สวัสดีครับเพื่อนๆ สมาชิกพันทิป กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกในพันทิปของชีวิตผม ก็ได้แรงบันดาลใจจากเพื่อนๆ นี่แหล่ะ ถึงมาตั้งกระทู้
เพื่อนๆ เป็นไหมครับ เวลาเราตั้งแพลนจะไปเที่ยวไหน สิ่งแรกที่สมองสั่งการให้ทำคือ เปิด google พิมพ์สถานที่ท่องเที่ยว แล้วคำลงท้ายต้องต่อด้วย pantip review ประมาณนี้ ไม่รู้ทำไมเราต้องไปเชื่อมั่นอะไรนักหนากะไอ้ pantip เนี่ย แต่ผมคนนึงอะก็เป็น 555
เริ่มเรื่องเลยแล้วกันครับ ทริปนี้ผมออกเดินทางคนเดียว ในวันอาทิตย์ที่ 9/11/57 ครับ เกิดขึ้นแบบไม่ได้มีการวางแผนอะไรล่วงหน้าเลย อารมณ์ประมาณว่า เซ็งๆ คืนวันเสาร์ไม่มีอะไรทำ นั่งเล่นคอมตอนกลางคืนดูโน่นนี่ ดูสถานที่ท่องเที่ยว พอดีว่าปีใหม่ผมจะไปอ่างขางครับ เลยหาข้อมูล แต่ทริปปีใหม่คงเอารถเก๋งไปเพราะแว้นไม่ไหว
พอได้เห็นสถานที่สวยๆ ภาพสวยๆ ของเพื่อนๆ อยู่ดีๆ ก็พลันเกิดแสงสว่างวูปวาปขึ้นมาตรงหน้า พร้อมสมองมันสั่งว่าพรุ่งนี้ห้ามอยู่บ้านนะ เอาละสิ เกิดมาขัดใจใครไม่เป็นเสียด้วย งั้นการบ้านหัวข้อต่อไปคือจะไปที่ไหนดี
ตอนแรกตั้งใจไว้ว่าจะไปเขาพะเนินทุ่ง แต่สอบถามเพื่อนๆ แล้วตอนนี้ยังไม่อนุญาตให้ขับรถขึ้นไป เลยเปลี่ยนใจอยากขับมอเตอร์ไซค์ขึ้นสังขละดูสักครั้งดีกว่า เพราะผมเองก็เคยไปสังขละมาหลายครั้งแล้ว ทั้งนั่งรถตู้ ขับรถไปเอง แม้กระทั่งขับเรือไปก็เคย แต่ไม่เคยขับมอเตอร์ไซค์ขึ้นไปเลยสักครั้ง
พอได้เป้าหมายแล้ว ก็วางโปรแกรม ตั้งใจว่าจะตื่นสัก ตี 4 อาบน้ำแต่งตัวเตรียมของชั่วโมงนึง ออกเดินทาง ตี 5 แวะทานข้าวเช้าที่ตัวเมือง บลาๆ
ชีวิตจริงไม่ง่ายอย่างนั้น ตอนวางโปรแกรมดูเวลาแล้ว ล่อไป เที่ยงคืนกว่า แต่คิดในใจว่าเอาวะ ตั้งนาฬิกาปลุกไว้ 2 เครื่อง ไม่ตื่นให้มันรู้ไป
มันคงรู้ไปจริงๆ ละครับ ตื่นมาอีกที แปดโมงเช้า ฮ่าๆๆ คิดในใจเอาวะ อยากไปใครจะสน อะไรก็ฉุดไม่อยู่แล้ว
หลังจากทำธุระส่วนตัวเสร็จก็เก็บสัมภาระใส่เป้เตรียมเดินทาง ที่ผมเอาไปไม่มีอะไรเลยนอกจากกล้องและอุปกรณ์ มีดังนี้
กล้อง Canon 60D ถอดกริปไล่เบา เลนส์ Sigma 10-20, Tamron 17-50 F2.8, Tamron 70-200 F2.8 ขาตั้งกล้อง ชัตเตอร์ Wireless
ทั้งหมดถูกยัดเข้าไปในกระเป๋า Targus อื้อหื้อ หนักโครต ไม่ไหวครับ ต้องรื้อออกมาใหม่
เอาของทุกอย่างในเป้ออกหมดครับ ทั้งบัตรผ่านประตูที่ทำงาน Hdd Ext. 3 ตัว แบตสำรองกล้อง Power Bank tablet ถูกอัญเชิญออกไปหมด
ลองแบกขึ้นไหล่อีกที มันก็ยังหนัก ทำไงดี ตัดสินใจครั้งสุดท้ายถอดเจ้า 70-200 ไว้บ้านครับ
น้ำหนักที่ได้เบาขึ้นมาหน่อยครับ หายไปโลกว่าๆ ได้
รูปถ่ายที่ได้มีทั้งกล้อง Canon และมือถือนะครับ พอดีบางช่วงบางจังหวะใช้มือถือถ่ายสะดวกกว่าครับ
ก่อนออกเดินทางก็ไหว้พระที่บ้านขอพร ขอให้เดินทางปลอดภัย แล้วก็ทานนม 1 กล่องครับ เวลาออกจากบ้านประมาณ 9.19 น. ฤกษ์ดีซะด้วย ^_^
ลืมบอกไปเลยครับ วันนี้เราจะเดินทางด้วยเจ้าคันนี้ครับ Kawasaki DTX 250 (ป้ายหลุดหายครับ ยังไม่ได้ใหม่เลย)
ส่วนผมพลขับ ขอรายงานตัวครับ
บ้านผมอยู่แถวจรัญครับ เส้นทางที่จะใช้เดินทางคือ ถนนตัดใหม่พระเทพ - ราชพฤกษ์ - บรมราชชนนี - บ้านโป่ง - แสงชูโต - ไทรโยค - สังขละ ครับ
แวะเติมน้ำมันกับกดเงินที่ ปตท. แถวๆ นครปฐมครับ
ปัญหาสำหรับการเดินทางในทริปนี้ที่ผมกลัวมีอยู่ 2 เรื่องหลักๆ ครับ
1. ฝน เพราะผมเอากล้องมาด้วย คงถ่ายรูปไม่สนุกแน่
2. น้ำมัน เพราะรถผมเปลี่ยนกล่องกับท่อมาครับ อัตราการบริโภคค่อนข้างโหดเอาเรื่อง รถผมถังน้ำมันจุ 7.7 ลิตร เติมเต็มถัง 220 บาท วิ่งได้ 160 Km เองครับ แถมไม่มีเกจน้ำมัน ทุกๆ ร้อยโลผมต้องมองหาปั้มน้ำมันครับ ห้ามลืมเด็ดขาด
ทริปนี้ผมพกตังติดตัวไป 3,000 บาท และจะสรุปรายละเอียดเรื่องค่าใช้จ่ายให้ฟังตอนท้ายครับ
ทริปนี้ผมใช้ความเร็วประมาณ 100 - 110 Km/h ครับ มาถึงเมืองกาญจน์ประมาณ 11.30 น. ก็แวะทานข้าวเช้า + เที่ยงครับ
ร้านข้าวแกง 39 อย่างครับ ที่ตัวเมือง สั่งผัดพริกแกงเนื้อ ผัดพริกเผากากหมู และแกงส้มครับ มื้อนี้หมดไป 70 บาท
ออกเดินทางต่อเวลาประมาณ 11.55 น.ครับ สภาพอากาศตอนนี้ปลอดโปร่งโล่งสบาย หายใจสะดวกด้วยโอโซนบริสุทธิ์ แอบร้อนนิดหน่อย อิจฉาคนต่างจังหวัดมากมายครับ ที่ไม่ต้องทนนั่งดมมลพิษเหมือนคนกรุง
ถึงน้ำตกไทรโยคน้อยประมาณ 13.08 น.ครับ อากาศยังดีอยู่ แดดเปรี้ยง ในใจคิดว่าคงมีเวลาเหลือให้ถ่ายรูปเล่นเยอะเลย
แวะถ่ายรูปป้ายแปบเดียวครับ เพราะไม่ใช่จุดหมายปลายทางของเรา ออกเดินทางต่อเลยครับ
ขับมาได้เกือบชั่วโมง อีกประมาณ 5 กิโลจะถึง ปั้ม ปตท.ทองผาภูมิ ผมก็ได้เจอสิ่งที่ไม่อยากเจอจนได้
เค้ามาแล้วครับ น้องฝนตัวเป็นๆ เล่นซะต้องหาที่หลบเลย ถึงตรงนี้ผมเลยได้มีโอกาสหยิบ Canon มาถ่ายรูปเสียที
รูปนี้เพื่อนตั้งชื่อให้ว่า ศาลาพักใจกับเฒ่าน้อยคอยรักครับ
กับสุดที่รักบ้าง
ฝนตกประมาณ 15 นาที ก็หยุดครับ เลยออกเดินทางต่อ แวะเติมน้ำมันปั้ม ปตท. ทองผาภูมิ อีกแปบนึงครับ
เป็นธรรมเนียม ต้องแวะไหว้พระสักการะขอพรที่วัดท่าขนุนก่อนขึ้นสังขละครับ
ขับต่อมาได้อีกไม่ถึง 3 กิโล คราวนี้ฝนตกอย่างหนักเลยครับ ต้องจอดพักอีกแล้ว เป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยแล้วก็ทรัพย์สินในกระเป๋าด้วยครับ
แวะพักหลบฝนที่ศาลาริมทางวัดโชคผาสุกิจ
รอบนี้ตกไม่หยุดเลยครับ ครึ่งชั่วโมงผ่านไป ก็ยังไม่หยุด แต่เริ่มซาลงแล้ว ผมเลยคิดว่าถ้ามัวแต่หลบๆ ซ่อนๆ ไม่กล้าลุย หกโมงก็คงยังไม่ถึง เลยตัดสินใจเก็บของทุกอย่างลงช่องกระเป๋าที่คิดว่าน่าจะกันน้ำได้ดีที่สุด แล้วขับลุยต่อเลยครับ
ความเร็วเฉลี่ยตอนนี้ อยุ่ที่ 50 - 60 Km/h เองครับ ตั้งใจไว้จากบ้านว่าจะมาสไลด์โค้งเนียนๆ แต่ตอนนี้โรคปอดแหกกำเริบครับบอกตรงๆ (เจอรถตกข้างทาง ประมาณ 2 คันด้วย)
ถึงอุทยานแห่งชาติเขาแหลมประมาณ 15.20 ครับ (ฝนก็ยังตกๆ หยุดๆ) เลยขึ้นไปแวะถ่ายรูปที่ป้อมปี่
เสียค่าเข้าผู้ใหญ่ 20 บาท รถมอเตอร์ไซค์ 40 บาท รวมเป็น 60 บาท ครับ
ไหนๆ ก็มาแล้ว ถ่ายคู่กับสะพานแขวนสักหน่อย เก็กนิดนึง
ทำ MV ที่จุดชมพระอาทิตย์ตกดินหน่อย (คิดเสียว่าเป็นตูนบอดี้สลัม)
เมื่อได้ภาพที่ระลึก เอ้ยระทึก เอ้ยถูกแล้ว ก็ออกเดินทางต่อในเวลาประมาณ 16.20 น. ในใจคิดว่าเจอโค้งไหนสวยๆ จะแวะถ่ายรูปสักนิดนึง แต่ดูเวลากับบรรยากาศแล้ว ช่างไม่เป็นใจจริงๆ ฝนก็ยังตกๆ หยุดๆ ตลอดทาง เลยตัดสินใจขับยาวไปถึงสังขละเลยดีกว่า
ไชโย!! ในที่สุดก็ถึงสังขละแล้วครับ ในเวลาประมาณ 17.20 น. พอดี
แต่เดี๋ยวก่อน ทำไมสะพานไม้มันอยู่ข้างๆ หว่า แน่เลย ผมหลงทางครับ ขับเลยไม่ได้เลี้ยว เลยมาเจอสะพานปูนซองกาเลียแทน
เอาวะ มุมสวยเหมือนกัน ถ่ายรูปเป็นที่ระทวย เอ้ยระทึก เอ้ยระลึก เอ้ยถูกแล้ว สักหน่อยแล้วกันครับ
เสียเวลาถ่ายรูปที่สะพานค่อนข้างนาน เพราะต้องตั้งกล้องเอง เซ็ตปรับค่าเอง มาคนเดียวมันเหนื่อยอย่างนี้นี่เอง บ่นๆ
ออกจากสะพานซองกาเลียไปงมๆ หาทางเข้าสะพานไม้ ในเวลาประมาณ 17.45 ครับ
ไชโย ไชโย ไชโย ถึงจริงๆ เสียที ในเวลาประมาณ 17.55 ครับ มาถึงก็หยอดกล่องทำบุญตามธรรมเนียม
รวมระยะทางจากบ้านถึงสะพานไม้หลวงพ่ออุตตมะ ทั้งสิ้น 353.7 Km ครับ
เสร็จแล้วก็รีบไปเก็บภาพกันเลย ก่อนท้องฟ้าจะมืด
ตั้งใจไว้ว่าจะถ่าย Night Land Scape ด้วยครับ แต่รอจนฟ้ามืดแล้ว ไฟที่สะพานก็ไม่เปิดสักที จึงยอมถอนสมอออกจากพื้นที่มาครับ
หลังจากถ่ายรุปเสร็จก็ต้องคาปูเย็นสักแก้ว ชื่นใจ ^^ แก้วนี้ 45 บาท
ต่อด้วยอาหารเย็นเป็นกระเพราหมูกรอบ กับเกาเหลาลูกชิ้นหมูครับ มีให้เลือกแค่นี้เพราะหมด T T ค่าอาหารมื้อนี้ 80 บาทครับ
ทานเสร็จก็ประมาณ 18.35 น. ครับ ที่ทานช้าเพราะเผ็ดมากกกก ดูดคาปูแบบไม่สนใจรสชาติกาแฟเลย 555 รสชาติอาหารฝืมือคนมอญนี่เผ็ดร้อนจริงๆ
สอบถามทางเจ้าของร้านอาหารว่าแถวนี้มีปั้มไหม เจ้าของร้านบอกมีปั้มหลอดอยู่ตรงแยกทางเข้าครับ แต่ผมเองไม่ค่อยไว้ใจปั้มหลอดเท่าไรเลยถามว่ามีปั้มใหญ่ไหม ได้ความว่าอยู่ตรงทางแยกเข้าด่านเจดีย์ 3 องค์ แต่ปิดไวมากประมาณ 2 ทุ่ม เอาละสิ เริ่มมีอาการปอดแหกอีกแล้วครับ กลัวน้ำมันจะหมด เพราะกว่าจะถึงทองผาภูมิน่าจะ 70 กว่าโล ตัดสินใจไม่เดินเล่นละครับ ไว้โอกาสหน้ายังมี ออกจากสะพานไม้หลวงพ่ออุตตมะในเวลาประมาณ 19.00 น.ครับ
ขากลับมืดมาก เส้นทางตอนกลางวันว่าน่ากลัวแล้ว เจอตอนกลางคืนนี่ ตอนกลางวันเป็นขนมไปเลยครับ ใครเคยขับเส้นนี้กลางคืนน่าจะทราบ แต่ของผมชินแล้ว เพราะมาบ่อย แต่อีกใจหนึ่งก็หวั่นๆ เหมือนกัน เพราะเป็นครั้งแรกที่เอามอเตอร์ไซค์มา แถมยังมีฝนปรอยๆ ลงมาด้วย
มาถึงปั้ม ปตท. ทองผาภูมิประมาณ 20.25 น. ครับ มีน้องฝนคอยมาส่งตลอดทางเหมือนเดิม เจอเพื่อนร่วมทางที่โดยสารรถตู้เข้ามาทักด้วยครับ บอกกล้ามาก ที่ฉายเดี่ยวมาคนเดียว พูดคุยกันประมาณสิบนาที ขอโบกมือบ้ายบาย แยกย้ายกันครับ
จบแบบห้วนๆ เลยแล้วกันครับ ถึงกทม. ประมาณ 23.18 น. โดยสวัสดิภาพ มีอาการปวดตูดนิดหน่อย
สรุปค่าใช้จ่ายต่อเม้นล่างนะครับ พอดีพิมพ์จะครบ 10000 ตัวอักษรแล้ว พิมพ์ต่อจนจบไม่ได้ 555
รถ 1 คัน กล้อง 1 ตัว ทัวร์สังขละ วันเดียว คนเดียว ก็เฟี้ยวได้ ไปสายกลับดึก (เด็กแว้น)
เพื่อนๆ เป็นไหมครับ เวลาเราตั้งแพลนจะไปเที่ยวไหน สิ่งแรกที่สมองสั่งการให้ทำคือ เปิด google พิมพ์สถานที่ท่องเที่ยว แล้วคำลงท้ายต้องต่อด้วย pantip review ประมาณนี้ ไม่รู้ทำไมเราต้องไปเชื่อมั่นอะไรนักหนากะไอ้ pantip เนี่ย แต่ผมคนนึงอะก็เป็น 555
เริ่มเรื่องเลยแล้วกันครับ ทริปนี้ผมออกเดินทางคนเดียว ในวันอาทิตย์ที่ 9/11/57 ครับ เกิดขึ้นแบบไม่ได้มีการวางแผนอะไรล่วงหน้าเลย อารมณ์ประมาณว่า เซ็งๆ คืนวันเสาร์ไม่มีอะไรทำ นั่งเล่นคอมตอนกลางคืนดูโน่นนี่ ดูสถานที่ท่องเที่ยว พอดีว่าปีใหม่ผมจะไปอ่างขางครับ เลยหาข้อมูล แต่ทริปปีใหม่คงเอารถเก๋งไปเพราะแว้นไม่ไหว
พอได้เห็นสถานที่สวยๆ ภาพสวยๆ ของเพื่อนๆ อยู่ดีๆ ก็พลันเกิดแสงสว่างวูปวาปขึ้นมาตรงหน้า พร้อมสมองมันสั่งว่าพรุ่งนี้ห้ามอยู่บ้านนะ เอาละสิ เกิดมาขัดใจใครไม่เป็นเสียด้วย งั้นการบ้านหัวข้อต่อไปคือจะไปที่ไหนดี
ตอนแรกตั้งใจไว้ว่าจะไปเขาพะเนินทุ่ง แต่สอบถามเพื่อนๆ แล้วตอนนี้ยังไม่อนุญาตให้ขับรถขึ้นไป เลยเปลี่ยนใจอยากขับมอเตอร์ไซค์ขึ้นสังขละดูสักครั้งดีกว่า เพราะผมเองก็เคยไปสังขละมาหลายครั้งแล้ว ทั้งนั่งรถตู้ ขับรถไปเอง แม้กระทั่งขับเรือไปก็เคย แต่ไม่เคยขับมอเตอร์ไซค์ขึ้นไปเลยสักครั้ง
พอได้เป้าหมายแล้ว ก็วางโปรแกรม ตั้งใจว่าจะตื่นสัก ตี 4 อาบน้ำแต่งตัวเตรียมของชั่วโมงนึง ออกเดินทาง ตี 5 แวะทานข้าวเช้าที่ตัวเมือง บลาๆ
ชีวิตจริงไม่ง่ายอย่างนั้น ตอนวางโปรแกรมดูเวลาแล้ว ล่อไป เที่ยงคืนกว่า แต่คิดในใจว่าเอาวะ ตั้งนาฬิกาปลุกไว้ 2 เครื่อง ไม่ตื่นให้มันรู้ไป
มันคงรู้ไปจริงๆ ละครับ ตื่นมาอีกที แปดโมงเช้า ฮ่าๆๆ คิดในใจเอาวะ อยากไปใครจะสน อะไรก็ฉุดไม่อยู่แล้ว
หลังจากทำธุระส่วนตัวเสร็จก็เก็บสัมภาระใส่เป้เตรียมเดินทาง ที่ผมเอาไปไม่มีอะไรเลยนอกจากกล้องและอุปกรณ์ มีดังนี้
กล้อง Canon 60D ถอดกริปไล่เบา เลนส์ Sigma 10-20, Tamron 17-50 F2.8, Tamron 70-200 F2.8 ขาตั้งกล้อง ชัตเตอร์ Wireless
ทั้งหมดถูกยัดเข้าไปในกระเป๋า Targus อื้อหื้อ หนักโครต ไม่ไหวครับ ต้องรื้อออกมาใหม่
เอาของทุกอย่างในเป้ออกหมดครับ ทั้งบัตรผ่านประตูที่ทำงาน Hdd Ext. 3 ตัว แบตสำรองกล้อง Power Bank tablet ถูกอัญเชิญออกไปหมด
ลองแบกขึ้นไหล่อีกที มันก็ยังหนัก ทำไงดี ตัดสินใจครั้งสุดท้ายถอดเจ้า 70-200 ไว้บ้านครับ
น้ำหนักที่ได้เบาขึ้นมาหน่อยครับ หายไปโลกว่าๆ ได้
รูปถ่ายที่ได้มีทั้งกล้อง Canon และมือถือนะครับ พอดีบางช่วงบางจังหวะใช้มือถือถ่ายสะดวกกว่าครับ
ก่อนออกเดินทางก็ไหว้พระที่บ้านขอพร ขอให้เดินทางปลอดภัย แล้วก็ทานนม 1 กล่องครับ เวลาออกจากบ้านประมาณ 9.19 น. ฤกษ์ดีซะด้วย ^_^
ลืมบอกไปเลยครับ วันนี้เราจะเดินทางด้วยเจ้าคันนี้ครับ Kawasaki DTX 250 (ป้ายหลุดหายครับ ยังไม่ได้ใหม่เลย)
ส่วนผมพลขับ ขอรายงานตัวครับ
บ้านผมอยู่แถวจรัญครับ เส้นทางที่จะใช้เดินทางคือ ถนนตัดใหม่พระเทพ - ราชพฤกษ์ - บรมราชชนนี - บ้านโป่ง - แสงชูโต - ไทรโยค - สังขละ ครับ
แวะเติมน้ำมันกับกดเงินที่ ปตท. แถวๆ นครปฐมครับ
ปัญหาสำหรับการเดินทางในทริปนี้ที่ผมกลัวมีอยู่ 2 เรื่องหลักๆ ครับ
1. ฝน เพราะผมเอากล้องมาด้วย คงถ่ายรูปไม่สนุกแน่
2. น้ำมัน เพราะรถผมเปลี่ยนกล่องกับท่อมาครับ อัตราการบริโภคค่อนข้างโหดเอาเรื่อง รถผมถังน้ำมันจุ 7.7 ลิตร เติมเต็มถัง 220 บาท วิ่งได้ 160 Km เองครับ แถมไม่มีเกจน้ำมัน ทุกๆ ร้อยโลผมต้องมองหาปั้มน้ำมันครับ ห้ามลืมเด็ดขาด
ทริปนี้ผมพกตังติดตัวไป 3,000 บาท และจะสรุปรายละเอียดเรื่องค่าใช้จ่ายให้ฟังตอนท้ายครับ
ทริปนี้ผมใช้ความเร็วประมาณ 100 - 110 Km/h ครับ มาถึงเมืองกาญจน์ประมาณ 11.30 น. ก็แวะทานข้าวเช้า + เที่ยงครับ
ร้านข้าวแกง 39 อย่างครับ ที่ตัวเมือง สั่งผัดพริกแกงเนื้อ ผัดพริกเผากากหมู และแกงส้มครับ มื้อนี้หมดไป 70 บาท
ออกเดินทางต่อเวลาประมาณ 11.55 น.ครับ สภาพอากาศตอนนี้ปลอดโปร่งโล่งสบาย หายใจสะดวกด้วยโอโซนบริสุทธิ์ แอบร้อนนิดหน่อย อิจฉาคนต่างจังหวัดมากมายครับ ที่ไม่ต้องทนนั่งดมมลพิษเหมือนคนกรุง
ถึงน้ำตกไทรโยคน้อยประมาณ 13.08 น.ครับ อากาศยังดีอยู่ แดดเปรี้ยง ในใจคิดว่าคงมีเวลาเหลือให้ถ่ายรูปเล่นเยอะเลย
แวะถ่ายรูปป้ายแปบเดียวครับ เพราะไม่ใช่จุดหมายปลายทางของเรา ออกเดินทางต่อเลยครับ
ขับมาได้เกือบชั่วโมง อีกประมาณ 5 กิโลจะถึง ปั้ม ปตท.ทองผาภูมิ ผมก็ได้เจอสิ่งที่ไม่อยากเจอจนได้
เค้ามาแล้วครับ น้องฝนตัวเป็นๆ เล่นซะต้องหาที่หลบเลย ถึงตรงนี้ผมเลยได้มีโอกาสหยิบ Canon มาถ่ายรูปเสียที
รูปนี้เพื่อนตั้งชื่อให้ว่า ศาลาพักใจกับเฒ่าน้อยคอยรักครับ
กับสุดที่รักบ้าง
ฝนตกประมาณ 15 นาที ก็หยุดครับ เลยออกเดินทางต่อ แวะเติมน้ำมันปั้ม ปตท. ทองผาภูมิ อีกแปบนึงครับ
เป็นธรรมเนียม ต้องแวะไหว้พระสักการะขอพรที่วัดท่าขนุนก่อนขึ้นสังขละครับ
ขับต่อมาได้อีกไม่ถึง 3 กิโล คราวนี้ฝนตกอย่างหนักเลยครับ ต้องจอดพักอีกแล้ว เป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยแล้วก็ทรัพย์สินในกระเป๋าด้วยครับ
แวะพักหลบฝนที่ศาลาริมทางวัดโชคผาสุกิจ
รอบนี้ตกไม่หยุดเลยครับ ครึ่งชั่วโมงผ่านไป ก็ยังไม่หยุด แต่เริ่มซาลงแล้ว ผมเลยคิดว่าถ้ามัวแต่หลบๆ ซ่อนๆ ไม่กล้าลุย หกโมงก็คงยังไม่ถึง เลยตัดสินใจเก็บของทุกอย่างลงช่องกระเป๋าที่คิดว่าน่าจะกันน้ำได้ดีที่สุด แล้วขับลุยต่อเลยครับ
ความเร็วเฉลี่ยตอนนี้ อยุ่ที่ 50 - 60 Km/h เองครับ ตั้งใจไว้จากบ้านว่าจะมาสไลด์โค้งเนียนๆ แต่ตอนนี้โรคปอดแหกกำเริบครับบอกตรงๆ (เจอรถตกข้างทาง ประมาณ 2 คันด้วย)
ถึงอุทยานแห่งชาติเขาแหลมประมาณ 15.20 ครับ (ฝนก็ยังตกๆ หยุดๆ) เลยขึ้นไปแวะถ่ายรูปที่ป้อมปี่
เสียค่าเข้าผู้ใหญ่ 20 บาท รถมอเตอร์ไซค์ 40 บาท รวมเป็น 60 บาท ครับ
ไหนๆ ก็มาแล้ว ถ่ายคู่กับสะพานแขวนสักหน่อย เก็กนิดนึง
ทำ MV ที่จุดชมพระอาทิตย์ตกดินหน่อย (คิดเสียว่าเป็นตูนบอดี้สลัม)
เมื่อได้ภาพที่ระลึก เอ้ยระทึก เอ้ยถูกแล้ว ก็ออกเดินทางต่อในเวลาประมาณ 16.20 น. ในใจคิดว่าเจอโค้งไหนสวยๆ จะแวะถ่ายรูปสักนิดนึง แต่ดูเวลากับบรรยากาศแล้ว ช่างไม่เป็นใจจริงๆ ฝนก็ยังตกๆ หยุดๆ ตลอดทาง เลยตัดสินใจขับยาวไปถึงสังขละเลยดีกว่า
ไชโย!! ในที่สุดก็ถึงสังขละแล้วครับ ในเวลาประมาณ 17.20 น. พอดี
แต่เดี๋ยวก่อน ทำไมสะพานไม้มันอยู่ข้างๆ หว่า แน่เลย ผมหลงทางครับ ขับเลยไม่ได้เลี้ยว เลยมาเจอสะพานปูนซองกาเลียแทน
เอาวะ มุมสวยเหมือนกัน ถ่ายรูปเป็นที่ระทวย เอ้ยระทึก เอ้ยระลึก เอ้ยถูกแล้ว สักหน่อยแล้วกันครับ
เสียเวลาถ่ายรูปที่สะพานค่อนข้างนาน เพราะต้องตั้งกล้องเอง เซ็ตปรับค่าเอง มาคนเดียวมันเหนื่อยอย่างนี้นี่เอง บ่นๆ
ออกจากสะพานซองกาเลียไปงมๆ หาทางเข้าสะพานไม้ ในเวลาประมาณ 17.45 ครับ
ไชโย ไชโย ไชโย ถึงจริงๆ เสียที ในเวลาประมาณ 17.55 ครับ มาถึงก็หยอดกล่องทำบุญตามธรรมเนียม
รวมระยะทางจากบ้านถึงสะพานไม้หลวงพ่ออุตตมะ ทั้งสิ้น 353.7 Km ครับ
เสร็จแล้วก็รีบไปเก็บภาพกันเลย ก่อนท้องฟ้าจะมืด
ตั้งใจไว้ว่าจะถ่าย Night Land Scape ด้วยครับ แต่รอจนฟ้ามืดแล้ว ไฟที่สะพานก็ไม่เปิดสักที จึงยอมถอนสมอออกจากพื้นที่มาครับ
หลังจากถ่ายรุปเสร็จก็ต้องคาปูเย็นสักแก้ว ชื่นใจ ^^ แก้วนี้ 45 บาท
ต่อด้วยอาหารเย็นเป็นกระเพราหมูกรอบ กับเกาเหลาลูกชิ้นหมูครับ มีให้เลือกแค่นี้เพราะหมด T T ค่าอาหารมื้อนี้ 80 บาทครับ
ทานเสร็จก็ประมาณ 18.35 น. ครับ ที่ทานช้าเพราะเผ็ดมากกกก ดูดคาปูแบบไม่สนใจรสชาติกาแฟเลย 555 รสชาติอาหารฝืมือคนมอญนี่เผ็ดร้อนจริงๆ
สอบถามทางเจ้าของร้านอาหารว่าแถวนี้มีปั้มไหม เจ้าของร้านบอกมีปั้มหลอดอยู่ตรงแยกทางเข้าครับ แต่ผมเองไม่ค่อยไว้ใจปั้มหลอดเท่าไรเลยถามว่ามีปั้มใหญ่ไหม ได้ความว่าอยู่ตรงทางแยกเข้าด่านเจดีย์ 3 องค์ แต่ปิดไวมากประมาณ 2 ทุ่ม เอาละสิ เริ่มมีอาการปอดแหกอีกแล้วครับ กลัวน้ำมันจะหมด เพราะกว่าจะถึงทองผาภูมิน่าจะ 70 กว่าโล ตัดสินใจไม่เดินเล่นละครับ ไว้โอกาสหน้ายังมี ออกจากสะพานไม้หลวงพ่ออุตตมะในเวลาประมาณ 19.00 น.ครับ
ขากลับมืดมาก เส้นทางตอนกลางวันว่าน่ากลัวแล้ว เจอตอนกลางคืนนี่ ตอนกลางวันเป็นขนมไปเลยครับ ใครเคยขับเส้นนี้กลางคืนน่าจะทราบ แต่ของผมชินแล้ว เพราะมาบ่อย แต่อีกใจหนึ่งก็หวั่นๆ เหมือนกัน เพราะเป็นครั้งแรกที่เอามอเตอร์ไซค์มา แถมยังมีฝนปรอยๆ ลงมาด้วย
มาถึงปั้ม ปตท. ทองผาภูมิประมาณ 20.25 น. ครับ มีน้องฝนคอยมาส่งตลอดทางเหมือนเดิม เจอเพื่อนร่วมทางที่โดยสารรถตู้เข้ามาทักด้วยครับ บอกกล้ามาก ที่ฉายเดี่ยวมาคนเดียว พูดคุยกันประมาณสิบนาที ขอโบกมือบ้ายบาย แยกย้ายกันครับ
จบแบบห้วนๆ เลยแล้วกันครับ ถึงกทม. ประมาณ 23.18 น. โดยสวัสดิภาพ มีอาการปวดตูดนิดหน่อย
สรุปค่าใช้จ่ายต่อเม้นล่างนะครับ พอดีพิมพ์จะครบ 10000 ตัวอักษรแล้ว พิมพ์ต่อจนจบไม่ได้ 555