ตอนที่ 6 ยัยตัวร้าย
“ทำยังไงเธอถึงจะเลิกจองเวรจองกรรมชั้นสักทีฮะ แต่งงานพี่ก็ยอมแต่งให้แล้ว วิวจะ
เอาอะไรจากพี่อีก” ฑัตที่ข่มอารมณ์ไม่ไหวแล้ว ถึงกับหันมาคว้าแขนของวิวบีบอย่างแรงจน
วิวถึงกับทำกระเป๋าถือหลุดมือ หล่นลงพื้นเสียงดังโครมคราม
“พี่ฑัต ปล่อยนะ วิวเจ็บ” วิวร้องขึ้นเพราะเธอรู้สึกเจ็บที่แขน
“เธอก็บอกมาก่อนสิว่าเธอจะเลิกมายุ่งกับชั้นสักที” ฑัตบีบแขนของวิวแรงขึ้นอีกอย่าง
โมโห แต่ไม่ทันไรเขาก็ถูกวิวเตะกระเป๋าลากที่วางอยู่ข้างตัวเธอให้ล้มใส่หน้าแข้งและเท้า
ของเขาเข้าอย่างจัง ทำให้ฑัตเจ็บมากจนถึงกับต้องปล่อยแขนเธอออกอย่างอัตโนมัติแถมยัง
ร้องเสียงดังลั่น
“โอ๊ย เจ็บ ๆๆๆๆๆ”
วิวที่ได้จังหวะตอนที่พี่ฑัตกำลังกระโดดเหย็ง ๆ เพราะเจ็บเท้าที่ถูกกระเป๋าของเธอล้มใส่นั้น
ก็รีบหยิบและลากกระเป๋าทั้ง 2 ใบของเธอและเดินหนีพี่ฑัตเข้าไปในตัวบ้านทันที
วิวเดินไปนั่งพักอยู่ที่โซฟาในห้องรับแขกเพราะเธอตากแดดจนรู้สึกร้อนมาก ๆ อยู่เป็นเวลา
นาน สักครู่หนึ่งฑัตก็รีบเดินกระโพลกกระเพลกตามเข้าบ้านมา
“เธอไม่มีสิทธิ์อยู่ในบ้านหลังนี้ ชั้นเป็นเจ้าบ้าน ชั้นไม่อนุญาต” ฑัตรีบตามมาพูดใส่หน้าวิว
“วิวไม่สนพี่หรอกค่ะ พี่จะพูดอะไรก็พูดไปเถอะ งั้นวิวขอตัวขึ้นไปดูห้องนอนข้างบนก่อนนะคะ”
วิวพูดเสร็จเธอก็ลุกขึ้นลากกระเป๋า 2 ใบผ่านหน้าฑัตที่กำลังอึ้งอยู่ไปทันที
“เธอ ชั้นบอกว่าไม่ให้อยู่ไง พูดภาษาคนไม่รู้เรื่องรึไง” ฑัตรีบเดินตามวิวไปเกาะที่บันได
ด้านล่างสุดหลังจากที่วิวเริ่มเดินขึ้นบันไดไปได้ 4-5 ขั้นแล้ว
“วิวแนะนำตรง ๆ เลยนะคะ ว่าอย่าเดินตามขึ้นมาจะดีกว่า เพราะกระเป๋าวิวมัน หนั้ก หนัก
วิวกลัวว่าจะเผลอทำหลุดมืออีกรอบน่ะค่ะ” วิวหันมาจีบปากจีบคอพูดอย่างน่าหมั่นไส้
“นี่ เธอ” ฑัตที่ยังแอบรู้สึกเข็ดที่โดนกระเป๋าใบยักษ์ทับเท้าไปเมื่อสักครู่นี้ เลยรีบถอยตัว
ออกมาจากที่ตีนบันไดอย่างรวดเร็วเนื่องจากฑัตกลัวว่าวิวจะแกล้งปล่อยกระเป๋าตกบันไดลง
มาทับจนเขาอาจจะต้องบาดเจ็บมากกว่าเมื่อสักครู่นี้ได้
หลังจากที่ฑัตเริ่มรู้สึกว่าตัวเองเหนื่อยจากงานแต่งงานที่ผ่านมายังไม่ทันหาย เขาก็แอบ
รู้สึกเหนื่อยมากขึ้นไปอีกที่ต้องมานั่งเถียงกับวิวและยังแอบรู้สึกเข็ดที่ต้องเจ็บตัวเมื่อสักครู่นี้อยู่
ฑัตจึงเริ่มคิดได้ว่า
/เราควรจะเอาเวลาและพลังงานมาวางแผนหาทางไล่วิวออกจากบ้านแบบไม่ให้เธอย้อน
กลับมาได้อีกดีกว่าที่จะมานั่งทะเลาะไร้สาระกับเธออยู่แบบนี้ เพราะดูท่าว่าคราวนี้วิวคงตั้งใจ
จะมาป่วนเราอย่างจริงจัง สู้เราปล่อยให้วิวอยู่ไปก่อนสักพักแล้วรอดูท่าทีว่าวิวจะทำอะไรเราบ้าง
กับคอยป่วนเธอกลับ มันน่าจะเป็นวิธีการกำจัดเธอออกจากชีวิตของเราได้แบบถาวรมากกว่า
แล้วก็เอาสิ ถ้าเธอคิดว่าเธอจะชนะชั้น ชั้นว่าเธอคงคิดผิดซะแล้วหล่ะ เกนวิกา/ ฑัตคิดในใจ
ขณะที่เขามองตามขึ้นไปยังชั้น 2 ที่วิวหายขึ้นไป
ส่วนวิวที่ลากกระเป๋าเดินทางขึ้นมาคนเดียวก็รู้สึกเหนื่อยจนลิ้นห้อย เธอรู้สึกเบาใจขึ้นที่
พี่ฑัตไม่ได้ตามเธอขึ้นมาบนนี้ วิวจึงเริ่มกองกระเป๋าทิ้งไว้ก่อนจะเริ่มเดินสำรวจห้องบนบ้าน
ห้องแรกที่เธอเดินเข้าไปก็คือห้องนอนแขกพอดี วิวเห็นห้องนี้แล้วก็รู้สึกดีใจที่เธอจะมีห้องนอน
แล้ว เธอจึงรีบเดินออกไปลากกระเป๋าเข้ามาในห้องนี้ ก่อนที่จะเดินไปสำรวจห้องอื่น ๆ ได้แก่
ห้องอาบน้ำที่อยู่ในห้องเดียวกับห้องส้วม และต่อมาก็เป็นห้องนอนของพี่ฑัต ซึ่งเธอก็เห็นว่า
มันเรียบร้อยดีแถมยังมีห้องน้ำห้องส้วมห้องเล็ก ๆ ในตัวอีกด้วย แต่แล้วสายตาของเธอก็สะดุด
เข้ากับกรอบรูปของหญิงสาวแสนสวยคนหนึ่งที่ตั้งอยู่ตรงหัวเตียง เธอจึงเดินเข้าไปพิจดูใกล้ ๆ
/สวยจังเลย ใครกันนะ/ วิวคิดในใจขณะที่กำลังยืนมองไปยังรูปนั้น แต่แล้ววิวก็ถึงกับสะดุ้ง
สุดตัว ทันทีที่เสียงของคน ๆ หนึ่งดังขึ้นจากที่ตรงหน้าประตู
“เธอเข้ามาทำอะไรในห้องนอนของชั้น” พี่ฑัตถามออกมาด้วยเสียงอันดังอย่างไม่พอใจ
“แหม สามีขา ทำไมภรรยาจะเข้ามาในห้องของสามีไม่ได้ล่ะคะ” วิวเริ่มกวนประสาทพี่ฑัต
ต่อหลังจากเริ่มหายเหนื่อยไปบ้างแล้ว
“รู้สึกเหมือนว่าเธออยากจะได้พี่เป็นสามีเหลือเกินนะ เห็นขยันเรียกจังเลย” พี่ฑัตเริ่มเดิน
เข้ามาในห้อง
วิวที่เห็นแบบนั้นก็ไม่ได้ก้าวหนีแต่อย่างใด แต่เธอกลับดึงสเปรย์พริกไทยอันเมื่อคืนออกมา
จากกระเป๋ากางเกงยีนส์ที่ใส่อยู่ จนทำให้พี่ฑัตที่กำลังสาวเท้าเข้ามาใกล้ ถึงกับชะงักกึกไปทันที
เมื่อเห็นไอ้เจ้ากระป๋องสเปรย์อันนี้เข้า
“แหม สามีขา เมื่อคืนที่เข้าหอไป คงจะติดใจมากสินะคะ อยากจะโดนอีกสักรอบมั้ยละคะ”
วิวถึงกับยิ้มขึ้นมาอย่างสะใจ
“เธอนี่มัน” ฑัตรู้สึกโมโหวิวมากจนพูดอะไรไม่ออก แต่พอนึกถึงประสบการณ์เมื่อคืนที่ผ่านมา
เขาก็อดรู้สึกสยองเพราะกลัวการแสบตาแบบที่รู้สึกประหนึ่งว่าตาของเขาเองเกือบจะบอดไปแล้วจริง ๆ
ขึ้นมาไม่ได้เพราะนับจากตอนนั้นจนถึงตอนนี้มันก็ผ่านมาแค่ไม่กี่ชั่วโมง ยังไม่ทันข้ามวันเลยด้วยซ้ำ
ทำให้เขายังคงจำความรู้สึกแสบเคืองตาแบบเมื่อคืนที่ผ่านมาได้อยู่อย่างชัดเจน
“อย่าคิดจะรังแกกันนะคะ วิวเตือนไว้ก่อน เพราะคราวหน้าพี่อาจจะโดนหนักกว่าที่โดนไป
เมื่อคืนนี้ก็ได้ค่ะ” วิวพูดจบก็เดินมากระแทกไหล่ของพี่ฑัตแล้วก็เดินออกจากห้องนอนของเขามา
ก่อนที่จะรีบเดินเข้าไปทางห้องนอนแขกที่อยู่ห่างออกไปเล็กน้อย เมื่อเปิดประตูเข้าไปได้แล้วเธอ
ก็โผล่หัวมายิ้มเยาะใส่พี่ฑัตอีกรอบก่อนที่จะผลุบหายเข้าห้องไปและเขาก็ได้ยินเสียงปิดประตู
ตามหลังทันที
/โอ๊ย แค้น โว้ย เพราะไอ้เสปรย์พริกไทยบ้านั่นแท้ ๆ ยัยตัวร้ายถึงมาลูบคมเขาได้มากขนาดนี้/
ฑัตรู้สึกโมโหจนแทบกระอักที่เขาโดนยัยวิวคอยตามราวีไม่เลิกไม่ราขนาดนี้ แถมวันนี้ยังโดน
เธอตามเข้ามาเล่นงานถึงที่บ้านอีก แต่เขาก็รู้ตัวดีว่าตอนนี้เขาคงยังคงโต้ตอบอะไรเธอไม่ได้
เพราะวิวมีอาวุธป้องกันตัวที่ร้ายกาจอยู่ไม่เบา ฑัตจึงได้แต่ยืนหัวฟัดหัวเหวี่ยงกับตัวเองอย่าง
รู้สึกขัดอกขัดใจที่ยัยตัวแสบพูดจาเยาะเย้ยถากถางเขาเสร็จก็กลับเดินหนีเข้าห้องนอนห้องข้าง ๆ
ไปได้แบบชิว ๆ แถมยังมีการมากวนประสาทเขาทิ้งท้ายอีกต่างหาก
กลใจในรอยแค้น ตอนที่ 6
“ทำยังไงเธอถึงจะเลิกจองเวรจองกรรมชั้นสักทีฮะ แต่งงานพี่ก็ยอมแต่งให้แล้ว วิวจะ
เอาอะไรจากพี่อีก” ฑัตที่ข่มอารมณ์ไม่ไหวแล้ว ถึงกับหันมาคว้าแขนของวิวบีบอย่างแรงจน
วิวถึงกับทำกระเป๋าถือหลุดมือ หล่นลงพื้นเสียงดังโครมคราม
“พี่ฑัต ปล่อยนะ วิวเจ็บ” วิวร้องขึ้นเพราะเธอรู้สึกเจ็บที่แขน
“เธอก็บอกมาก่อนสิว่าเธอจะเลิกมายุ่งกับชั้นสักที” ฑัตบีบแขนของวิวแรงขึ้นอีกอย่าง
โมโห แต่ไม่ทันไรเขาก็ถูกวิวเตะกระเป๋าลากที่วางอยู่ข้างตัวเธอให้ล้มใส่หน้าแข้งและเท้า
ของเขาเข้าอย่างจัง ทำให้ฑัตเจ็บมากจนถึงกับต้องปล่อยแขนเธอออกอย่างอัตโนมัติแถมยัง
ร้องเสียงดังลั่น
“โอ๊ย เจ็บ ๆๆๆๆๆ”
วิวที่ได้จังหวะตอนที่พี่ฑัตกำลังกระโดดเหย็ง ๆ เพราะเจ็บเท้าที่ถูกกระเป๋าของเธอล้มใส่นั้น
ก็รีบหยิบและลากกระเป๋าทั้ง 2 ใบของเธอและเดินหนีพี่ฑัตเข้าไปในตัวบ้านทันที
วิวเดินไปนั่งพักอยู่ที่โซฟาในห้องรับแขกเพราะเธอตากแดดจนรู้สึกร้อนมาก ๆ อยู่เป็นเวลา
นาน สักครู่หนึ่งฑัตก็รีบเดินกระโพลกกระเพลกตามเข้าบ้านมา
“เธอไม่มีสิทธิ์อยู่ในบ้านหลังนี้ ชั้นเป็นเจ้าบ้าน ชั้นไม่อนุญาต” ฑัตรีบตามมาพูดใส่หน้าวิว
“วิวไม่สนพี่หรอกค่ะ พี่จะพูดอะไรก็พูดไปเถอะ งั้นวิวขอตัวขึ้นไปดูห้องนอนข้างบนก่อนนะคะ”
วิวพูดเสร็จเธอก็ลุกขึ้นลากกระเป๋า 2 ใบผ่านหน้าฑัตที่กำลังอึ้งอยู่ไปทันที
“เธอ ชั้นบอกว่าไม่ให้อยู่ไง พูดภาษาคนไม่รู้เรื่องรึไง” ฑัตรีบเดินตามวิวไปเกาะที่บันได
ด้านล่างสุดหลังจากที่วิวเริ่มเดินขึ้นบันไดไปได้ 4-5 ขั้นแล้ว
“วิวแนะนำตรง ๆ เลยนะคะ ว่าอย่าเดินตามขึ้นมาจะดีกว่า เพราะกระเป๋าวิวมัน หนั้ก หนัก
วิวกลัวว่าจะเผลอทำหลุดมืออีกรอบน่ะค่ะ” วิวหันมาจีบปากจีบคอพูดอย่างน่าหมั่นไส้
“นี่ เธอ” ฑัตที่ยังแอบรู้สึกเข็ดที่โดนกระเป๋าใบยักษ์ทับเท้าไปเมื่อสักครู่นี้ เลยรีบถอยตัว
ออกมาจากที่ตีนบันไดอย่างรวดเร็วเนื่องจากฑัตกลัวว่าวิวจะแกล้งปล่อยกระเป๋าตกบันไดลง
มาทับจนเขาอาจจะต้องบาดเจ็บมากกว่าเมื่อสักครู่นี้ได้
หลังจากที่ฑัตเริ่มรู้สึกว่าตัวเองเหนื่อยจากงานแต่งงานที่ผ่านมายังไม่ทันหาย เขาก็แอบ
รู้สึกเหนื่อยมากขึ้นไปอีกที่ต้องมานั่งเถียงกับวิวและยังแอบรู้สึกเข็ดที่ต้องเจ็บตัวเมื่อสักครู่นี้อยู่
ฑัตจึงเริ่มคิดได้ว่า
/เราควรจะเอาเวลาและพลังงานมาวางแผนหาทางไล่วิวออกจากบ้านแบบไม่ให้เธอย้อน
กลับมาได้อีกดีกว่าที่จะมานั่งทะเลาะไร้สาระกับเธออยู่แบบนี้ เพราะดูท่าว่าคราวนี้วิวคงตั้งใจ
จะมาป่วนเราอย่างจริงจัง สู้เราปล่อยให้วิวอยู่ไปก่อนสักพักแล้วรอดูท่าทีว่าวิวจะทำอะไรเราบ้าง
กับคอยป่วนเธอกลับ มันน่าจะเป็นวิธีการกำจัดเธอออกจากชีวิตของเราได้แบบถาวรมากกว่า
แล้วก็เอาสิ ถ้าเธอคิดว่าเธอจะชนะชั้น ชั้นว่าเธอคงคิดผิดซะแล้วหล่ะ เกนวิกา/ ฑัตคิดในใจ
ขณะที่เขามองตามขึ้นไปยังชั้น 2 ที่วิวหายขึ้นไป
ส่วนวิวที่ลากกระเป๋าเดินทางขึ้นมาคนเดียวก็รู้สึกเหนื่อยจนลิ้นห้อย เธอรู้สึกเบาใจขึ้นที่
พี่ฑัตไม่ได้ตามเธอขึ้นมาบนนี้ วิวจึงเริ่มกองกระเป๋าทิ้งไว้ก่อนจะเริ่มเดินสำรวจห้องบนบ้าน
ห้องแรกที่เธอเดินเข้าไปก็คือห้องนอนแขกพอดี วิวเห็นห้องนี้แล้วก็รู้สึกดีใจที่เธอจะมีห้องนอน
แล้ว เธอจึงรีบเดินออกไปลากกระเป๋าเข้ามาในห้องนี้ ก่อนที่จะเดินไปสำรวจห้องอื่น ๆ ได้แก่
ห้องอาบน้ำที่อยู่ในห้องเดียวกับห้องส้วม และต่อมาก็เป็นห้องนอนของพี่ฑัต ซึ่งเธอก็เห็นว่า
มันเรียบร้อยดีแถมยังมีห้องน้ำห้องส้วมห้องเล็ก ๆ ในตัวอีกด้วย แต่แล้วสายตาของเธอก็สะดุด
เข้ากับกรอบรูปของหญิงสาวแสนสวยคนหนึ่งที่ตั้งอยู่ตรงหัวเตียง เธอจึงเดินเข้าไปพิจดูใกล้ ๆ
/สวยจังเลย ใครกันนะ/ วิวคิดในใจขณะที่กำลังยืนมองไปยังรูปนั้น แต่แล้ววิวก็ถึงกับสะดุ้ง
สุดตัว ทันทีที่เสียงของคน ๆ หนึ่งดังขึ้นจากที่ตรงหน้าประตู
“เธอเข้ามาทำอะไรในห้องนอนของชั้น” พี่ฑัตถามออกมาด้วยเสียงอันดังอย่างไม่พอใจ
“แหม สามีขา ทำไมภรรยาจะเข้ามาในห้องของสามีไม่ได้ล่ะคะ” วิวเริ่มกวนประสาทพี่ฑัต
ต่อหลังจากเริ่มหายเหนื่อยไปบ้างแล้ว
“รู้สึกเหมือนว่าเธออยากจะได้พี่เป็นสามีเหลือเกินนะ เห็นขยันเรียกจังเลย” พี่ฑัตเริ่มเดิน
เข้ามาในห้อง
วิวที่เห็นแบบนั้นก็ไม่ได้ก้าวหนีแต่อย่างใด แต่เธอกลับดึงสเปรย์พริกไทยอันเมื่อคืนออกมา
จากกระเป๋ากางเกงยีนส์ที่ใส่อยู่ จนทำให้พี่ฑัตที่กำลังสาวเท้าเข้ามาใกล้ ถึงกับชะงักกึกไปทันที
เมื่อเห็นไอ้เจ้ากระป๋องสเปรย์อันนี้เข้า
“แหม สามีขา เมื่อคืนที่เข้าหอไป คงจะติดใจมากสินะคะ อยากจะโดนอีกสักรอบมั้ยละคะ”
วิวถึงกับยิ้มขึ้นมาอย่างสะใจ
“เธอนี่มัน” ฑัตรู้สึกโมโหวิวมากจนพูดอะไรไม่ออก แต่พอนึกถึงประสบการณ์เมื่อคืนที่ผ่านมา
เขาก็อดรู้สึกสยองเพราะกลัวการแสบตาแบบที่รู้สึกประหนึ่งว่าตาของเขาเองเกือบจะบอดไปแล้วจริง ๆ
ขึ้นมาไม่ได้เพราะนับจากตอนนั้นจนถึงตอนนี้มันก็ผ่านมาแค่ไม่กี่ชั่วโมง ยังไม่ทันข้ามวันเลยด้วยซ้ำ
ทำให้เขายังคงจำความรู้สึกแสบเคืองตาแบบเมื่อคืนที่ผ่านมาได้อยู่อย่างชัดเจน
“อย่าคิดจะรังแกกันนะคะ วิวเตือนไว้ก่อน เพราะคราวหน้าพี่อาจจะโดนหนักกว่าที่โดนไป
เมื่อคืนนี้ก็ได้ค่ะ” วิวพูดจบก็เดินมากระแทกไหล่ของพี่ฑัตแล้วก็เดินออกจากห้องนอนของเขามา
ก่อนที่จะรีบเดินเข้าไปทางห้องนอนแขกที่อยู่ห่างออกไปเล็กน้อย เมื่อเปิดประตูเข้าไปได้แล้วเธอ
ก็โผล่หัวมายิ้มเยาะใส่พี่ฑัตอีกรอบก่อนที่จะผลุบหายเข้าห้องไปและเขาก็ได้ยินเสียงปิดประตู
ตามหลังทันที
/โอ๊ย แค้น โว้ย เพราะไอ้เสปรย์พริกไทยบ้านั่นแท้ ๆ ยัยตัวร้ายถึงมาลูบคมเขาได้มากขนาดนี้/
ฑัตรู้สึกโมโหจนแทบกระอักที่เขาโดนยัยวิวคอยตามราวีไม่เลิกไม่ราขนาดนี้ แถมวันนี้ยังโดน
เธอตามเข้ามาเล่นงานถึงที่บ้านอีก แต่เขาก็รู้ตัวดีว่าตอนนี้เขาคงยังคงโต้ตอบอะไรเธอไม่ได้
เพราะวิวมีอาวุธป้องกันตัวที่ร้ายกาจอยู่ไม่เบา ฑัตจึงได้แต่ยืนหัวฟัดหัวเหวี่ยงกับตัวเองอย่าง
รู้สึกขัดอกขัดใจที่ยัยตัวแสบพูดจาเยาะเย้ยถากถางเขาเสร็จก็กลับเดินหนีเข้าห้องนอนห้องข้าง ๆ
ไปได้แบบชิว ๆ แถมยังมีการมากวนประสาทเขาทิ้งท้ายอีกต่างหาก