**คุณเจ้าของร้านอาหารครับ..เคยคิดบ้างไหมว่าทำไมร้านของคุณจึงขายได้น้อยจนใกล้เจ๊ง**

ผมเห็นและได้ยินร้านอาหารหลายๆ ร้านบ่นขายไม่ดี ใกล้จะปิดตัว  ส่วนสาเหตุก็มักจะอ้างโน่นนี่นั่น เช่น..

--ร้านเราได้ทำเลไม่ดี ไม่มีคนเดิน  (แต่ ไหงร้านที่ทำเลลึกลับกว่า ไกลโพ้นกว่า คนกลับแน่น ผู้คนด้นดั้นไปหา ขับรถไกลๆ ไปกิน)

--ค่าครองชีพสูง วัตถุดิบมาแพง ทำให้ต้องขึ้นราคา คนซื้อเลยหด  (แปลกนะ ร้านที่ขายของประเภทเดียวกันเป๊ะ  ราคาถูกกว่า คุณภาพคงเดิม เขาขายได้ขายดี)

--เศรษฐกิจไม่ดี คนเลยไม่ออกมาหาซื้ออาหารดีๆ เพราะไม่มีสตางค์  (ร้านที่ขายดีตลอดปีเขาไม่เคยบ่นเรื่องภาวะเศรษฐกิจ ขายมาหลายสิบปีผ่านมาทุกรอบปัญหาเศรษฐกิจแล้ว เศรษฐกิจไม่ดีกระทบเฉพาะร้านหรูเลิศจริงๆ ส่วนร้านอาหารชาวบ้านทั่วไป ทุกคนยังต้องกินต้องใช้ ยิ่งเศรษฐกิจไม่ดี พวกเขายิ่งต้องกินอาหารแบบเลือกเฟ้นให้คุ้มค่าเงิน ร้านของพวกคุณถูกคัดออกจากทางเลือกเพราะไม่ดีพอต่างหาก)

--ปัญหาการเมืองระอุ ทำให้คนเครียด กินไม่ลง  (ตอนนี้การเมืองคลี่คลายแล้ว ทำไมร้านคุณก็ยังขายไม่ดีอยู่ล่ะ)

--ยุคสมัยเปลี่ยนไป รสนิยมคนทานอาหารเปลี่ยน หันไปเข้าห้างกินอาหารกันหมดแล้ว  (ไม่คิดหรือว่า สมัยก่อนคนหิ้วปิ่นโตไปทานที่ทำงาน เดี๋ยวนี้ไม่มีแล้ว ต้องหาร้านอาหารทาน เพิ่มลูกค้าให้คุณ นี่ก็รสนิยมเปลี่ยนไม่ใช่หรือ พวกเข้าไปกินในห้าง ไม่นานก็เบื่อเพราะราคาแพงและอาหารอร่อยสู้ร้านค้าที่เจ้าของปรุงเองไม่ได้ ในห้างใช้แต่พม่าปรุง ขอยืนยันว่า ยุคสมัยจะเปลี่ยนไปอย่างไร คนก็ยังนิยมทานข้าวราดแกงที่อร่อยและราคาถูกเหมือนเดิม)

ข้ออ้างสารพัดสารพันล้วนต้องการเขวี้ยงงูให้พ้นคอทั้งสิ้น(แต่ไม่พ้น) คือ มิได้มองดูตัวเองเป็นประการแรก  ก่อนจะลงโทษฟ้าดินหรือปัจจัยไรอื่นที่ไม่เป็นใจลองก้มลงมองตัวเองและร้านอาหารของตัวเองก่อนเป็นไรว่า..สมควรเจ๊งหรือไม่ โดย..

--ชิมอาหารที่ตัวเองขายดูบ้างสิครับ คุณเองยังไม่ชอบแล้วจะให้คนอื่นที่เสียเงินมาชอบได้อย่างไร นอกจากตัวคุณแล้ว ให้คนใกล้ชิดและคนนอกที่รู้จักชิมด้วยเพราะลิ้นคุณอาจจะเพี้ยนได้

--ทำเลแวดล้อมใกล้เคียง นอกจากร้านคุณที่ขายไม่ดีแล้ว ร้านอื่นๆ ในละแวกเขาขายได้อยู่รึเปล่า ถ้าเขาขายได้ดีมันก็อยู่ที่ตัวคุณเองแล้วล่ะ

--คุณต้องขึ้นราคาขายเพราะวัตถุดิบแพง หรือ เพราะขายได้น้อยเกินไปจนไม่คุ้มทุนเลยขึ้นราคา หรือ คุณฉวยโอกาสขึ้นราคาตามๆ ร้านอื่นๆ ที่ขึ้นไปก่อนหน้าแล้วเลยกลัวตกรถ หรือ คุณต้องใช้จ่ายมากขึ้นกว่าแต่ก่อนเพราะ ลูกโตต้องส่งเรียนนอก ครอบครัวจะไปเที่ยวต่างประเทศ คุณกำลังจะซื้อบ้านใหม่/รถใหม่

--ส่องกระจกดูหน้าตาของคุณและลูกน้องบ้างเป็นไรเวลารับแขก  พวกคุณเคยพูดคะขา ครับผมเป็นกันบ้างหรือเปล่า มันไม่เกี่ยวกับรสชาติและราคาอาหารก็จริงอยู่แต่มันทำให้ลูกค้าอยากให้มีทางเลือกอื่นขึ้นในใจ  ร้านที่ขายดีมากๆ มาก่อนมักจะเปลี่ยนอุปนิสัยกลายเป็นหยิ่ง นึกว่าคนมากินอาหารฟรีงั้นแหละ

--ตระเวนชิมรสชาติอาหารของร้านคู่แข่งที่เขาขายดีกว่าหรือยัง?  ลองดูสิครับ

--ร้านคุณเคยขายดีจริง ดังจริง มาช้านาน แต่ปัจจุบันสูตรเดิมเพี้ยนไปตามกาลเวลาหรือเปล่า เอาลูกหลาน  เอาพม่า เขมร มาปรุงอาหารให้ เราต้องหมั่นชิมว่ารสชาติยังเหมือนสมัยเด่นดังหรือเปล่า เพราะความพิถีพิถันของคนที่รับจ้างมาคงสู้เจ้าของตัวจริงที่ดิ้นรนเพื่อความอยู่รอดในตอนนั้นไม่ได้หรอก

--ร้านของคุณมีสุขอนามัยหรือเปล่า ห้องน้ำห้องท่าสะอาดหรือไม่ อาหารอร่อยแต่มีสัตว์สปีชี่ต่างๆ มาร่วมโต๊ะอาหารด้วย ผมคนหนึ่งล่ะไม่เอาด้วยแน่นอน


ผมเชื่อว่า หลายร้านที่ใกล้จะเจ๊งมองข้ามปัญหาของตัวเองไป ก็เลยต้องเจ๊งต่อๆ ไปเรื่อยๆ  ไม่ว่าจะเปลี่ยนอีกกี่ทำเล อีกกี่เมนู อีกกี่คนปรุง อีกกี่ชาติก็ยังจะเจ๊งอยู่ดีครับ เนื่องจาก..ไม่รู้จักสำรวจตัวเอง

ถ้าสำรวจตัวเองแล้ว ไม่ใช่ความผิดของคุณจริงๆ อันนี้ค่อยหาทางแก้ไขปัญหากันต่อไป ไม่ว่าเรื่องทำเล บรรยากาศ ภาวะโน่นนี่ ล้วนแก้ไขได้ทั้งสิ้นครับ ที่แก้ยากที่สุดก็คือ อีโก้ของเจ้าของร้านเองตะหาก
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่