยครับ ติดมาคือ สตูวัฟเฟิลครับ
รูปด้านล่างนี้เป็นอาหารที่ผมทำเองหมดเลยครับ ตอนที่มีอยู่นี่ ซื้อไม่ไหว แพงเหลือเกิน (กินซูชิบุฟเฟ่ต์ จ่ายมื้อละ 30 euro) ^___^
ต้มข่าไก่
สเต็กเนื้อย่างแบบ medium rare กรอบเนื้อ มีสีแดงระเรื่อ นุ่มในครับ
ซูชิ
กระเพราะเนื้อ
เมืองเดลฟท์ ที่ผมเรียนอยู่ครับ เมืองมหาวิทยาลัย ขนาดเล็กๆๆ ไม่วุ่นวาย เหมาะแก่การเรียน
ห้องสมุด
บรรยากาศการพรีเซ็นต์ของผมต่อ professor ครับ
สำหรับการเรียน เรียนปริญญาเอก หนักกว่าเรียนปริญญาโทเยอะ ครับ เป็นงานวิจัยเชิงลึก ต้องเรียนรู้ ทำความเข้าใจกับตนเอง แล้วตกผลึกสิ่งที่เรียนรุ้มาพัฒนาเพื่อเกิดสิ่งใหม่ๆๆ เพื่อเป็นประโยชน์ต่องานและผู้อื่นครับ เนื่องจากเรื่องที่ผมวิจัยอยู่ คือ แบบจำลองทางคณิตศาสตร์เชิงวิศวกรรมศาสตร์ด้านน้ำบาดาล มาผนวกร่วมกันกับ แบบจำลองทางด้านเศรษฐศาสตร์ เพื่อการหาความเหมาะสมด้านการบริหารจัดการน้ำครับ ไม่เคยเรียนด้านนี้มาก่อนครับ (ผมจบตรี ด้านเคมี โทด้านสิ่งแวดล้อมครับ) เลยต้องอ่านหนังสือและวารสารต่างๆๆ เยอะมากๆๆ เช้าอ่านสูตรคำนวณและที่มาแบบจำลองด้านน้ำบาดาล บ่ายอ่านเจอนัลด้านเศรษฐศาสตร์ เยฺ็นค่ำก็อ่านด้านการบริหารจัดการน้ำบาดาลในกรณีตัวอย่างหลายๆๆ ประเทศ ต้องอ่านหนังสือเฉลี่ยๆๆ 5-8 ชั่วโมงต่อวัน ครับ สมองมึนๆๆ งงๆๆ prof. ก็ขยันกดดันเรื่องความก้าวหน้างาน อยู่มาเดือนครึ่ง พรีเซ็นต์มา สองถึงสามครั้งแล้วครับ สิ้นเดือนก็จะขอดู ร่าง thesis proposal ดังนั้นการเล่นเวท ออกกำลังกาย ทำกับข้าว จึงช่วยลดความเครียดสะสมระหว่างวันได้ดีมากมายเลยครับ
ขอโทษทีนะครับ ที่ฟุ้งเยอะไปหน่อย แต่หลายท่านที่ใจไม่เข้มแข็ง ชอบอ้างว่าไม่มีเวลา เหนื่อยไม่ไหว ผมมีความเชื่อว่า ทุกคนมีปัญหาและอุปสรรคแตกต่างกันไป ผมอาจจะไม่เข้าใจปัญหาของพวกท่าน แต่ถ้าเราเอาสิ่งนี้ เป็นข้ออ้างในการฉุดรั้งการเปลี่ยนแปลงตนเองไปในทางที่ดีขึ้น ผมว่าเสียดายมากๆๆเลยครับ "ถ้าได้ลองทำ แล้วไม่ไหวจริงๆๆ หรือล้มเหลว ท่านก็เอาสิ่งนี้มาเตือนใจให้ท่านทำสิ่งเดียวกันในคราวหน้า ได้ดีกว่าก่อน" หรือ "หากตั้งใจทำแล้วสำเร็จก็เป็นสิ่งที่เกิดประโยชน์ต่อตนเอง แล้วสามารถเผยแพร่เป็นประโยชน์แก่ผู้อื่นอีกด้วย" "แต่ถ้าท่านคิด แต่ไม่ทำ นอกจากจะไม่มีสิ่งดีๆๆ เกิดขึ้น ยังบั่นทอนจิตใจให้ท่าเศร้าหมองลงด้วย" ดังนั้น ขอให้เชื่อว่าตนเองสามารถทำอะไรก็ได้ หากตั้งใจและลงมือทำเต็มที่แล้ว บางอย่างก็ต้องใช้ระยะเวลาที่เหมาะสมเช่นการเก็บเกี่ยวผลไม้ สุกหรือดิบไปก็ไม่ดี ต้องอดทนรอ ทำไปเรื่อยๆๆครับ แต่หากไม่สำเร็จจริงๆๆ ก็ถือว่าได้เป็นประสบการณ์เรียนรู้ในการที่จะลองสิ่งใหม่ๆๆ เหมือนตอนที่มีคนถาม โธมัส เอดิสัน ก็ที่จะผลิตไส้หลอดไฟฟ้า โดยทดลองวัสดุถึง หนึ่งหมื่นชนิด "ท่านถือว่าเป็นความล้มเหลวหรือไม่ ที่ทดลองตั้ง เก้าพันเก้าร้อยอย่าง แต่ไม่สามารถผลิตหลอดไฟฟ้าได้" เอดิสันตอบแบบยิ้มๆๆว่า "อย่างน้อยผมก็รู้ว่ามีวัสดุตั้ง เก้าพันเก้าร้อยกว่าชนิดที่ไม่สามารถเป็นหลอดไฟฟ้าได้"
สรุป ผมขอให้ทุกท่าน ตั้งใจและลงมือทำให้สำเร็จ อดทนรอผลที่มุ่งหวังไว้นะครับ ไม่ว่าจะเป็นการลดความอ้วน การศึกษา การเรียน การทำงาน และการใช้ชีวิตครับ ขอขอบคุณที่ได้ติดตามกระทู้มาโดยตลอดครับ
[CR] กระทู้รวมมิตร การศึกษาต่างประเทศ ลดความอ้วน (จาก 125 กิโลเหลือ 78 กิโล) อาหาร ท่องเที่ยว
ตอนแรก http://pantip.com/topic/32421424
ตอนที่ 2 http://pantip.com/topic/32469108
ตอนที่ 3 http://pantip.com/topic/32481145
ตอนที่ 4 http://pantip.com/topic/32495721
ตอนที่ 5 http://pantip.com/topic/32504441
ขอสวัสดีทุกๆๆ ท่านนะครับ พี่ๆ เพื่อนๆ และน้องๆๆ คงจะจำกันได้สำหรับผมที่เคยมารีวิววิธีการลดความอ้วนนะครับ ที่ผมหายหน้าไป เพราะผมได้ทุนรัฐบาลไปศึกษาต่อด้านวิศวกรรมศาสตร์น้ำ ในระดับปริญญาเอก ที่ประเทศเนเธอร์แลนด์ครับ ด้วยการที่เรียนหนัก ต้องปรับตัวเรื่องความเป็นอยู่ ความไม่สะดวกสบาย อยู่มาสองเดือนรายงานผลงานต่อ prof. 2-3 ครั้งแล้วครับ จึงไม่ได้มาอัพเดทข้อมูลเพิ่มเติม วันนี้ผมจะมาบอกว่า "แม้ว่าจะอยู่ต่างแดน เวลาน้อย ภาระเยอะ อาหารการกินไม่อำนวย อากาศไม่เหมาะแก่การออกกำลังกาย" ผมก็ยังสามารถรักษามวลกล้ามเนื้อ เอว และน้ำหนักคงที่ครับ เผลอๆๆๆ จะดีกว่าเดิมอีก ดังนั้น โปรดอย่าเอาเป็นข้ออ้างในการสร้างกรอบและขีดจำกัดของตนเองในการลดความอ้วนและไม่ดูแลรักษาสุขภาพนะครับ
ก่อนที่จะมาเรียนต่อเมื่อ สามเดือนที่แล้ว
รูปภาพปัจจุบัน เมื่ออยู่ที่เนเธอร์แลนด์ รูปนี้ผมถ่ายวันนี้ หลังจากออกกำลังด้วย ท่าสควอท 120 กิโล และ leg press 190 กิโลครับ (หัวโล้นหน่อยนะครับ ก่อนมานี้ไปบวชมา ผมขึ้นไม่มากนัก) น้ำหนักเดิม 125 กิโลกรัม เหลือ 78 กิโลกรัม เอวจาก 42 เหลือ 30.5 นิ้วครับ
อาหารผมก็กินทำเองหมด ใช้น้ำตาลหญ้าหวาน มีแกงกะทิ บ้าง ซูชิบ้าง แกงข่าไก่ ผัดกระเพรา ดื่มเบียร์หนักๆๆ อาทิตย์ละครั้ง ที่นี่เบียร์ถูกครับ โฮการ์เด้นกระป๋องครึ่งลิตร ราคา สี่สิบ บาทเอง ทั้ง leffe stella duvel
ขนม ไอติม ผมก็ชอบทาน เค้กนี่ต้วดีเลย มีร้านเค้กในเมืองเปิดมาเป็นระยะเวลาติดต่อกัน ร่วม 400 ปี (ตั้งแต่ปี 1732) เป็นร้านรางวัลที่หนึ่งด้านเบอเกอรี่ของเนเธอร์แลนด์ด้วยครับ ติดมาคือ สตูวัฟเฟิลครับ
รูปด้านล่างนี้เป็นอาหารที่ผมทำเองหมดเลยครับ ตอนที่มีอยู่นี่ ซื้อไม่ไหว แพงเหลือเกิน (กินซูชิบุฟเฟ่ต์ จ่ายมื้อละ 30 euro) ^___^
ต้มข่าไก่
สเต็กเนื้อย่างแบบ medium rare กรอบเนื้อ มีสีแดงระเรื่อ นุ่มในครับ
ซูชิ
กระเพราะเนื้อ
เมืองเดลฟท์ ที่ผมเรียนอยู่ครับ เมืองมหาวิทยาลัย ขนาดเล็กๆๆ ไม่วุ่นวาย เหมาะแก่การเรียน
ห้องสมุด
บรรยากาศการพรีเซ็นต์ของผมต่อ professor ครับ
สำหรับการเรียน เรียนปริญญาเอก หนักกว่าเรียนปริญญาโทเยอะ ครับ เป็นงานวิจัยเชิงลึก ต้องเรียนรู้ ทำความเข้าใจกับตนเอง แล้วตกผลึกสิ่งที่เรียนรุ้มาพัฒนาเพื่อเกิดสิ่งใหม่ๆๆ เพื่อเป็นประโยชน์ต่องานและผู้อื่นครับ เนื่องจากเรื่องที่ผมวิจัยอยู่ คือ แบบจำลองทางคณิตศาสตร์เชิงวิศวกรรมศาสตร์ด้านน้ำบาดาล มาผนวกร่วมกันกับ แบบจำลองทางด้านเศรษฐศาสตร์ เพื่อการหาความเหมาะสมด้านการบริหารจัดการน้ำครับ ไม่เคยเรียนด้านนี้มาก่อนครับ (ผมจบตรี ด้านเคมี โทด้านสิ่งแวดล้อมครับ) เลยต้องอ่านหนังสือและวารสารต่างๆๆ เยอะมากๆๆ เช้าอ่านสูตรคำนวณและที่มาแบบจำลองด้านน้ำบาดาล บ่ายอ่านเจอนัลด้านเศรษฐศาสตร์ เยฺ็นค่ำก็อ่านด้านการบริหารจัดการน้ำบาดาลในกรณีตัวอย่างหลายๆๆ ประเทศ ต้องอ่านหนังสือเฉลี่ยๆๆ 5-8 ชั่วโมงต่อวัน ครับ สมองมึนๆๆ งงๆๆ prof. ก็ขยันกดดันเรื่องความก้าวหน้างาน อยู่มาเดือนครึ่ง พรีเซ็นต์มา สองถึงสามครั้งแล้วครับ สิ้นเดือนก็จะขอดู ร่าง thesis proposal ดังนั้นการเล่นเวท ออกกำลังกาย ทำกับข้าว จึงช่วยลดความเครียดสะสมระหว่างวันได้ดีมากมายเลยครับ
ขอโทษทีนะครับ ที่ฟุ้งเยอะไปหน่อย แต่หลายท่านที่ใจไม่เข้มแข็ง ชอบอ้างว่าไม่มีเวลา เหนื่อยไม่ไหว ผมมีความเชื่อว่า ทุกคนมีปัญหาและอุปสรรคแตกต่างกันไป ผมอาจจะไม่เข้าใจปัญหาของพวกท่าน แต่ถ้าเราเอาสิ่งนี้ เป็นข้ออ้างในการฉุดรั้งการเปลี่ยนแปลงตนเองไปในทางที่ดีขึ้น ผมว่าเสียดายมากๆๆเลยครับ "ถ้าได้ลองทำ แล้วไม่ไหวจริงๆๆ หรือล้มเหลว ท่านก็เอาสิ่งนี้มาเตือนใจให้ท่านทำสิ่งเดียวกันในคราวหน้า ได้ดีกว่าก่อน" หรือ "หากตั้งใจทำแล้วสำเร็จก็เป็นสิ่งที่เกิดประโยชน์ต่อตนเอง แล้วสามารถเผยแพร่เป็นประโยชน์แก่ผู้อื่นอีกด้วย" "แต่ถ้าท่านคิด แต่ไม่ทำ นอกจากจะไม่มีสิ่งดีๆๆ เกิดขึ้น ยังบั่นทอนจิตใจให้ท่าเศร้าหมองลงด้วย" ดังนั้น ขอให้เชื่อว่าตนเองสามารถทำอะไรก็ได้ หากตั้งใจและลงมือทำเต็มที่แล้ว บางอย่างก็ต้องใช้ระยะเวลาที่เหมาะสมเช่นการเก็บเกี่ยวผลไม้ สุกหรือดิบไปก็ไม่ดี ต้องอดทนรอ ทำไปเรื่อยๆๆครับ แต่หากไม่สำเร็จจริงๆๆ ก็ถือว่าได้เป็นประสบการณ์เรียนรู้ในการที่จะลองสิ่งใหม่ๆๆ เหมือนตอนที่มีคนถาม โธมัส เอดิสัน ก็ที่จะผลิตไส้หลอดไฟฟ้า โดยทดลองวัสดุถึง หนึ่งหมื่นชนิด "ท่านถือว่าเป็นความล้มเหลวหรือไม่ ที่ทดลองตั้ง เก้าพันเก้าร้อยอย่าง แต่ไม่สามารถผลิตหลอดไฟฟ้าได้" เอดิสันตอบแบบยิ้มๆๆว่า "อย่างน้อยผมก็รู้ว่ามีวัสดุตั้ง เก้าพันเก้าร้อยกว่าชนิดที่ไม่สามารถเป็นหลอดไฟฟ้าได้"
สรุป ผมขอให้ทุกท่าน ตั้งใจและลงมือทำให้สำเร็จ อดทนรอผลที่มุ่งหวังไว้นะครับ ไม่ว่าจะเป็นการลดความอ้วน การศึกษา การเรียน การทำงาน และการใช้ชีวิตครับ ขอขอบคุณที่ได้ติดตามกระทู้มาโดยตลอดครับ