เกริ่นนำก่อนว่า เราเพิ่งโดนแฟนบอกเลิกไปค่ะ
ส่วนสาเหตุที่เลิกกัน สรุปง่ายๆ คือแฟนเค้ากลับไปหาคนเก่าของเค้า
เอาแค่นั้นแล้วกันนะ ถ้ารายละเอียดเดี๋ยวมันจะดราม่ามากไป
พูดถึงเรื่องเสียใจร้องไห้อะไรต่างๆนานา มันก็ต้องมีกันบ้างอยู่แล้ว
เราผ่านจุดที่สติแตก ร้องไห้ ขับรถไปเรื่อยเปื่อย นอนไม่หลับ...
สารพัดมาแล้ว จนมาถึงจุดนึงที่เราจะคิดได้เองว่า..
"พอเถอะ พอได้แล้วมั้ง"
ต้องบอกก่อนว่าส่วนหนึ่งที่ทำให้ทำใจได้ค่อนข้างเร็ว
เพราะว่าเราเป็นคนมองในแง่บวกเสมอ ไม่ค่อยโกรธใคร
และเรารู้สึกได้ถึงความห่างระหว่างกันก็เตรียมใจเอาไว้เนิ่นๆ
อีกอย่างเค้าบล๊อคทุกช่องทางการสื่อสารที่จะติดต่อกันได้
ทั้ง Facebook line มันก็ทำให้ไม่ต้องเห็นกันอีก
-เริ่มจากสิ่งใกล้ตัว-
เราเป็นคนติดโทรศัพท์มาก ของใกล้ตัวก็คือโทรศัพท์นี่แหละ
ก็เริ่มจากของใกล้ๆ เปิดดูทีไรก็ช้ำ นั่งลบค่ะ ลบมันให้หมด
เราลบๆๆ ไม่รู้กี่ร้อยรูปที่เป็นความทรงจำระหว่างกัน
จากโทรศัพท์เรา ก็ลบลามไปถึงในโซเชี่ยลต่างๆของเรา
ในคอม ในทุกๆที่ เราตามลบจนหมด
-ต่อด้วยสิ่งรอบข้าง-
จำได้ว่าครั้งสุดท้ายที่คุยกันคือ เค้าบอกว่าจะโอนตัง
ที่ติดเราไว้มาคืน(จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้) และเค้าบอกว่า
ของๆเค้าที่อยู่ที่ห้องเรา ให้เราทิ้งไปเลยก็ได้ไม่ต้องเอาไปคืน
เราก็จัดให้ค่ะ กวาดของทุกอย่างทิ้งหมด ตั้งแต่ของใช้ แปรงสีฟัน
จนไปถึงเสื้อผ้า แว่นตา รองเท้า เราเอาไปทิ้งหมด
ทิ้งไวมากจริงๆ เก็บทั้งในห้องในรถ หมดสิ้น
-เริ่มหัดทำอะไรด้วยตัวเอง-
เมื่อไม่มีใครแล้วอะไรๆ ก็ต้องทำให้ได้ด้วยตัวเอง
คือบางคนอาจจะคิดว่ามันเป็นแค่เรื่องง่ายๆ
ทำไมบางเรื่องเราทำเองไม่ได้รึไง?
เพราะแต่ก่อนมีความเคยชินไง ทำอะไรด้วยกันตลอด
เริ่มจากเราหัดไปไหนมาไหนคนเดียวก่อน
เราขับรถไม่ค่อยเก่ง แถมจอดรถไม่เป็นอีกต่างหาก
แต่ก่อนไปห้าง หรือว่าไปไหน เค้าจะเป็นคนจอดรถให้เรา
แต่มาตอนนี้ เราดีใจนะ เราจอดรถเองได้แล้ว
ถึงจะช้า หรือ จอดไม่สวย แต่มันก็ได้ทำเอง
มีเฉี่ยวฟุตบาทไปบ้างก็ไม่เป็นไร มันคือประสบการณ์
เราขับรถไปซื้อเครื่องปริ๊นเอง อันนี้ครั้งแรก
แบกเครื่องปริ๊น 7กิโล ขึ้นห้อง 3 ชั้น
ชิวๆมาก เราถึก 55555
ต่อมา เราอยากได้ชั้นหนังสือค่ะ ก็ขับรถไปโลตัส
จอดรถเองอีกตามเคย คราวนี้ยากหน่อยเพราะ
ชั้นหนังสือหนัก 19 กิโล ขึ้นหอ 3 ชั้นเหมือนเดิม
อันนี้แทบตายค่ะ มือไม้ช้ำบางได้แผลบ้างเหมือนกัน
แบกขึ้นมาได้ ก็มานั่งประกอบๆไปตามแบบค่ะ
สำเร็จเหมือนกัน
-ห้องใหม่ชีวิตใหม่-
เป็นโชคดีอย่างนึงที่เราย้ายหอใหม่พอดี ตอนก่อนเลิกกัน
ก็เหมือนเป็นโอกาสดีๆให้เราได้เริ่มสิ่งใหม่ๆ ถึงของใช้
บางอย่างที่มันอาจจะทำให้นึกถึงเค้า เสื้อตัวเดิม
หมอนใบเดิม ผ้าห่มผืนเดิม เราไม่ได้เก็บมันไปให้พ้นตานะ
เราทนอยู่กับสิ่งเดิมๆได้ เพราะสิ่งที่กำลังจะเปลี่ยนไปคือ
ความรู้สึกของตัวเราเอง

เริ่มง่ายๆ แค่จัดห้องใหม่ ทำมันให้ดี ทำไปทำมายุ่งๆ
เข้าไว้ มันก็ทำให้เราไม่คิดถึงเค้าได้เหมือนกัน
ชั้นหนังสือใหม่ค่ะ ที่ไปซื้อมาก็จัดเรียบร้อย
ต่อด้วยจัดเตียงซะบ้าง ให้ดูเข้าที
หลังจากนี้ต้องนอนคนเดียว แต่ก็โอเค
-ความรับผิดชอบในสิ่งที่สร้าง-
เราว่าหลายคนพอตอนคบกับแฟน
อาจจะมีเลี้ยงสัตว์ด้วยกันสักชนิด
เราก็มีค่ะ เราเลี้ยงแมว จริงๆก็เป็นแมวเรานี่แหละ
แต่ผลัดกันเลี้ยงเวลาเราไม่อยู่หลายๆวัน
บางคนยิ่งเห็นยิ่งเจ็บ เอาแมวไปทิ้งไปปล่อย
ยกให้คนอื่น พูดเลยว่าอย่าทำนะคะ
น้องแมวไม่เกี่ยว ไม่รู้เรื่องไรด้วย
ยังไงเราก็ต้องรับผิดชอบ เลี้ยงต่อไปให่ได้
แมวอยู่กับเรา เป็นกำลังใจให้เราด้วยซ้ำ
ลูกชายสุดที่รัก หน้าเหวี่ยง
-โฟกัสกับหน้าที่ของตัวเอง-
ยอมรับเลยว่า ช่วงเลิกกันแรกๆ ดราม่าประสาทเสียมาก
ตอนนี้เราเรียน ป.โท อยู่ ตอนแรกแทบอยากจะเลิก
เรียนเลยด้วยซ้ำ กำลังใจหายไปหมด
แต่ในทางกลับกัน มันทำให้คิดได้ว่าสิ่งที่
สำคัญมากที่สุดก็คืออนาคตของเรา
เริ่มใหม่ก็ต้องทำอนาคตให้ให้ดี
เรากลับมามีกำลังใจเรียนอีกครั้ง (แต่ความขยันเท่าเดิม 5555)
กลับมายิ้มแย้ม เฮฮา มีแรงนั่งเขียนวิจัย
เลิกร้องไห้ วิจัยดูน่าจะเครียดกว่าเยอะ
มีผู้ช่วย (ป่วน) วิจัยด้วย
-เวลาว่างอย่าฟุ้งซ่าน-
ความเหงาเข้ามาเสมอ เมื่อต้องอยู่คนเดียว
เราพยายามหาอะไรทำให้ว่างน้อยที่สุด
เล่นกับแมว อ่านหนังสือ แก้วิจัย
ดูหนัง ฟังเพลง สังสรรค์บ้าง
ช่วยได้เยอะเลยค่ะ
สุดท้ายนี้ เราก็ยังใช้ชีวิตของเราตามปกติ แค่ไม่มีเค้าอีกแล้ว
ตอนนี้ก็ยังไม่ 100% หรอกค่ะ ที่จะทำใจได้สนิท
แต่ก็ดีขึ้นกว่าเดิมเยอะมาก มีนึกถึงบ้าง
แต่มันก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี
ต่อจากนี้ "เราทำชีวิตของเราให้ดี ดีกว่านะ"
เราเป็นกำลังใจให้ทุกคนนะ
เดี๋ยวเรื่องร้ายมันก็จะกลายเป็นแค่ประสบการณ์
มองหาความสุขในความทุกข์ที่เผชิญ
แล้วก้าวข้ามผ่านมันไป
"เราจะยืนเคียงข้างกันนะ"
ชีวิตของเราหลังเลิกกับแฟน มันเป็นแบบนี้นี่เอง..
ส่วนสาเหตุที่เลิกกัน สรุปง่ายๆ คือแฟนเค้ากลับไปหาคนเก่าของเค้า
เอาแค่นั้นแล้วกันนะ ถ้ารายละเอียดเดี๋ยวมันจะดราม่ามากไป
พูดถึงเรื่องเสียใจร้องไห้อะไรต่างๆนานา มันก็ต้องมีกันบ้างอยู่แล้ว
เราผ่านจุดที่สติแตก ร้องไห้ ขับรถไปเรื่อยเปื่อย นอนไม่หลับ...
สารพัดมาแล้ว จนมาถึงจุดนึงที่เราจะคิดได้เองว่า..
"พอเถอะ พอได้แล้วมั้ง"
ต้องบอกก่อนว่าส่วนหนึ่งที่ทำให้ทำใจได้ค่อนข้างเร็ว
เพราะว่าเราเป็นคนมองในแง่บวกเสมอ ไม่ค่อยโกรธใคร
และเรารู้สึกได้ถึงความห่างระหว่างกันก็เตรียมใจเอาไว้เนิ่นๆ
อีกอย่างเค้าบล๊อคทุกช่องทางการสื่อสารที่จะติดต่อกันได้
ทั้ง Facebook line มันก็ทำให้ไม่ต้องเห็นกันอีก
-เริ่มจากสิ่งใกล้ตัว-
เราเป็นคนติดโทรศัพท์มาก ของใกล้ตัวก็คือโทรศัพท์นี่แหละ
ก็เริ่มจากของใกล้ๆ เปิดดูทีไรก็ช้ำ นั่งลบค่ะ ลบมันให้หมด
เราลบๆๆ ไม่รู้กี่ร้อยรูปที่เป็นความทรงจำระหว่างกัน
จากโทรศัพท์เรา ก็ลบลามไปถึงในโซเชี่ยลต่างๆของเรา
ในคอม ในทุกๆที่ เราตามลบจนหมด
-ต่อด้วยสิ่งรอบข้าง-
จำได้ว่าครั้งสุดท้ายที่คุยกันคือ เค้าบอกว่าจะโอนตัง
ที่ติดเราไว้มาคืน(จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้) และเค้าบอกว่า
ของๆเค้าที่อยู่ที่ห้องเรา ให้เราทิ้งไปเลยก็ได้ไม่ต้องเอาไปคืน
เราก็จัดให้ค่ะ กวาดของทุกอย่างทิ้งหมด ตั้งแต่ของใช้ แปรงสีฟัน
จนไปถึงเสื้อผ้า แว่นตา รองเท้า เราเอาไปทิ้งหมด
ทิ้งไวมากจริงๆ เก็บทั้งในห้องในรถ หมดสิ้น
-เริ่มหัดทำอะไรด้วยตัวเอง-
เมื่อไม่มีใครแล้วอะไรๆ ก็ต้องทำให้ได้ด้วยตัวเอง
คือบางคนอาจจะคิดว่ามันเป็นแค่เรื่องง่ายๆ
ทำไมบางเรื่องเราทำเองไม่ได้รึไง?
เพราะแต่ก่อนมีความเคยชินไง ทำอะไรด้วยกันตลอด
เริ่มจากเราหัดไปไหนมาไหนคนเดียวก่อน
เราขับรถไม่ค่อยเก่ง แถมจอดรถไม่เป็นอีกต่างหาก
แต่ก่อนไปห้าง หรือว่าไปไหน เค้าจะเป็นคนจอดรถให้เรา
แต่มาตอนนี้ เราดีใจนะ เราจอดรถเองได้แล้ว
ถึงจะช้า หรือ จอดไม่สวย แต่มันก็ได้ทำเอง
มีเฉี่ยวฟุตบาทไปบ้างก็ไม่เป็นไร มันคือประสบการณ์
เราขับรถไปซื้อเครื่องปริ๊นเอง อันนี้ครั้งแรก
แบกเครื่องปริ๊น 7กิโล ขึ้นห้อง 3 ชั้น
ชิวๆมาก เราถึก 55555
ต่อมา เราอยากได้ชั้นหนังสือค่ะ ก็ขับรถไปโลตัส
จอดรถเองอีกตามเคย คราวนี้ยากหน่อยเพราะ
ชั้นหนังสือหนัก 19 กิโล ขึ้นหอ 3 ชั้นเหมือนเดิม
อันนี้แทบตายค่ะ มือไม้ช้ำบางได้แผลบ้างเหมือนกัน
แบกขึ้นมาได้ ก็มานั่งประกอบๆไปตามแบบค่ะ
สำเร็จเหมือนกัน
-ห้องใหม่ชีวิตใหม่-
เป็นโชคดีอย่างนึงที่เราย้ายหอใหม่พอดี ตอนก่อนเลิกกัน
ก็เหมือนเป็นโอกาสดีๆให้เราได้เริ่มสิ่งใหม่ๆ ถึงของใช้
บางอย่างที่มันอาจจะทำให้นึกถึงเค้า เสื้อตัวเดิม
หมอนใบเดิม ผ้าห่มผืนเดิม เราไม่ได้เก็บมันไปให้พ้นตานะ
เราทนอยู่กับสิ่งเดิมๆได้ เพราะสิ่งที่กำลังจะเปลี่ยนไปคือ
ความรู้สึกของตัวเราเอง
เริ่มง่ายๆ แค่จัดห้องใหม่ ทำมันให้ดี ทำไปทำมายุ่งๆ
เข้าไว้ มันก็ทำให้เราไม่คิดถึงเค้าได้เหมือนกัน
ชั้นหนังสือใหม่ค่ะ ที่ไปซื้อมาก็จัดเรียบร้อย
ต่อด้วยจัดเตียงซะบ้าง ให้ดูเข้าที
หลังจากนี้ต้องนอนคนเดียว แต่ก็โอเค
-ความรับผิดชอบในสิ่งที่สร้าง-
เราว่าหลายคนพอตอนคบกับแฟน
อาจจะมีเลี้ยงสัตว์ด้วยกันสักชนิด
เราก็มีค่ะ เราเลี้ยงแมว จริงๆก็เป็นแมวเรานี่แหละ
แต่ผลัดกันเลี้ยงเวลาเราไม่อยู่หลายๆวัน
บางคนยิ่งเห็นยิ่งเจ็บ เอาแมวไปทิ้งไปปล่อย
ยกให้คนอื่น พูดเลยว่าอย่าทำนะคะ
น้องแมวไม่เกี่ยว ไม่รู้เรื่องไรด้วย
ยังไงเราก็ต้องรับผิดชอบ เลี้ยงต่อไปให่ได้
แมวอยู่กับเรา เป็นกำลังใจให้เราด้วยซ้ำ
ลูกชายสุดที่รัก หน้าเหวี่ยง
-โฟกัสกับหน้าที่ของตัวเอง-
ยอมรับเลยว่า ช่วงเลิกกันแรกๆ ดราม่าประสาทเสียมาก
ตอนนี้เราเรียน ป.โท อยู่ ตอนแรกแทบอยากจะเลิก
เรียนเลยด้วยซ้ำ กำลังใจหายไปหมด
แต่ในทางกลับกัน มันทำให้คิดได้ว่าสิ่งที่
สำคัญมากที่สุดก็คืออนาคตของเรา
เริ่มใหม่ก็ต้องทำอนาคตให้ให้ดี
เรากลับมามีกำลังใจเรียนอีกครั้ง (แต่ความขยันเท่าเดิม 5555)
กลับมายิ้มแย้ม เฮฮา มีแรงนั่งเขียนวิจัย
เลิกร้องไห้ วิจัยดูน่าจะเครียดกว่าเยอะ
มีผู้ช่วย (ป่วน) วิจัยด้วย
-เวลาว่างอย่าฟุ้งซ่าน-
ความเหงาเข้ามาเสมอ เมื่อต้องอยู่คนเดียว
เราพยายามหาอะไรทำให้ว่างน้อยที่สุด
เล่นกับแมว อ่านหนังสือ แก้วิจัย
ดูหนัง ฟังเพลง สังสรรค์บ้าง
ช่วยได้เยอะเลยค่ะ
สุดท้ายนี้ เราก็ยังใช้ชีวิตของเราตามปกติ แค่ไม่มีเค้าอีกแล้ว
ตอนนี้ก็ยังไม่ 100% หรอกค่ะ ที่จะทำใจได้สนิท
แต่ก็ดีขึ้นกว่าเดิมเยอะมาก มีนึกถึงบ้าง
แต่มันก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี
ต่อจากนี้ "เราทำชีวิตของเราให้ดี ดีกว่านะ"
เราเป็นกำลังใจให้ทุกคนนะ
เดี๋ยวเรื่องร้ายมันก็จะกลายเป็นแค่ประสบการณ์
มองหาความสุขในความทุกข์ที่เผชิญ
แล้วก้าวข้ามผ่านมันไป
"เราจะยืนเคียงข้างกันนะ"