คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 5
ทำสัญญาจะซื้อจะขายเมื่อไหร่ (ในระยะเวลาห้ามโอน) แม้ว่าจะโอนกันเมื่อพ้นระยะเวลาห้ามโอนก็ตาม ทุกอย่างเป็นโมฆะทั้งสิ้น
โมฆะ คือ เสียเปล่า ไม่มีผลบังคับกันได้เลย
ซ้ำร้ายไปกว่านี้ การทำนิติกรรมนี้เป็นการทำนิติกรรมที่ผ่าฝืนต่อกฎหมาย
ดังนั้นเงินที่จ่ายไปแล้ว ถือว่าเป็นการจ่ายตามอำเภอใจ ย่อมเรียกคืนไม่ได้
และเจ้าของที่ดิน ก็ไม่ผูกพันที่จะโอนที่ดินให้ตามสัญญาเช่นกัน
สรุปง่ายๆ สั้นๆว่า ทำไม่ได้ ทุกอย่างเป็นโมฆะทั้งสิ้น
กม.กำหนดว่า ห้ามโอน แต่ไม่ห้ามจำนอง
กม.กำหนดว่าห้ามทำสัญญาซื้อขาย หรือ จะซื้อจะขาย ที่ตกเป็นโมฆะ คือ ส่งมอบการครอบครองให้แก่กันทันที
แต่ กม.ไม่ห้ามทำสัญญาจะซื้อจะขายที่ไม่มีการส่งมอบการครอบครอง
โดยสัญญาแบบนี้ มีฎีกาหนึ่งที่มักถูกเอาไปใช้ในทางที่ผิด คือเลี่ยงการซื้อขายกันกับที่ดินแบบนี้
ผมมีฎีกานี้อยู่ ใครอยากรู้ จะหลังไมค์ไปให้แล้วกัน ไม่อยากบอกเดี๋ยวจะกลายเป็นชี้ช่องของกฎหมาย
โมฆะ คือ เสียเปล่า ไม่มีผลบังคับกันได้เลย
ซ้ำร้ายไปกว่านี้ การทำนิติกรรมนี้เป็นการทำนิติกรรมที่ผ่าฝืนต่อกฎหมาย
ดังนั้นเงินที่จ่ายไปแล้ว ถือว่าเป็นการจ่ายตามอำเภอใจ ย่อมเรียกคืนไม่ได้
และเจ้าของที่ดิน ก็ไม่ผูกพันที่จะโอนที่ดินให้ตามสัญญาเช่นกัน
สรุปง่ายๆ สั้นๆว่า ทำไม่ได้ ทุกอย่างเป็นโมฆะทั้งสิ้น
กม.กำหนดว่า ห้ามโอน แต่ไม่ห้ามจำนอง
กม.กำหนดว่าห้ามทำสัญญาซื้อขาย หรือ จะซื้อจะขาย ที่ตกเป็นโมฆะ คือ ส่งมอบการครอบครองให้แก่กันทันที
แต่ กม.ไม่ห้ามทำสัญญาจะซื้อจะขายที่ไม่มีการส่งมอบการครอบครอง
โดยสัญญาแบบนี้ มีฎีกาหนึ่งที่มักถูกเอาไปใช้ในทางที่ผิด คือเลี่ยงการซื้อขายกันกับที่ดินแบบนี้
ผมมีฎีกานี้อยู่ ใครอยากรู้ จะหลังไมค์ไปให้แล้วกัน ไม่อยากบอกเดี๋ยวจะกลายเป็นชี้ช่องของกฎหมาย
แสดงความคิดเห็น
ทำสัญญาจะซื้อกับที่ดินติดมาตรา12แห่งพระราชบัญญัติที่ดินเพื่อการครองชีพ พ.ศ.2511เป็นอะไรหรือป่าว?
ปล.ผมไม่ค่อยมีความรู้ด้านกฎหมายขอแบบละเอียดนะครับ