สืบเนื่องจากกระทู้นี้
http://pantip.com/topic/32708699 ทำให้นึกถึงเรื่องของตัวเองขึ้นมาได้อีกครั้ง กับเรื่องที่ช็อกที่สุดเมื่อก้าวสู่วัยทำงานแรกๆ ที่เปิดกระทู้มาเล่าใหม่เพราะอยากให้น้องๆผู้หญิงได้อ่านกัน เพื่อจะได้ระวังตัวกันมากขึ้น
ตอนเรียนจบใหม่ๆ เป็นช่วงที่หางานทำยากมาก จนกระทั่งได้งานที่บริษัทแห่งหนึ่ง เราเป็นคนจัดว่าหน้าตาดีพอใช้ ไม่ถึงกับสวยแต่ร่าเริง ตลก ห้าวเล็กๆ ไม่เรียบร้อยอะไร ตอนแรกๆเริ่มทำงานก็ไม่มีไร ปกติดี เพื่อนร่วมงานดีหมด รุ่นพี่ืทั้งนั้นแต่ใจดีมีน้ำใจ แล้วเราก็พูดคุยกับทุกคนจนต่อมาเริ่มเป็นที่รู้จัก มีคนแผนกอื่นมาแซวๆจีบๆ จนวันนึงท่านเจ้าของบริษัทมาแย้บๆ ชวนไปกินข้าว ตอนนั้นยังใสๆก็เข้าใจว่าชวนไปหลายๆคน พอเค้าก็บอกแค่ 2 คนก็เลยตอบอัตโรนใัติเลยว่า อ๋อ ไม่ว่างค่ะ ต้องรีบกลับบ้าน จากนั้นก็เลยมาปรึกษาพี่ผู้หญิงที่สนิทคนนึงเพราะสงสัยว่ามันคือเรื่องปกติหรือไม่ปกติที่เจ้าของเค้ามาชวน ถ้าปกติดีเราก็จะได้ไม่แบบทำตัวน่าเกลียดไม่ไปๆๆใส่เค้าไรงี้ รุ่นพี่เค้าก็ตกใจแล้วบอกว่า เออ นายชอบมาจีบเด็กๆในออฟฟิศ แต่ส่วนใหญ่เด็กๆสาวๆ (และไม่สาว) จะยอม เพราะแกเป็นคนคารมดีแล้วแกก็เลี้ยงดีอะไรแบบนั้น จากนั้นรุ่นพี่คนนี้ก็เลยช่วยกันๆให้ โดยมาแจมทุกครั้งที่นายเข้ามาคุยกับเรา พี่เค้าออกทอมๆนิดนึง โผงผางนายเลยจับไม่ได้ว่าตั้งใจกันท่า
แต่ต่อมาวันนึงก็โดนให้ไปดูงานกะนายจนได้ เค้าสั่งเราก้ต้องไป ก็ไปดูงานกัน ดูเสร็จเค้าก็ชวนไปทานข้าวก็ต้องไปอีกเพราะมันช่วงกลางวันพอดี เค้าก็บอกว่าจะพาไป 13 เหรียญ รัชดา แล้วก็โปรโมทใหญ่เลยว่าอาหารอร่อย แพง ดียังงั้นยังงี้ เสร็จแล้วแกก็หาร้านไม่เจอ ขับรถวนๆๆ จนต้องโทรไปถามที่ร้านว่าไปยังไง เราก็บอกว่า ไม่ต้องก็ได้ ทานที่อื่นก็ได้ ไม่ต้องวนหรอก แกก็ยืนยันจะหา เราก็เลยปล่อยไป พอไปถึง สั่งอาหารแกก็แนะนำโน่นนี่ อาหารมาส่งก็จานใหญ่มากแกก็โปรโมทอีก ประมาณว่ามันดีมากเลยนะอะไรแบบนี้ แต่คือแกไม่รู้ว่าปกติเราไปทานอาหารตามร้านอาหารและโรงแรมใหญ่ๆกับที่บ้านประจำอยู่แล้วก็จะไม่ได้ตื่นเต้นอะไร พอเห็นแกโปรโมทเรายังนึกขำในใจว่าสงสัยนึกว่าเราบ้านนอกมาก 55 แล้วพอทานๆอยู่แกก็จะย้ายมานั่งฝั่งเดียวกับเราอ้างว่าจะได้คุยงานไปด้วย เราก็เริ่มระวังตัวละว่าชักเยอะ ก็เลยพูดดีๆไปว่า จะมานั่งข้างเดียวกันทำไมคะ แน่นเปล่าๆ ทานให้เสร็จก่อนก้ได้เดี๋ยวค่อยคุยงาน แกก็เลยยิ้มเหมือนว่าน่าจะโอเค พอทานข้าวเสร็จแกก็ชวนไปชมวิว เราก็ว่า วิวอาร๊ายย ไม่ต้องชมหรอก เข้าออฟฟิศเถอะไปคุยกะพี่อีกคนด้วยเพราะทำงานนี้ด้วยกัน แกก็ยึกๆยักๆ ไปชมวิวก่อนดีกว่า ข้างบนวิวสวยนะ มีระเบียงด้วย เราก็ไม่ค่อยเข้าใจว่าแกเป็นอะไร แต่ก็ยืนยันละว่าไม่ไป คิดในใจว่าดูน่าเกลียดก็ยอมวะ อย่าไปเกรงใจเค้าเลย ไม่ไปดีกว่า ระเบียงดาดฟ้าขึ้นไปทำไมร้อนจะตาย (มารู้ทีหลังจากพี่ชายว่า 13 เหรียญสาขานั้นข้างบนเป็นโรงแรม -_-' มิน่าชวนชมวิวจัง แถมยังพยายามหาร้านอยู่นั่นแหละ สงสัยเปิดห้องไว้แล้ว)
ผ่าน 13 เหรียญมา เราก็เบาใจละเพราะหลังจากนั้นต้องไปแวะฟอร์จูนอีกเพื่อซื้ออุปกรณ์คอมพ์เข้าออฟฟิศ คนพลุกพล่าน คงไม่ชวนชมวิว นั่งข้างๆไรอีกแน่นอน แต่เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น!!!
ระหว่างหาที่จอดรถอยู่ในตึกอยู่นั้น อยู่ๆแกก็ขึ้นไปชั้นบนๆ ทั้งที่ข้างล่างพอมีที่ว่าง พอถามแกก็บอกว่าข้างบนดีกว่า จอดง่าย สะดวกดีอะไรแบบนั้น พอมาถึงชั้นบนค่อนข้างโล่งแต่ก็สว่างมากนะ อยู่ๆแกก็จอดรถแล้วก็พุ่งตัวเข้ามาหาเรา (ในรถ)!!!
เราก็: เฮ้ยยยย!! ทำอะไรน่ะ
นาย: น่ารักจัง ขอหอมแก้มหน่อยสิ
เรา: ไม่เอา+ บ้าป่ะเนี่ย (เสียงดัง วีน เหวี่ยงมาก ลืมตัวด่าเจ้านายด้วยความตกใจ)
นาย: นิดเดียวเอง นะๆ ทีเดียวๆ ชอบนะ บลาๆๆๆ
ตอนนั้นโครตช็อคเลยอ่ะค่ะ คือเข้าใจคำว่า "หมดความนับถือเลย" ไม่คิดว่าจะห่ามขนาดนี้ พอเราโวยวายดังแกก็ยังพูดดีอยู่โอ้โลมไรงี้ เราถอยไปติดประตูเลยงัดมาตรการสุดท้ายที่นึกขึ้นมาได้ ก็บอกว่า อย่านะ..ไม่งั้นจะฟ้องเมียแน่ๆ เราสนิทกับพี่... (ชื่อแฟนเค้า) นายก็รู้นะ พอได้ยินแบบนั้นแกเลยหยุด บอกโอเคๆ ไม่ก้ไม่ เราก็ยังโวยต่ออีกนิดว่า แล้วอย่าทำแบบนี้อีกนะ! ไม่ชอบ แล้วแกก็เลยปล่อยเราลงรถไปซื้อของคนเดียวแล้วให้นั่งแทกซี่กลับออฟฟิศ
จากนั้นซักอาทิตย์นึงเราก็ยื่นใบลาออกเลย เมียแกก็มาถามนึกว่ามีปัญหาเรื่องเงินเดือนอะไรแบบนี้รึป่าวจะขึ้นเงินเดือนให้ เราก็ปฏิเสธไป จนสุดท้ายแกก็เรียกเราไปถามแล้วบอกว่าเพราะเรื่องนั้นรึเปล่า นายก็ไม่ยุ่งแล้วไง รู้แล้วว่าไม่ชอบก็จะไม่ยุ่งแล้ว ไม่ต้องลาออกหรอก แต่เราก็ยืนยันไปว่าจะออก แล้วก็บอกว่าเราไม่ได้ออกเพราะโกรธแกนะ แล้วก็รู้แล้วว่าจากนั้นแกก็ไม่มายุ่งกะเราแล้ว แต่เพราะเรานับถือแกมาก เรื่องนั้นมันทำให้เราหมดความนับถือแกไป เราก็เลยไม่อยากทำงานที่นี่แล้วแค่นั้น แกก็เลยพูดว่า แกขอโทษ แกเสียใจ แล้วก็ไม่พูดอะไรต่อ เราก็เดินนางงามออกมา
เรื่องก็เอวังอย่างแคล้วคลาดไป
สุดท้ายที่เอามาเล่าก็อยากฝากเตือนน้องๆสาวๆ เด็กๆ เจอเคสแบบนี้อย่าชะล่าใจนะคะ งานหายากก็จริง แต่ก็ไม่ควรเสี่ยง คนเป็นนายยังไงก้เหนือกว่าเรา ถ้าเค้ายังเป็นนายเราอยู่เค้าย่อมมีสิทธิ์สั่งให้เราไปไหนมาไหนกับเค้าได้ โดยบอกว่าเป็นเรื่องงาน ยังไงเราก็ไม่สามารถปฏิเสธเค้าได้ตลอดอยู่แล้ว และอย่าลืม มีสติเท่านั้น จะทำให้เรารอดพ้นเรื่องร้ายๆได้ค่ะ คราวนั้นที่รอดมาได้ก็เพราะมีสติ ดวงดี และนายยังพอเป็นคนมีมโนธรรมอยู่บ้าง ไม่ทำถ้าอีกฝ่ายไม่ยินยอม (อาจกลัวโดนฟ้องก็เป็นได้) ถ้าแกเป็นคนที่พร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ เราก็คงไม่รอดเหมือนกัน เพราะเด็กยังไงก็ไม่มีวันชนะผุ้ใหญ่ได้จริงๆค่ะ
เรื่องนี้เกิดนานมาแล้วก็จริงแต่เราก็คิดว่า ในสังคมเราทุกวันนี้ก็ยังคงมีเรื่องนี้อยู่แน่นอน
ขอให้น้องทุกคนระมัดระวังตัวกันนะคะ พบสิ่งดีๆ เจอคนดีๆ มีอนาคตสดใสค่ะ
ขอ TAG ชีวิตวัยรุ่นด้วยนะคะ เผื่อน้องๆจะได้อ่านกัน
ขอบคุณค่ะ
แชร์ประสบการณ์เจ้านายกับลูกน้อง (สาวๆ)
ตอนเรียนจบใหม่ๆ เป็นช่วงที่หางานทำยากมาก จนกระทั่งได้งานที่บริษัทแห่งหนึ่ง เราเป็นคนจัดว่าหน้าตาดีพอใช้ ไม่ถึงกับสวยแต่ร่าเริง ตลก ห้าวเล็กๆ ไม่เรียบร้อยอะไร ตอนแรกๆเริ่มทำงานก็ไม่มีไร ปกติดี เพื่อนร่วมงานดีหมด รุ่นพี่ืทั้งนั้นแต่ใจดีมีน้ำใจ แล้วเราก็พูดคุยกับทุกคนจนต่อมาเริ่มเป็นที่รู้จัก มีคนแผนกอื่นมาแซวๆจีบๆ จนวันนึงท่านเจ้าของบริษัทมาแย้บๆ ชวนไปกินข้าว ตอนนั้นยังใสๆก็เข้าใจว่าชวนไปหลายๆคน พอเค้าก็บอกแค่ 2 คนก็เลยตอบอัตโรนใัติเลยว่า อ๋อ ไม่ว่างค่ะ ต้องรีบกลับบ้าน จากนั้นก็เลยมาปรึกษาพี่ผู้หญิงที่สนิทคนนึงเพราะสงสัยว่ามันคือเรื่องปกติหรือไม่ปกติที่เจ้าของเค้ามาชวน ถ้าปกติดีเราก็จะได้ไม่แบบทำตัวน่าเกลียดไม่ไปๆๆใส่เค้าไรงี้ รุ่นพี่เค้าก็ตกใจแล้วบอกว่า เออ นายชอบมาจีบเด็กๆในออฟฟิศ แต่ส่วนใหญ่เด็กๆสาวๆ (และไม่สาว) จะยอม เพราะแกเป็นคนคารมดีแล้วแกก็เลี้ยงดีอะไรแบบนั้น จากนั้นรุ่นพี่คนนี้ก็เลยช่วยกันๆให้ โดยมาแจมทุกครั้งที่นายเข้ามาคุยกับเรา พี่เค้าออกทอมๆนิดนึง โผงผางนายเลยจับไม่ได้ว่าตั้งใจกันท่า
แต่ต่อมาวันนึงก็โดนให้ไปดูงานกะนายจนได้ เค้าสั่งเราก้ต้องไป ก็ไปดูงานกัน ดูเสร็จเค้าก็ชวนไปทานข้าวก็ต้องไปอีกเพราะมันช่วงกลางวันพอดี เค้าก็บอกว่าจะพาไป 13 เหรียญ รัชดา แล้วก็โปรโมทใหญ่เลยว่าอาหารอร่อย แพง ดียังงั้นยังงี้ เสร็จแล้วแกก็หาร้านไม่เจอ ขับรถวนๆๆ จนต้องโทรไปถามที่ร้านว่าไปยังไง เราก็บอกว่า ไม่ต้องก็ได้ ทานที่อื่นก็ได้ ไม่ต้องวนหรอก แกก็ยืนยันจะหา เราก็เลยปล่อยไป พอไปถึง สั่งอาหารแกก็แนะนำโน่นนี่ อาหารมาส่งก็จานใหญ่มากแกก็โปรโมทอีก ประมาณว่ามันดีมากเลยนะอะไรแบบนี้ แต่คือแกไม่รู้ว่าปกติเราไปทานอาหารตามร้านอาหารและโรงแรมใหญ่ๆกับที่บ้านประจำอยู่แล้วก็จะไม่ได้ตื่นเต้นอะไร พอเห็นแกโปรโมทเรายังนึกขำในใจว่าสงสัยนึกว่าเราบ้านนอกมาก 55 แล้วพอทานๆอยู่แกก็จะย้ายมานั่งฝั่งเดียวกับเราอ้างว่าจะได้คุยงานไปด้วย เราก็เริ่มระวังตัวละว่าชักเยอะ ก็เลยพูดดีๆไปว่า จะมานั่งข้างเดียวกันทำไมคะ แน่นเปล่าๆ ทานให้เสร็จก่อนก้ได้เดี๋ยวค่อยคุยงาน แกก็เลยยิ้มเหมือนว่าน่าจะโอเค พอทานข้าวเสร็จแกก็ชวนไปชมวิว เราก็ว่า วิวอาร๊ายย ไม่ต้องชมหรอก เข้าออฟฟิศเถอะไปคุยกะพี่อีกคนด้วยเพราะทำงานนี้ด้วยกัน แกก็ยึกๆยักๆ ไปชมวิวก่อนดีกว่า ข้างบนวิวสวยนะ มีระเบียงด้วย เราก็ไม่ค่อยเข้าใจว่าแกเป็นอะไร แต่ก็ยืนยันละว่าไม่ไป คิดในใจว่าดูน่าเกลียดก็ยอมวะ อย่าไปเกรงใจเค้าเลย ไม่ไปดีกว่า ระเบียงดาดฟ้าขึ้นไปทำไมร้อนจะตาย (มารู้ทีหลังจากพี่ชายว่า 13 เหรียญสาขานั้นข้างบนเป็นโรงแรม -_-' มิน่าชวนชมวิวจัง แถมยังพยายามหาร้านอยู่นั่นแหละ สงสัยเปิดห้องไว้แล้ว)
ผ่าน 13 เหรียญมา เราก็เบาใจละเพราะหลังจากนั้นต้องไปแวะฟอร์จูนอีกเพื่อซื้ออุปกรณ์คอมพ์เข้าออฟฟิศ คนพลุกพล่าน คงไม่ชวนชมวิว นั่งข้างๆไรอีกแน่นอน แต่เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น!!!
ระหว่างหาที่จอดรถอยู่ในตึกอยู่นั้น อยู่ๆแกก็ขึ้นไปชั้นบนๆ ทั้งที่ข้างล่างพอมีที่ว่าง พอถามแกก็บอกว่าข้างบนดีกว่า จอดง่าย สะดวกดีอะไรแบบนั้น พอมาถึงชั้นบนค่อนข้างโล่งแต่ก็สว่างมากนะ อยู่ๆแกก็จอดรถแล้วก็พุ่งตัวเข้ามาหาเรา (ในรถ)!!!
เราก็: เฮ้ยยยย!! ทำอะไรน่ะ
นาย: น่ารักจัง ขอหอมแก้มหน่อยสิ
เรา: ไม่เอา+ บ้าป่ะเนี่ย (เสียงดัง วีน เหวี่ยงมาก ลืมตัวด่าเจ้านายด้วยความตกใจ)
นาย: นิดเดียวเอง นะๆ ทีเดียวๆ ชอบนะ บลาๆๆๆ
ตอนนั้นโครตช็อคเลยอ่ะค่ะ คือเข้าใจคำว่า "หมดความนับถือเลย" ไม่คิดว่าจะห่ามขนาดนี้ พอเราโวยวายดังแกก็ยังพูดดีอยู่โอ้โลมไรงี้ เราถอยไปติดประตูเลยงัดมาตรการสุดท้ายที่นึกขึ้นมาได้ ก็บอกว่า อย่านะ..ไม่งั้นจะฟ้องเมียแน่ๆ เราสนิทกับพี่... (ชื่อแฟนเค้า) นายก็รู้นะ พอได้ยินแบบนั้นแกเลยหยุด บอกโอเคๆ ไม่ก้ไม่ เราก็ยังโวยต่ออีกนิดว่า แล้วอย่าทำแบบนี้อีกนะ! ไม่ชอบ แล้วแกก็เลยปล่อยเราลงรถไปซื้อของคนเดียวแล้วให้นั่งแทกซี่กลับออฟฟิศ
จากนั้นซักอาทิตย์นึงเราก็ยื่นใบลาออกเลย เมียแกก็มาถามนึกว่ามีปัญหาเรื่องเงินเดือนอะไรแบบนี้รึป่าวจะขึ้นเงินเดือนให้ เราก็ปฏิเสธไป จนสุดท้ายแกก็เรียกเราไปถามแล้วบอกว่าเพราะเรื่องนั้นรึเปล่า นายก็ไม่ยุ่งแล้วไง รู้แล้วว่าไม่ชอบก็จะไม่ยุ่งแล้ว ไม่ต้องลาออกหรอก แต่เราก็ยืนยันไปว่าจะออก แล้วก็บอกว่าเราไม่ได้ออกเพราะโกรธแกนะ แล้วก็รู้แล้วว่าจากนั้นแกก็ไม่มายุ่งกะเราแล้ว แต่เพราะเรานับถือแกมาก เรื่องนั้นมันทำให้เราหมดความนับถือแกไป เราก็เลยไม่อยากทำงานที่นี่แล้วแค่นั้น แกก็เลยพูดว่า แกขอโทษ แกเสียใจ แล้วก็ไม่พูดอะไรต่อ เราก็เดินนางงามออกมา
เรื่องก็เอวังอย่างแคล้วคลาดไป
สุดท้ายที่เอามาเล่าก็อยากฝากเตือนน้องๆสาวๆ เด็กๆ เจอเคสแบบนี้อย่าชะล่าใจนะคะ งานหายากก็จริง แต่ก็ไม่ควรเสี่ยง คนเป็นนายยังไงก้เหนือกว่าเรา ถ้าเค้ายังเป็นนายเราอยู่เค้าย่อมมีสิทธิ์สั่งให้เราไปไหนมาไหนกับเค้าได้ โดยบอกว่าเป็นเรื่องงาน ยังไงเราก็ไม่สามารถปฏิเสธเค้าได้ตลอดอยู่แล้ว และอย่าลืม มีสติเท่านั้น จะทำให้เรารอดพ้นเรื่องร้ายๆได้ค่ะ คราวนั้นที่รอดมาได้ก็เพราะมีสติ ดวงดี และนายยังพอเป็นคนมีมโนธรรมอยู่บ้าง ไม่ทำถ้าอีกฝ่ายไม่ยินยอม (อาจกลัวโดนฟ้องก็เป็นได้) ถ้าแกเป็นคนที่พร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ เราก็คงไม่รอดเหมือนกัน เพราะเด็กยังไงก็ไม่มีวันชนะผุ้ใหญ่ได้จริงๆค่ะ
เรื่องนี้เกิดนานมาแล้วก็จริงแต่เราก็คิดว่า ในสังคมเราทุกวันนี้ก็ยังคงมีเรื่องนี้อยู่แน่นอน
ขอให้น้องทุกคนระมัดระวังตัวกันนะคะ พบสิ่งดีๆ เจอคนดีๆ มีอนาคตสดใสค่ะ
ขอ TAG ชีวิตวัยรุ่นด้วยนะคะ เผื่อน้องๆจะได้อ่านกัน
ขอบคุณค่ะ