คุณคิดว่า เศรษฐกิจไทยในอีก3-5ปี จะเป็นอย่างไร

......จากเศรษฐกิจ ปัจจุบัน ที่อยู๋ในช่วงทรงกับทรุด  คิดว่าเศรษฐกิจไทยในอีก3-5ปี จะเป็นอย่างไร มาทายกัน.....

1 การบริโภคภายในประเทศ


.....A : แย่ลง การบริโภคภายในประเทศ ลดลง คนไม่มีเงิน คนว่างงาน  กำลังซื้อภายในประเทศไม่มี

2 การส่งออก

.....A : แย่ลง EU และUSA จะยังไม่ต่อสิทธิพิเศษทางภาษีให้เรา ไม่เจรจาไม่คุยอะไรทั้งสิ้นจนกว่าจะมีรัฐบาลปกติ

3 การท่องเที่ยว

.....A :  ดีขึ้น จะค่อยฟื้นฟูช้าๆ เลิกประกาศกฏฯ เมื่อไหร่ถึงจะกลับมา ดีมาก

4 โรงงานในประเทศ


.....A :  ดีขึ้น น่าจะยังขยายตัวได้  แต่โรงงานใหม่ๆย้ายฐานไปเวียดนาม พม่า อินโด

5 สินค้าเกษตร

.....A :  แย่ลง ผลผลิตราคาจะตกต่ำอีกนาน เพราะเพื่อนบ้านเป็นเกษตรกรที่ต้นทุนการปลูกต่อไร่ถูกกว่าเรา

6  การเข้าร่วมAEC

.....A :  แย่ลงเราต้องเข้าร่วมในขณะที่เราไม่พร้อม รอบบ้าน เริ่มพัฒนาหการขนส่งใกล้เสร็จแล้ว ค่าแรงก็ถูกกว่า

7  VAT


.....A :  แย่ลง ขึ้นเป็น10 แน่

............โดยรวมกลางค่อนไปทางแย่ ผมยังหวังว่ามันจะไม่เลวร้ายไปกว่าปัจจุบันนี้ครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ

คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 10
ดิฉันเริ่มเข้าวงการค้าขายตั้งแต่ปลายปี 50 ปี 51 (ดิฉันอยู่ตจว.เมืองท่องเที่ยว) วิกฤติเศรษฐกิจสหรัฐ ตอนนั้นแม่ค้าหน้าเก่ารายได้ลดลงเหลือแค่ 1 ใน 4 ของที่เคยได้ (แม่ค้าหน้าเซ็นทรัลเวิร์ลพูดออกทีวี) แต่ดิฉันก็อดทนทำเพราะจำเป็น ทำไปก็คิดไปว่าถ้าเศรษฐกิจดีเราคงมีรายได้มากกว่านี้ ถ้าปล่อยไปให้สถานการณ์คลี่คลายมันน่าจะดีขึ้นเรื่อย ๆ กิจการที่ควรเติบโตก็จะเติบโตไปตามเวลา สอบถามจากเพื่อนร่วมวงการเป็นอย่างนี้ค่ะ

ร้านขายของชำ ที่เคยขายได้เป็นหมื่นเหลือแค่สามพัน สองพัน หนึ่งพัน และ ไม่กี่ร้อย จนต้องปิดไปในที่สุด
ตลาดที่เคยเฟื่องฟู เงียบเหงา จนกระทั่งปิดตัว
นาฬิกา (ถูก ๆ และแบบก๊อป) ที่ตลาดนัด ยอดขายจากวันละหนึ่งหมื่น (นัดเย็นขายไม่กี่ชม.) เหลือแค่สามพัน
เจ้าของร้านผลไม้ จากวันละหนึ่งหมื่น เหลือสามพัน
แม่ค้าพวงมาลัย จากลูกค้าเคยซื้อเจ็ดพวง เหลือ หนึ่งถึงสองพวง (แค่พวงละ 5 บาทนะคะ)
มันจะทรง ๆ อย่างนี้ แต่คนค้าขายส่วนใหญ่ก็ทู่ซี้ทำไปเพราะมันเป็นอาชีพ คิดดูค่ะ ว่ารายได้ลดแต่รายจ่ายเท่าเดิมจะอยู่กันยังไง หนี้นอกระบบเป็นของคู่กันกับคนค้าขาย (ถ้าอยากแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ ก็ให้พวกเราเข้าถึงเงินทุนง่าย ๆ หน่อย และบริหารให้เศรษฐกิจดี กู้เงินน่ะกู้ได้ แต่จะเอาเงินไหนมาจ่ายน่ะยาก เพราะต้องขึ้นอยู่กับภาวะเศรษฐกิจ)

และมันก็เริ่มเละมาเรื่อยตอนประท้วงร.อภิสิทธิ์ จนกระทั่งถึงเผาบ้านเผาเมือง ปี 53 ตอนนั้นนักท่องเที่ยวแทบไม่มาเลย พอได้ร.ยิ่งลักษณ์ ปี 54 ก็ใช่ว่าจะดีขึ้น โครงการที่ส่งผลกระทบคือ ค่าแรง 300 ดิฉันสั่งผลิตสินค้าโดยต้นทุนเพิ่มขึ้น แต่นำไปขายได้ยาก เพราะราคาขายปลีกเพิ่มจนลูกค้าไม่ซื้อ จนต้องเลิกขายสินค้าตัวนั้นไป ลูกค้าเอาเงินไปผ่อนรถคันแรก ไหนจะผ่อน ไหนจะหาเงินเติมน้ำมัน ส่วนใหญ่เป็นมนุษย์เงินเดือน เขาก็รัดเข็มขัด ส่วนเจ้าของกิจการ ก็กิจการเขาซบเซา เขาจะอยากเอาเงินมาใช้จ่ายได้อย่างไร (กลุ่มนี้ขายของให้ยากมาก เพราะเขาต้องเขียม)

เมื่อมันเศรษฐกิจไม่ดี ก็มีการกระตุ้นให้เอาเงินตายของคนแก่มาใช้ คือเงินกู้บำนาญตกทอด ปกติ คนอายุ 60 ขึ้นไปจะไม่ได้รับอนุมัติเงินกู้ใดๆ แต่ตอนนี้ไม่เป็นไร อานิสงส์ก็ได้แก่ลูกหลานที่ต้องการใช้เงินคนแก่นี่แหละ ช่วงนั้นธุรกิจก่อสร้างกระตุ้นได้มาก คนแก่กู้เงินมาได้ ให้ลูกหลานทำหอพัก กิจการท่องเที่ยวเริ่มขยาย มีการสร้างโรงแรม รีสอร์ท กันมากมาย และออกรถ
ดิฉันมองแล้ว ไม่ค่อยเห็นด้วย จริงอยู่ กู้เงินมาได้ เศรษฐกิจขับเคลื่อน แต่ระยะยาวล่ะ ถ้าเศรษฐกิจดี ก็มีเงินจ่ายหนี้ แถมการเป็นหนี้จะน้อยลงถึงขั้นไม่เป็นหนี้ด้วยซ้ำ แม่ค้ารากหญ้า ไม่ได้ต้องการอะไรมาก แค่อยู่ได้ก็พอแล้ว

แล้วนรกมันก็มีจริง ปี 54-56 เศรษฐกิจมีแต่จะดิ่งลงเหว ผลกระทบน้ำท่วมหนึ่ง และหลังจากนั้นไม่มีอะไรดีขึ้นเลย เจ้าของกิจการจะทำโครงการอะไรก็ชะลอ ๆ ไว้ คนที่เคยมีของขายเต็มร้าน ควรต้องมีของมาขาย มาสต๊อก จะซื้อมาเพื่อ...
บ่นกันถ้วนหน้าสำหรับคนค้าขาย
เจ้าแม่นิยายขายดี ยอดขายตกฮวบ (อันนี้เขาบ่นมาดังๆ)

ถึงจุดแย่สุดก็ประท้วงของกำนัน แม่ค้าพ่อค้ามีแต่ตาย ตาย กับ ตาย ธนาคารไม่อนุมัติโครงการใด ๆ ไม่ว่าเงินกู้แบบไหน บ้าน ธุรกิจ (อย่างอื่นไม่ทราบ) ตอนประท้วงแรก ๆ ปลายปี 56 เป็นช่วงไฮซีซันของหลาย ๆ ที คนค้าขายกะได้กอบโกยรายได้หลังจากโลว์มาทั้งปี มาเจออย่างนี้น่าไปผูกคอตายเสียจริง ๆ แล้วก็ลากยาวไปถึงปี 57 กระอักเลือดกันมาถึงกลางปีที่มีรัฐประหาร
ได้แต่ลุ้นให้อะไรๆ ดีขึ้น เชื่อว่าถ้าไม่มีอะไรเกิดขึ้น มันจะค่อย ๆ เติบโตขึ้นมาใหม่เหมือนตอนปี 51
ถึงช่วงนี้มันยังซบเซาอยู่ แต่ดีขึ้นเล็กน้อย คนเริ่มจับจ่าย เริ่มไปเที่ยว บ้านดิฉันอยู่ติดถนน จากที่เคยร้าง ๆ รถก็เยอะ คนเริ่มออกเที่ยวกลางคืน นักท่องเที่ยวก็เข้ามา

ดิฉันมุมมองคนค้าขายตัวเล็ก ๆ แล้วมนุษย์เงินเดือนเป็นอย่างไรกันบ้าง เล่าให้ฟังบ้างนะคะ

ดิฉันขอเสนอ ให้ผู้มีอำนาจเกี่ยวข้องกับเว็บไซต์นี้ ปริ้นคอมเม้นท์ทุกคอมเม้นท์ถึงความลำบากของเราไปเสนอท่านผู้นำ มันได้ผลมาแล้วในจ.ของดิฉัน มีกลุ่มคนที่เข้มแข็งมากและรวมตัวกันเมื่อเกิดความเดือดร้อน และจ.ดิฉันได้พัฒนาอะไรดี ๆ ขึ้นมากเลย เพราะพ่อเมืองจ.ดิฉันเป็นคนยุติธรรม

การบริหาร ไม่ใช่นั่งอยู่ที่โต๊ะทำงาน เอาแต่วิเคราะห์ แต่ไม่ได้ลงลึก ไม่ได้เข้าถึงการปฏิบัติอย่างแท้จริง มีแต่มโนธรรม มันก็มีแต่พังกับพัง ดิฉันเคยจะพึ่งนักวิชาการ บรรยายเก่ง ๆ วิเคราะห์โน่นนี่นั่นได้หมด พอโยนปัญหาเข้าไปให้เรื่องสองเรื่อง หงายเงิบหายเข้ากลีบเมฆจนทุกวันนี้ แล้วที่ไม่ทำงาน ไม่ศึกษาอะไรเลย เอาแต่ถ่ายรูปๆๆ ติดโชว์ข้างถนนเอาหน้าไปวัน ๆ กับโครงการที่คนตัวเล็ก ๆ ทำแทบตาย ก็ไม่อยากให้มีค่ะ พูดแล้วมันก็เยอะ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 5
ปี พ.ศ. 2559  มีพรรคหนึ่งเลือกตั้งแพ้ งอแง บอยคอต ม๊อบคนดีผู้รักชาติออกมาเป่าทรัมเป็ก  ยุบสภา รัฐประหาร Loop..

ไม่ไปไหนหรอกประเทศไทย ตราบใดที่คนไม่เคารพกติกา ใช้ความดีอันเป็นนามธรรมแทนที่จะใช้เกณฑ์ที่เป็นรูปธรรม
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่