สิ่งทั้งหลายทั้งปวงเป็นไปตามเหตุปัจจัย เราเลือกเอาไม่ได้ตามใจชอบ

ขอให้สำนึกรู้ ตระหนัก แน่ใจ ตกลงใจไว้ว่า
สิ่งทั้งหลายทั้งปวงเป็นไปตามเหตุปัจจัย
(ยถาปจฺจยํ ปวตฺตนฺติ) เราเลือกเอาไม่ได้ตามใจชอบ

มีเหตุปัจจัยอย่างไร มันย่อมเป็นไปอย่างนั้น
เมื่อมีเหตุปัจจัยให้สุข ความสุขก็เกิดขึ้น
มีเหตุปัจจัยให้ทุกข์ ความทุกข์ก็เกิดขึ้น
มีเหตุปัจจัยให้เจริญก็เจริญ

สิ่งทั้งหลายทั้งปวงเป็นสังขตธรรม (มีปัจจัยปรุง)
ไม่เป็นอิสระด้วยตนเอง ต้องขึ้นอยู่กับเหตุปัจจัย
และเงื่อนไขมากมาย ไม่เป็นไปตามความปรารถนา
หรือความต้องการของผู้ใด

ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามความปรารถนาของบุคคลแล้ว
ใครเล่าจะจน ใครเล่าจะมีโรคร้ายไข้เจ็บ ใครเล่าจะไม่สวย
และใครเล่าจะต้องทุกข์ เพราะทุกคนปรารถนา
ความมั่งมีสุขภาพสมบูรณ์ ความสวยงามและความสุข

แต่เพราะเหตุที่สิ่งทั้งหลายเป็นไปตามเหตุปัจจัย
เราจึงปรารถนาเอาไม่ได้ว่าจงเป็นอย่างนี้เถิด
อย่าเป็นอย่างนั้นเลย ที่เป็นไปตามความปรารถนาได้บ้าง

เช่น เราปรารถนาจะลุกขึ้นเดินก็เดินไปได้นั้น
ก็เพราะเหตุปัจจัยมันพร้อมอยู่ พอขาดเหตุปัจจัยก็เดินไม่ได้
เช่น คนป่วยบางคนปรารถนาจะลุกนั่ง
ก็ยังไม่ไหวอย่าว่าแต่จะเดินเลย

ความตระหนักแน่ใจลงไป มีมนสิการอันแยบยลว่า
สิ่งทั้งหลายทั้งปวงเป็นไปตามเหตุปัจจัย แล้วปล่อยวาง
ความยึดมั่นเสีย นับเป็นยาอันประเสริฐ
สำหรับบำบัดความทุกข์ร้อนของใจ และเป็นที่พักพิง
อันประเสริฐของใจสมดังที่พระพุทธองค์ตรัสว่า

"อกิญฺจนํ อนาทานํ เอตํ ทีปํ อนาปรํ”
แปลว่า "ความไม่กังวล ความไม่ยึดมั่น
นั่นแหละคือที่พึ่งอันประเสริฐของบุคคล หาใช่สิ่งอื่นไม่”


- วศิน อินทสระ -

https://th-th.facebook.com/W.Indhasara

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่